แจกสูตรลับที่ทำให้หายป่วยแบบ 3วันดี 4 วันไข้....?
delano 10 9คืองี้นะครับ ผมอ่ะป่วยแบบ 3 วันดี 4วันไข้ตลอด แต่ไม่ชอบไปหาหมอ เพราะเคยมีความทรงจำที่ไม่ค่อยจะดีกับหมอเท่าไหร่ (จิงๆก็กลัวเข็มนั่นแหละโดนหมอฉีดยาแทบจะทุกครั้งตอนเด็กๆ....!!!) ส่วนใหญ่ผมก็ชอบซื้อยาตามร้านขายยาอ่ะแหละ มันสะดวกดี อีกอย่างกินแล้วก็หายบ้างไม่หายบ้าง จนผมได้กลับบ้านอาเหล่าม่ารวมญาติช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา แบบวันรวมญาติของลูกหลานคนจีนอ่ะเนอะ บรรดาอาม่า อากง อากิ๋ม อาอึ้มอาซิ้ม บลาๆ เต็มไปหมดดด อีกเช่นเคยครับ รวมญาติคราวนี้ ผมก็ตื่นเช้านอนดึก และแล้วก็ป่วยอีกตามเคย...แต่ว่าแถวบ้านอาเหล่าม่า มันไม่ค่อยจะมีร้านขายยาสักเท่าไหร่ เพราะอยู่ ต่างอำเภอ มียาไม่ครบตามแบบที่เราเคยซื้อกินตอนอยู่ กรุงเทพฯ แล้วที่สำคัญร้านก็ปิดค่อนข้างไวมากๆ (ไม่ถึง 2 ทุ่มเงียบกริ๊บทั้งอำเภอเลยว่างั้น....) ผมก็นอนทนป่วยไปคืนนั้น กะว่า เราคงต้องผ่านค่ำคืนนี้ไปให้ได้ พรุ่งนี้ค่อยขับรถเข้าไปในตัวเมือง ไปหาซื้อยากอาจจะมียาที่เคยกินอยู่บ้าง
เช้าวันรุ่งขึ้น....ด้วยความตั้งใจว่าจะขับรถเข้าไปในเมืองเพื่อหาซื้อยา แต่....เกมมันพลิกค้าบบบ ผมลุกไม่ขึ้นแถมยังอาการหนักกว่าเดิมอีก 2 เลเวลลล (OMG…นี่หรือชีวิต!!!) จนแม่ผมเดินเข้ามาตามไปกินข้าวเช้า ก็เห็นว่าผมป่วย มีอาการตัวร้อน ไอแห้งๆ มีน้ำมูกไหลย้อยยยบ้างงง (บอกแล้วว่าหนักขึ้น 2 เลเวล…) จากนั้นแม่ผมก็โวยวายขึ้นเลยครับท่านนน!!! จะลากผมไปหาหมอให้ได้ ผมนี่รีบบอกเลยครับ ไม่เป็นไรๆ ไม่ต้องไป นอนพักกินพาราเดี่ยวก็หาย แม่ผมก็เริ่มสวดเลยครับ..... (นึกถึงเวลาแม่ๆของคุณบ่นแบบน้ำไหลไฟดับไม่ให้เรามีจังหวะได้อ้าปากเถียงก็แล้วกันน...แม่ผมก็เช่นกัน) ทันใดนั้นเหมือนมีเสียงสวรรค์โปรดเลยครับ ....“เปงอาลายย เอะอะโวยวายอาลายกังงงง” (เสียอาแปะฮีโร่สุดหล่อของผมเองครับ) แม่ผมก็เริ่มสวดรอบ 2 ครับบบ อาแปะผมก็เลยบอกแม่ผมไปว่า...
อาแปะ : ลื้อจะอาลายกันหนักกันหนาว้า ป่วยแค่นี้เองง ม่ายล่ายหนักอาลายย เดี่ยวอั้ว ต้มยาให้อีกินเดี่ยวก็หายเลี้ยว...ไปๆๆ ไปหาข้าวมาให้อีกินไปแทนที่จะมาบ่นๆอยู่นี่....(ผมบอกแล้วนี่แหละเสียงสวรรค์ของผม แต่...ไอ้กินยาต้มของอาแปะนี่สิ!!! มันจะเป็นยังไงงงงงงง!!!)
หลังจากนั้นผ่านไป 30 นาที...อาแปะผมยกชามตราไก่ ใหญ่ประมาณนึงเข้ามาพร้อมกับถ้วยข้าวต้มของแม่ผม แล้วก็บอกให้ผมกินน้ำดำๆแดงๆ ในชามตราไก่นั้นให้หมดตอนนี้มันกำลังร้อนๆ แต่ผมเองก็พยายามบ่ายเบี่ยง เพราะจินตนาการไว้ว่ามันต้องเป็นยาสมุนไพรแน่ๆ มันคงต้องขมสุดๆมากด้วย เลยพยายามอ้างว่า เดี่ยวผมกินข้าวก่อน แล้วเดี่ยวค่อยกินยาอาแปะตามนะครับ อาแปะผมก็ใช้น้ำเสียงหนักแน่นพูดตอบกลับมาว่า...กิงตองมังร้องๆนี่แหละ อาตี๋ (ไม่ได้เป็นประโยคบอกเล่าแต่ฟังดูราวกับประโยคคำสั่ง!!! มากกว่า) แล้วอาแปะแกก็ว่านี่ มังไม่ใช่ยาน๊าอาตี๋ ลื้อไม่ต้องกลัวมังจะขม นี่มันเป็นน้ำสมุงไพสูตรลับเฉพาะของอั๊วเอง เอ้าหลื่มๆ ตองร้องๆ หลื่มให้หมกๆ
วินาทีแรกที่น้ำดำๆแดงๆ ของอาแปะนั้นได้สัมผัสลงบนต่อมรับรสบนลิ้นของผมนั้น Oh…Sheer!!! มันไม่ได้แย่นี่หว่า....มันหอมเหมือนมีกลิ่นดอกไม้ มีรสหวานที่ปลายลิ้น แต่ก็มีขมๆหน่อย (คือแทบไม่รู้สึกเลยว่ามันขมเหมือนที่จินตนาการไว้) ผมดื่มไอ้เจ้าน้ำนี่อยู่ 2 วัน อาการของผมดีขึ้นแบบแทบหายเป็นปริดทิ้ง แถมยังรู้สึกสดชื่น กระปรี่กระเปร่า แบบบอกไม่ถูก อธิบายยากอะ...คืออยากให้ได้ลองชิมดูนะ แล้วผมก็เดินทางกลับมา กรุงเทพฯ อาแปะผมก็ต้มไอ้น้ำเนี้ยใส่ขวดแช่เย็นมาให้ผมอีกหลายขวดเลยทีเดียวไว้ให้ผมดื่มระหว่างทาง แต่ที่มันอะเมซิ่งไปกว่านั้นคือ ปกติผมเดินทางไกลๆจะเหน็ดเหนื่อยแล้วก็ป่วยแน่นอน แต่ครั้งนี้มันแปลกไป ผมไม่รู้สึกเหนื่อยเลย มีแค่เพลียๆบ้างนิดหน่อย และไม่มีอาการป่วยเลย มันแปลกมากๆ ผมคิดว่า มันน่าจะเป็นเพราะไอ้น้ำดำๆแดงๆ ของอาแปะผมนี่แหละ (โหยยยมันช่างวิเศษอะไรแบบนี้พระเจ้าจอร์ช)…..........
เดี่ยวครั้งหน้าผมจะมาเล่าต่อนะครับว่า ไอ้น้ำดำๆแดงๆเนี้ย มันทำยังไง.....