เล่าเรื่อง "บัว" ตั้งแต่ราก...ยัน...ไส้ใน
delano 14 7ผมเชื่อว่าหลายๆคนสมัยนี้ รู้จัก "บัว" ในมุมของดอกไม้สำหรับการไหว้พระเท่านั้น และอาจจะไม่ทราบเลยว่า บัว นั้นเป็นดอกไม้ที่มีประโยชน์มากกว่าการนำไปปักแจกันดกไม้ เพื่อถวายพระเพียงอย่างเดียว ซึ่งผมอยากบอกเล่าประโยชน์อันนานานับประการของ บัว ตั้งแต่ราก...ยัน...ไส้ใน(ดีบัว) เท่าที่ผมจะสรุปให้สั้นๆได้ใจความตามนี้เลยครับ
รากบัว นิยมนำมาเชื่อมแห้งกินเป็นของหวาน หรือนำไปต้มกับน้ำตาลกรวด แก้ร้อนใน ชาวอินเดีย จะให้เด็กดื่มน้ำรากบัว เพื่อระงับอาการท้องร่วง
ไหลบัว หรือต้นกล้าบัว สามารถนำมาประกอบอาหารได้ทั้งสด ทั้งแห้ง โดยมากจะนำมาแกงส้ม แกงเลียง ผัดเผ็ดต่าง ๆ
สายบัว สามารถปรุงอาหารแทนผักได้หลายชนิด ทั้งแกงส้มสายบัว แกงสายบัวกับปลาทู ฯลฯ ชาวอินเดีย กินเพื่อแก้อาการท้องร่วง
ใบบัว นิยมนำมาห่อข้าว ห่อของ เช่น ข้าวห่อใบบัว ส่วนใบอ่อนสามารถนำมากินเป็นผักสดแกล้มน้ำพริก หรือนำมาหั่นฝอย ๆ ชงดื่มแทนน้ำชา ช่วยแก้ร้อนในกระหายน้ำได้
ดอกบัว ถือเป็นดอกไม้ที่สวยงาม ประชาชนหาซื้อไปบูชาพระมากกว่าดอกไม้ชนิดอื่น เพราะสามารถคงความงามไว้ได้นานกว่าดอกไม้หลายชนิด
เกสรบัว ส่วนของเกสรสีเหลือง สามารถใช้เข้าเครื่องยาทั้งไทยและยาจีน โดยเฉพาะยาลม ยาหอม ยาบำรุงหัวใจ และยาขับปัสสาวะ
เม็ดบัว สามารถนำมากินได้ทั้งสดและแห้ง เม็ดบัวมีปริมาณสารอาหารที่สำคัญ คือ โปรตีน ประมาณ 23 % ซึ่งสูงกว่าข้าวถึง 3 เท่า และเป็นแหล่งรวมธาตุ อาหารหลายชนิดด้วยกัน เม็ดบัวนำมาประกอบอาหารได้ทั้งคาวหวาน เช่น สังขยา เม็ดบัว ขนมหม้อแกงเม็ดบัว เม็ดบัวเชื่อม สาคูเม็ดบัว เป็นต้น
ดีบัว เป็นส่วนของต้นอ่อนที่อยู่ภายในเม็ดบัว มีรสขมจัด สามารถนำมาเป็นส่วนผสมของยาโบราณ มีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้
เห็นแล้วใช่ไหมครับว่า ประโยชน์ของบัวนั้นมากมายจริงๆ ถ้าเพื่อนๆคนไหน มีวิธีการนำ บัว ไปใช้ประโยชน์ มากกว่าสิ่งที่ผมรู้ สามารถแชร์กันได้เลยนะครับ เผื่อผมเองจะได้นำเอาบัว ไปใช้ประโยชน์ หรือ บอกเล่าสู่คนอื่นๆได้อีกครับ....ขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วยนะครับ