ว้ายยตั่ยแล๊วววววว! ในที่สุดก็หาเจอ สกินแคร์ 4 ไอเทมของสาวขี้แพ้ ใช้แล้วชนะสวยๆ จ้า
smileonmine 23 11สวัสดีคร่า....
หลังจากห่างหายไปนานม๊ากกกก ชะนีคนเวิ่นเว้อคนเดิม เพิ่มเติมคือยังโสด
(อุ๊ยยยย เผลอพูดอะไรออกไปนะ!!) กลับมาแล้วจ้า วันนี้ก็มารีวิวเรื่องความสวยความงามเช่นเดิม ต้องขอเกริ่นว่า เราคือชะนีที่ขี้แพ้สุดๆ ผิวเซ็นซิทีฟมาก ลองสกินแคร์มาเยอะ เจ็บมาก็มาก
ตั้งแต่ดรักสโตร์ยันเคาท์เตอร์แบรนด์แพงๆ ทำให้รู้ว่า สกินแคร์ที่ดีไม่จำเป็นต้องแพงที่สุด แต่ต้องเหมาะกับสภาพผิวเราที่สุดจ้า
เรื่องของเรื่องคือ เห็นว่าเพิ่งผ่านเทศกาลสงกรานต์มา คิดว่าเพื่อนๆ คงผิวพังกับการออกไปเล่นน้ำอย่างเมามันส์กันแน่นวล เราก็คนนึงก็รู้นะว่าผิวแพ้ง่าย แต่อดใจไม่ไหว เล่นน้ำไป 1 วันเต็มๆ โดนทั้งน้ำ โดนทั้งแป้ง แล้วเป็นไงคะ!! สิวผดมาเลยจ้า าา จึงถือโอกาสมาแชร์สกินแคร์ที่เริ่ดและปังสุดๆ ในใจสาวขี้แพ้คนนี้ ใครผิวพังจากวีรกรรมช่วงสงกรานต์หรือกำลังมองหาสกินแคร์สำหรับผิวแพ้ง่าย
เชิญมามุงเลยจ้า .....
มาเริ่มกันที่ขั้นตอนการมาสก์หน้ากันเลย ส่วนตัวเราเป็นคนที่ชอบใช้มาสก์แผ่นๆ มาก เพราะสะดวก รวดเร็ว วันไหนรู้สึกหน้าแย่ๆ ก็ฉีกซองแล้วแปะลงไปที่หน้าเลย 555 แถมพกพาง่ายด้วย ตัวนี้มาจากแบรนด์ “Popco” เป็นมาสก์น้องใหม่ล่าสุดที่เข้ามาในกรุสกินแคร์ของอิชั้น ไปได้มาจากวัตสัน นางเป็นมาสก์ที่แปลกตรงเป็นมาสก์แผ่นสีดำ เพราะทำมาจากชาร์โคล หรือเปลือกไม้ไผ่นั่นเอง ซึ่งเคยได้ยินมานานแล้วว่า ชาร์โคล ช่วยเรื่องดูดซับสิ่งสกปรก แบคทีเรียที่อุดตันอยู่ในผิวได้ดี จึงเลือกสอยมา
จริงๆ เค้ามีให้เลือกถึง 9 สูตร แล้วแต่สภาพผิว แต่อิชั้นลองมาหมดแล้ว เลิฟสุดๆ คือ 3 สูตรนี้ เพราะเหมาะกับปัญหาผิวที่เป็นอยู่จริงๆ ได้แก่ สูตร Galactomyces เราก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรหรอก แต่มันเป็นสูตรที่เหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย และช่วยเพิ่มความเรียบเนียนให้ผิว, Hyaluronic Acid สูตรนี้เน้นการเติมน้ำให้ผิว และ Vitamin ที่เน้นการปรับหน้าให้สว่างใสขึ้น
ข้อดี: ส่วนตัวชอบแบรนด์นี้ตรงที่เค้าทำออกมาหลายสูตร ตอบโจทย์หลายๆ ปัญหาผิว บางช่วงเราก็แอบไปใช้สูตรอื่น ก็แล้วแต่สภาพผิวในช่วงนั้นๆ ที่ปลื้มสุดๆ คือเป็นแผ่นมาสก์พอดีกับหน้าเป๊ะ หลายๆ แบรนด์ชอบทำใหญ่เกินไปเวลามาสก์แล้วรู้สึกรำคาญมาก หลังจากใช้รู้สึกว่าผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น และชุ่มชื่นม๊าก ก. ไก่ ล้านตัว คงเป็นเพราะเค้าใส่เอสเซนส์มาเยอะแหละ ใครตามหามาสก์แผ่นเริ่ดๆ อยู่ พุ่งตัวไปสอยตัวนี้เถอะ ดีงามพระรามไนน์มาก เอ่าะ! แล้วที่ดีต่อใจมากคือ นางเป็นมาส์ก 7 Free คือ ปราศจากสารอันตรายทั้ง 7 ชนิด สารสกัดทุกอย่างมาจากธรรมชาติ 100% แถมไม่มีแอลกอฮอล์และน้ำหอมอีก สาวขี้แพ้ไม่ต้องแพนิคเลยจ้า ข้อด้อย: อยากให้ที่ซองมีภาษาไทยเยอะกว่านี้ คงเป็นเพราะเค้านำเข้าจากเกาหลีแหละ แล้วก็อยากให้จัดบ๊อกเซ็ตออกมาสำหรับสาวกอย่างอิชั้นด้วยค่ะ อ้อนวอนนนนนราคา: แผ่นละ 69 บาทแหล่งซื้อ: Watsons
หลังจากมาสก์หน้าไปตอนกลางคืน ตื่นเช้ามา งานคลีนผิวก็ต้องมา “Bifesta Foaming Whip - Sebum” คิดว่าหลายคนคงรู้จักตัวนี้ เพราะกระแสแรงมากจากการที่กูรูหลายคนรีวิว เราค่อนข้างอินเลิฟกับคลีนซิ่งของแบรนด์นี้อยู่แล้ว พอรู้ว่าทางแบรนด์ออกวิปโฟมก็เลยลองซื้อมาดูสูตรนี้สำหรับผิวผสม-ผิวมัน ส่วนประกอบหลักๆ ก็มี สารสกัดจากชาเชียว + ไฮยาลูโรเนต ช่วยเรื่องกระชับรูขุมขน คุมมัน และคงความชุ่มชื่นให้ผิว
ข้อดี: นางเป็นวิปโฟมพร้อมใช้ ง่ายๆ คือ ไม่ต้องเอามาตีด้วยตาข่ายตีฟองเอง เหมาะสำหรับชะนียุค 4 จี ที่ขี้เกียจฝุดๆ แบบเรา 555 เนื้อโฟมนุ่มและแน่นมาก เวลาล้างฟินม๊ากกก หลังใช้รู้สึกผิวหน้านุ่มๆ ตัวนี้ใช้ต่อเนื่องคิดว่าหน้าใสขึ้นด้วยนะ (ไม่รู้มโนแจ่มไปเองรึป่าว อิอิ)
ข้อด้อย: สำหรับเราคิดว่าเวลากดครั้งนึง เนื้อผลิตภัณฑ์ออกมาเยอะเกินไป ทำให้เปลืองมาก เดือนนึงนี่ใช้เกือบจะไป 2 กระป๋อง ตอนนี้พยายามแฮฟสติทุกครั้งก่อนกด เพราะไม่งั้นหมดเร็วแน่นอนราคา: 195 บาทแหล่งซื้อ: Watsons, Boots, EveandBoy
ชิ้นต่อมาคือ โทนเนอร์ ทดลองใช้มาจนจะหมดขวดละ นางคือ “Laneige Clear C Advanced Effector” เป็นเบอร์รี่หลายชนิดถึง 92.5% คุณสมบัติของนางคือ ช่วยปรับสภาพผิวให้สว่างกระจ่างใส ที่สำคัญคือช่วยรีเฟรชผิวเพื่อพร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป เวลาเราใช้จะประมาณ 2-3 ปั้มใส่สำลี แล้วเช็ดเบาๆ ความรู้สึกที่ได้คือสดชื่นมาก มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ช่วยให้ผ่อนคลาย เราใช้แล้วไม่แพ้นะ แต่ถ้าใครเซ็นซิทีฟกับพวกน้ำหอมก็แอบระวังนิสนุงนะจ๊ะ
ข้อดี: หลังจากใช้ไปประมาณ 2 อาทิตย์ รู้สึกเลยว่าผิวใสขึ้น เพราะเบอร์รี่มีสาร AHA ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวอยู่แล้วด้วย ที่สำคัญคือ สิวผดก็น้อยลง แต่งหน้าง่ายขึ้น อันนี้เลิฟมาจริงๆข้อด้อย: ราคาแรงไปนิดนึง พกพายากเพราะขนาดของขวดใหญ่มากราคา: 1,200 บาท แหล่งซื้อ: เคาท์เตอร์ Laneige
ชิ้นสุดท้ายแล้วววว เป็นเดย์ครีม “Eucerin Dermo Purifyer Day Matt Whitening SPF 30” เราจะลงตัวนี้ก่อนลงกันแดดและแต่งหน้าในทุกๆ เช้า ต้องบอกก่อนว่าแต่ก่อนแอนตี้สกินแคร์ที่เป็นเวชสำอางมากเลย เพราะคิดว่ามันจะเห็นผลช้า แต่พอผิวเริ่มแพ้ง่ายขึ้นเรื่อยๆ ก็มีเพื่อนชะนีนางหนึ่งมาโปรด นางซื้อตัวนี้มาบังคับให้ลอง ปรากฏว่าสิวผดหายไป หลังจากนั้นก็ใช้ต่อเนื่องมาตลอดๆ
ข้อดี: นอกจากความดีงามในเรื่องการกำจัดสิวผดแล้ว นางเหมาะสำหรับอากาศที่ฮอตปรอทแตกอย่างเมืองไทย เพราะนางซึมลงผิวเร็วมาก แทบจะไม่ทิ้งความมัน ใช้แล้วรู้สึกว่าแต่งหน้าติดทนมากขึ้น SPF 30 ถ้าไม่ได้ออกแดดแรงๆ นั่งออฟฟิศสวยๆ ตัวนี้เอาอยู่จ้าข้อด้อย: ราคาแรง หลอดเล็ก แอบหมดเร็วราคา: 1,200 บาท แหล่งซื้อ: Watsons, Boots
หมดแล้วจ้า นี่ก็เป็นสกินแคร์ที่อิชั้นทดลองเองว่าดี ว่าเริ่ด เข้าวินกันมา 4 ตัว ต้องบอกก่อนว่านี่เป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับอิชั่นคนเดียว ในฐานะผู้ใช้เอง เสียทรัพย์มาเอง ใครที่มีผิวแพ้ง่ายเหมือนกันก็ลองไปหยิบมาเล่นดู ก็ไม่เสียหายจ้า ก่อนไป ใครมีสกินแคร์ที่อ่อนโยนต่อผิวสาวขี้แพ้ ก็มาแนะนำกันได้ จะขอบพระคุณอย่างสูง วันนี้ไปก่อนนะจ๊ะสาวๆ ซียา ^.^