Review : โชคดีที่เกิดมาในยุคนี้ #ยุคแอ๊บผิวใส #ยุคไม่โป๊ะ

ย้อนนนกลับไปเมื่อสมัยก่อนเลยนะคะ สมัยที่ยังไม่มีพวกครีมทาแล้วหน้าขาว ทาแล้วใส อะไรๆก็ดูไม่ทันสมัยไปซะหมด ทาครีมอะไรก็ดูวอกดูลอย หนักหน่อยก็หน้าเทาแบบเพื่อนไม่รักไม่ช่วยทักกันเลยค่ะ ไม่เหมือนยุคนี้อะไรก็ดี๊ดี เทคโนโลยีก้าวหน้า โดยเฉพาะพวกครีมทั้งหลายแหล่ ที่เดี๋ยวนี้เค้าใช้นวัตกรรม ใช้วัตถุดิบในการผลิตสุดเลอค่า เห็นแล้วอยากช้อปอยากสอยไปซะหมดแล้วตอนนี้ กระแสพวก Tone Up กับ Boosting Cream ก็กำลังมาแร๊งงมาแรงค่ะคุณขา เห็นคนอื่นที่เค้าใช้กันเม้าท์มอยกันมาว่าทาแล้วหน้าขาวปิ๊งผิวดี๊ดีเหมือนลงครีมบำรุงไปซักสิบตัวงี้ (แอบเวอร์นิดนึงนะคะ 5555) ได้ยินอย่างนี้แล้วสาวๆผู้รักสวยรักงามอย่างพวกเราจะไม่ตามไปสอยครีมพวกนี้ได้ยังไงใช่มั้ยคะะะ ! แต่ก่อนอื่น หลายคนอาจจะแอบงงเบาๆ ว่า Tone Up เอย Boosting เอย ที่หล่อนพูดมาน่ะมันคืออะไร !? งั้นขอเข้าโหมดวิชาการสักแพรบค่ะTone Up Cream หรือ Boosting Cream ก็คือครีมบำรุงที่ช่วยปรับสภาพผิวของเราให้ขาวกระจ่างใสขึ้นทันทีที่ใช้นั่นเองค่ะ ได้ยินคำว่าขาวกระจ่างใสขึ้นแล้วตื่นตัวขึ้นมาทันใด! วันนี้ฤกษ์งามยามดีเราก็เลยจะมารีวิวเหล่าครีมโทนอัพทั้งหลาย ที่เคยผ่านผิวสวยๆ!? เอ๊ะหรือผิวโป๊ะๆของเรามาให้ดูกันนั่นเองค่า ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่าเราเป็นคนผิวไม่ได้ขาวใสนะคะ และก็เป็นคนผิวแห้งด้วย พูดแล้วก็พลีชีพหนังหน้าตัวเองซะหน่อย

โอเคค่ะทุกคน หยุดตกใจกับหน้าสดของเรา แล้วมาเริ่มที่ตัวแรกกันดีกว่าค่ะ 555

1.Etude House : Toning  White C Toning Up Creamครีมโทนอัพจากแบรนด์เกาหลีสุดคิ้วท์ ที่สาวๆแทบทุกคนต้องรู้จักเป็นอย่างดีนะคะ เนื้อครีมมีส่วนผสมของวิตามินซีตระกูลเบอร์รี่ ซึ่งช่วยปรับผิวให้ขาวเรียบเนียน และMineral Toning Water TM ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ใบหน้าสวยๆของเราด้วยนาจา มีที่ตักครีมมาให้ด้วยอ่ะ ครบเซ็ทจีจี

เราชอบเนื้อครีมตัวนี้อ่ะมันเก๋ดี คือมันจะเป็นเหมือนเยลลี่สีขาวเด้งๆนุ่มๆเหมือนของกิน555 เห็นแล้วหิววว มีกลิ่นหอมอ่อนๆเบาๆ

ตอนทาแอบเกลี่ยยากนิดนึง ซึมช้าแต่รู้สึกชุ่มชื้นนะ และก็ทาแล้วแอบเป็นคราบเบาๆ พอทาแล้วความขาวเพิ่มขึ้นมาในระดับนึง

ลองซับมันแล้ว มันใช่เล่นนะ แอบเหนอะๆ

ลองทดสอบกันน้ำ เนื้อครีมแอบไหลเป็นคราบ เหนอะๆนิดนึงค่ะ

สรุปหลังใช้สำหรับตัวนี้ชอบเนื้อครีมอ่ะ 55555555 แปลกใหม่แตกต่างจากตัวอื่นดี นิ่มๆเด้งๆ ให้ความชุ่มชื้นและก็ขาวขึ้นนะจ๊ะ แต่แอบหนักหน้าและเป็นคราบเบาๆโดยรวมถือว่าโอเค ตัวนี้เราซื้อมา 1,150 บาท แพงสุดในบรรดาสี่ตัวเลย TT

2. Innisfree : White Tone Up Creamโทนอัพครีมจาก innisfree แบรนด์เกาหลีที่ขึ้นชื่อเรื่องส่วนผสมจากธรรมชาติค่ะ และก็กำลังมาแรงในไทยด้วยนะเออ เนื้อครีมมีส่วนผสมจากเบอร์รี่กว่า5ชนิดและวิตามินB3 ซึ่งช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและกระจ่างใส และความพิเศษก็คือมีส่วนประกอบจากมาส์กส้มเขียวหวานเชจูด้วย! เจ้าส้มตัวนี้ก็จะช่วยในเรื่องผิวเรียบเนียนและความขาวกระจ่างใสค่ะ ส่วนในเรื่องของกลิ่นนั้น เป็นเอกลักษณ์มากๆ คือกลิ่นมันจะหอมแบบแปลกๆดีอ่ะ เหมือนกลิ่นส้มๆแรกๆเราก็ฉุนนะแต่พอดมไปเรื่อยๆก็เริ่มหอมเอง 55555 สำหรับใครที่แพ้กลิ่นแรงๆก็อาจจะมึนหน่อย

เนื้อครีมมีสีขาวขุ่น ทาแล้วให้ความรู้สึกเหมือนทาโลชั่นเลย มันก็จะเหนอะกว่าตัวอื่นๆ แห้งช้า แต่พอเนื้อครีมซึมแล้วก็โอเคอยู่นะ กลิ่นสดชื่นทาเสร็จแล้วเย็นๆหน้าดี ให้ความรู้สึกชุ่มชื้นสุดๆ แต่สำหรับใครผิวมันอาจจะไม่ชอบในช่วงแรกๆเพราะมันเหนอะหนะ

ตัวนี้เรื่องความขาวสำหรับเราไม่เห็นผลนะ เนื้อครีมจะเน้นไปทางบำรุงมากกว่า ทาแล้วรู้สึกชุ่มชื้นมากๆเหมาะสำหรับคนหน้าแห้งเลยอ่ะ

พอลองซับมันแล้ว ตัวนี้มันสุดเลยในบรรดาทั้งหมด อาจจะเป็นเพราะความชุ่มชื้นของเนื้อครีม

ตัวนี้กันน้ำโอเคเลยนะ เนื้อครีมไม่ไหลเยิ้มเป็นคราบ

สรุปหลังใช้สำหรับคนที่เน้นบำรุงโนสนโนแคร์ความขาว ขอแนะนำตัวนี้เลยค่ะ เห็นผลจริง เพราะมันชุ่มชื้นมากๆ ส่วนในเรื่องความขาวอาจจะไม่ค่อยเห็นผลและก็เรื่องกลิ่นที่แรงไปนิด สาวคนไหนไม่ชอบกลิ่นแรงๆก็อาจมึนได้ ตัวนี้เราช้อปมาที่ราคา 900บาทจ้า

3.Cathy Doll Ready 2 White : White Boosting Creamตัวต่อมา บูสติ้งครีมจากแบรนด์ Karmart แบรนด์ไทยแนวเกาหลีตัวแรกในกระทู้เน้! ความเด็ดของตัวนี้อยู่ที่ 3 สเต็ปให้ผิวขาวรวมอยู่ในขวดเดียว! คือเปิดไฟให้ผิวกระจ่างใส ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง และล็อคความชุ่มชื้นให้ผิวใสยาวนานนาจา และความพิเศษอีกหนึ่งอย่างคือ เนื้อครีมที่ผสมเม็ดบีทส์!! ซึ่งเจ้าเม็ดบีทส์เนี่ยจะค่อยๆ แตกตัวออกทีละชั้นและเข้าบำรุงผิวพร้อมมอบความกระจ่างใสให้ใบหน้าสวยๆของเราด้วยค่ะ

เนื้อครีมจะมีสีขาวผสมเม็ดบีทส์ มีกลิ่นหอมๆเหมือนน้ำหอม กลิ่นไม่แรงมากนะ ใครแพ้พวกกลิ่นน้ำหอมแรงๆก็ไม่ต้องกังวลเลยจ้า เนื้อครีมเกลี่ยง่ายทาแล้วไม่เหนอะหนะ ซึมไวด้วยนะทาเสร็จปุ๊ปก็ลงตัวอื่นต่อได้ทันที

พอลองทาไปที่ผิวแล้วขาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย แต่ไม่ขาววอกนะเราว่าโอเคเลย แต่สำหรับคนที่ผิวคล้ำก็อาจจะต้องตบน้อยๆหน่อยไม่ให้มันวอก ในเรื่องความชุ่มชื้นนั้นอาจจะน้อยกว่าแบรนด์อื่นๆ แต่ความขาวตัวนี้กินขาด!

ในส่วนของความมันน้าน จะบอกว่าแทบไม่มันเลยก็ได้นะจ๊ะ เพราะมันนิดเดียวจริงๆ  ในรูปแทบมองไม่เห็นเลยอ่ะความมันนั้น เอาอยู่ค่า ! 

เนื้อครีมไม่ไหลเยิ้มค่ะ ผ่าน ! สรุปหลังใช้สำหรับบูสครีมตัวนี้ เราถูกใจในเรื่องของความขาวค่ะ คือทาแล้วขาวขึ้นจริงและไม่วอกนะจ๊ะ เนื้อครีมซึมไวไม่เหนอะ ทาปุ๊ปแห้งปั๊ปทันใจ เรื่องความชุ่มชื้นอาจจะน้อยกว่าตัวอื่น แต่ถ้าใครชอบเรื่องขาววิ๊งก็จัดเลยจ้า สนนราคาที่ 395 บาทค่า!

4. Mistine The Bright Boost Up Whitening Facial Creamมาถึงตัวสุดท้ายยย ครีมโทนอัพน้องใหม่จากค่าย Mistine แบรนด์ไทยอีกหนึ่งแบรนด์ที่เราเอามานำเสนอค่ะ ครีมบำรุงที่ช่วยปรับผิวให้ขาวกระจ่างใส และกักเก็บสารบำรุงผิวไว้ภายใน พร้อมค่อยๆ ปลดปล่อยสารออกมาเมื่อสัมผัสกับผิว ซึ่งกักเก็บสารบำรุงไว้ถึง4คุณสมบัติด้วยกัน! ได้แก่ whitening, Moisturizing, Firmin, Pore tightening

เนื้อครีมมีสีขาวผสมเม็ดบีทส์คล้ายๆของเคธี่ดอลล์อยู่เหมือนกัน ไม่ค่อยมีกลิ่น แต่พอทาไปเรื่อยๆเริ่มมีกลิ่นหอมอ่อนๆแบบเบาบาง ถูกใจคนชอบกลิ่นเบาๆเลยค่ะ

ทาแล้วหน้าดูขาวขึ้นเลยค่ะ แต่เนื้อครีมแอบเกลี่ยยากและหนักหน้าอยู่นะ รู้สึกเหนอะๆ แต่เรื่องความชุ่มชื้นนี่โอเคเลย

ลองซับมันดูแล้วไม่มันมากเท่าไร อยู่ในระดับที่โอเครับด้ายยย

พอโดนน้ำแล้วไหลเยิ้มเป็นคราบขาวๆนิดนึงสรุปสำหรับตัวนี้ ถ้าสาวคนไหนชอบครีมที่กลิ่นบางเบาก็แนะนำเลยค่ะ ในเรื่องความขาวเราว่าโอเคอยู่นะ และให้ความชุ่มชื้นได้ดี ทาแล้วแอบหนักหน้านิดนึงแต่ก็ไม่ใช่ปัญหา ถ้าใครชอบราคาเบาๆก็สอยตัวนี้เลยจ้ะ ตัวนี้เราสอยมาแค่ 199 เท่านั้นจ้า!..

อันนี้ลองเทียบความขาวของแต่ละตัวให้ดูนาจา เป็นเช่นนี้ ในรูปอาจจะดูคล้ายคลึงกัน แต่จริงๆแล้ว เราว่า Cathy Doll กับ Mistine ขาวสุดนะ รองลงมาก็เป็น Etude และ Innisfree ตามลำดับ ส่วนในเรื่องความชุ่มชื้นนั้น Innisfree มาวินนะจ๊ะ

โบ๊ะผิวขาวกันเรียบร้อย ก็อย่าลืมลงกันแดดกันด้วยนะจ๊ะสาวๆ เพราะซัมเมอร์นี้แสงแดดมาแรงแซงทางโค้งจนผิวจะเกรียมแล้วเนี่ย สำหรับรีวิวตัวนี้ก็เป็นความเห็นส่วนตัวของเรานะ ผลที่ได้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนไปอีก ชอบตัวไหนสนใจตัวไหนก็อย่าลืมไปสอยกันเด้อ