ศึกประชัน ซุปเปอร์น้ำตบ ตัวไหนเอาอยู่ มาดูกัน

            สวัสดี สาวๆบ้านจีบัน ทุกคนค้า  วันนี้เราจะมา รีวิว น้ำตบ หรือ Essence บำรุงผิวหน้าของสามแบรนด์ค่ะ  ได้แก่  Sulwhasoo , Missha  และ  SK ll   เจ้าน้ำตบทั้งสามตัวนี้ล้วนแต่เป็น ตัวท็อปที่ฮอตอิต เป็นที่เลืองลือกันทุกตัวค้า เห็นรีวิวพียบ!!    เริ่มจากเราเองเป็นคนผิวแห้งมาก และเริ่มมีริ้วรอยที่หน้าตามมาแล้วด้วย  การใช้น้ำตบก่อนบำรุงผิวหน้าขั้นตอนต่อไป จึงช่วยชีวิตและผิวหน้าเราได้ดีมาก   มันช่วยให้หน้าเราอิ่มน้ำและช่วยลดรอยแดงจากสิวด้วย  เราใช้ประจำมาหลายปี  คือที่แน่ๆต้องตบตอนเช้าและก่อนนอนวันละ 2 เวลาค่ะ   แต่แอ๊ะ    ‘‘  แล้วน้ำตบคืออะไร  ตบทำไม  ??  ’’  ก็คือ ขั้นตอนการบำรุงผิวก่อนเซรั่มนั่นเอง จะเป็น น้ำใสๆ ตบๆลงบนผิวหน้า 30 วินาทีก็ซึมเข้าสู่ผิวแล้ว  เป็นขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากและช่วยดูแลผิวเรานั่นเองค่ะ  

              เพราะแค่ขั้นตอนเดียวก็ทำให้เราหน้าดีขึ้นได้  เพียงแค่เราบำรุงผิวไม่ให้แห้ง ไม่ลอก ผิวหน้าก็ดูดีขึ้นได้แล้ว เพียงแค่ดูแลตัวเองง่ายๆ ขั้นตอนนี้ ที่ใครหลายๆคนใช้น้ำตบเพื่อเป็นเคล็ดลับหน้าเด็กนั่นเอง สำหรับรีวิวนี้ เราขอเลือกนำตบ ที่ใช้แล้วติดใจ ถึงจะลองตัวอื่นยังไงก็กลับมาใช้น้ำตบเหล่านี้ ที่สำคัญเหมาะกับผิวหน้าเรามาก  ที่มีปัญหาผิวแห้งขาดน้ำ ใช้แล้วไม่มีอาการแพ้แต่อย่างใด   ซึ่ง น้ำตบทั้งสามตัวนี้ก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป แต่ที่แน่ๆช่วยผิวเราให้ดีขึ้นแน่นอน 

 ตัวแรกของเราคือ  Sulwhasoo เปิดตัวในเมืองไทยไม่นานแต่ถือว่ามาแรงมากๆ สำหรับ Luxury Brand จากเกาหลีตัวเด็ดของเขาก็คือ First Care Activating : Serum อุดมด้วยส่วนผสมของสมุนไพรตามแบบฉบับเกาหลี     ช่วยเสริมสร้างผิวให้คงความสมดุล อีกอย่างที่เราชอบ  First Care Activating : Serum คือ มันลดการละคายเคืองผิวได้ดีมากๆ หลังจากกการโกนหรือแว็กซ์ขนคิ้วหรือขนที่หน้าใช้ตัวนี้ช่วยหน้าไม่แสบหรือแดงเลย  แถมยังช่วยให้ผิวชุ่มชื่นและเตรียมผิวในขั้นตอนต่อไปค่ะ  ราคา  60 ml 2,800 บาท   หาซิ้อได้ที่เค้าเตอร์ในห้างสรรพสินค้า  และ eveandboy ค่า   

    ตัวที่สองจ้า MISSHA Time Revolution The First Treatment Essence  กระแสดีมากๆมานานแล้วมักจะโดนเปรียบเทียบกับ SKII Facial Treatment Essence ทั้งราคาและคุณภาพ เห็นหลายรีวิวมากกกก   ด้วยส่วนผสมที่เข้มข้น  มีตัวเด่นๆที่ช่วยเรื่องลดความแดงของสิว ผลัดเซลล์ผิวให้เป็นไปอย่างธรรมชาติ อ่อนโยนต่อคนที่แม้ผิวแพ้ง่าย  ช่วยให้ผิวแข็งแรง  เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์จากธรรมชาติ NMF(Natural Moisturising Factor) ควบคุมการผลัดเซลล์ผิว และปรับสมดุลให้ผิวชุ่มชื่นยกกระชับผิว ให้ผิวขาวกระจ่างใส  เอสเซนมิสช่าเป็นลักษณะใสๆไม่มีสี ไม่มีกลิ่นค่ะ  ราคา 150 ml 1,345บาท หาซื้อได้ที่  KARMARTS Shop , eveandboy 

   ตัวสุดท้าย  SK-II Facial Treatment Essence  ขวัญใจของใครหลายๆคน  ถือว่าเป็นน้ำตบแบรนด์แรกและยังได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบันด้วยค่ะ  SK-II อุดมไปด้วยกรดอะมิโนแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อผิว ผิวแลดูกระจ่างใส เรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอย และยังช่วยในการผลัดเซลล์ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ  ลักษณะน้ำตบของ SK-II จะเป็นน้ำใสๆ ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีกลิ่นยีสต์ระดับที่ไม่ค่อยเหม็นมาก แต่บางคนจะบอกว่าเหมือนกลิ่นข้าวเน่าเลยTT   ปล. บางคนอาจจะแพ้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มยีสต์หรือใช้แล้วสิวขึ้น ยังไงต้องทดลองกับผิวของอีกทีนะคะ  ราคา 75ml  2,800 บาท หาซื้อได้ที่เค้าเตอร์แบรนด์ตามห้างนะคะหรือ eveandboy   

  ต่อมาเรามาลองทดสอบความสามารถในการเก็บความชุ่มชื่นกันดูบ้าง  ด้วยความอยากรู้ของตัวเองล้วนๆ   ว่าแต่ละอันมันมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน โดยใช้กล้วยนี่แหละค่ะ เพราะว่ากล้วยมันเปลี่ยนเป็นสีดำง่ายดี 555  

     เปรียบเทียบกันทั้งสามแบรนด์ ทิ้งไว้แล้ว ประมาณ 80 นาที     ผลที่ได้คือ ผิวของกล้วยที่เปลี่ยนไปมากที่สุดก็คือ SK II  ที่มีสีดำขึ้นมาบางส่วนอีกสองแบรนด์ Sulwhasoo กับ Missha สีของกล้วยไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ค่า อันนี้อาจจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วยนะคะ เราทดสอบในห้องที่มีความเย็น คือห้องเราเองเปิดแอร์ทิ้งไว้ 24 องศา ค่า ถ้าอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนก็อาจจะเปลี่ยนแปลงมากกว่านี้ค่ะ

เนื้อผลิตภัณฑ์ :  น้ำเอสเซนมีความเหมือนกันอยู่ 2 ตัว คือ SK ll และ Missha คือเป็นน้ำตบใสๆทั้งคู่ แต่เราให้ Missha ชนะไป ด้วยความที่เป็นเอสเซนที่น้ำบางเบากว่า SK ll อยู่ประมาณสองระดับค่ะ    เหมาะกับการขั้นตอนการบำรุงผิวเริ่มแรกมากที่สุดค่ะ การซึมสู่ผิว :  ต่อจากเนื้อผลิตภัณฑ์ข้างบนของทั้งสองตัว คือเป็นน้ำตบใสๆ ที่มีคุณสมบัติเขาสู่ผิวได้ง่ายและ รวดเร็วค่ะ เลยให้ชนะไปทั้งสองตัวเลย  Missha และ SK ll   ตบๆแค่ 20-30 วิ ก็เข้าสู่ผิวได้แล้ว  #งานตบผิว #งานปลุกผิว กระจ่างใส : ผิวขาวกระจ่างใส เราให้ Missha ชนะ เพราะว่าด้วยส่วนผสมที่อัดแน่นมาช่วยเรื่องผิวขาวกระจ่างใส ใช้แล้วรู้สึกว่าว่าผิวสดชื่นและกระจ่างใสขึ้นจริงๆค่ะ  น้องไม่ได้มโนนะคะความอ่อนโยนต่อผิว :ให้ Sulwhasoo ไปค่ะแต่จริงๆแล้วเราไม่มีปัญหากับส่วนผสมยีสต์นะ เราใช้ทั้งสามตัวไม่แพ้เลย แต่บางคนอาจจะแพ้ได้ค่ากลิ่น :  Missha  ค่ะ ไม่มีกลิ่นแรงๆ ของส่วนผสมเลย   ถือว่าดีงามค่ะ ถ้าใครอยากลองน้ำตบแต่กลัวกลิ่นของส่วนผสมแรงๆ Missha ถือว่าเหมาะเลยค่ะ  ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นเลยราคา/ความคุ้มค่า  :  Missha ในราคา 1,345  กับขนาด 150 ml ถือคุ้มค่าค่ะ  ขวดใหญ่ใช้ได้นานทีเดียว     การทดสอบความชุ่มชื่นจากกล้วย  :  Missha มีการเปลี่ยนแปลงไปน้อยทีี่สุดค่ะ น้ำตบยังสามารถเก็บความชุ่มชื่นได้ดี ทำให้กล้วยเปลี่ยนสีไปน้อยมากค่ะ  

  จบการรีวิวศึกน้ำตบเพียงเท่านี้นะคะ ใครใช้น้ำตบตัวไหนดีๆมาเม้นบอกกันบ้างค่า ^^