Proud 2b Mom ตอน การเผชิญหน้ากับภาวะแท้งคุกคาม
Proud2bMom 7 3หลังจากใส่ตัวอ่อนเมื่อวันที่10 ก.พ. มิ้นก้อลางานยาวจนถึงวันที่ 20กพ. ก็ไปทำงาน ตอนนั้นยังไม่บอกใครว่าท้องเพราะอยากให้ตรวจเลือดและเห็นหัวใจก่อน ระหว่างที่ไปทำงานก็เดินช้าๆ ระหว่างนั้นมีพาลูกค้าไปเที่ยวอยุธยาด้วย แต่ว่าไปส่งเค้าลงไปเดินเที่ยว มิ้นนั่งรอข้างหน้า
หลังจากตรวจผลเลือดขึ้นว่าตั้งครรภ์ เมื่อวันที่24 ม.ค. หน่วยมีบุตรยาก ศิริราช นัดไปอัลตร้าซาวน์ในวันที่ 10 กพ. แต่มิ้นลองโทรไปถามที่คลีนิคอ.จปรัฐ ว่าเปลี่ยนไปซาวน์ที่คลีนิคอ.หมอได้ไหม คำตอบว่าได้ เลยไปทำการอัลตร้าซาวน์คลีนิควันที่ 9 ก.พ.แทนค่ะ
มหัศจรรย์แห่งชีวิต
9 ก.พ.17 (6วีค)
พอเห็นหัวใจลูกแล้วถึงประกาศให้โลกรู้ว่าชั้นท้องละนะ555 แต่ก็ยังใช้ชีวิตปกติ ไปทำงานทุกวัน แต่การดำเนินชีวิตช้าลง
22 กพ. มีเรื่องระทึกใจที่สุดในชีวิต บ่าย4โมงมิ้นกำลังจะขึ้นสอนนักเรียนเลยไปเข้าห้องน้ำก่อน จะได้ไม่ต้องเดินลงบันไดมาเข้าบ่อยๆ ปรากฎว่ามีเลือดสดๆสีแดงชมพูติดมาด้วย มิ้นนี่หน้าซีดมือสั่นรีบโทรหาน้าหมอเป้ น้าหมอเป้บอกให้รีบกลีบบ้านแล้วนอนพักนิ่งๆเพราะนี่อาจจะเป็นอาการแท้งคุกคาม มิ้นแทบร้องไห้ ดีที่แฟนมารับพอดี แล้ววันนี้ก้อมีนัดหมอด้วยเลยว่าไปหาหมอเลยดีกว่า ไปถึงคุณหมอก็ซาวน์ให้ แต่หนูชอบซ่อนตัว คุณหมอหาตั้งนานมิ้นนี่ใจแป้วเลย หมอบอกว่าหนูยังอยู่ดีตัวโตขึ้นหัวใจเต้นแรงดี มิ้นถึงได้ยิ้มออก คงเป็นเพราะเมื่อวันอังคารมิ้นต้องขึ้นลงบันไดบ่อยๆเพื่อไปสอนนร. แถมซ่าเดินสะพานลอยนั่งพี่วินอีก ต่อไปนี้แม่จะไม่ทำแล้วเข็ดแล้วจริงๆจ้ะลูกจ๋า
หลังจากรู้สึกว่าปลอดภัยแล้ว วันที่1-2 เม.ย. มิ้นไปเที่ยวปากช่อง โดยขออนุญาตคุณหมอแล้ว ไปถึงที่พักก็ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรมากนัก ส่วนใหญ่นอนอยู่ในห้องที่เพื่อนๆเฮฮาปาร์ตี้กัน ขากลับแวะทานข้าวก็เดินถ่ายรูปในร้านปกติ กลับมาก็เหตุการณ์ปกติดีค่ะ
#ภาวะแท้งคุกคามครั้งที่2
4 เม.ย. วันนี้แม่ใจจะขาดอีกครั้ง เมื่อตอนเที่ยงเข้าห้องน้ำก่อนจะออกไปทานข้าวตามปกติ จู่มีเลือดออกเท่านั้นก้อตกใจแล้ว แต่ดันเช็ดเท่าไหร่ก็ไม่หมดซักทีเหมือนไหลออกมาเรื่อยๆ เป็นสีแดงสดและมีลิ่มๆออกมาด้วย วินาทีนั้นร้องไห้โฮแบบไม่อายใคร ใจสั่นใจเสียกลัวเสียหนูไปเหลือเกินลูกรัก ออกมาได้พี่เตี้ยขับรถไปส่งรพ.ไทยนครินทร์ ได้น้องปลากับน้องเตี๋ยวไปเป็นเพื่อน มี๊สะอื้นไม่หยุด ขนาดได้หมอเป้ปลอบใจ สะอื้นจนถึงรพ. สวดมนต์ตลอดทางให้ลูกรักของมี๊ปลอดภัย หมอทำการตรวจภายในดูปากช่องคลอดว่าเปิดไหม ต่อด้วยทำการซาวน์ วินาทีที่ได้เห็นหนูยังอยู่แม่ดีใจจนบอกไม่ถูก พอหมอเปิดเสียงหัวใจหนูให้ฟังด้วยแม่ร้องไห้โฮอีกครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเสียงหัวใจของหนู ยังพอยิ้มออกเมื่อหมอบอกว่าหนูยังปลอดภัยดี แล้วฉีดยากันแท้งให้1เข็มแล้วให้กลับไปนอนนิ่งๆ ต่อจากนี้มี๊จะดูแลหนูเป็นอย่างดี นอนนิ่งๆจนกว่าจะถึงนัดหมอครั้งหน้าในวันที่11 มี๊สัญญา แข็งแรงๆไปกับมี๊นะลูกรัก
บางคนคิดว่า ทำไมไปหาหมอ หมอไม่ทำอะไรให้เลย จริงๆคุณหมอทำอะไรให้ไม่ได้นะคะ นอกจาก เชคปากช่องคลอด และเชคว่าเบบี๋ยังอยู่ไหม ปกติไหมเท่านั้นค่ะ อย่างดีก็ฉีดยากันแท้ง แต่คุณหมอบอกว่าถ้าเบบี๋ไม่โอเค ให้ฉีดยังไงเบบี๋ก็ไม่อยู่นะคะ สิ่งที่จะทำได้คืออยู่ที่ตัวคุณแม่นะคะ นั่นคือการนอนนิ่งๆให้ได้มากที่สุด งดเดิน งดขึ้นลง-บันไดเลย นั่นคือสิ่งที่มิ้นทำนะคะมิ้นลางานยาว ไปทำงานอีกที วันที่ 17 ก.พ.เลยค่ะ วันนั้นกลับมาบ้าน ยังมีเลือดอยู่นะคะ แต่ไม่เยอะเท่าตอนแรก ลุ้นทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ ภาวนาขอให้หยุดซักที ดีนะคะที่ไม่มีอาการปวดท้องร่วมด้วย ไม่งั้นอาจจะเป็นสัญญานอันตรายค่ะ
หลังจากนั้นจะเป็นโรคระแวงการเข้าห้องน้ำไปเลยค่ะ ต้องเชคที่ทิชชูตลอดว่ามีเลือดติดออกมาไหม อาการค่อยๆดีขึ้นจะหายสนิทยาววววเลยค่ะ ระหว่างนั้นไปพบคุณหมอตามนัดทุกครั้ง คุณหมออธิบายว่าเลือดที่ออกอาจจะมาจากการที่รกลอกตัว เนื่องจากเราเดินมาก นั่งรถมาก เพราะเวลาเราท้องอ่อนๆ รกยังฝังตัวไม่สนิทนัก พอเราเดินมากๆมันทำให้รกที่ยังไม่สนิทฉีกขาดได้ เมื่อรกฉีกเลยมีเลือดออกค่ะ มาจนเมื่อ วันที่15 เม.ย. มิ้นออกมากินข้าวกับครอบครัวเนื่องในวันสงกรานต์ หลังกินข้าวเสร็จไปเข้าห้องน้ำ ก็มีเลือดออกมาอีก ตอนนั้นในใจรู้สึกปลงมาก มีแอบทำใจว่าอีกแล้วเหรอ ถ้างั้นอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด วันนั้นมิ้นไม่ได้ไปหาหมอค่ะ เพราะคิดว่าไหมอก็คงทำอะไรให้ไม่ได้ กลับมาวนอย่างเดิมคือนอนยาวๆไปค่ะ หลังจากวันนั้นจนวันนี้ (13 มิ.ย.) ยังปลอดภัยดีจากอาการแท้งคุกคามนะคะ ไม่มีเลือดออกแล้ว เพราะหลังจากที่เลือดออกเยอะๆครั้งที่2 มิ้นงดเดินทางเลยค่ะ ออกจากบ้านคือแค่ออกมาทำงาน วันหยุดแค่ออกไปห้างกินข้าวกับครอบครัว ซึ่ง2อาทิตย์จะออกทีค่ะ นอกนั้นนอนนิ่งๆบนเตียงตลอดเลยค่ะ โชคดีทีคุณแฟนเข้าใจ ทำทุกอย่างแทนหมด ร่วมถึงเตรียมอาหารไว้ให้เวลาเค้าต้องออกไปธุระข้างนอก
ส่วนการแท้งคุกคามอีกกรณีหนึ่งก็คือ พอตรวจอัลตราซาวนด์แล้วยังพบว่ามีตัวเด็ก เห็นหัวใจเด็กเต้นอย่างชัดเจน ในกรณีเช่นนี้ตัวเด็กเองมักจะปกติดีครับ เพียงแต่การฝังตัวของรกไม่ดีเท่านั้นเอง โอกาสที่จะตั้งครรภ์ต่อไปได้อย่างเป็นปกติก็มีสูงมาก (ประมาณ 90-95%) ซึ่งการรักษาที่ดีที่สุดในกรณีที่ทำได้ก็คือ “การนอนนิ่ง ๆ งดเดิน และงดการทำงานหนัก” เพื่อช่วยให้รกค่อย ๆ ประสานติดเข้ากับผนังมดลูกได้ดีขึ้น และเมื่ออายุครรภ์มากขึ้น ถุงน้ำคร่ำก็จะโตขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ ถุงน้ำคร่ำก็จะโตขึ้นจนเต็มช่องว่างภายในโพรงมดลูก จึงไม่มีพื้นที่ให้ถุงน้ำคร่ำคลอนไปคลอนมาได้อีก โอกาสการแท้งหลังจากสัปดาห์ที่ 12 ของการตั้งครรภ์จึงลดน้อยลงอย่างมาก ของมิ้นน่าจะเป็นเคสนี้นะคะ
เครดิต https://medthai.com/ภาวะแท้งคุกคาม/
ข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ
https://medthai.com/ภาวะแท้งคุกคาม/
ติดตามรีวิวอื่นๆในการทำ IVF ของมิ้นได้ที่ เพจ Proud 2b Mom ทาง facebook ได้แล้วนะคะ
https://www.facebook.com/Proud-2b-Mom-134400227135200/