พิสูจน์ให้เห็นกันชัดๆ ลีฟออนแบบออยล์หรือแบบครีม อันไหนเริ่ดกว่ากัน!
Speak Out 27 6สวัสดีค่ะทุกคน เจนกลับมาไทยแล้วค่ะ หลังจากที่ไปอยู่เกาหลีมาเกือบเดือน ตอนอยู่ที่นู่นเที่ยวกระจายเลยค่า 555 เที่ยวจนไม่มีเวลาดูแลตัวเองเลย โดยเฉพาะผมที่แทบไม่ได้บำรุงจนตอนนี้แห้งเสียขึ้นมาก
แต่โชคดีมากที่กลับมาถึงไทยปุ๊บ ก็ได้ลองลีฟออนจาก ลอรีอัล ปารีส เอลแซฟ อย่าง เอ็กซ์ตรอว์ดินารี่ ออยล์ค่ะ ซึ่งตัวนี้เค้าบอกว่าเป็นลีฟออนอันดับหนึ่งในญี่ปุ่นแล้วก็ฮิตมากในไทย เจนได้ยินชื่อเสียงกันมานานแต่ไม่มีโอกาสได้ลองสักที
วันนี้เจนก็จะมารีวิวให้ทุกคนได้เห็นกันเลยว่าดีจริงอย่างที่เค้าว่ารึเปล่า ซึ่งตอนนี้เค้ามีให้เลือก 2 แบบด้วยกัน คือแบบเนื้อออยล์ มีหลายสูตรตามสภาพผมของสาวๆเลย และแบบใหม่ล่าสุด เนื้อครีม มี 2 สูตรสำหรับผมแห้งเสียและผมเสียมากค่ะ แต่วันนี้เจนขอเลือกเป็นตัวในกลุ่มผมแห้งถึงผมเสียมากมารีวิวค่ะ ขอบอกเลยว่าน่าใช้มากๆทั้งสองแบบ ^^
หลายคนน่าจะรู้จัก L’Oréal Paris Elseve Extraordinary Oil กันแล้วใช่ไหมคะ เพราะคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งเนื้อออยล์ที่บางเบา ซึมซาบไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ จากสารสกัดสูตรเฉพาะและน้ำมันดอกไม้ 6 ชนิด ทำให้หลายคนชอบจนฮิตมากๆเลย เจนเองก็ชอบใช้ค่ะโดยเฉพาะออยล์สูตรสำหรับทุกสภาพผม
แต่ว่าตอนนี้เค้ามีสูตรใหม่ค่ะ กับ L’Oréal Paris Elseve Extraordinary Oil La Crème เป็นแบบครีม ที่นำออยล์สกัดเข้มข้นมาผสานในรูปแบบของครีมบำรุงผมด้วยเทคโนโลยี "Oil in Cream Technology" เทคนิคเฉพาะของลอรีอัล กลายเป็นครีมบำรุงผมที่มีให้เลือก 2 สูตรด้วยกัน ทั้งสูตรผมแห้งเสียขวดสีทอง และสูตรสำหรับผมเสียมากขวดสีน้ำตาลค่ะ ความพิเศษของตัวนี้คือเนื้อเค้าจะบางเบามากๆ ไม่มัน ไม่เหนียวเหนอะ โดยเค้าเคลมว่าให้สัมผัสผมเบาสบาย นุ่มสลวยดุจใยไหม ซึ่งเจนก็ยังไม่เคยลองตัวนี้เหมือนกันค่ะ เดี๋ยวเรามาพิสูจน์กัน
แต่ๆ พอมีทั้งแบบออยล์และแบบครีม หลายคนคงสงสัยกันใช่มั้ยล่ะคะว่า เอ..สรุปแล้วตัวไหนมันดีกว่ากัน และ แต่ละแบบให้ผลลัพธ์ต่างกันอย่างไร?
วันนี้เจนจะมาไขข้อข้องใจโดยจะรีวิวเปรียบเทียบทั้ง 2 สูตร โดยการแบ่งผมเป็นสองข้าง และบำรุงข้างนึงด้วยแบบออยล์ อีกข้างด้วยแบบครีมทำแบบนี้เราก็จะได้เห็นกันชัดๆเลยค่ะ ว่าแบบไหนนั้นบำรุงเริ่ดกว่ากัน! แต่ก่อนที่จะไปพิสูจน์ เราไปทำความรู้จักกับลีฟออนแต่ละแบบกันก่อนจ้า…
แบบออยล์ตัวนี้มีชื่อว่า เอ็กซ์ตรอว์ดินารี่ ออยล์ ค่ะ คุณสมบัติเด่นคือเนื้อบางเบา ซึมซาบไว ไม่เหนียว เหนอะหนะ โดยเค้าทำมาจากสารสกัดและน้ำมันดอกไม้ 6 ชนิดค่ะ อีกหนึ่งจุดเด่น ที่เจนคิดว่าน่าจะทำให้สาวๆหลายคนชื่นชอบก็คือเรื่องกลิ่นค่ะ กลิ่นหอมมาก เป็นกลิ่นหอมอ่อนๆจากดอกไม้ค่ะ
แบบครีมสำหรับแบบใหม่ที่เป็นเนื้อครีมนี้ มีชื่อว่า เอ็กซ์ตรอว์ดินารี่ ออยล์ ลา ครีม ค่ะ เรียกสั้นๆว่า ลา ครีม ละกันเนอะ ความพิเศษของตัวนี้อยู่ที่ว่าเป็นลีฟออนแบบครีมที่มีส่วนผสมของออยล์ ด้วย Oil in Cream Technology ที่เป็นเทคโนโลยีลับเฉพาะของ ลอรีอัล ปารีส ค่ะ เนื้อเค้าจะบางเบามากๆ ไม่ มัน ไม่เหนียวเหนอะเลย โดยเค้าเคลมว่าให้สัมผัสผมเบาสบาย นุ่มสลวยดุจใยไหม ซึ่งเจนก็ยังไม่ เคยลองตัวนี้เหมือนกันค่ะ เดี๋ยวเรามาพิสูจน์กัน
เอาล่ะ! เรามาพิสูจน์กันดีกว่า โดยสูตรที่เจนเลือกมาในวันนี้ก็คือออยล์สูตรสำหรับทุกสภาพผม และ ครีมสูตรผมแห้งเสียนะคะ
เนื้อสัมผัสเนื้อของตัวออยล์จะเป็นสีใสๆค่ะ มีความเบา ไม่เหนียวข้นเหมือนออยล์ที่เจนเคยใช้นะ ส่วนเนื้อครีม จะเป็นครีมขาวนวลค่ะ เนื้อครีมเนียนละเอียด และไม่มันไม่เหนอะนะเลย โดยทั้ง 2 ตัวมีกลิ่นหอมของ ดอกไม้ค่ะ
การบำรุงก่อนจะบำรุง เจนจะให้ดูสภาพผมของเจนหลังจากสระผมและไดร์เสร็จก่อนนะคะ จะเห็นว่ามีความ แห้งและฟูเล็กน้อย
เจนแบ่งผมออกเป็น 2 ส่วนเท่าๆ กันค่ะ โดยจะชโลมออยล์ลงด้านซ้าย และครีมลงด้านขวา
ความรู้สึกที่ลงไปคือทั้ง 2 สูตรไม่มัน ไม่เหนอะเลยนะ ทาไปแล้วซึมเข้าสู่ผมได้ง่ายมากๆ ทั้งครีมและออยล์เลย ถ้าเทียบเรื่องการบำรุง ผมสองฝั่งดูสวยและเข้าทรงทั้งคู่เลย แต่จะรู้สึกว่าด้านที่ใช้ออยล์จะให้ผมที่ดูเงางาม เรียบลื่นกว่า ส่วนด้านที่ใช้ครีมด้วยความที่เนื้อครีมมันเบาเลยทำให้รู้สึกผมนุ่มสลวยเรียงเส้น คืออาจจะดูเงางามไม่เท่าตัวออยล์แต่ผมก็ดูสุขภาพดีไม่แห้ง ไม่ชี้ฟูไม่แพ้กันเลยค่ะ
การซึมซาบเรื่องการซึมซาบของทั้งคู่ก็เริ่ดมากๆ ค่ะ พอเอากระดาษซับมันซับผมทั้งสองข้าง จะเห็นได้ว่าไม่มีความมันติดมาเลย เพราะพอทาปุ๊ป ทั้งแบบออยล์และครีมก็ซึมเข้าสู่ผมทันทีไม่เหลือพวกความรู้สึกเหนอะๆไว้เลย
สรุปเจนว่า 2 ตัวนี้ดีทั้งคู่เลยค่ะ แต่ให้ลุคที่ออกมาต่างกัน โดยเพื่อนๆ คนไหนที่ชอบผมมีน้ำหนัก เงางามเรียบลื่นๆ แน่นอนว่าต้องเป็นออยล์เลย แต่ถ้าชอบผมนุ่มๆ มีความเบาสบายของเส้นผม ไม่ชี้ฟูก็ต้องแบบครีมค่ะ ถ้าถามเจนว่าจะใช้แบบไหน เจนจะเลือกใช้ออยล์เวลาจะไดร์ผมตรงค่ะ ผมจะได้เรียบลื่น เงาๆ แต่ ถ้าเวลาม้วนผมเป็นลอนก็จะใช้แบบครีมค่ะ ทั้งก่อนม้วนเพื่อปกป้องผมจากความร้อน และหลังทำลอนเสร็จเพื่อล็อคลอนไว้ค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะ รู้กันแล้วใช่ไหมเอ่ยว่าตัวไหนที่เหมาะกับเรา สาวๆก็ลองเลือกกันเลยค่ะ ในเรื่องราคาก็คุ้มค่ามากๆ แบบออยล์ 100 ml มีทั้งราคา 299 และ 349 บาทคะ (แล้วแต่สูตร) ส่วนแบบครีม 100 ml ราคา 349 บาท มีขายตามร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ โดยแบบครีมที่ฝาสีน้ำตาล สำหรับผมเสียมากนั้น มีขายที่วัตสันเท่านั้นนะคะ หรือช้อปออนไลน์ได้ที่ https://bit.ly/2pq1u7L ค่ะ