|- Review -| เล็บสวยง่าย ๆ แบบไม่ต้องกลัวเล็บเสีย ด้วย Dashing Diva By panmin_
panmin_ 13 9สวัสดีค่าา แพนค่าาาากลับมาอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนาน (อีกแล้ว)เป็นคนยุ่ง ๆ 2017 ค่ะ ฮ่าาาา แต่จะพยายามมาทำรีวิวเก็บไว้น้าามาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ ^_^
สำหรับตัวที่จะมาแนะนำในวันนี้ ก็คือเจ้าเล็บปลอมนั่นเองเป็นของแบรนด์ Dashing Diva ของเกาหลีค่ะจริง ๆ ตัวนี้เราเองก็เคยเห็นมีคนรีวิวแล้ว แต่วันนี้เราจะมาเจาะรายละเอียดกันค่ะ
Dashing Diva เขาออกมาหลายรุ่นแล้วนะคะสำหรับกล่องดำจะเป็นรุ่นธรรมดาค่ะ ลายจะค่อนข้างเรียบ ๆส่วนกล่องเงินจะเป็นรุ่นพรีเมียม ลายจะค่อนข้างสวยกว่าและอลังการกว่าอย่างเช่น มีเพชรติด มีลูกเล่นที่นูนๆขึ้นมา อะไรประมาณนี้(แต่ในรูปเรากล่องพรีเมียมซื้อแบบเรียบ ๆ มา เพราะชอบเรียบ ๆ กว่าค่ะ ฮ่าาาา)
แล้ว Dashing Diva เขาก็ได้ทำร่วมกับแบรนด์ดังของเกาหลีอื่น ๆ ด้วยนะคะ เช่น Dashing Diva x Etude (ของแบรนด์นี้จะเป็นลายน่ารัก ๆ หน่อยค่ะ) Dashing Diva x Innisfree (อันนี้เราไม่ได้ซื้อมา แต่สวยอยู่นะคะ น่ารัก คล้าย ๆ Etude) Dashing Diva x Unistella (อันนี้จะออกแนวเรืองแสงค่ะ เป็นแนววัยรุ่นจี๊ด ๆ เลย)
มีรุ่นอื่นอีกรึเปล่าเราไม่แน่ใจนะคะ แต่อันนี้คือเท่าที่เราเห็นเลย
เราเลือกรุ่นนี้มาแกะให้ดูน้าา ของ Etude House ค่าในกล่องของเขาก็จะประกอบไปด้วย 1. เล็บปลอม จำนวน 30 ชิ้น ซึ่งใน 30 ชิ้นนี้มีหลายขนาดนะคะ
2. ที่เช็ดเล็บ จำนวน 1 ชิ้น
3. ใบแสดงวิธีการติด
4. ตะไบเล็บ (รุ่นแรก ๆ ไม่ได้แถม เพิ่งมาแถมตอนหลัง)
ก่อนอื่น เราตัดเล็บก่อนค่ะ หรือใครจะไม่ตัดก็ได้นะคะ แต่เราตัดเพราะว่าเล็บเรายาวแล้วมันจะไปเกินเล็บปลอมที่เราติด จะทำให้ไม่สวยค่ะ
และอีกอย่างที่เราตัด ก็เพราะว่าไม่อยากให้ตอนหงายมือขึ้นมา แล้วมันเห็นเล็บเป็นสองแฉก (เล็บเรายาวแล้วงอค่ะ แต่เล็บปลอมมันจะตรง ทำให้มันแยกทางกันอยู่)
เราแนะนำให้นำเล็บทั้งหมดออกมาก่อนนะคะ เอามาเรียงเทียบกับขนาดของนิ้วก่อนค่ะ (แบบเราตามรูปเลย) จะช่วยให้ติดง่ายและเร็วมากยิ่งขึ้นค่ะ
- ทริกง่าย ๆ ที่ช่วยให้ติดไวขึ้นไปอีก -ข้างหลังของเล็บปลอมจะมีเลขขนาดของเล็บอยู่นะคะ ถ้าเราเลือกข้างนึงเสร็จแล้ว
ก็เลือกอีกข้างโดยดูจากเลขข้างหลังได้เลยค่ะ (แต่ตัวเลขจะมองยากนิดนึง)
วิธีการติดก็ง่ายมาก ๆ ค่ะ มาลองดูกันเลยนะคะ
1. นำแผ่นเช็ดเล็บที่ได้มา แกะแล้วเช็ดเล็บของเราทุกเล็บค่ะ
- ทริกที่ทำให้ติดทน -เจ้าตัวแผ่นเช็ดเล็บนี่แหละค่ะ ที่ทำให้เล็บปลอมติดกับเล็บเราได้ดียิ่งขึ้น
สาว ๆ ที่เคยติดเล็บแล้วบอกว่าติดวันเดียวก็หลุด ติดแล้วอาบน้ำเสร็จหลุดเลย
อาจจะไม่ได้เช็ดเจ้าตัวนี้รึเปล่าเอ่ย ~~
แต่เจ้าตัวแผ่นเช็ดเล็บเจ้ากรรม ดันได้มาแค่ 1 แผ่นเท่านั้นเอง
ร้องห้ายยยยย
2. จะเห็นว่าด้านหลังของเล็บจะมีสติกเกอร์ติดอยู่ ที่เราต้องทำก็คือลอกออกค่ะตอนที่ติด ต้องเอาด้านที่มีสติกเกอร์ออกมาไว้ตรงหัวเล็บนะคะ
3. เสร็จแล้วค่ะ 5555555555555555555ไวมาก ๆ คือถ้าเราเรียงไว้แล้ว ขั้นตอนการติดก็ไม่ได้ยากอะไรเลยค่ะแค่ต้องระวังไม่ให้เบี้ยวเท่านั้นเอง
จะเห็นว่าในรูป ตรงปลายเล็บมันยังไม่เรียบน้าเราสามารถเอาตะไบจิ๋วที่ได้มา ค่อย ๆ ตะไบตรงปลายเล็บออกได้เลยค่า
เมื่อตะไบออกแล้ว ก็จะเป็นแบบนี้เลยยยย ~~
ด้านหลังของเล็บ ก็จะเป็นแบบนี้ค่ะซึ่งถ้าเล็บเรายาวก็จะโผล่มาให้เห็นแต่ ณ ที่นี้เราตัดเล็บแล้ว ก็เลยไม่ค่อยเห็น
หลังจากผ่านไป 6 วัน เป็นแบบนี้ค่ะ ตรงหัวเล็บจะยุ่ยและลอกบ้างแล้ว
ปลายเล็บค่อนข้างสึก อาจเป็นเพราะเราใช้มือเยอะ 55555555555
แต่บอกก่อนน้า ไม่แนะนำให้แกะออกตอนที่มันยังไม่หลุดค่ะถึงจะผ่านไป 7 วันแล้ว แต่ถ้ากาวยังแน่นอยู่ก็ไม่แนะนำให้รีบแกะออกนะคะเพราะจะทำให้หน้าเล็บเสีย เราเคยแกะมาแล้วค่ะ ลอกเลยยยย
(ถึงการติดเล็บแบบนี้จะไม่ทำร้ายเล็บ แต่ถ้าแกะแบบนั้นก็ทำร้ายอยู่ดีค่ะ)เพราะฉะนั้น รอให้มันหลุดเองสักอันสองอันก่อน ค่อยแกะน้า เป็นห่วงสุขภาพเล็บของสาว ๆ ค่ะ
จบการรีวิวแย้ววว เป็นไงกันบ้างคะ
สนใจอยากจะลองหามาใช้กันบ้างรึเปล่าเอ่ยยย ~~ ^_^
ราคา : ประมาณ 300-400 บาท ต่อกล่อง (บางรุ่นแพงกว่านั้นก็มี ขึ้นอยู่กับลายค่ะ)
ให้คะแนนกันหน่อยความสวยงาม : 9/10
เหตุผล - มันสวยมากจริง ๆ ค่ะ ใช้แล้วชอบบบ > <
ความเนียน : 8/10
เหตุผล - หักคะแนนตรงหัวเล็บนิดนึง มันค่อนข้างนูนไปนิด
การใช้งาน : 7/10
เหตุผล : หักคะแนนตรงที่มันเกี่ยวผม! ตรงหัวเล็บเกี่ยวผมเราหนักมากก แงงง
ไม่ได้เจ็บหรืออะไร แค่รำคาญเฉย ๆ เกี่ยวอยู่นั่นล้าาา
ความคงทน : 9/10
เหตุผล : ทนมากจริง ๆ ค่ะ ขนาดตอนอยากเอาออก ยังยากเลย
หักคะแนนตรงอยู่ ๆ ไปนาน ๆ แล้วมันจะลอก อ่อนและฉีกตรงหัวเล็บ
จบการรีวิวค่าา ^_^ไว้โอกาสหน้าจะหาตัวอื่นที่น่าสนใจมารีวิวให้ดูกันอีกนะคะจะเป็นอะไรนั้น ต้องรอติดตามค่า
