รีวิว โทนเนอร์ 5 ตัวที่ถูกและดี มีอะไรบ้างมาดูกันค่าา
Sarii.Nashi 25 28สวัสดีค่าเพื่อนๆ ทุกคน//สาลี่ เองค่าา ^____^ อีกหนึ่งขั้นตอนในการดูแลผิวที่เราชอบมากๆ นั่นก็คือการเช็ดโทนเนอร์ค่ะ ที่ผ่านมาได้มีโอกาสลองใช้โทนเนอร์ไปหลายตัว จึงได้คัดโทนเนอร์ที่ราคาถูกและดีมาฝากเพื่อนๆ ทุกคนเลยค่า จะมีตัวไหนกันบ้างไปดูกันเล๊ยย
สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ไม่สะดวกอ่านรีวิวยาวๆ ก็สามารถจิ้มดูรีวิวเวอร์ชั่นวิดิโอได้นะค้า ^^
น้ำเกลือ Klean&Kare (ราคาประมาณ 30-60 บาท)
สรรพคุณ: ด้วยประสิทธิภาพของน้ำเกลือ ที่มีความเข้มข้นเดียวกับน้ำในร่างกายของเรา และผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนสูง จึงปลอดภัยต่อร่างกายมากพอที่จะนำมาใช้ในจุดที่บอบบางได้ นอกจากนี้ น้ำเกลือยังเอามาใช้ประโยชน์ที่เกี่ยวกับความงามได้หลายอย่างด้วยนะ เพื่อนๆ หลายคนอาจจะเคยใช้น้ำเกลือแทนโทนเนอร์ เราเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ใช้น้ำเกลือแทนโทนเนอร์เหมือนกันค่ะ ซึ่งน้ำเกลือเหมาะสำหรับสาวๆ คนไหนที่กำลังเป็นสิวอยู่มากๆ เพราะน้ำเกลือจะช่วยทำความสะอาดผิวของเราให้สะอาด และทำให้สิวหายเร็วขึ้นด้วยค่ะ เพราะสิวเองก็ถือว่าเป็นแผลที่เราต้องคอยทำความสะอาด และน้ำเกลือเหล่านี้ผ่านการฆ่าเชื้อแล้วจึงอ่อนโยนต่อผิวของสาวๆ มากเลยค่ะ
หลังใช้แล้วรู้สึกว่า ใบหน้าสะอาดขึ้น ไม่แห้งตึง แต่ก็ไม่ได้ชุ่มชื่นถ้าเทียบกับการใช้โทนเนอร์ปกติ เราเลยมักใช้น้ำเกลือช่วงที่เป็นสิวค่ะ ส่วนช่วงไหนหน้าใสไร้สิวก็สลับไปใช้โทนเนอร์ปกติ และน้ำเกลือไม่ได้มีส่วนช่วยในการกระชับรูขุมขนแต่อย่างใดนะคะ เน้นทำความสะอาดผิวล้วนๆ เลยค่า
ให้คะแนน 9/10 ไปเลยค่า ^^
Mahaad Balancing Toner (ราคาประมาณ 200-300 บาท)สรรพคุณ: โทนเนอร์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกอย่างง่ายดาย ลดการเกิดสิวผด หรือ ผื่นคัน รักษาสิวตามร่างกายให้หายเร็วยิ่งขึ้น สกัดจากแก่นมะหาด ซึ่งมีคุณสมบัติลดเม็ดสีผิว ปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น ความหมองคล้ำและจุดด่างดำแลดูจางลง ผิวนุ่มชุ่มชื่นมากขึ้น
เห็นเพื่อนใช้แล้วเวิร์คเลยลองซื้อมาใช้มั่ง เป็นอีกหนึ่งโทนเนอร์ที่แนะนำมากๆ สำหรับสาวๆ คนไหนที่มีใบหน้าหมองคล้ำหรือมีรอยสิว T^T! เพราะหลังจากที่ได้ลองใช้โทนเนอร์ตัวนี้แล้วพบว่ารอยสิว/จุดด่างดำจางลง รู้สึกรูขุมขนกระชับขึ้น และใบหน้ากระจ่างใสขึ้นด้วยค่ะ รู้สึกใบหน้าสะอาดและชุ่มชื่นมากๆ ที่สำคัญไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ จึงไม่ทำให้ใบหน้าไม่แห้งไม่แสบหลังใช้ เหมาะสำหรับสาวๆ คนไหนที่แพ้แอลกอฮอล์มากๆ ค่ะ และโทนเนอร์ตัวนี้มีกลิ่นหอมมากค่ะ เราชอบนะ แต่เป็นกลิ่นหอมของน้ำหอม ใครที่มีผิวไวต่อน้ำหอมอาจจะต้องระวังนิดนึง แต่เราใช้แล้วไม่แพ้ค่า และชอบที่โทนเนอร์ตัวนี้เป็นแบบสเปรย์ค่ะ ทำให้ประหยัดโทนเนอร์ไปได้เยอะเลย ^^
ให้คะแนน 9.5/10 ไปเลยค่า ^^
Clean & Clear Clear Fairness Toner (ราคาประมาณ 100 บาท)
สรรพคุณ: โทนเนอร์สูตรวิตามิน-เชอร์รี่ ช่วยขจัดความหมองคล้ำ ขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว พร้อมเผยผิวใหม่ดูกระจ่างใสอมชมพู และพลังสารสกัดจากข้าว ช่วยควบคุมความมัน ทำให้ใบหน้าไม่มัน ไม่หมอง เผยผิวสวยใสต้องขอบอกก่อนเลยค่ะ ว่าเราเคยแพ้โทนเนอร์ของ Clean & Clear มาก่อน 555 แต่ตอนนั้นเราใช้ตัวสีฟ้าและเพิ่งมาพลิกขวดดูทีหลังว่ามันผสมแอลกอฮอล์ค่ะ ใช้แล้วสิวนี่เป่งเลย เราเลยคิดว่าเราน่าจะแพ้แอลกอฮอล์ในโทนเนอร์ พอมาวันนี้เราเห็นโทนเนอร์สีชมพูสูตรไร้แอลกอฮอล์ของ Clean & Clear วางขายอยู่ จึงได้ตัดสินใจลองซื้อมาใช้ พบว่าไม่แพ้ค่ะ เย้!!/รอดแล้ว
หลังใช้โทนเนอร์ตัวนี้แล้วรู้สึกว่าใบหน้ากระจ่างใสขึ้น รูขุมขนดูกระชับค่ะ รู้สึกใบหน้าชุ่มชื่นขึ้นด้วย แต่ได้กลิ่นของน้ำหอม สาวๆ คนไหนที่มีผิวไวต่อน้ำหอมอาจจะต้องระวังนิดนึง แต่เราใช้แล้วไม่แพ้เช่นกันค่า สรุปสั้นๆ สำหรับเรา สีชมพูตัวนี้ใช้ดีกว่าตัวสีฟ้าค่ะ ใครผิวแพ้ง่ายเราแนะนำ Clean & Clear สีชมพูนะคะ
ให้คะแนน 7.5/10 ค่า ^^
อภัยภูเบศร Herbal Toner (ราคาประมาณ 150 บาท)
สรรพคุณ: โทนเนอร์สูตรไร้แอลกอฮอล์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดสมุนไพรธรรมชาติ 3 ชนิด ได้แก่ มะขามป้อม บัวบกและแตงกวา ช่วยปรับสภาพผิวหลังล้างหน้าให้นุ่ม กระชับรูขุมขน ลดความหมองคล้ำของผิว ทำให้หน้ากระจ่างใส คืนพลังให้กับผิวทำให้ผิวแข็งแรง เหมาะกับผิวทุกประเภท
นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ลองใช้โทนเนอร์ของ อภัยภูเบศร หลังจากที่ได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ มาหลายตัว อีกหนึ่งเหตุผลที่ลองซื้อมาใช้ก็เพราะว่าบนขวดเขียนไว้ว่าปราศจากแอลกอฮอล์และเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว (แค่ไม่ผสมแอลกอฮอล์น่าจะกอบกู้วาระสาวผิวแพ้ง่ายได้ละ 555) หลังจากที่ได้ลองใช้ก็พบว่ารูขุมขนดูกระชับขึ้น ผิวนุ่มชุ่มชื่น ใบหน้าดูกระจ่างใสขึ้นเล็กน้อย ที่สำคัญชอบที่เวลาใช้แล้วรู้สึกสดชื่นมากๆ ค่ะ เห็นหลายคนรีวิวไว้ว่าไม่ชอบกลิ่น 555 แต่เราชอบกลิ่นมันมากเลยนะคะ แบบสดชื่นอะ จะสมุนไพรก็ไม่ใช่จะผลไม้ก็ไม่เชิง ก็เช่นเดิมเลยค่ะสาวๆ คนไหนที่มีผิวไวต่อน้ำหอมอาจจะต้องระวังนิดนึง แต่เราใช้ตัวนี้แล้วไม่แพ้เช่นกันค่า ส่วนตรงปากขวด รูอาจจะใหญ่นิดนึง ต้องค่อยๆ เทตอนใช้เดี๋ยวจะหกได้ค่ะ
ให้คะแนน 8.5/10 ไปเลยค่า ^^
Neutrogena Alcohol-Free Toner (ราคาประมาณ 200 บาท)
สรรพคุณ: โทนเนอร์ปรับสภาพผิวสูตรปราศจากแอลกอฮอล์ ช่วยทำความสะอาดและรักษาความชุ่มชื่นให้ผิวอย่างเป็นธรรมชาติเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นต่อไป
อีกหนึ่งโทนเนอร์ที่น่าจะเป็นที่รู้จักของสาวๆ ปกติเราเคยใช้แต่โฟมล้างหน้าของ Neutrogena ตัวนี้ลองซื้อมาใช้แทนโทนเนอร์เก่าที่เพิ่งหมดไปก็พบว่า เอ้ย ตัวนี้ก็เวิร์คแฮะ นอกจากจะหาซื้อง่ายแล้ว ชอบที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์พอใช้แล้วรู้สึก รูขุมขนกระชับ ใบหน้าชุ่มชื่นขึ้นมากๆ รู้สึกสะอาด มีกลิ่นหอมเบาๆ นั่นแหละเช่นเคย สาวๆ คนไหนที่มีผิวไวต่อน้ำหอมอาจจะต้องระวังนิดนึง แต่เราใช้ตัวนี้แล้วไม่แพ้เช่นกันค่ะ 555 เป็นอีกหนึ่งโทนเนอร์ที่ซื้อบ่อยเพราะหมดเร็วเหลือเกิน เห็นมีรีวิวบอกว่าแช่ตู้เย็นก่อนใช้แล้วจะยิ่งสดชื่น เดี๋ยวไว้จะไปลองดูบ้างค่ะ ^^
ให้คะแนน 8.5/10 ไปเลยค่า ^^
ต่อไปเรามาเช็คประสิทธิภาพในการทำความสะอาดของโทนเนอร์แต่ละตัวกันค่าา ♥
เริ่มจากเราจะทารองพื้นที่แขน และเช็ดด้วยคลีนซิ่งออก 1 รอบค่ะ
หลังจากนั้นเราจะเช็ดแขนอีกทีด้วยโทนเนอร์แต่ละตัว ว่าตัวไหนจะมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดได้มากกว่ากัน > <
จากการทดสอบพบว่า โทนเนอร์มะหาด สามารถทำความสะอาดผิวได้ดีที่สุดเลยค่ะ มีสิ่งสกปรกติดออกมาที่สำลีมากที่สุด และหลังใช้ยังทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นไม่รู้สึกแห้งตึงด้วยค่ะ แถมโทนเนอร์ตัวนี้สามารถใช้ทำความสะอาดได้ทั้งตัวเลยค่ะไม่ว่าจะใบหน้า ตามข้อพับข้อศอก หรือส่วนผิวที่หยาบกร้านและหมองคล้ำนะคะ โทนเนอร์มะหาดช่วยทำความสะอาดและปรับผิวกระจ่างใสได้เวิร์คมาก! สาวๆ ควรไปตำเลยค่า ส่วนอันดับ 2 ในการทำความสะอาดขอยกให้น้ำเกลือเลยค่ะ ซึ่งตัวอื่นๆ ก็ไล่ลำดับตามกันมา ^^
-------------------------------------------------------
เป็นอย่างไรบ้างคะกับรีวิวรวมโทนเนอร์ถูกและดีในวันนี้ ^___^ ขอ Pick Up เลือกโทนเนอร์ที่ชอบมา Top 3 อันดับที่เราชอบที่สุดก็จะเป็น น้ำเกลือ Klean&Kare ใช้เมื่อช่วงสิวขึ้นเยอะๆ และต้องการทำความสะอาดใบหน้า/ Mahaad Balancing Toner ใช้เผื่อลดจุดด่างดำ กระชับรูขุมขน ปรับผิวให้ดูกระจ่างใส/ และ Neutrogena Alcohol-Free Toner ใช้เมื่อเพิ่มความชุ่มชื่น กระชับรูขุมขนค่า
ต่อจากการลงโทนเนอร์แล้วเพื่อนๆ ก็อย่าลืมทาสกินแคร์ หรือครีมบำรุงผิวต่างๆ ที่เข้ากับสภาพผิวของเราด้วยนะคะ ที่สำคัญอย่าลืมล้างหน้าให้สะอาด เช็ดเครื่องสำอางให้หมดจด พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะๆ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ด้วยค่า เราจะได้มีสุขภาพที่ดี และผิวสวยอยู่คู่เราไปนานๆ เยย
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันจนจบค่ะ ใครมีไอเทมเด็ดตัวไหนที่ชอบก็มาแบ่งปันคอมเมนท์กันได้เลยนะคะ วันนี้ต้องขอลากันไปก่อน แล้วพบกันใหม่ รีวิวหน้าค่าบ๊ายบาย >___<//