Skincare ประจำโต๊ะเครื่องแป้ง ขึ้นแท่นลูกรักติดกันกว่า 3 สมัย สำหรับสาวผิวแพ้ง่ายและแห้งมาก

สวัสดีค่าาาาสาวๆจีบันวันนี้นาบิขอเปลี่ยนบรรยากาศมารีวิว Skincare ลูกรักกันบ้างเนอะยี่ห้อหลักที่รีวิววันนี้ น่าจะยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่สาวไทยนักเพราะเหมือนเค้าเพิ่งมาเปิดบริษัทที่ไทยเมื่อไม่นานนี้ต้องขอแจ้งก่อนว่าเราไม่ได้มาโฆษณาขายของหรือรับสมัครตัวแทนอะไรนะตัวเองเราแค่ใช้มานาน (เป็นปี)แล้วรู้สึกว่าหน้าเราดีขึ้นเลยอยากจะมาบอกต่อประสบการณ์นั่นเอง

เซ็ทแรกส่งเข้าประกวดจากแบรนด์ ATOMY ค่ะเป็นแบรนด์สัญชาติเกาหลีMADE IN KOREA ทุกตัวค่ะแต่นางแผ่อนาจักรไปไกลมากมายหลายประเทศเลยอย่างนาบิเนี่ย ได้มาจากฝั่งอเมริกา(บินวกวนมาไกลหน่อยค่ะ เกาหลี-อเมริกา-ไทย)

อย่างที่บอกตอนแรก ไม่ได้มาเสนอขายหรือได้ค่าแนะนำอะไรทั้งสิ้นนะคะแม้กระทั่งตัวนาบิเองก็ไม่ได้เป็น MEMBER ด้วยแบรนด์นี้เป็นพวกธุรกิจเครือข่ายค่ะเหมือนที่ดังๆที่บ้านเราหลายๆแบรนด์ที่มีทั้งสกินแคร์ เมคอัพไลน์ อาหารเสริมเอยยาสีฟันเอย น้ำยาต่างๆนาๆเอยนั่นแหละค่ะ แนวเดียวกันเลย

เหตุผลที่นาบิได้มาลองใช้ก็คือออมม่าของสามีนาบิท่านเป็น Member หลักของแบรนด์นี้มานานพอสมควรเลยล่ะค่ะแต่เครือในอเมริกานะคะเพราะไทยมาเปิดได้ไม่นาน

ก็เลยเป็นผลพลอยได้ของเราค่ะออมม่าจะหอบมาให้จากอเมริกาทีละ 4-5 เซ็ททุกครั้งที่ท่านมาเยี่ยมที่ไทยก็เป็นเวลา2ปีกว่าๆแล้วค่ะ ทีาได้ใช้ตัวนี้ไม่เคยรู้ราคามาก่อนเลยค่ะว่าเท่าไหร่ก่อนหน้ามาลงในนี้เลยแอบลองเข้าไปดูในเว็บนางมาราคาเซทนี้อยู่ที่ประมาณ 5พันกว่าบาทได้ 6 ตัวถือว่าคุ้มมากนะคะ

ลืมบอกสภาพผิวของนาบิก่อนเลยค่ะเราเป็นคนผิวแห้งมากมากจริงๆ มากถึงมากที่สุดขาดน้ำสุดๆไปเลยค่ะจำได้ว่าเมื่อก่อนวันไหนลืมหรือขี้เกียจลงสกินแคร์เยอะๆโหหห เป็นขุยทั้งวันเลยจ่ะไม่ว่าจะหน้าร้อน หนาว ฝน หรืออะไรก็ตามขุยตลอดทั้งปีทั้งชาติมีแค่ครีมลูกรัก(ที่สุดในโลก)ที่เอาอยู่เดี๋ยวจะมาเฉลยตอนท้ายเนอะแต่พอมาลองใช้เซ็ทนี้ รู้สึกได้ว่าดีขึ้นมากค่ะหน้าไม่แห้งเป็นขุยอีกต่อไป

ขั้นตอนแรกจะเป็น toner ค่ะตัวโทนเนอร์ของนางจะไม่เหลวเป็นน้ำซะทีเดียวtexture จะมีความเป็น essence หน่อยๆหนืดๆนิดๆให้ความรู้สึกชดชื่นดีค่ะ

ต่อมาเป็น Essence ค่ะแบรนด์นี้ทำออกมาค่อนข้างข้นจริงๆแต่ไม่หนักไม่หนืดหน้าเลยนะคะจะสบายๆ ชุ่มๆ ดีค่ะ

ค่อนข้างปลื้มกับ EYE CREAM นะคะเราเป็นคนผิวแห้ง ขาดน้ำ แพ้ง่ายเลยทำให้ใต้ตาเกิดริ้วรอยง่ายมากๆโปะตัวนี้ไปรัวๆๆๆๆๆช่วยนาบิได้จริงๆค่ะ

ด้วยความที่อันนี้เปิดเซ็ทใหม่พอดีเลยมีโอกาสเปิดพร้อมๆกันสาวๆให้เห็นว่าด้านในเค้าซีลมาอย่างดีมากค่ะไม่หกเลอะเทอะแน่นอนล้านเปอร์เซ็นท์

จบครบกับ 5 กระบวนการสกินแคร์ค่ะคือตอนแรกก่อนลองใช้เมื่อ 2 ปีที่แล้วไม่ได้คาดหวังอะไรกับเจ้านี่เลยนะก็ใช้ๆไปเพราะออมม่าหอบหิ้วข้ามน้ำข้ามทะเลมาให้ก็ใช้ไปแบบไม่ประหยัดค่ะถลุงใช้ๆๆๆๆๆๆ (ของฟรีนี่เนอะ)เรื่อยๆๆๆๆ จนหมดเซ็ทแรกก็เพิ่งมาเริ่มสังเกตุว่า เห้ยแก!!!!มันโอเคนะ มันกู้หนังหน้าแห้งๆ แตกๆ ของเราได้ไม่แพ้ด้วยก็เลยใช้จากนั้นมายาวๆเลยค่ะ

นอกจากไลน์บำรุงผิวนาบิก็ใช้ไลน์ทำความสะอาดของนางเหมือนกันค่ะแต่จะใช้ไม่ทุกวันจะใช้เฉพาะวันแต่งหน้าหนักๆหน่อยเพราะอะไรหรอคะขี้เกียจเลยค่ะ คำเดียวเลย

ก็จะมีพวก faom cleanserDeep cleanserPeeling gel maskPeeling off maskเท่าที่ใช้มา ไม่ทำให้หน้าแห้งตึงนะคะถือว่าผ่านค่าาา

สุดท้ายของแบรนด์นี้ค่ะเป็น BB CREAM SPF 30เอาไว้ใช้ในวันเบาๆค่ะนางมีสีเดียวนะเออ ละเนื้อสีก็จะปรับสีตามสภาพสีผิวเราเองตอนแรกไม่กล้าใช้ค่ะ กลัวลอยเพราะนาบิผิวไม่ขาวแต่ลองแล้วได้อยู่นะ หน้าไม่วอก ไม่ลอย ไม่เทา

จบแล้วค่ะกับแบรนด์แรกต่อกันที่แบรนด์ที่ 2 สุดดัง สุดฮิตในหมู่สาวๆนั่นก็คือ SK-II จ้าาา

เราใช้แค่ 2 ตัวนี้ของ SK-II ค่ะใช้สลับวันเว้นวันกับ Atomy ด้านบนเลยใช้หมดมาแล้วประมาณ 2-3 ชุดรักสุดก็น้อง EXP นี่แหละค่ะวันไหนขี้เกียจหนักๆโบกน้องตัวเดียวอยู่หมัดเลยบอกลาปัญหารุมเร้าทุกชนิด

สำหรับแบรนด์นี้นาบิคงไม่ต้องพูดมากเนาะสาวๆรู้จักกันดีอยู่แล้วค่าาาแต่ถ้าอยากรู้เพิ่มเติม ถามได้นะคะนาบิจะตอบให้ทุกคำถามค่าาา

จบแล้วค่าาาาาวันนี้ต้องขอตัวไปนอนก่อนนะคะทุกคนนนมาพบกันใหม่รีวิวหน้าเนอะ(คาดว่าจะพลีชีพเปิดกรุลิปติก 2016-2017)รอติดตามกันเลยนะสาวๆใครมีคำถามสงสัยเรื่องใดถามกันมาเลยนะจ้ะเรารอตอบอยู่น๊าาาา

ปล. ตัวโตๆรีวิวนี้ไม่ได้มีสปอนเซอร์จากทางแบรนด์แต่อย่างใดดังนั้น... ออกมาจากความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆนะจ๊ะ