[รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม] ของเล่นใหม่บ้านมียอน คู่หูบำรุงผิวสุดชิค น้ำตบ BHA และ วิตามินบีรวม จากแบรนด์ Naturalist
LadyMiyeon106สวัสดีค่ะพี่ๆน้องๆเพื่อนๆบ้านจีบันทุกๆท่านวันนี้มี่มีของเล่นใหม่มาอวดค่ะเป็นน้ำตบ 2 สูตรจากแบรนด์ Naturalist เป็นแบรนด์ไทยที่มีคอนเซปท์ และส่วนผสมหรูหราน่าใช้ไม่แพ้ของนอกเลยทีเดียว
ส่วนตัวมี่เองจะสอดแทรก BHA ไว้ใน Skincare regimen เพื่อดูแลผิวอยู่แล้วค่ะ ตัวนี้เลยถือว่าตอบโจทย์อยู่ค่ะหลังจากทราบว่า BHA นั้นสามารถลดและป้องกันการเกิดสิวได้ ก็เลยใช้มาโดยตลอด และชอบใช้แบบน้ำ เพราะการเช็ดก็จะเป็นการทำความสะอาดผิวไปด้วยในตัวค่ะและตัววิตามินบี 3 กับ บี 5 เองก็มีประโยชน์ต่อผิวในหลายๆด้านด้วย สองตัวนี้เลยถือว่าเป็นคู่หูคู่ขวัญเลยก็ว่าได้วิธีใช้สองตัวนี้แบบง่ายๆและสะดวกๆ คือ หยดลงบนสำลี ฝั่งละพอชุ่ม แล้วเช็ดหน้าเช้า-เย็น หรือ ก่อนนอนอย่างเดียว ก็ได้อยู่
ประมาณฝั่งละ 3 หยด ก็พอแล้วค่ะ
เช็ดแล้วก็จะแห้งสนิทไปค่ะ ส่วนตัวมี่ว่า BHA ของแบรนด์นี้ไม่แสบไม่ร้อนไม่ยุบยิบๆ เหมือนบางยี่ห้อที่ใช้มาก่อน
มาดูส่วนผสมกันบ้างนะคะขอเริ่มที่ตัว BHA ก่อนค่ะ
จุดเด่นของเจ้าโทนเนอร์ตัวนี้คือ นางใช้นวัตกรรมใหม่ของ Salicylic Acid ที่เก็บกักในแคปซูล แคปซูลตัวนี้จะมีขนาดเล็ก ซึมลงไปในผิวได้ง่าย และค่อยๆแตกตัวปลดปล่อย Salicylic acid ออกมา โดยทางแบรนด์บอกว่า Salicylic acid จะค่อยๆ ปลดปล่อยออกจากแคปซูล ทาเพียงครั้งเดียวอยู่ได้ถึง 6 ชั่วโมง เลยทีเดียว
การเก็บในแคปซูลก็มีข้อดีคือ ทำให้ความระคายเคืองของ Salicylic acid ลดลง มีความอ่อนโยนเพิ่มขึ้น แต่ยังคงออกฤทธิ์ได้ดีอยู่ และการมีแคปซูลที่เป็นระบบนำส่งทำให้ตัว Salicylic acid ลงไปลึกสมชื่อ Deep exfoliating toner ของนาง
สำหรับสารบำรุงมี่ทำสีเขียวไว้ให้นะคะ เอ๊ะ มีสีฟ้าโดดเด่นมาตัวนึง คือเจ้า Isopentyldiol ตัวนี้เป็นสารที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอื่นๆเข้าผิวค่ะ (มีชื่อเรียกแบบสวยๆว่า Percutaneous absorption enhancer)มาดูสารบำรุงกันเรียงตัวเลยดีกว่า
- Betaine เป็นอนุพันธ์ของกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง มีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง
- Salicylic acid ก็คือ BHA ที่เป็นพระเอกของเราในวันนี้ค่ะ ช่วยลดการอุดตันในรูขุมขน
- Panthenol คือ โปรวิตามินบี 5 ที่จะถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินบี 5 มีบทบาทในการเพิ่มการชุ่มชื้นและลดการอักเสบของผิว
- สารสกัดจากเปลือก Magnolia ช่วยฆ่าเขื้อจุลินทรีย์ และช่วยลดการอักเสบและระคายเคือง
- สารสกัดจากใบยูคาลิปตัส มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อจุลินทรีย์เช่นกัน
- สารสกัดจาก Sigesbeckia มีรายงานเกี่ยวกับคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ (J Ethnopharmacol. 2011; 11;137(3))
- Allantoin ลดการระคายเคือง
- Raspberry ketone เป็น Whitening ได้โดยไปยับยั้งเอนไซม์ที่สร้างเม็ดสี (Int J Mol Sci. 2011;12(8):4819-35.) ข้อมูลจากทางแบรนด์บอกว่ามีผลต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย นอกจากนี้มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อจึงให้ผลปกป้องผลิตภัณฑ์จากเชื้อ
ส่วนส่วนผสมของ Duo B เป็นดังนี้ค่ะ
วิตามิน B 2 ชนิด คือ Vitamin B3 + B5 รวมกันถึง 15% จึงช่วยบำรุงผิวได้ดีตัวนี้ทางแบรนด์ Claim ว่าเลือกใช้ B3 หรือ Niacinamide เกรด USP ตามเภสัชตำรับอเมริกาเลยทีเดียว ถ้าพูดง่ายๆคือ มีความบริสุทธิ์ระดับยา ที่จะมากกว่าเกรดเครื่องสำอางทั่วไป และมีความปลอดภัย ประสิทธิภาพในการใช้งานมากขึ้นส่วนสีเขียวคือสารบำรุงค่ะ มากันแบบอุ่นหนาฝาคั่งเช่นกัน
- เริ่มต้นกันมาที่ Niacinamide ตัวนี้จัดมาเต็ม 10% เลยทีเดียว มีงานวิจัยรองรับถึงประโยชน์เยอะมากจริงอะไรจริง เรียกได้ว่าเกือบจะครอบจักรวาล
- Whitening: ช่วยยับยั้งการส่งผานของเม็ดสีผิวที่สร้างเสร็จแล้วไม่ให้ส่งผ่านมาด้านบน เลยไม่เห็นเป็นสีผิว ทำให้ผิวขาวกระจ่างใสมากขึ้น
- ลดการเกิดสิว: มีการทดสอบเชิงคลินิกพบว่า Niacinamide ที่ความเข้มข้น 4% มีประสิทธิภาพเทียบเท่า Clindamycin ในการรักษาสิว (Int J Dermatol. 2013;52(8):999-1004.) และยังช่วยลดความมันบนใบหน้า
- ชะลอวัย: ช่วยให้ผิวละเอียด กระชับรูขุมขน และละเอียดมากขึ้น ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
- ผิวแข็งแรง: ช่วยเสริมสร้างไขมัน Ceramide และ Hyaluronic Acid ในผิวหนัง
- Acetyl glucosamine จัดหนักมาที่ 4% ตัวนี้เป็นเสมือนคู่หูคู่ขวัญกับบี 3 เพราะส่งเสริมกันและกันไม่ว่าจะเป็นในด้านริ้วรอย และ Whitening สารตัวนี้ยังเป็นส่วนประกอบในการสังเคราะห์ Hyaluronic Acid ของผิวหนัง และช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นได้
- ต่อมาคือโปรวิตามินบี 5 หรือ Panthenol ที่จัดมา 1% ซึ่งมีบทบาทในการเพิ่มการชุ่มชื้นและลดการอักเสบของผิว
- Telmesteine เป็นสารที่มีคุณสมบัติเด่นอยู่ 2 ด้าน คือ
- ด้านลดริ้วรอย: สารนี้ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ไปย่อยสลายคอลลาเจนในชั้นผิว และเป็น Antioxidant
- ด้านลดการอักเสบ และระคายเคือง
- Raspberry ketone เป็น Whitening ได้โดยไปยับยั้งเอนไซม์ที่สร้างเม็ดสี (Int J Mol Sci. 2011;12(8):4819-35.) ข้อมูลจากทางแบรนด์บอกว่ามีผลต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย นอกจากนี้มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อจึงให้ผลปกป้องผลิตภัณฑ์จากเชื้อ
โดยรวมจึงจะเห็นได้ว่า Duo B เอสเซนส์นี้มีวิตามินที่เข้มข้นมาก (รวมกันถึง 15%) ซึ่งมีประโยชน์มากมายกับผิว ไม่ว่าจะเป็น Whitening ลดการเกิดสิว ชะลอวัยลดริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบระคายเคือง และให้เรารู้สึกสบายผิวพอเอามาใช้กับ BHA เลยเหมือนเป็นคู่หูคู่ขวัญสำหรับผิวเลยค่ะ
ไหนๆก็มาอัพทั้งทีให้คะแนนแบบรวบๆซักหน่อย
- สารบำรุง ทั้งสองตัวถ้าเทียบสัดส่วนระหว่างชนิดของสารบำรุงกับสารส่วนผสมอื่นๆแล้ว เรียกได้ว่ามีสารบำรุงอยู่หลายชนิดค่ะ เมื่อใช้สองตัวพร้อมกันเลยเหมือนเป็นการเสริมประโยชน์ซึ่งกันและกัน และสามารถดูแลผิวได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิว Whitening ชะลอวัย ลดริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบ และช่วยให้ความรู้สึกสบายผิว (Soothing effect) วัตถุดิบสารบำรุงหลายๆตัวค่อนข้างใหม่ และเป็นเอกลักษณ์ ที่เรายังไม่ค่อยพบเจอเท่าไหร่ ก็จะขอให้ไป 5 ฟลาสก์
- ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว เลยไม่มีที่ให้หักคะแนน รับไป 5 ฟลาสก์
- การใช้งาน ส่วนตัวมี่เองใช้ BHA อยู่แล้ว เพื่อดูแลและป้องกันสิวเป็นหลัก สองตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์ปัญหาที่มี่อยากได้ได้พอดี ส่วนตัวมี่ช่วงแรกใช้ตัว BHA เดี่ยวๆ เช้า-เย็น จะรู้สึกผิวแห้งอยู่เล็กน้อย เลยลองลดมาเหลือแค่ก่อนนอน ก่อนจะเสริมตัว Duo B เข้ามา สิ่งที่เห็นได้คือ ผิวแห้งน้อยลง และผิวจะเนียนละเอียดขึ้น ลากรองพื้นได้ง่ายและแต่งหน้าได้เรียบขึ้นไม่เป็นขุย โดยรวมถือว่าชอบอยู่ค่ะ ให้ไป 5 ฟลาสก์
สำหรับวันนี้น่าจะมีแค่นี้ พบกันใหม่โอกาสถัดไปนะคะ สวัสดีค่ะDiscliamer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Naturalist beauty การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ
Discussion (6)