Review: Bioderma Sensibio H2O สุดท้ายก็กลับมาตายรัง
P_Pincharat 12 3เคยใช้เจ้า Sensibio H2O เมื่อปีที่แล้ว แล้วก็หยุดไป เนื่องจาก cleansing water ตัวอื่นออกมาเยอะมาก ทั้งแบรนด์สายสกินแคร์และสายเมคอัพ มี cleansing water แทบจะทุกแบรนด์ เลยหันไปลองตัวอื่นที่ออกใหม่บ้าง
สองสามเดือนก่อนสิวบุกค่อนข้างเยอะ เราเลยเลิกลองอะไรแปลกๆ หาผลิตภัณฑ์อ่อนโยนมาใช้ เลยกลับมาซบอก bioderma อีกครั้ง
สาวๆคงเคยเห็นรีวิวของคนทำศัลยกรรมหลายคนที่บอกว่าอ่อนโยน ใช้แค่ bioderma เช็ดหน้าช่วงที่ล้างหน้าไม่ได้
เราใช้ทุกวันแม้วันที่ไม่แต่งหน้าก็ใช้ เพื่อเช็ดฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่ติดบนหน้าเราออกค่ะ (ตามด้วย cleanser แบบอ่อนโยน)
เพื่อนเราบางคนบอกว่า bioderma เช็ดไม่ค่อยสะอาด แต่เราว่า Bioderma Sensibio H2O ทำความสะอาดได้ดีเลยค่ะ เช็ดเครื่องสำอางได้ทั้งหน้า (ใช้รองพื้น estee ขวดแก้วที่อยู่ทนมากๆก็เช็ดออกได้) เช็ดลบมาสคาราได้โดยที่เราไม่แสบตา ที่พีคกว่านั้นคือ แผลที่ได้จากการกดสิว แดงๆ โปะสำลีชุบด้วย bioderma เข้าไปก็ไม่แสบสักนิด ปลื้มปริ่ม
เราไม่ได้หวังว่า bioderma sensibio H2O จะช่วยลดสิวหรอก แต่เราพยายามหาอะไรที่ไม่ทำร้ายผิวมาใช้
แต่เกินคาดนะ Bioderma นอกจากช่วยทำความสะอาดได้ดี คือยังช่วยลดการเกิดสิวด้วย แบบ...หน้าเราสะอาดแล้วอ่ะ สิวก็ไม่ค่อยมาใช่ป่ะ(แต่เรื่องช่วยรักษาได้ไหม อันนี้ไม่ยู้ววว)
จากรูปคือไม่มีการใช้ยาหรือไปรักษาสิวใดๆ แค่กดเอง มือมั่งที่กดมั่ง เลยทิ้งรอยดำไว้ให้ช้ำใจอย่างที่เห็น
ฟีลลิ่งหลังใช้ bioderma sensibio H2O ทันที ไม่มีความแห้งตึง เหมือนจะมี moisturizer ช่วยบำรุงอยู่ (มั้งนะ ฮ่าๆ)
พอไปล้างน้ำเปล่าต่อ หน้าจะแบบลื่นๆ เนียนๆ ล้างง่ายมาก
จากใจเลย Bioderma เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายอย่างเราจริงๆ ถึงจะแอบวอกแวกไปใช้ตัวอื่น แต่สุดท้ายก็กลับมาตายรัง
หักคะแนนหน่อยนึงนะ ราคาแรงป๊ายยยย แต่ถ้ามีโปรดีๆนะตุนเหอะ คุ้มมม
ยิ่งขวดเล็กนี่แพง แต่ก็ซื้อ เอาไว้พกพา แอบมีขวดใหญ่อยู่ที่บ้านอีกขวด ฮี่