รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม Ageless cream ตัวดังของ Dermartlogy จากเกาหลี พร้อมเจาะลึกแต่ละ ampoule ที่ใช้ร่วมกันเพื่อความฟิน
LadyMiyeon143สวัสดีค่ะวันก่อนมี่มีโอกาสได้เอา Cleansing และ Toner ของแบรนด์ DermArtlogy น้องใหม่จากเกาหลีมารีวิวให้ชมแล้ว วันนี้เลยขอเอาผลิตภัณฑ์ที่เหลืออยู่ คือ ตัว Ageless cream กับ ampoule มาฝากกันให้ได้รับชมต่อนะคะDermArtlogy เป็นแบรนด์เวชสำอางน้องใหม่ในเครือของบริษัท Neopharm ประเทศเกาหลี ที่ผลิตครีมชื่อดังอย่าง Atopalm นั่นเองค่ะโดยตัว Ageless cream นี้ ก็มีการใช้เทคโนโลยี MLE (Multi-lamella emulsion) แบบแบรนด์ Atopalm ชื่อดังค่ะโดยหน้าตาของ Ageless cream จะเป็นแบบนี้ค่ะ
Ageless cream นี้มีอีกชื่อเรียก ว่าเป็น Antioxidant barrier care cream ค่ะ โดยเน้นส่วนผสมที่ฟื้นฟู Barrier ผิวตัวกระปุกเป็นพลาสติกแบบ Airless pump
ตัวครีมมีสีขาว เนื้อจะออกยืดๆนิดๆ ไม่มีกลิ่น
เกลี่ยได้ง่าย ลื่นผิว แห้งไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่มันมากเหมือนครีมเพิ่มความชุ่มชื้นบางตัว
ตัว Ageless cream นี้ ทางแบรนด์ออกแบบมาให้ใช้คู่กับ Ampoule อีก 4 สูตร ตามสภาพผิวแบบ Baumann skin typing system
Baumann skin typing systemการแบ่งสภาพผิวแบบนี้มีแนวคิดมาจาก คุณหมอ Leslie Baumann แพทย์ผิวหนัง และนักวิจัยระดับโลกที่มีผลงานตีพิมพ์ในวารสารทาง Dermatology มากมาย รวมถึงหนังสือตำราอีกหลายเล่มนางคิดว่า สภาพผิวคน แค่ 4 อย่าง คือ Normal, Dry, Oily, Combination เนี่ย ไม่พอหรอก นางเลยจัดสรรการแบ่งสภาพผิวใหม่ โดยแบ่งผิวออกเป็น 16 ชนิด ตามปัจจัย 4 ด้านคือ
- การสร้างน้ำมันของผิว ถ้าผิวสร้างน้ำมันไม่เพียงพอ จะทำให้ผิวแห้ง จะจัดเป็นสภาพผิว D คือ Dry แต่ถ้าผิวไม่แห้ง จะเป็น O คือ Oily
- ความทนทานของผิว คือ ผิวบอบบาง คือ S หรือ Sensitive skin และ ผิวแข็งแรง คือ R หรือ Resistant
- สีผิว สีผิวสม่ำเสมอ คือ N หรือ Non-pigmented ถ้ามีสีผิวไม่สม่ำเสมอ จะเป็น P หรือ Pigmented
- ริ้วรอย ถ้ามีริ้วรอย หรือ มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอย เช่น ทำงานกลางแดด สูบบุหรี่ ชอบอาบแดด จะจัดเป็น W หรือ Wrinkle แต่ถ้าไม่มี หรือ อายุน้อย จะจัดเป็น T คือ Tight
จาก Baumann skin typing system นี้ ทางแบรนด์ ก็เลยมีข้อแนะนำในการเลือก Ampoule เป็น Step
- Step1: D/O – D or O ถ้าผิวแห้งเลือก Ampoule Hydrating ถ้าผิวมันเลือก Ampoule Oil control
- Step2: S/R – ผิวแดง ระคายเคืองง่ายหรือไม่ ถ้าใช่พิจารณาเพิ่ม Ampoule Calming
- Step3: P/N – มีปัญหาผิวจุดด่างดา ผิวหมองคล้าหรือไม่ ถ้าใช่พิจารณาเพิ่ม Whitening Ampoule
- Step4: W/T – มีปัญหาริ้วรอยหรือผิวหย่อยคล้ายหรือไม่ ถ้าใช่พิจารณาเพิ่ม Revitalizing Ampoule
อย่างเคสของมี่ มี่จะเน้นผสมกับ Ampoule สีม่วง หรือ Revitalizing ampoule ค่ะ
อัตราส่วน 1:1 วนให้เข้ากัน จะผสมบนหลังมือ แล้วใช้นิ้วช่วยผสม ก่อนละเลงลงบนหน้า หรือ จะผสมบนฝ่ามือ แล้ววอร์มก่อนเอาไปกดๆลงบนหน้าก็ได้ค่ะ
มี่ลองผสมดูแล้ว ทุกสูตรสามารถผสมเข้ากันได้หมดนะคะ ตามที่ทางแบรนด์ได้ทดสอบมาแล้วว่ามีความคงตัวและเข้ากันได้ค่ะ
มาดูส่วนผสมกันบ้างนะคะเริ่มกันที่พระเอกของเราก่อน คือ Ageless cream ค่ะ
ในส่วนผสมจะมีส่วนของสารไขมันทดแทนผิว ร่วมกับ Pseudoceramides เปปไทด์ 1 ชนิด และ hyaluron ค่ะโดยสีม่วง จะเป็นกลุ่มของไขมันทดแทนผิวนะคะสีเขียว คือ Pseudoceramides ที่เป็นนวัตกรรมสิทธิบัตรของเครือ Neopharm เขา
- Myristoyl/palmitoyl oxostearamide/arachamide MEA ตัวนี้มีชื่อย่อว่า PC-9S เป็นสิทธิบัตรของทาง Neopharm อิงตามสิทธิบัตรอเมริกา US patent US6221371B1 ของปี 2001 Claim ว่าให้ประโยชน์ในการเหนี่ยวนำให้ผิวสร้างไขมันใหม่ออกมาฟื้นฟู Barrier ผิวที่เสียหาย มีรายงานการวิจัยทดสอบประสิทธิภาพของสารนี้ในหนูทดลอง พบว่า ตัวนี้เมื่อใช้ร่วมกับไขมันชนิดที่มีในผิว (Physiological lipids) สามารถกระตุ้นให้ผิวเรามีการสร้างตัวรับที่มีชื่อว่า PPAR-α ออกมา ซึ่งมีประโยชน์ในการลดการอักเสบของผิว และสามารถต้านผลเสียของสเตียรอยด์ที่ไปทำให้ผิวบาง Barrier ผิวเสื่อม น้ำระเหยออกจากผิวได้มาก การใช้ PC-9S จะช่วยเร่งการฟื้นฟู Barrier ผิวได้ดีขึ้น (Arch Dermatol Res. 2015 Nov;307(9):781-92.)
- ส่วนผสม Caprylamide MEA กับ Hexacarboxymethyl dipeptide-12 คู่นี้ทางแบรนด์ Claim ว่าเป็นคู่ที่ช่วยส่งเสริมการเกิดกลไก Autophagy ของผิว ซึ่ง Autophagy เป็นกลไกในการซ่อมแซมตนเองของร่างกาย โดยกำจัดชิ้นส่วนที่มีความเสื่อมออกไป เอาชิ้นส่วนไป recycle เพื่อให้เกิดการฟื้นฟูและสร้างชิ้นส่วนหรือองค์ประกอบใหม่ๆขึ้นมาทดแทนส่วนเก่าที่เสื่อมสภาพไป ช่วยให้ผิวกลับคืนสู่สมดุล ลดความเครียด และลดความเสื่อมสภาพของผิว
ตัวนี้อาศัย Hya เป็นตัวชูโรงหลัก โดยทำหน้าที่ดูดน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวสีเขียวแก่: oil-control
มีส่วนผสมของ Enantia chlorantha bark extract กับ Oleanolic acid สองตัวนี้คือวัตถุดิบ Evermat ของประเทศฝรั่งเศส มีคุณสมบัติควบคุมความมัน กระชับรูขุมขน และให้ผลดีเรื่องสิว โดยไปมีผลยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ 5alpha-reductase ซึ่งเป็นตัวสร้างฮอร์โมนเพศชายชนิด Dihydrotestosterone ที่มีฤทธิ์แรงขึ้น เป็นสาเหตุของสิว ผิวมัน และผมร่วงนอกจากคู่นี้ก็ยังมี Zinc PCA ที่มีผลควบคุมความมัน และมี Hyaluron กับ กรดอะมิโน arginine ที่ช่วยเติมน้ำให้ผิวสีเขียวอ่อน: Calming
ตัวนี้อาศัย Madecassoside ที่เป็นสารพฤกษเคมีที่พบในใบบัวบก เป็นตัวชูโรง สารนี้มีคุณสมบัติลดอักเสบ เป็น Anti-oxidant มีผลชะลอวัย กระตุ้น Fibroblast ให้สังเคราะห์ Collagen ได้ดีขึ้น และส่งเสริมกระบวนการสมานผิว ร่วมกับ Zinc gluconate ที่นอกจากจะเป็นสารฆ่าเชื้อ ลดการเกิดสิวแล้วมีประโยชน์หลายๆอย่างกับผิว เช่น ควบคุมความมัน กระชับรูขุมขน และส่งเสริมการสมานผิวตัวอื่นๆที่เสริมมาจะเป็น hyaluron และกรดอะมิโน Arginine ที่ช่วยเติมน้ำให้ผิวสีม่วง: Revitalizing
เป็นสูตรที่อัดแน่นมาด้วย Peptide และสารที่มีประโยชน์ด้านริ้วรอย เช่น
- sh-oligopeptide-1 เป็น Growth factor ชนิดหนึ่ง ที่มีชื่อว่า EGF มีคุณสมบัติเด่นในการลดริ้วรอย โดยมีรายงานการวิจัยรองรับว่ามีประโยชน์ลดริ้วรอย กระชับรูขุมขนและช่วยปรับ Texture ของผิวให้เรียบเนียนขึ้น (J Drugs Dermatol. 2012;11(5):613-20.)
- Palmitoyl pentapeptide-4 มีชื่อทางการค้าว่า Matrixyl ออกฤทธิ์กระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน อิลาสติน และ Glycosaminoglycan ในผิว ตัวนี้มีงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสารทางวิชาการรองรับถึงประสิทธิภาพ (Int J Cosmet Sci. 2005;27(3):155-60)
- Adenosine ก็เด่นเรื่องริ้วรอยเช่นกัน
- Biotinoyl hexapeptide-2 amide เปปไทด์เชิงซ้อนของเกาหลี มีชื่อทางการค้าว่า Biotide ซึ่งเป็น peptide เชิงซ้อนที่จับกับวิตามิน Biotin ผู้ผลิตวัตถุดิบ Claim ว่าช่วยเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจน ช่วยให้ผิวนุ่มฟูโดยมีผลเพิ่มการสะสมไขมันเฉพาะที่ และลดการอักเสบในผิว
เนื้อสัมผัสของ Ampoule ทั้ง 4 จะมาในรูปแบบของเซรั่มน้ำๆ ความหนืดและเนื้อสัมผัสแตกต่างกันเล็กน้อยค่ะ
ถ้าดูจากความหนืดของเนื้อแล้ว ตัว Oil-control เนื้อจะหนืดสุด รองลงมาจะเป็น Revitalizing และ Hydrating ส่วนสีเขียวอ่อน หรือ Calming จะมีความเหลวสุดค่ะ
มาให้คะแนนกันดีกว่าค่ะ
- สารบำรุง: เป็นการเลือกใช้ Ageless cream เป็นตัวเบสหลัก แล้วให้เสริม Ampoule สูตรตามปัญหาผิวที่ต้องการ ในตัวของ Ageless cream ถือว่าทำมาได้ค่อนข้างดี ใช้สวนผสมที่มีนวัตกรรม และสิทธิบัตร รวมถึงมีงานวิจัยรองรับ เน้นไปที่การฟื้นฟู Barrier ผิวให้แข็งแรง ทีนี้พอ Barrier เราแข็งแรง ปัญหาผิวต่างๆก็จะค่อยๆหายไปเอง และการเลือกใช้คู่กับ ampoule จะตอบปัญหาผิวได้ค่อนข้างหลากหลาย และ การใช้ร่วมกันก็ประหยัดเวลาในการดูแลผิวได้เยอะเลย แต่บางสูตรยังดูเหมือนมีส่วนผสมของสารบำรุงอยู่น้อยไปหน่อย เลยขอให้ไป 4 ฟลาสก์
- ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว ให้ไป 5 ฟลาสก์
- การใช้งาน ส่วนตัวมี่จะชอบผสม Ageless cream คู่กับแอมพูลสีม่วง Revitalizing เพราะส่วนตัวเป็นคนบ้า EGF อยู่แล้ว ตัวนี้หลังจากใช้มาได้ซักพักประมาณ 2 อาทิตย์ ผิวเราจะชุ่มชื้น นุ่มนวล และเรียบเนียนขึ้น โดยรวมมี่ค่อนข้างชอบนะคะ เลยขอให้ไป 5 ฟลาสก์
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทางเพจ Dermskinstore และทางแบรนด์ DermArtlogy ด้วยนะคะ ที่ส่งสินค้าดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกๆท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบค่ะ
Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล ผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้าและไม่ได้รับค่าตอบแทนในการรีวิว โปรดใช้วิจารณญาณ
Discussion (3)