พาส่องชีวิตสุด cool ที่ Vancouver
zommmz 12 6สวัสดีค่าาา วันนี้อยากจะมาเล่าถึงทริปที่ไปมาเมื่อเดือนที่แล้ว คือ ช่วงต้นเดือนกันยาค่ะ คราวนี้บินไปไหลถึงแคนาดา ไปเที่ยวเมืองเล็กๆ ที่ชื่อว่า Vancouver เมืองนี้ จริงๆแทบไม่ค่อยมีคนไปนะ เพราะว่าสถานที่ท่องเที่ยวมันไม่อลังการเท่า เมืองอื่นๆ แต่ว่า ที่อยากจะมาเล่าเพราะเห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของเค้าแล้วแบบ amazing มาก สมกับเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วจริงๆ 555 เกริ่นตั้งนาน มาดูกันดีกว่า ว่าทริปสุด cool ที่ Vancouver ใช้ชีวิตยังไงกันบ้าง
ที่พัก Airbnbเริ่มจากที่พักก่อนเลย คือทริปนี้เราไปนานมากๆๆ 20 วันแน่ะ เลย ต้องมีการประหยัดค่าใช้จ่าย เลยเลือกที่จะมาใช้บริการ Airbnb คือ เป็นบ้านคนในแคนาดาแหละ แต่ว่า เค้าแบ่งห้องบางส่วนให้เช่า ราคาจะถูกกว่าโรงแรมมาก สามารถใช้ถ้วยชามของเค้าได้หมด แค่ว่าต้องล้างห้สะอาดแล้วเก็บเข้าที่ และที่สำคัญ ต้องอ่านกฎกติกาของบ้านเค้าให้ดีดี ก่อนไปพักนะจ๊ะ อย่างบ้านที่เราไปขออาศัยอยู่เนี่ย นางเป็น Vegan จ้า คือ ไม่ทานเนื้อสัตว์ และห้ามเอาอาหารที่มีเนื้อสัตว์เข้าบ้าน !!!!! อันนี้นางซีเรียสสุดๆ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็จะเป็นเรื่องความปลอดภัย กุญแจบ้าน ไรงิ อ้อ แล้วอีกเรื่องนึงคือ บ้านนางไม่มีถังขยะอ่ะ แต่ให้ทิ้งขยะ ในตู้เย็นเน่อ เพราะนางกลัวแมลงจ้า แต่บ้านนางก็ดีตรงที่ อยู่อย่าง minimal มากๆ ข้าวของเครื่องใช้เป็นแนวรักษ์โลกหมดเลย ของนางน้อยมากขนาดว่า ของในกระเป๋าเดินทางเรายังมากกว่าของทั้งบ้านของบ้านนางอีก สุดยอดจริงๆ
Day 1: นั่งเรือ Furry ไป Victoriaที่เที่ยวที่แคนาดา จะเป็นแนวธรรมชาตินะคะ อันนี้มีคนใน pantip แนะนำว่าควรจะนั่งเรือ furry ข้ามฟากไป Victoria เป็นเมืองอีกเมืองนึงที่สวยงาม แต่จริงๆ เราอยากนั่งเรือ furry มากกว่า เพราะไม่เคยนั่งเลย เรือ furry เป็นเรือข้ามฟากที่มีขนาดใหญ่มากๆ เราสามารถขับรถไปจอดในเรือ เอาทั้งคน ทั้งรถข้ามฟากไปได้เลย มาดูบรรยากาศการนั่งเรือ furry กันดีกว่า
Day 2: Whistler ภูเขา 2 ลูกที่อยู่เคียงข้างกัน Black Comb vs. Whistlerวันถัดมาก็เพิ่มดีกรีความซ่าด้วยการนั่งรถไปเมืองที่ชื่อว่า Whistler เป็นเมืองที่มีภูเขาลูกใหญ่ และสูงชันมาก 2 ลูก ลูกแรกชื่อว่า Whistler และ ลูกที่ 2 ชื่อว่า Black Comb เราจะขึ้นไปยอดเขา 2 ลูกนี้กัน ด้วยกำลังขาอันแข็งแกร่งของเรา (ล้อเล่นนะคะ ถ้าเดินขึ้นไป ด้วยความฟิตระดับเรา นี่อาจจะใช้เวลาเป็นเดือน 5555) แต่ทุกคนสามารถขึ้นได้ค่ะ ด้วย กระเช้า กระเช้านี้จะนำท่านขึ้นไปสู่ยอดเขา ทั้งสอง และ ลงมาส่งท่านถึงพื้นดินอย่างปลอดภัย กระเช้าที่นี่แบบสุดติ่งมากค่า มีความยาว นั่งแล้วเสียวสุดๆ เคยนั่งที่ฮ่องกง หนองปิง ก็ว่านานแล้วว นั่งอันนี้คนละเรื่องเลย ยิ่งขึ้น ยิ่งสูง ยิ่งหนาวสุดๆ
Day 3 : Vancouver City Tour : ปั่นจักรยาน Stanley Park วันนี้เกิดอยากมีความชิว ขี้เกียจตื่นเช้า เลยตัดสินใจเอาแค่เที่ยวตะลอนในเมือง Vancouver ละกันค่ะ แล้วก็พยายามเก็บตก สถานที่ที่เค้าแนะนำกัน ตามนี้เลย
Day 4 : Capilano Suspension Bridge วันสุดท้าย
วันสุดท้ายที่เมือง Vancouver ต้องไปโดนที่นี่เลย สะพานที่ยาวที่สุดในแคนาดา มีความหวาดเสียว level 10 เป็นที่ที่ A MUST ต้องไปค่ะ เพราะเป็นสะพานที่ยาวและหวาดเสียว คือเป็นสะพานไม้แขวน เพื่อข้ามลำธาร สะพานนี้มีความยาวมาก เวลาลมพัดแรงๆ มันจะแกว่งๆ หน่อย แต่การสร้างนั้นแข็งแรงมากๆ เจ้าหน้าที่บอกว่า เคยมีต้นไม้ใหญ่หักโค่นลงมาทับสะพาน แต่สะพานก็ยังอยู่ได้ ไม่พังลงมา
บรรยายมายืดยาว หวังว่าเพื่อนๆจะสนุกกับรีวิว อันนี้นะคะ ชาวแคนาดาเป็นคนที่รักโลกจริงๆ ทุกสิ่งทุกอย่างที่สร้างขึ้นมา เค้าจะไม่ให้ทำลายสิ่งแวดล้อมเลย แม้แต่นิด หรือถ้าต้องมีการตัดต้นไม้ ก็จะต้องมีการปลูกเพิ่ม ทำให้เมืองเค้าร่มรื่นน่าอยู่ค่ะ สำหรับวันนี้ไปก่อนน้าา สวัสดีค่า