10 สิ่งต้องเปลี่ยน เคลียร์บ้านให้พร้อมรับเทศกาลสิ้นปี
fernkul 11 3สวัสดีค่าทุกคน เดือนธันวาคมแล้ว เป็นเดือนที่ใครหลายคนรวมถึงเฟินชอบมากๆ เพราะว่าเป็นเดือนแห่งเทศกาลนั่นเอง มีทั้งคริสต์มาสและวันปีใหม่รวมเข้าด้วยกัน ไฟประดับประดาต่างๆทำให้ได้ฟีลลิ่ง Festive สุดๆ วันนี้เราเลยจะชวนสาวๆ มาแต่งบ้านให้เป็นธีมคริสมาสต์+ปีใหม่ไปเลยแล้วกัน! อย่างแรกมาเริ่มจากเคลียร์ของในบ้านให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะวางพร๊อพแต่งบ้านลงไปเพิ่มเติมกันดีกว่าค่ะ
เฟินจะมาแนะนำ “10 สิ่งที่ต้องเปลี่ยน เพื่อต้อนรับการแต่งบ้านในเทศกาลวันสิ้นปี” เคลียร์บ้านให้เรียบร้อยต้อนรับพร๊อพแต่งบ้านที่กำลังจะมาถึง (ขอแอบสปอยล์ว่าจะมีกระทู้แนะนำของแต่งบ้านต้อนรับสิ้นปีตามมาเร็วๆ นี้) 10 อย่างนี้มีอะไรกันบ้าง มาดูกันเลยยย
1. เปลี่ยนความรกบนโต๊ะเครื่องแป้ง ชิ้นไหนหมดอายุทิ้งซะสาวๆ จีบันจำนวนไม่น้อยที่มีเครื่องสำอางเยอะมากกก และบางอันก็ลืมไปแล้วว่าเคยมี จนหมดอายุ! ดังนั้นอยากแรกเราต้องมาเลือกของที่หมดอายุทิ้งไปดีกว่าค่ะ แต่ว่าในเมื่อเราจะเคลียร์ของแล้วก็ไม่ควรที่จะรักพี่เสียดายน้อง ใช้ของหมดอายุนานๆ ไม่ดีต่อสุขภาพนะคะสาวๆ อายุของเครื่องสำอางถ้าเป็นเกี่ยวกับตาและปาก จะอยู่ได้ประมาณ 1 ปี หลังเปิดใช้งาน สำหรับเครื่องสำอางประเภทอื่นจะอยู่ได้ตั้งแต่ 1-2 ปี ถ้ารู้ว่าชิ้นไหนอายุไขเกินแล้วนั้น เราต้องตัดใจซะ! วิธีการจัดโต๊ะเครื่องแป้งเราเคยเขียนไว้ที่นี่เล้ย อ่านเลย
2. เปลี่ยนชั้นวางหนังสือให้เป็นระเบียบ จะได้ไม่ต้องซื้อซ้ำสำหรับสาวๆ ที่รักการอ่านหลายคนน่าจะเป็นเหมือนเรา นั่นก็คือ “ซื้อหนังสือมาดองไว้นั่นเองง” 55555 หลายครั้งที่เราเจอหนังสือที่ชอบ แล้วก็จะซื้อมาเก็บไว้ทันที เพราะไม่รู้ว่าจะได้เจอกับมันอีกรึเปล่า เลยกลายเป็นโรคสะสมหนังสือไปโดยปริยาย แต่เวลาอ่านมีน้อยเหลือเกิน บางทีก็ซื้อซ้ำอีก เพราะงั้นแล้วเพื่อไม่ให้หนังสือต้องถูกลืม เรามาจัดชั้นวางหนังสือใหม่แบ่งโซนง่ายๆ จะได้จำได้ว่าเล่มไหนอ่านแล้วหรือยังไม่อ่านทริคการจัดเรียงหนังสือตามร้านหนังสือ ไม่ได้เรียงตามชื่อหรือว่าเรียงตามสีปกนะ แต่เป็นการเรียงตามประเภทของหนังสือเช่น วรรณกรรม/นวนิยาย หรือว่าแบ่งตามคนเขียนได้ไม่ว่าจะสไตล์/ประเทศของผู้เขียน ซึ่งเราเลือกแบ่งตามประเทศเป็นตะวันตก-ไทย-เอเชีย และหันสันหนังสือออกจะได้เห็นง่ายๆ
3. เปลี่ยนการกักตุนเสื้อผ้า ตัวไหนไม่ใช้แล้ว นำไปบริจาค/ขายต่อดีกว่าเสื้อผ้านี่แหละตัวกินพื้นที่เลย! 5555555 เราเป็นหนึ่งคนที่มีเสื้อผ้าเยอะมาก แต่เวลาจะใส่จริงก็ใส่แค่ไม่กี่ตัว เจ้าตัวที่เหลือที่คิดว่าเดี๋ยวเก็บไว้ใส่ตอนหน้าหนาว เก็บไว้ใส่ตอนหน้าร้อน สุดท้ายก็ไม่ได้ใส่ เก็บไว้ก็เหม็น สู้เอาไปบริจาคหรือว่าขายต่อดีกว่า ช่วยประหยัดพื้นที่ ไม่เก็บฝุ่น และยังเป็นการส่งต่อให้คนอื่นได้ใส่เสื้อผ้าของเราได้ด้วยยุคนี้เราอาจจะไม่ต้องไปตามหาตลาดขายของเลหลังแล้ว เพียงแค่เข้าเว็บง่ายๆ หรือกลุ่มใน facebook ก็มีกลุ่มส่งต่อเสื้อผ้าเพียบเลย เพราะเราขายประจำ ฮี่ฮี่
4. เปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องเขียนสุดเยอะให้มีเท่าที่จำเป็นเครื่องเขียนอาจจะดูเป็นสิ่งเล็กๆ แต่เก็บไว้นานๆ ก็พังหมดเหมือนกันนะ ปากกาเมจิก ปากกาลูกลื่นเอย กาวแห้ง สก๊อตเทป เก็บไว้นานก็ต้องเสื่อมอายุเป็นธรรมดา อันไหนที่ไม่ใช้แล้วหาวันว่างๆ มานั่งเคลียร์ทิ้งดีกว่า จะได้ไม่เผลอหยิบมาใช้ในวันที่ต้องการใช้ด่วน แล้วพบว่ามันใช้ไม่ได้แล้ว แบบนั้นจะเสียใจมากกกเราเป็นบ่อยมากชอบเก็บของนู่นนี่ แต่เคยมีครั้งนึงที่ต้องใช้ปากกา marker เขียนกล่องพัสดุก่อนส่งให้ลูกค้าวันรุ่งขึ้น คิดว่ามีอยู่ที่บ้านหลายแท่งปรากฏกลับมาลองเขียนหมึกแห้งหมดเลย! ฉะนั้นเครื่องเขียนชิ้นไหนใช้ไม่ได้แล้วต้องรีบทิ้ง ไม่งั้นด่วนใช้แล้วใช้ไม่ได้จะเสียใจแรง
5. เปลี่ยนตู้เย็นที่เกือบเน่าให้คลีน พร้อมรับของกินต้อนรับปีใหม่การเก็บของที่ไม่ใช้ไว้ในตู้เย็นก็ถือว่าเป็นการเปลืองพื้นที่มากๆ แทนที่จะได้ใช้พื้นที่ว่างอันจำกัดของตู้เย็นให้เป็นประโยชน์ ถ้าเราต้องแช่ของหมดอายุทิ้งไว้ ถ้าเกิดผู้ใหญ่หรือเด็กในบ้านไม่รู้ หยิบไปกินระวังท้องเสียอาหารเป็นพิษแล้ว ค่ารักษาไม่คุ้มเอาซะเลย หมดอายุจะครบปีละ เก็บไว้ทำไมเนี่ย 5555 ถ้าเกิดเคลียร์ของกินที่หมดอายุแล้วรู้สึกว่ายังไม่สะใจ ไหนๆทำความสะอาดตู้เย็นทั้งทีก็เอาให้สะอาดวิบวับไปเลย! ก็สามารถอ่านวิธีเคลียร์ตู้เย็นแบบเต็มๆ ได้ ที่นี่ เลยจ้า
6. เปลี่ยนการสะสมถุงพลาสติก ให้เหลือใช้แค่ถุงขยะถุงพลาสติกเรามักจะเก็บทิ้งไว้เพราะว่าเผื่อวันหน้าจะเอาไว้ใส่ขยะ หรือคิดว่าเนี่ยสักวันคงต้องได้ใช้ ขอบอกก่อนเลยว่า ถุงพลาสติกสมัยนี้ “ย่อยสลายได้ง่ายมาก” นะจะบอกให้ อย่างเช่นถุงของคิโนะคุนิยะ หรือถุง be trend ที่เดอะมอลล์ เราเก็บไว้ไม่ถึงครึ่งปีก็สลายคามือซะแล้ว แถมทำความสะอาดยากอีกเพราะว่ามันสลายออกมาได้จิ๋วมากเป็นผงเล็กๆ เลยทางแก้ เราสามารถบอกรับร้านค้าได้ว่า “ไม่รับถุงค่ะ” สิ่งไหนพกใส่กระเป๋าได้ก็พกไว้เพราะจะได้ไม่เกะกะ ป้องกันการลืมของไว้ตามที่ต่างๆ ช่วยลดโลกร้อนได้อีกด้วย ถ้ากลัวจะไม่มีถุงสำหรับใส่ขยะ ถุงขยะตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปจะมีขายตรงโซน super market มีให้เลือกแบบสำหรับย่อยสลายได้ง่าย ราคาไม่แพงมาก หากเราเปลี่ยนขยะทุก 1-2 วัน ก็จะไม่สลาย ณ ตอนนั้น ไม่ต้องกลัวขาดเลย :)
7. เปลี่ยนของเล่น ทิ้งของที่พังแล้วลงขยะตัวอย่างเช่นเราที่เลี้ยงหมา หลายครั้งที่มีของเล่นพังๆ หลายอย่างมาก แต่ก็ยังไม่กล้าทิ้ง เพราะว่านึกถึงตอนที่น้องยังเด็ก เล่นกับเจ้าของเล่นชิ้นนี้ ฟัดกันมันส์สุดเหวี่ยง นึกแล้วก็ตัดใจทิ้งไม่ลง แต่หารู้ไม่ว่านี่กลายเป็นแหล่งเพาะแบคทีเรีย เชื้อโรคชั้นเยี่ยม กลิ่นที่เหม็นอับไปจนถึงเกือบเน่าก็ทำให้เราตัดใจที่จะทิ้งได้ แม้ความทรงจำจะสวยงามขนาดไหน แต่ปัจจุบันย่อมสำคัญกว่าเสมอ เราพยายามจะเปลี่ยนตุ๊กตาที่น้องเล่นบ่อยๆ ให้น้องไปโฟกัสที่ของเล่นตัวอื่นๆ จะได้ไม่พังอยู่ตัวเดียว 5555 อันนี้ก็ช่วยเหมือนกัน และก็หมั่นซักตากแดด จะได้ไม่มีส่วนผสมของเชื้อรา
8. เปลี่ยนความสกปรกเป็นสะอาด ด้วยการล้างแอร์และเครื่องซักผ้าอันนี้สาวๆ หลายคนอาจจะไม่รู้ (เพราะเราก็เพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้เอง) ว่าเครื่องซักผ้าของเราก็ควรจะได้รับการดูแลเหมือนกัน ถ้าซื้อมานานๆ ซักไปบ่อยๆ จะเกิดคราบสกปรกอุดตันด้านในเครื่อง และบริเวณขอบยางโดยรอบ หากสะสมไปเรื่อยๆ เจ้าคราบพวกนี้จะหลุดออกมาติดเสื้อผ้าทำให้เสื้อผ้าที่เราซักสกปรกกว่าเดิม วิธีแก้ง่ายๆ ใช้ผงล้างเครื่องซักผ้าหาซื้อได้ตาม supermarket หรือร้านไดโซะ ราคาเพียง 60 บาท มากำจัดคราบสกปรกให้ออกไป ส่วนการล้างแอร์ก็สามารถถอดเครื่องกรองออกมาล้างได้ หรือหากไม่สะดวกทำด้วยตัวเองสาวๆ ก็จ้างช่างได้ ทั้งบริการจาก Homepro หรือว่าตามหาช่างในแอพ seekster ก็ได้เช่นกัน
9. เปลี่ยนกางเกงในเสื้อชั้นใน ให้ใหม่อยู่เสมอเพื่อสุขภาพที่ดีของเรานั้น การเปลี่ยนเสื้อชั้นในและกางเกงในให้ใหม่อยู่เสมอ ถือว่าเป็นเรื่องที่สาวๆ ควรทำ รวมไปถึงหนุ่มๆ ด้วยนะ เพราะว่าเสื้อชั้นในและกางเกงในจะอยู่ติดกับร่างกายเรา ที่มีเหงื่อออกตลอดเวลา มากยิ่งกว่าเสื้อผ้าอื่นๆ ซึ่งจากการวิจัยพบว่า กางเกงใน 1 ตัวจะมีคราบสกปรกเช่นคราบอุจจาระ ติดอยู่ประมาณ 0.1 กรัม ต่อให้ซักและตากแห้งก็ยังมีเชื้อราติดค้างอยู่ T____T ดังนั้นต่อให้ดูแลสะอาดแค่ไหน การเปลี่ยนเป็นของใหม่ก็ย่อมดีกว่าเสมอเราเข้าใจว่าสาวๆ หลายคนอาจจะมีภาวะหวงกางเกงในตัวโปรด อาจจะเป็นตัวที่ใส่แล้วชอบ หรือว่ามีคนพิเศษซื้อให้ แต่ว่าเพื่อความสะอาดแล้วเราก็ไม่ควรใส่เกิน 6 เดือน ถ้าทิ้งไม่ลงจริงๆ ก็ซักให้สะอาดแล้วเก็บไว้ในลิ้นชักเป็นความทรงจำที่ดีได้ เมื่อซื้อใหม่แล้วก็มาดูวิธีการดูแลรักษาได้ ที่นี่ เลยค่ะ
10. เปลี่ยนของเก่าที่ทำให้เรารู้สึกแย่ ทิ้งไปให้ไกลสายตาเลยนะ!เราเชื่อว่าทุกคนย่อมมีอดีตที่ไม่สามารถจะทิ้งไปได้ แต่ว่าของบางอย่างถ้าเก็บไว้แล้วทำให้เรานึกถึงเหตุการณ์เรื่องแย่ๆ ที่เคยผ่านมาก็ไม่ควรจะเก็บมันไว้ บางครั้งเราอารมณ์ดี แต่ว่าเจอของแล้วนึกถึงก็ทำให้อารมณ์เสียซะงั้น ไม่ว่าจะของที่ได้มาจากแฟนเก่า เพื่อนเก่า อดีตเคยรักกันแค่ไหนแต่มีพบก็ต้องมีจาก ถ้าจากกันด้วยไม่ดีก็ทิ้งซะๆๆๆๆๆๆบ๊ายบายความทรงจำไม่ดี ไม่ได้อยากจะนึกถึงแต่พอค้นไปเจอแล้วก็เฮ้อออรู้สึกแย่สุดๆ ทิ้งไปซะดีกว่าเพื่อสุขภาพจิตที่ดีของตัวเราเอง เหลือไว้แต่สิ่งที่ทำให้เรานึกถึงความทรงจำดีๆ ก็พอ
จบกันไปแล้วสำหรับ 10 สิ่งที่ต้องเปลี่ยนเพื่อต้อนรับการแต่งบ้านในเทศกาลสิ้นปี นี่แค่ 10 อย่างเองนะ แต่ว่าบ้านคงโล่งขึ้นเยอะเลยใช่มั้ยล่ะ ~ ใครมีข้ออื่นๆ อยากแชร์ก็แชร์กันได้เลยน้าาาา ฮึบๆๆ ใช้วันหยุดให้เป็นประโยชน์กันจ้าทุกคนน <3