MY FAVORITE OF 2017 :: ชอบที่สุดในปี 2017 ทั้ง skincare และ make up

สวัสดีปีใหม่ เพื่อนๆชาวจีบันทุกคนค่า

ขึ้นปีใหม่ยังงี้ ก็จะเห็นกระทู้ favorite เยอะๆหน่อยอะเนาะ 555

เราเองก็ไม่รอช้า เกาะติดกระแสด้วยการมาบอก favorite ของเราด้วยค่าาา

มีทั้งหมวด skincare แล้วก็ make up เลย

แต่ละชิ้นในกระทู้นี้คือ ชอบมากจริงๆมีอะไรมั่ง มาดูเลยจ้าาา

ท๊าดา มีการถ่ายรูปหมู่ให้ดูก่อน

คือบอกก่อนว่าสภาพแพคเกจจิ้งแต่ละอย่างคือเยินจริง อะไรจริง

ก็ขอโทษทุกคนไว้ก่อนเลยนะคะ ถ้าแพคเกจจะเละๆนิดนึง 5555

มาเริ่มที่หมวด skincare ก่อนเลยละกันนน !

อ้อ บอกสภาพผิวของเราก่อน

เราเป็นคนผิวผสมค่อนไปทางแห้ง

คือช่วงแก้มแห้ง แต่ช่วงหน้าผากกับจมูกจะไม่แห้ง แต่ก็ไม่มัน

เหมือนผิวธรรมดา ไม่งงเนาะ 555

ไม่ค่อยมีสิวเท่าไหร่

skincare ส่วนใหญ่เราเลยจะเน้นที่การเพิ่มความชุ่มชื่นซะส่วนใหญ่เน้อออ

มาเริ่มจากการเช็ดเครื่องสำอางก่อนเลยยยยย

ตัวแรก Garnier Micellar Cleansing Water สีชมพูตัวนี้เลยยย

ชอบมากๆ เช็ดสะอาดมากกก คือเท่าที่เคยใช้เทียบกับยี่ห้ออื่น

คือตัวนี้เช็ดได้สะอาดเร็วกว่า เช็ดแปบๆก็สะอาดละ

ไม่แพ้ ไม่ระคายเคืองเลยยยย

แถมราคาเบาม๊ากกกก ประมาณ 200 - 300 เอง แล้วแต่โปรโมชั่น

ถูกมาก ดีมากกกกก

แต่เอาเครื่องสำอางที่ตาไม่ค่อยออกเท่าไหร่ เข้าตาแล้วแอบแสบนิดหน่อย

แต่ปกติเราใช้ที่เช็ดตาแยกอยู่แล้ว เลยไม่มีปัญหาเท่าไหร่

เช็ดแล้วไม่รู้สึกแห้งมาก เหลือความชุ่มชื่นกำลังดี

เออ คือชอบมากอะ ถูกและดีมากๆจริงๆ แนะนำทุกคน 555

ตัวถัดมาาา ยังคงวอแวอยู่กับการล้างเครื่องสำอาง และ Garnier เช่นเดิม 555

ตัวนี้เป็นตัวใหม่ของเขา

Garnier Micellar Oil-Infused Cleansing Water

ตัวนี้จะมีน้ำ Micellar ใสๆ กับ Oil แยกชั้นกันอยู่

เวลาใช้ต้องเขย่าให้เข้ากันก่อน

กลิ่นหอมม๊ากกกกกกก หอมแบบ หอมมากๆอะ ต้องลองดม เช็ดไปดมไป ฟินสุดๆ

เช็ดได้สะอาดมากกกกก สะอาดกว่าตัวบนอีกเพราะมันมี oil อยู่ด้วยนั่นละ

สามารถเอาเครื่องสำอางบนตาออกได้ด้วย

เข้าตาไม่แสบ แค่ตามัวนิดหน่อย

ทั้งๆที่มี oil ด้วย แต่เช็ดแล้วไม่เหนียว ไม่มันเลย

แต่งงมาก หลังเช็ดเสร็จ รู้สึกผิวชุ่มชื่นน้อยกว่าตัวบน ทั้งๆที่มี oil ผสมอยู่

ตอนแรกนึกว่าจะทำให้ผิวชุ่มชื่นมากกว่านี้

แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะเช็ดเสร็จก็ไปล้างหน้าทาครีมอยู่ดี 55555

ราคาแพงกว่าตัวบนหน่อยนึง ประมาณ 300-400 แล้วแต่โปรเช่นกัน

คือรักพี่เสียดายน้องมาก กับ Garnier เลยให้เป็น Favorite ทั้ง 2 ตัวเลย 55

ตัวสุดท้ายละ กับที่เช็ดเครื่องสำอาง

1028 Visual Therapy Hydrating Eye and Lip Makeup Cleanser

เป็นที่เช็ดตากับปาก จากแบรนด์ 1028

ซึ่งเขาเคลมว่ามันอ่อนโยนมากกกก

เพราะมีค่า pH 7.5 ซึ่งเท่ากับค่า pH ของน้ำตาเลย

ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจริงมั้ย 555

แต่เข้าตาได้ไม่แสบนะ

แต่ก่อน เราใช้ baby oil เช็ดตามาตลอด

ทีนี้เห็นมีหลายคนบอกว่าตัวนี้ดี เลยซื้อมาลอง

สรุปว่า ชอบมากกกกกกกกก

คือมันเช็ดสะอาดม๊ากกกกก โปะไว้แปบนึง แล้วเช็ดออก คือสะอาดเลย เร็วมากกก

ไม่แสบ ไม่มันเยิ้มเหมือนใช้ oil

เช็ดปากก็สะอาด เออ ดีไปหมด

ราคาก็ไม่แพง ประมาณ 200-300 บาทน้า ดีมากๆ

ล้างหน้าเสร็จแล้วก็มาบำรุงผิว

ตัวนี้คือชอบมากกก ใช้หมดไปมากมายหลายขวดมากกกก

Sulwhasoo First Care Activating Serum EX

คือเป็นเซรั่มเนื้อสีน้ำตาลใสๆ

กลิ่นหอมม๊ากกกก หอมแบบสมุนไพรๆ

ใช่้เป็นขั้นตอนแรกของการบำรุงผิว

แบรนด์เคลมมาว่าจะช่วยให้ผิวแข็งแรง ทำให้ skincare ตัวต่อๆไปทำงานได้ดีขึ้น

เออ จริงมั้ยก็ไม่รู้ แต่ใช้แล้วรู้สึกว่า ผิวดีมากกก 555

เหมือนพอใช้แล้วผิวแข็งแรง เรียบเนียน ฟูขึ้น

เหมือนช่วยทำให้ผิวสุขภาพดีอะ บอกไม่ถูก 5555

เนื้อเซรั่มซึมไวมากกก ไม่เหนียวเลยยยยยย

เป็นเซรั่มสามัญประจำบ้าน

ราคาสูงอยู่สักหน่อย แต่ใช้ได้นาน และคุ้มค่ามากๆ

อย่างขวดนี้ 120 ml เราได้มาจากอีฟในราคาประมาณ 3000 กว่าบาท

ตัวนี้สารภาพก่อน ลืมเอามันมาถ่ายรูปหมู่ด้วยยย 5555

เพราะว่าใช้หมดไปแล้ววว แต่ชอบมากๆ เลยยังเก็บขวดไว้ จะถ่ายรีวิว

คือตัว Lancome Advanced Génifique Sensitive นี่เอง

เป็นเซรั่มตัวใหม่จากทาง Lancome

ซึ่งได้มาจาก Jeban นี่เองงง กรี้ดดด ขอบคุณ Jeban อีกครั้งค่า ><

เซรั่มตัวนี้ควรค่าแก่การเป็นของแพงแต่ดีเลอค่าจริงๆค่ะ

ราคาเต็ม 20ml 3500 บาททท

ตอนแรกจะมาเป็นเซรั่มใสๆในขวด แล้วก็จะมีเป็นส่วนผสมสีฟ้าๆในฝา

พอจะใช้ให้บิดผสม แล้วก็เขย่าให้เข้ากัน แล้วรีบใช้ให้หมดใน 2-3 เดือน

แต่จริงๆขวดนึง ใช้ประมาณ 1 เดือนก็หมดแล้วแหละ

เนื้อเป็นน้ำ แต่ไม่เหลวเป็นน้ำเปล่านะ มันจะหนืดๆหน่อย

ลงเป็นตัวแรกจะซึมไวมากกกก

แต่ช่วงที่ใช้แรกๆ เคยเอาไปลงหลัง Sulwhasoo first care จะหนึบๆ ซึมช้าอยู่สักหน่อยนะ

ผลการใช้ ที่ชอบมาก และเห็นชัดมากกกกกก

คือมันชุ่มชื่นมากกก ใช้แล้วผิวนุ่มชุ่มชื่นอิ่มน้ำขั้นสุด

ทาไปตอนกลางคืน ตื่นมาหน้านิ่มมากกก ชอบมาก

ล้างหน้าแล้วได้จับหน้านิ่มๆมันรู้สึกสบายใจดี 5555

กลิ่น เหมือนกุหลาบช้ำๆ แรกๆก็คิดว่ามันไม่หอม แต่ก็ไม่ถึงกับเหม็น

แต่ใช้ๆไปละชอบเฉยยยย 555

ใช้แล้วรู้สึกผิวสุขภาพดีขึ้น แล้วก็แข็งแรงขึ้นมากๆ

แนะนำเลย สำหรับคนที่รู้สึกว่าผิวพังๆ หรือผิวล้าๆ มันจะช่วย boost ผิวได้ดีมากๆ

ตัวถัดมาเป็นน้ำตบ อยู่ในไลน์ Essential Care

ไลน์เดียวกับตัว First Care ข้างบนเลย

Sulwhasoo Essential Balancing Water

เป็นน้ำตบ เนื้อใสๆ แต่ไม่เหลวนาจา

เนื้อจะหนืดๆหน่อย แต่ตบไปแล้วซึมหาย ไม่เหนียวเหนอะหนะนะ

กลิ่นหอมเหมือนตัว First Care เลย

ช่วยให้ความชุ่มชื้นได้ดีมากๆ แต่ถ้าใช้ตอนเช้า แอบทำให้หน้ามันไปหน่อยระหว่างวันเราเลยใช้แต่ตอนกลางคืนมากกว่า

ราคาถูกกว่าตัว First Care หน่อยนึง

ไซส์ 125ml นี่ประมาณ 1500 - 2000 กว่าๆ แหละ

น้ำตบอีกแล้วว เป็นคนบ้าน้ำตบมากกก 555

ตัวนี้เป็น Lancome Énergie De Vie Pearly Lotion

เนื้อจะเป็นน้ำใสๆเหลวๆเลย แต่เทออกมาแล้วดูเหมือนมีวิ้งๆ

มีเหมือนน้ำมันผสมอยู่ในตัวน้ำด้วยอะ บอกไม่ถูก 5555

แบรนด์เคลมมาว่าจะช่วยปลุกให้ผิวตื่น มีชีวิตชีวาอะไรงี้

กลิ่นหอมมากก หอมแบบน้ำหอมนั่นแหละ แต่หอมมาก ชอบ 555

ใช้แล้วไม่ได้แพ้ ไม่ได้ระคายเคืองอะไร

ใช้แล้วผิวตื่นมั้ยก็ไม่รู้ แต่ใช้แล้วผิวชุ่มชื่นดี

แล้วแบบไม่มัน ไม่เหนียว ชอบใช้ทั้งเช้าทั้งกลางคืน

แถมตอนเช้าใช้ก็ไม่ทำให้หน้ามันเลย

เราชอบใช้ตอนเช้า ให้ความชุ่มชื่นได้ดีตลอดวันเลย

ไซส์นี้ 200ml ราคาเต็ม 2000 บาท แต่เราก็เห็นมีโปร มีอะไรอยู่เรื่อยๆน้า

ต่อไป The Body Shop Tea Tree Oil

เราชอบเอามาแต้มสิว คือแบบ เพิ่งรู้ว่ามันใช้แต้มสิวได้ดีมากกกก 555

แต้มแล้วสิวยุบจริง ไวมาก งงเลย 555

แต่ได้แค่พวกสิวบางแบบ ว่าไงดี

ต้องเป็นสิวมีหัวนะ ไม่ใช่สิวอุดตัน ไม่ใช่สิวอักเสบ

สิวที่อักเสบเจ็บๆ แต้มแล้วก็ไม่หายเลย ลองแล้ว 5555

ราคาก็ไม่แพงมาก มีโปรบ่อยขวดนี้แบบ 300-400 เองมั้ง

มีติดบ้านไว้ อุ่นใจดี 5555

แต่ต้องไม่แต้มเยอะ เคยอ่านเจอคนที่แบบ โบกไปเยอะๆ

แล้วเหมือนหน้าจะไหม้ หรืออะไรแบบนั้น

น่ากลัวมาก ต้องใช้แต่น้อยน้า

ทาครีมแล้วก็ต้องทากันแดดด้วยยย

Nivea Sun Protect & White

กันแดดได้ดี และที่สำคัญ

เป็นกันแดดที่ดีงามมากกกกกในวันที่แต่งหน้า 555

ทาแล้วไม่มัน ไม่เยิ้ม ไม่มีสี แต่งหน้าต่อได้เลย

แถมเหมือนช่วยควบคุมความมันระหว่างวัน ใช้ตัวนี้แล้วเหมือนเมคอัพทนขึ้นหน่อยด้วยวันไหนแต่งหน้าจะหยิบตัวนี้ตลอดดดดด

ราคาถูก จัดโปรบ่อย หลอดละ 200-300 แล้วแต่โปร

ถูกและดีที่แท้ทรู

ต่อไปคือ

Innisfree Lip Sleeping Pack with canola honey

ไม่รู้ที่ไทยมีขายหรือเปล่า ได้มาจากร้านหิ้ว

ถูกม๊ากกกก ประมาณ 200-300 บาทนี่แหละ จำไม่ได้แล้ว 555

ซื้อมาเพราะเห็นคนขายบอกว่าดีเหมือนตัว lip sleeping ของ laneige เลยย

อินี่ก็เชื่อคนง่าย กดมาเลยจ้า 5555

เนื้อลิปสีขาวอมเหลือง กลิ่นแบบ เป็นน้ำผึ้งหวานๆเลย

โบกไปก่อนนอน ตื่นมาปากนุ่มม๊ากกกกก

เราเป็นคนปากแห้งมากมากมาก แห้งแบบขั้นสุด ไม่ทาลิปมันแปบเดียว คือปากไปละแต่ใช้อันนี้แล้วแบบ ตื่นมาปากไม่แตกเลย

แถมเหมือนจะทำให้ปากชุ่มชื่นขึ้นหน่อยด้วย แบบแตกยากขึ้นหน่อยนึง

มาส์กหน้าก็ยังคงวนๆเวียนๆอยู่กับน้ำผึ้ง 555

ตัวนี้เป็นมาส์กแบบทาแล้วล้างออก

The Body Shop Ethiopian Honey Deep Nourishing Mask

คือจริงๆ ชอบมาส์กไลน์ Superfood อันนี้ของ The Body Shop มาก มีทุกตัวเลย

ว่าจะทำกระทู้รีวิวมาส์กไลน์นี้อยู่เหมือนกัน คือมันดีทุกตัวววว

แต่ตัวที่ชอบที่สุด ก็คือตัวนี้เลยยยย

แบรนด์เคลมมาว่ามาส์กตัวนี้จะช่วยเติมอาหารให้กับผิวอย่างล้ำลึก

เนื้อมาส์กจะข้นๆยืดๆ สีเหมือนน้ำผึ้ง แต่แอบไม่ชอบกลิ่นมันเท่าไหร่

กลิ่นมันจะหวานๆมึนๆหัวหน่อย เหมือนน้ำผึ้งปลอมมากกก

แต่ใช้แล้วหน้านุ่มชุ่มชื่นมากกกก คือพอล้างแล้วหน้าจะเรียบเนียน แล้วก็นุ่มมากๆจริงๆมาส์กไลน์นี้ เราเริ่มใช้จากตัวนี้นี่แหละ

ชอบมากจนไปตามล่าหาซื้อจนครบทั้งไลน์ 555

แต่ก็ยังชอบตัวนี้ที่สุดอยู่ รู้สึกได้เติมอาหารให้ผิวจริงๆ

ราคากระปุกละประมาณ 800 - 1000 แล้วแต่โปรจ้า

หมดแล้ววว สำหรับ skincare สำหรับหน้า

ต่อไปเป็น body care กับ hair care มั่ง

body care สุดเลิฟของปีนี้ ยกให้

Sanctuary Spa Luxurious Body Butter เลยค่ะ

แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่ขายอยู่ใน Boots

ราคาแอบแรง กระปุกนี้ราคาเต็ม 500 บาท

แต่ Boots จัดโปรโมชั่นบ่อยมากกกกก ซื้อตอน 1 แถม 1 เหลือกระปุกละ 250 เอง

เนื้อ butter จะนุ่มๆหยุ่นๆ ไม่เหนียวข้นมาก แถมกลิ่นหอมมากกกกก

เป็นกลิ่นเอกลักษณ์ของแบรนด์เขาเลย กลิ่นจะหอมๆหรูๆหน่อย

ซื้อมาตอนแรก ส่วนนึงเพราะกลิ่นด้วย 555

แต่ใช้แล้วรู้สึกว่าช่วยให้ผิวนุ่มขึ้นมากกก แถมให้ความชุ่มชื่นได้ดีมากกก

เราอยู่ในห้องแอร์ทั้งวัน ผิวไม่แห้งเลย แถมยังนุ่มอีก

แต่ทาตอนอากาศร้อนนี่ไม่รอดนะ เนื้อหนักเกินไป

แต่ถ้าอากาศเย็นๆนี่ ทาสบาย ซึมเร็ว ไม่เหนียวมาก

คือมันก็รู้สึกว่ามีครีมบนผิวอะ แต่ไม่ได้เหนียวเหนอะหนะน่ารำคาญ

ชอบมากกก ใช้หมดไป 2 กระปุกแล้ว

ช่วงนี้ boots ก็เหมือนจะมีโปร 1 แถม 1 อยู่ เดี๋ยวไปตุนอีก 55

ทรีทเม้นต์ที่ชอบมากๆของปีนี้ ยกให้หลอดนี้เลย

เอาจริงๆ ไม่แน่ใจว่ามันชื่ออะไรกันแน่ มีแต่ภาษาญี่ปุ่น ต้องไปเสิร์ชหา 55555

ตัวนี้คือ Loretta UruUrushitaihi no Treatment

ไปเจอชื่อมาจากในเพจของพี่แป้ง Kirarista

ซึ่งพี่แป้งบอกว่าชื่อเขาแปลว่า"ทรีทเม้นท์สำหรับวันที่อยากได้ผมชุ่มชื้นสุดๆ"

ซึ่งจริงสุดๆ 555

มาส์กไว้ประมาณครึ่ง ชม แล้วล้างออก ผมนุ่มชุ่มชื่นมากมากกกกก

คือชุ่มชื่นยันปลายผมเลยอะ

ปกติเวลามาส์กผม ผมจะนุ่ม แต่ปลายผมจะไม่ค่อยหืออืออะไรกับใครเขาเท่าไหร่

ยังหยาบๆแห้งๆเหมือนเดิม

แต่ตัวนี้ ใช้แล้วนุ่มยันปลายผมจริงๆ แล้วไม่ทำให้ผมมันเยิ้มเลย

แบบ บำรุงแบบไม่ทำให้ผมมันอะ

แถมแพคเกจจิ้งน่ารักมากกก 5555ได้รางวัล Cosme มาด้วยนะเออ

กลิ่นก็หอมมากๆ กลิ่นหอมแบบหอมหรูๆ คุณหนูๆ ดูดี มาส์กแล้วกลิ่นหอมติดผมเลย

แต่อาจจะหาซื้อยากนิดนึง เราซื้อมาจากในร้านทำผม

หลอดนี้ราคาประมาณ 1000 บาท ขนาด 240 ml

เซรั่มใส่ผมที่ชอบมากๆ

AloEx Hair Regrowth Serum

เป็นเซรั่มแบบสเปรย์ วิธีใช้ก็สเปรย์ๆใส่โคนผม

ซึ่งทางแบรนด์เคลมว่าจะช่วยให้ผมร่วงน้อยลง และมีผมงอกใหม่มากขึ้น

เราเป็นคนที่ผมบางมากๆ บางแบบเป็นกรรมพันธุ์เลย ที่บ้านเราก็ผมบาง TT

และจู่ๆก็รู้สึกได้ในปีนี้ว่าต้องหาทางป้องกันแล้วแหละ !!

เลยหันมาใช้พวกผลิตภัณฑ์ลดผมร่วง

ซึ่งพอได้มาใช้เซรั่มตัวนี้ขอบอกว่าในเรื่องของผมขึ้นใหม่นั้น...

ช่างน่าเศร้าดูเหมือนเราจะไม่ได้มีผมขึ้นใหม่เยอะขึ้นเลย TT

แต่ก็ทำใจว่า เราผมบางกรรมพันธุ์อะเนาะ

แต่ แต่ แต่ !!

ผมเราร่วงน้อยลง จากปกติมีผมร่วงเต็มห้องไปหมด

เวลาสระผมที ผมก็ร่วงเป็นกำๆ ก็ร่วงน้อยลงมาก

อยากให้เห็นผมร่วงตอนสระช่วงก่อนใช้ กับหลังใช้มาก

คือเห็นความแตกต่างเลย

ซึ่ง เราก็พอใจแล้วแหละ 55555

เซรั่มเป็นน้ำๆ ฉีดใส่หัวแล้วก็ไม่ได้ทำให้หัวมันอะไร

ราคาแอบแรง 120ml ราคาประมาณ 1000 บาท แต่บางทีก็มีโปรถูกกว่านี้น้า

หมดแล้ว กับการบำรุงผิวววเข้าหมวด make up บ้างแล้ววววเย้ๆ

เริ่มที่งานผิวเลยยย แป้งผสมรองพื้นสุดโปรดดด ได้แก่

Srichand Luminescence Glowing Brilliance Perfecting Powder

คือจริงๆ ชอบตั้งแต่แป้งฝุ่นของศรีจันทร์แล้ว ที่เป็นกระปุกสีม่วงๆ ตัวนั้นก็ดีมากกกกกทีนี้ได้มาลองแป้งผสมรองพื้น ก็ชอบ

คือเนื้อมันเบามากกกก บางมากกกก

ทาแล้วให้ลุคใสๆสุดดดด แต่ไม่ปกปิดอะไรมาก

ทาแล้วให้ลุคแบบ make up no make up สุดๆ

เหมาะกับวันที่แบบ ไม่อยากแต่งไรหนักผิวมาก

แต่เนื้อแป้งค่อนข้างจะเป็นฝุ่นๆหน่อย ปาดไปแล้วก็เป็นผงๆออกมาเยอะ

เหมือนมีความเป็นแป้งเยอะอะ งงมะ

สีก็ดีมาก ออกเหลือง มีความเข้ากับผิวสาวไทย

ปาดแล้วไม่หนัก ไม่โบะ แต่ไม่ปกปิด เบาๆใสๆ 555

ช่วยคุมมันนิดหน่อย

ราคาเต็มตลับละ 590 บาททท

แป้งผสมรองพื้นอีกตัวที่ชอบ

รักพี่เสียดายน้องอีกแล้วเลือกไม่ได้ เลยชอบทั้งสองตัว 555

KMA Luminous Pearl Cake Powder หรือแป้งไข่มุกของ KMA นั่นเอง

จริงๆ เราได้มาฟรี และเคยเขียนกระทู้เกี่ยวกับตัวนี้ไปแล้วด้วย

คือมันดีมากจริงจริงงงงง

สีดีอีกแล้ว เป็นโทนเหลือง ไม่หลอก ไม่ลอย

เนื้อละเอียดแน่นนุ่ม ให้การปกปิดได้ดีประมาณนึง

ทาแล้วเนียนไปกับผิวเลย ไม่หนักหน้า ไม่โบ๊ะ ไม่โบก ไม่หนา ไม่ลอย

ทาแล้วยังดูเป็นผิว ไม่แห้ง ไม่แมทเกิน ดูละมุน ดูผิวดี

ติดทน ไม่ทำให้ผิวมัน แต่ก็ไม่ได้คุมมันดีมากขนาดนั้น

คือมันจะให้การปกปิดดีกว่าตัวข้างบนน้า แต่เนื้อหนากว่านี้ดดดดนึง

แต่ทาบนผิวแล้วไม่ได้ดูหนานะ

เลยมีความรักพี่เสียดายน้อง ไม่รู้จะเลือกตัวไหน

คือมันแล้วแต่ ว่าวันนี้อยากทาแป้งประมาณไหน 5555

ราคา 590 บาท เท่าตัวบนเลย

ที่เขียนคิ้วแบบฝุ่น โอ้โห ถ่ายไป อายไป

สภาพเยินมาก ตัวหนังสือลอกจนมองไม่เห็นชื่อแล้ว 555

Kate Designer Eyebrow

ข้างในจะมี 3 สี เข้ม กลาง อ่อน

ไม่ได้ถ่ายข้างในมาให้ดู ข้างนอกว่าเยินแล้ว จริงๆข้างในเยินกว่า 555

สีอ่อนแตกหายไปแล้ว จะต้องไปซื้อใหม่แล้ว

คือแบบ เป็นที่เขียนคิ้วที่เขียนคิ้วได้ฟุ้งละมุนดีมากกก

เขียนยังไงก็สวย เขียนยังไงก็ดูไม่โป๊ะอะ 555

ติดทนทั้งวันด้วย

มีแปรงมาให้ด้วย ซึ่งแปรงใช้ได้จริง ปกติก็ใช้แปรงนี้เขียนตลอด

ตลับนี้ราคาประมาณ 400 บาท

แต่คุ้มค่าจริง ใช้ได้นานมาก นี่ใช้เป็นชาติแล้ว

ยังไม่หมด แต่มันชิงแตกไปก่อนแล้ววววว 5555

ต่อไปปป

Zoeva Cocoa Blend

คือแบบบบบ แบรนด์นี้ นอกจากแปรงจะดีแล้ว อายแชโดว์ก็ดีงามมากกกก

คือราคาไม่แพงมาก สีแน่น ชัด ติดทน ไม่ร่วง

คือแบบปาดไป สีแน่นแบบไม่ต้องลง primer เลย

แถมราคาไม่แพง แค่แบบพันเดียว ถ้ามีโปรก็ถูกไปอีก

แต่คุณภาพดีมากกกก

แถมพาเลตนี้คือสีสวยมากๆ สีดีงามมากทุกสี

ผสมกันแต่งออกมาได้หลายแนวมากๆ

แอบแปะ swatch ที่เคยถ่ายไว้ให้ดู

เป็นภาพเก่าแล้ว เราเคยเขียนกระทู้ไว้แล้ว 555

สีสวยมากเลย เห็นมั้ยยย

โดยเฉพาะสีชิมเมอร์ แวววาวลื้มมม

แตะนิดเดียว สีก็ติดมาแน่นแล้วอะ คุ้มค่าสุดๆจริงๆ

ตัวนี้เป็นตัวที่แบบ ทุกคนน่าจะรู้จักกันดี 555

Tarte Limited-edition Blush Bazaar Palette

หรือ Tarte 10 หลุม ของปี 2016 นี่เองงง

ไม่รู้ว่ายังหาซื้อได้อยู่หรือเปล่า

ราคาใน Sephora ประมาณ 1600 บาทหารแล้วเหลือสีละ 160 บ๊าทททท

คุ้มขนาดนี้ เลยยกให้เป็น Favorite ไปเลย 5555

แตะนิดเดียวคือสีติดขึ้นมาละ สีแน่นสุด

สีดี สีชัด ติดง่าย ติดทน สีสวยจะเอาอะไรอี๊กกก 5555

แต่ก็แอบมีข้อเสีย คือรู้สึกว่าเบลนยากไปนิด เหมือนเบลนไม่ค่อยไป ต้องปัดดีๆหน่อยแต่ชอบอยู่ดีจ้าาาา 55555

ตัวสุดท้ายแล้วววว

จริงๆตัวนี้เป็นตัวที่ทำให้อยากจะทำกระทู้นี้ขึ้นมาเลย เพราะชอบมันมากกก

Lancome Matte Shaker สี 273

ยังไม่เคยลองใช้สีอื่น แต่ชอบสีนี้มากกกกก

ทาด้านในปากแล้วเกลี่ยๆออกมา คือได้ปากสีสดใสน่ารักเว่ออออ

เป็นลิปที่ดีมากกกกกก

สีสดสวยมากกกก ติดทนมากกกก แถมทาแล้วแนบไปกับปากเลย

คือยังไงอะ เหมือนเป็นสีปากเลยอะกลบสีปากมิดไม่หนา ไม่หนักเลย

ทาแล้วสบายปากมากชื่อ Matte Shaker แต่ไม่ได้แห้งแมท ไม่สบายปากเลยนะ

แพคเกจก็น่ารัก ต้องเขย่าๆก่อน แล้วก็ทา

คือแบบ สีสวย ติดทน เนื้อดี

ดีมาก ดีลื้มมมม ชอบมาก ไม่รู้จะพูดยังไง

แพงนิดนึง ราคาเต็ม 1050 บาท แต่คุ้มค่าสุดดดดด

แนะนำทุกคน ควรลองงง

จบแล้วววว กับกระทู้ของทั้งหมดที่ชอบในปีที่ผ่านมา

ยาวมากๆๆๆๆ พูดเยอะมากกกกกก 5555

ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบ

เขียนไปก็งงตัวเองไป จะชอบอะไรเยอะแยะไปไหน 5555

หวังว่าจะช่วยให้ทุกคนเสียทรัพย์เพิ่มไม่มากก็น้อยนะคะ ฮี่ๆๆๆ

ถ้าเขียนงง พูดงงอะไรยังไงตรงไหนก็ถามได้เลยน้าา

ใครชอบเหมือนกัน หรือมีตัวไหนแนะนำ ก็เม้นบอกด้านล่างได้เล้ยยยย

บ้ายบายยยย :)