HELLO VIETNAM NORTHERN
Aingptrwd 6 2Sapa - Hanoi - Catba Island - Halong Bay
7 ม.ค. - 12 ม.ค. 2018
Backpack เวียดนามเหนือ 6 วัน
ที่มารีวิวครั้งนี้อยากจะบอกว่าเวียดนามเหนือนั้นมีอะไรมากกว่าที่คุณคิด ท่องเที่ยวกับธรรมชาติได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเล หรือเดินชิลชิลในเมือง เมืองเค้าพัฒนาเป็นระบบดีมากไม่ใช่ขี้ขี้นะจ๊ะ
วันที่ 7 ม.ค. 2018
เราเดินทางไปเวียดนามด้วยสายการบิน AirAsia
ด้วยความที่ตัดสินใจปุ้บปั้บเมื่อสิ้นเดือน ธ.ค. เลยได้ตั๋วไป-กลับ 4,155฿ จริงๆตั๋วถูกกว่านี้ก็มีประมาณ 3,000 เอง
ไฟท์ของเราเป็นรอบเช้า 07:00 - 08:45 ถึงสนามบิน
ผ่านตม. รับกระเป๋าเรียบร้อย เราก็ไปแลกเงินดอง ซื้อซิมกัน
เราเลือกใช้ของ VinaPhone 9Gb. 12$ เล่นเน็ตได้อย่างเดียวโทรไม่ได้ จริงๆก็ไม่รู้จะใช้โทรหาใครอ่ะ
ตีเป็นเงินดองก็ 272,391vnd หารกับแฟน2คน เวลาจะเล่นก็แชร์ฮอตสปอตให้กันอะไรประหยัดได้ก็ประหยัดไป5555555
ออกจากประตูสนามบิน หันซ้ายเดินตรงไปขึ้นรถเมล์สาย 86 เข้าเมืองฮานอย จริงๆมีสาย 7,17 ที่สามารถเข้าเมืองได้เหมือนกัน แต่เคยอ่านรีวิวมาว่าสาย 86 นี่ล่ะใช้เวลาแปปเดียวไม่อ้อม อีกอย่างสายนี้จอดใกล้ๆกับบริษัทที่เราจองบัสนอนไปซาปาด้วย ก่อนขึ้นเราก็ไม่ลืมถามเพื่อความชัวร์ เปิดถนนของที่ตั้งบริษัทให้เค้าดูเค้าบอกผ่านแต่ยูต้องเดินไปอีกนิดนะ เราก็โอเค ตั๋วรถ 30,000vnd
เราจองบัสนอนล่วงหน้าไป Sapa
ผ่านเว็บ https://sapaethnic.com (Round Trip)
Hanoi-Sapa รอบ 13:00 Sapa-Hanoi รอบ 22:00
จ่ายค่ามัดจำผ่านบัตรไว้ก่อน บริษัทจะส่งเมลยืนยันบอกว่าต้องขึ้นรถที่ไหนยังไง แล้วที่เหลือค่อยไปจ่ายวันที่เราถึง
ซึ่งเราก็ได้ตั๋วมารวมกับที่จ่ายค่ามัดจำก็ 500,636vnd
ขึ้นบัสรอบ 13:00 เวลายังเหลือแวะกินก๋วยเตี๋ยวร้านข้างๆเลย 35,000vnd รอเวลาขึ้นรถบัส
ใช้เวลา5ชั่วโมงก็ถึงซาปากันแล้ววววววว
อยากจะบอกว่าช่างเป็นวันที่โชคร้ายจริงๆฝกตกตลอดเดินทางไปไหนก็ลำบาก รีบลากกระเป๋าไปรร.กันอย่างทุลักทุเล เสียใจที่ไม่ได้เอาโทรศัพท์ขี้นมาถ่ายเลยตอนนั้นวุ่นวายมากๆ ลืมบอกว่าเราจองโรงแรมไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว 1คืน ชื่อ Hieu Dang Hotel อยู่ใกล้ๆกับทะเลสาป คืนประมาน400กว่าบาท หาร4 ก็ตกไม่กี่บาทเองห้องสภาพดีเวอร์มีห้องน้ำในตัว เอากระเป๋าเก็บจัดการตัวเองเสร็จ พนักงานก็บอกว่าวันนี้มีตลาดนะ เดินไปไม่ไกล ฝนตกขนาดนี้ถามว่าไปไหม สรุปไปจ้าา ยืมร่มรร.เอาได้เลยที่นี่บริการดีมาก มีน้ำชามาเสิร์ฟต้อนรับเบาๆ
ตลาดชื่อ CHO DEM SAPA ถึงฝนจะตกแต่ก็ยังมีอะไรขายอยู่ โชคดีแฮะเดินไม่เก้อ แต่เหมือนจะมีแต่ร้าน BBQ ชวนน้ำลายไหลมาก หน้าร้านจะมีอาหารเสียบๆไม้แต่ไม้ใหญ่อยู่ มีผัก หมู ไก่ เนื้อ เยอะไปหมด ราคาก็ต่างกันไป 10,000-15,000 ต่อไม้ ด้วยความที่หิวจัด ชี้ๆไปเลยจ้าเต็มที่ กินท่ามกลางสายฝนนี่แหละ หนาวก็หนาวหิวก็หิว มื้อนี้หมดไป 360,000vnd หาร4 ก็แค่ 90,000เอง
พอหนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน รีบกลับไปพักผ่อนกันเถอะพรุ่งนี้เราจะตะลุยเที่ยวในซาปากัน
วันที่ 8 ม.ค. 2018
วันนี้เรามีแพลนทัวร์รอบซาปาก็ได้ลิสแต่ละสถานที่ที่อยากไปเอาไว้คร่าวๆประมาณนี้
- ร้านหม้อไฟ Muong Bo Quan
- ร้าน The Hill Station คาเฟ่สวย
- 3143 Fansipan
- ร้าน HAVEN SAPA คาเฟ่วิวสวย
- น้ําตก Silver Waterfalls อยู่ริมถนนเลย
- มืดๆกลับมาเดินย่านรร. เตรียมตัวขึ้นบัสกลับฮานอย
- ขึ้นบัสรอบ 22:00 กลับฮานอย
เช้านี้เก็บของลงมาเลย เช็คเอ้าท์แล้วฝากกระเป๋ากับโรงแรมไว้ก่อนได้ ที่นี่ใจดีมากๆ พอถึงเวลาแพลนของเราเปลี่ยนแปลงไปเยอะมากเพราะด้วยอากาศที่หนาวแล้วมีหมอกฝนก็ตกจึงทำให้เราไปได้ไม่ครบที่เราตั้งใจเอาไว้ พนักงานที่โรงแรมก็เลยแนะนำมาว่าที่แรก ควรไปที่ยอดเขาฟานสิปันก่อน เพราะใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ 3 ชั่วโมง แล้วค่อยไปน้ำตก ต่อด้วยร้านรอบๆเมือง เราก็โอเคจัดไปตามนั้น
หน้าโรงแรมคือหมอกเยอะมากจนแทบจะมองข้างหน้าไม่เห็น คิดในใจโชคร้ายรึป่าววะ ดูอากาศไม่ค่อยจะเป็นใจเท่าไหร่เลยฮืออออๆๆ ให้พนักงานรร.เรียกแท็กซี่มารับเราเพื่อไปยอดเขาฟานสิปันกันบริการดี๊ดี
ระหว่างรอแท็กซี่มาเราก็จัดขนมปังร้านข้างๆคนละ1อัน เป็นขนมปังใส่ไข่เจียว ผัก ราดซอสข้างใน อร่อยดี 15,000vnd
ถึงแล้วฟานสิปันโดนค่าแท็กซี่ไป 100,000vnd วันนี้ฝนตกแถมฟ้าวันนี้ไม่ค่อยจะสดใสด้วย เดินเข้าไปเรื่อยๆไปซื้อตั๋วที่เคาเตอร์ ในราคา 700,000vnd แล้วเข้าไปข้างในกัน ลงบันไดเลื่อนไปสองชั้น ข้างในตกแต่งสวย มีร้านอาหาร ร้านซื้อของฝาก
เค้าว่ากันว่ากระเช้าที่นี่ เป็นเทคโนโลยีล่าสุดแล้วที่มีในโลก ระยะทางของกระเช้าทั้งหมดประมาณ 6,292 m. ไปค่ะ ไปมุดเมฆและหมอกด้วยกัน (แต่เหมือนจะมีแต่หมอกนะ T_T )
ขึ้นมาข้างบนอากาศหนาวมากๆ ลมแรงสุดๆ ฝนตกด้วยดูจากโทรศัพท์แล้วก็ 7องศา จะขึ้นกันต่อมั้ยแต่คือแบบไม่ไหวแล้วอ่ะ ข้างบนก็คงไม่เห็นอะไร ปรึกษาเพื่อน แต่ไหนๆก็เสียค่าบัตรมาตั้งแพงละนะ ขึ้นไปเถอะ
ต้องเดินขึ้นบันไดไปอีกประมาณ 600ขั้น เราส่ายหัวแล้วคือไม่ไหวแน่นอน โชคดีที่มีคนกำลังลงมา ก็เลยถามเค้าว่าข้างบนสวยไหม เค้าบอกประมาณว่าสวยๆให้ขึ้นไป แต่ยูควรนั่งรถไฟจะเร็วกว่าเดินขึ้นบันไดคงไม่ไหวแน่นอน เราเลยซื้อตั๋วขึ้นรถไฟเพื่อต่อขึ้นไปอีก คนละ 150,000vnd คือทั้งขาขึ้นและขาลงเลย
ในที่สุด ก็มาถึงแล้ว จุดที่สูงที่สุดในคาบสมุทรอินโดจีน INDOCHINA ROOFTOP 3,143 m. โอ้ยชั้นพาตัวเองมาอยู่ตรงนี้ได้ไง (ก็นั่งกระเช้ากับรถไฟมาไงฟระ ถามมาได้555555) ตอนนั้นขออินกับบรรยากาศแปป แต่ข้างบนคือมองไม่เห็นอะไรเลยจริงๆ เสียดายมาก อากาศประมาณ 4 องศา ลมแรงมากบวกกับฝนปรอยๆคือหนาวมากอ่ะ มือแข็งและแดงกันเลยทีเดียว และพวกเราก็ใช้เวลาอยู่ข้างบนนี้เกือบชั่วโมง ถ่ายรูปกันรัวๆไม่สะทบสะท้านกับลมหนาวจริงๆ ทำไปได้
หนาวจนขนตาแทบจะเป็นหยดน้ำ
ถึงเวลาก็ลงรถไฟลงกระเช้าออกมาตรงที่เดิม จู่ๆก็มีผู้ชายคนนึงตะโกนมา Hey I’m here I’m here ใครวะตูจำไม่ได้ สรุปก็คือแท็กซี่ที่พาเรามานี่เอง โหยรอทำไมไม่ได้บอกให้รอเลย จะมาชาร์ตราคาไม่ได้นะ แต่ก็นะเค้าอุตส่าห์รอคือเราไปข้างบนกันนานอยู่ เลยถามก่อนว่าเราจะไปร้านหม้อไฟเนี่ย เท่าไหร่เค้าก็บอก 120,000 ไอ้เราก็ทำหน้าครุ่นคิด 100,000 ได้มั้ย(ทำสายตาปริบๆ) สรุปคือนางลดให้แสนก็แสน5555555
แวะมาเติมพลังกันก่อนที่ร้านหม้อไฟ Muong Bo Quan เค้าว่าที่นี่อร่อย แท็กซี่ก็ถามว่าเราจะไปไหนต่อ เลยตอบไปสั้นๆว่า I don’t know แล้วก็ออกจากรถเลย555555 จริงๆคือตอนนี้ร้านอาหารคาเฟ่อยู่ใกล้ๆกันหมด เดินเอาดีกว่า
มาแล้วค่า น้ำซุปพร้อมผักสด มาม่าสองก้อน เครื่องเคียง น้ำจิ้มเหมือนเป็นซีอิ๊วขาวเฉย ๆ (คิดถึงน้ำจิ้มสุกี้บ้านเรา)
มื้อนี้หมดไป 460,000 เพราะเราสั่งข้าวมาด้วย4ถ้วย แต่เค้าใส่ให้เป็นโถใหญ่ อิ่มมาก มองออกไปข้างนอกไม่รู้จะไปไหนต่อเลย ฝนตกตลอด เลยตัดสินใจแวะร้าน Dao Coffee ข้างๆก่อนละกัน
ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆข้างในตกแต่งอบอุ่นมากๆ มีมุมอ่านหนังสือด้วย พวกเราก็สั่งนมร้อน กาแฟ จิบพลางๆไป คือจริงๆไม่อยากออกไปข้างนอกเลยหนาวที่สุดฝนก็ยังตกตามเคย
นั่งไปสักพักหันมองหน้าต่างอีกที ฝนหยุดตกหมอกหายไปหมดแล้ว ภาพที่เห็นคือโหหหห เมืองเค้าสวยมากๆ ตั้งแต่มาเราเห็นแต่หมอกคือแทบจะไม่เห็นตึกเลยเห็นแต่สีขาวๆ รีบคิดเงินออกไปถ่ายรูปกัน นึกว่าจะไม่มีรูปที่ซาปากลับไปซะแล้ว
เดินมาเรื่อยๆก็เจอกับโบสถ์ ตึกที่นี่เค้าสวยดีนะ
ต่อไปเราจะไปร้าน The Hill Station กัน
สั่งเบียร์มา2ขวด นั่งชาร์ตแบตกันไปเลยยาวๆ ฝนเริ่มตกอีกแล้ว ฟ้าก็ปิด เลยตัดสินใจว่า ไม่ต้องขึ้นไปร้าน HAVEN SAPA หรอก จริงๆที่นี่มีจุดชมวิวเยอะแยะเลยเสียดายมากๆๆๆ ไม่ได้ไปอีกหลายที่เลยแอบเซ็งนิดๆ รอเวลากลับโรงแรมเอากระเป๋าที่ฝากไว้กัน ที่ใจดีไปกว่านั้นทางโรงแรมให้เราอาบน้ำฟรีอีกต่างหาก ถ้าใครจะมาเราแนะนำที่นี่เลย บริการดีมากๆเหมือนอยู่บ้านเลย ราคาไม่แพงด้วย
เรามีขึ้นบัสนอนกลับไปฮานอยรอบ 22:00 ก่อนกลับแวะกินก๋วยเตี๋ยวข้างๆโรงแรมนี่ล่ะ แล้วค่อยให้โรงแรมเรียกแท็กซี่ให้ จริงๆก็เดินไปได้เพราะใกล้ตลาดที่กินบาบีคิวเมื่อคืน แต่คือฝนตกตลอดเลยของเปียกหมดแน่ๆ Bye Bye นะซาปา ใครๆที่เคยมาก็ว่าที่นี่ดี ทีแรกที่ตัดสินใจมาเวียดนามเหนือ ก็เพราะตั้งใจมาที่นี่มาก เสียดายจริงๆ
ถึงที่ขึ้นรถให้เพื่อนเอาไปกระเป๋าไปเก็บ ส่วนเราต้องรีบฝ่าฟันกันอยู่ตรงหน้าประตูรถ เพื่อที่จะได้ขึ้นไปเลือกที่นอนก่อน ใช้ความหน้าหนาเข้าไว้ใครพูดอะไรก็ไม่ต้องสนใจ555555555 ใช้เวลา5ชม. ก็ถึงฮานอยแล้ว คืนนี้ก็นอนบนรถบัส ประหยัดค่าโรงแรมได้ไปอีก 1 คืน
วันที่ 9 ม.ค. 2018
เช้าถึงฮานอยตอนตี4 รถบัสจอดตรงร้าน The Top บนถนน Trần Quang Khải ถึงกับงงเพราะรับกระเป๋าเสร็จแล้วนางก็ไปเลยทันที ทิ้งพวกเราเคว้งกันอยู่นาน เราไม่ได้จองโรงแรม เพราะตั้งใจจะซื้อแพ็คเกจไป CATBA - HALONGBAY กันวันนี้เลย แต่บริษัททัวร์ส่วนมากจะเปิดตอน 7โมง ซึ่งตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเราจะไปไหนกันต่อ ร้านข้าวอะไรๆก็ยังไม่เปิด เลยเปิด google หาเซเว่นที่เปิด 24ชม. แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะที่นี่ไม่มีเซเว่นจ้า พึ่งรู้ว่าที่นี่เค้าจะมีแต่ Circle K ก็คล้ายๆกับเซเว่นบ้านเรานี่แหละ เปิด map แล้วเดินตามไปเลย
เดินมาเรื่อยๆเจอร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ร้านนึง เค้ากำลังล้างผักอยู่หน้าร้าน โชคดีที่ร้านกำลังจะเปิดตอนตี 5 พอดี เลยขอคุณป้ารอร้านเปิดแล้วนั่งนี่ดีกว่า เพราะ Circle K คงไม่มีที่นั่งหรอกให้ยืนในนั้นจนกว่า7โมงก็คงเมื่อยตาย5555
พอกินเสร็จแล้วค่อยเดินไป Circle K ซื้อขนมซื้อน้ำหน่อย พวกเราฝากกระเป๋าไว้ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว คุณลุงกับคุณป้าใจดีมากๆ แถมยังบอกให้เราจำชื่อตึกไว้อีกด้วย
พอถึง Circle K แล้วในนี้ก็เหมือนกับร้านสะดวกซื้อทั่วไปแต่เอ๊ะ ทำไมมันมีบันไดให้ขึ้นไปข้างบน ที่นี่เค้ามีบริการไว้สำหรับซื้ออาหารขึ้นไปนั่งกินได้ ปลั๊กพร้อมอะไรพร้อม น่าจะมาตั้งแต่แรกแล้ว ><‘
นั่งไปเรื่อยๆชาร์ตแบตเกือบเต็มกันเลยทีเดียว
ใกล้7โมงเช้าแล้ว วันนี้อย่างที่บอกเราจะหาแพ็คเกจไปเกาะกั๊ตบาร์-ฮาลองเบย์กัน เราเดินหาจนกว่าจะได้ราคาที่ดีที่สุด บางร้านแพงมาก 2วัน1คืน ร้านแรกเจอ 65$ ไปอีกร้านนึง 95$ ทำไมราคาไม่เห็นเหมือนในริวิวมาเลยว่าเค้าได้มาใน 16$ เลยเปิดรีวิวนั้นมาดูว่าเค้าซื้อที่ไหนจะไปซื้อบ้าง แล้วพวกเราก็เลยตัดสินใจแยกย้ายกันเดินหาเพื่อได้ราคาที่ดีที่สุด เพื่อนไปอีกทางนึง ส่วนเราไปตามร้านในรีวิว
เดินไปตามทาง แถวๆนี้ร้านทัวร์เยอะมาก ป้ายหน้าร้านแต่ละร้านก็เขียนราคาประมาณ 75$-95$ พอเราไปถึงที่ร้านในรีวิวก็เดินเข้าไปถามเลยค่ะว่าเท่าไหร่ สรุปก็95$ เราเลยถามว่าทางร้านว่า เราตามรีวิวที่คนอื่นเคยมา เค้าบอกเคยได้ราคามาเพียง 16$ เอง พนักงานยันเสียงแข็งเลยว่า I never heard it before. เล่นทำเราหน้าเสียเราก็คิดในใจหรือรีวิวมันเขียนเลขสลับกันวะ 16$ อาจจะ 61$ รึป่าวววว~
ในความโชคดีเพื่อนคอลมาบอกว่าเจออยู่ร้านนึง 62$ อีกแปปนึงรถก็จะออกแล้ว เราเลยตัดสินใจให้เพื่อนเอาร้านนั้นเลย สักพักเพื่อนคอลมาบอกเราอีกที ว่าแปปๆมันมีอยู่อีกร้านนึง ไม่รู้เพื่อนเราไปพูดว่ายังไงแค่บอกว่าเราเคยเจอมาแค่ 16$ เอง แล้วนางก็บอกว่าให้รอ 5 นาที นางจะให้ราคาที่ถูกที่สุดที่ไม่มีใครเคยได้มาก่อน คิดในใจนางพูดอลังการเว่อวังมาก รอก็รอดูสิ้ว่าจะได้เท่าไหร่
แล้วนางก็เขียนบิลมาให้ คือ
รถบัสจากฮานอย เรือข้ามเกาะกั๊ตบาร์ (ไป-กลับ) และที่พักอีก 1 คืนในราคา 18$ ถามว่าเรานี้4คนอ่ะหรอ ก็ใช่น่ะสิ่ ได้ยินอย่างนั้นเราไม่ถามมากเลยกลัวนางเปลี่ยนใจ เลยบอกนางไปอีกว่าเราจะไปฮาลองเบย์ด้วยนะ นางก็เขียนๆบิลมาสำหรับ 1Day-Halongbay ในราคาอีก 16$ เงยหน้าขึ้นมามองหน้ากันอย่างตกใจ คือถูกแบบไม่น่าเชื่อ ระหว่างจ่ายเงินก็ชวนคุยกับนางไป คือคุยกันถูกคอมากๆอ่ะ คุยไปคุยมาก็เลยแกล้งบอกนางไปว่าเพื่อนเราเนี่ย She is a star of University เลยนะ หน้านางก็แบบโอ้วจริงๆหรอ ถึงว่าทำไมสวยจัง คุยไปคุยมานางก็ถามว่าอยากนอนที่กั๊ตบาร์อีกคืนนึงมั้ย เพื่อทริปของเราจะได้นานๆ แถมไม่ต้องรีบกลับขึ้นเรือตอนกลางคืนด้วย เราก็ได้ๆเท่าไหร่แพงมั้ย เค้าบอกเพิ่มอีกคนละ 4$ เราก็ว่าเออดีๆนะ นางบอกค่ารร.ที่เหลือค่อยไปทีหลังตอนถึง แล้วนางก็จัดการอะไรให้เราหมดเลย หลังจากนี้ก็ไม้ต้องสรรหาอะไรเองแล้วเป็นหน้าที่ของทัวร์พาเราไปกั๊ตบาร์กัน สรุปทริปนี้ก็คือ วันที่ 9-11 CATBA-HALONGBAY 3วัน2คืน ตกคนละ 12$ ตีเป็นเงินไทยก็ 385฿ เท่านั้นใครๆก็ไม่เคยได้ราคานี้ บ้าไปแล้ว ขอแค่อย่าหลอกเราไปขายก็พอละ5555555555
ถ้าใครจะหาแพ็คเกจ Catba Island-Halong Bay
ราคาถูกต้องมาที่นี่เลย KUN TRAVEL AGENCY
แพ็คเกตทัวร์ของเราจะเป็นต่อรถ 3ต่อ คือรถบัสฮานอยไปท่าเรือไฮฟอง 3 ชั่วโมง ต่อเรือไปเกาะ catba อีก15 นาที นั่งบัสจากท่าเรือไปตัวเมือง catba อีก 45นาที เค้าปล่อยทุกคนลงหน้า Fullmoon Hostel ซึ่งเป็นที่พักเราที่ได้มาจากแพคเกตทัวร์
ถึงหน้าโรงแรมตอน 13:30 เชคอินเสร็จ เราโชคดีมากที่คุยถูกคอกับพนักงานที่นี่ แถมยังได้ห้องแบบ Private Room อีก (เหมือนคนที่นี่จะบ้ายอ ยิ่งยอยิ่งตอดๆยิ่งให้) เก็บของอะไรเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็มาเช่ารถมอไซค์ขี่เที่ยวรอบเกาะกัน แล้วฟี่(พนักงานของรร. แต่ฟี่บอกว่ามันเป็นเจ้าของ ไม่รู้เชื่อดีมั้ย เพราะนางกวนมากๆ555) ก็ให้ราคาพิเศษอีก แม่เจ้าโว้ย ก็ถามว่าเราจะไปไหนบ้าง จัดเส้นทางของเราให้เรียบร้อยแบบไม่ต้องขี่รถวนไปวนมา
ที่แรกไป Hospital Cave ค่าเข้า 40,000vnd เป็นที่หลบภัยสมัยที่เวียดนามมีสงครามประมาณนั้น ที่นี่เค้ามีไกด์ด้วย จะเล่าเรื่องราวให้เราฟังเป็นภาษาอังกฤษ ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จแล้ว ใครมาที่นี่อย่าลืมให้ค่าไกด์เค้าด้วยนะ รู้สึกเหมือนโดนหลอกมาทัวร์จีนยังไงไม่รู้ ถ้าใครชอบแนวประวัติศาสตร์ก็มาได้ แต่ถ้าเฉยๆก็อย่ามาเลยเสียดายเงิน
ขี่ต่อไปเรื่อยตาม map ทางมันก็จะ DIRTๆหน่อย แต่ก็สวยใช้ได้เลย มีทั้งโซนขึ้นเขา เข้าป่า และเลียบทะเล ใครที่ชอบปีนเขาต้องมาที่นี่เลย National Park วิวสวยมากๆ
เสียค่าเข้า 40,000vnd และต้องเดินเข้าไปอีก 1 กิโล อย่าคิดว่าน้อยนะ เพราะมันคือการปีนขึ้นเขาเลยแหละ เหนื่อยโฮกค่าาา ทั้งขึ้นบันได ทั้งปีนป่าย 1ชม.เต็มๆ
ทะแด่มมมม~ นี่ยังนะยังไม่ถึงครึ่งทางเลยด้วยมั้ง
ต้องไปต่อค่ะ ไปต่อๆ
ขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงหอคอยสีส้มๆ ร่างกายคือไม่ไหวแล้ว หรือเราควรหยุดชมวิวแค่นี้พอให้จบๆไปขึ้นไปคงไม่ต่างอะไรมาก และสุดท้ายพวกเราก็เลือกที่จะหยุดกัน นี่ก็เริ่มเย็นแล้ว เพราะต้องใช้เวลาลงอีกครึ่งชม.
จริงๆแค่นี้ก็น่าจะสวยแล้ว ไม่ได้ขี้เกียจนะ แต่คือเหนื่อยมากจนขาสั่นไปหมดแล้ววววว
ออกมาจากอุทธยาน ใกล้ถึงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน พวกเราก็เริ่มเพลียๆกันแล้ว อยากได้ที่นั่งชิลนั่งพักแล้วดื่มอะไรเย็นๆ เลยขี่กลับเมือง แล้วเลยต่อไปอีกหน่อย มาจบที่นี่ค่ะ Lepont Bungalow Hostel จุดเด่นของที่นี่คือเป็นโต๊ะบนเนินเขา สามารถมองลงมาเห็นอ่าว ภูเขา และเรือชาวประมง ปิดท้ายวันได้สวยงาม เป็นช่วงเวลาที่แฮปปี้สุดในทริปแล้ว
วันที่ 10 ม.ค. 2018
เช้านี้ที่รร.มีบุฟเฟต์อาหารเช้า ตักได้ไม่อั้น สักพักรถก็มารับไปเดย์ทริปที่ Halong bay กัน เรือเราเป็นเรือ 2 ชั้น ชั้นแรกคล้ายๆห้องโถง มีโต๊ะกินข้าว ชั้นสองเป็นดาดฟ้า เปิดโล่ง ลมโกรก หนาวมาก อุณหภูมิประมาณ 15 องศา
เรือจะพาเราแล่นชมเขา ชมอ่าวต่างๆ ผ่าน Lanha Bay จนไปถึง Halong Bay
จุดแรกที่แวะคือ Kayaking เค้าจะปล่อยให้เราไปพายเรือคายัคกัน 1 ชม. ตอนแรกก็คิดในใจนานไปป่าว
เราชอบที่นี่มากกก น้ำสวยเป็นสีเขียวมรกต บวกกับอากาศที่เย็นสบาย เป็นอะไรที่ดีมากเราว่าเราชอบที่นี่ที่สุดในทริปนี้แล้ว
เราพายเล่นไปรอบๆ มีจุดให้ลอดถ้ำด้วย จอดถ่ายรูปกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ จะใส่เสื้อหนาๆในทะเลก็ยังไงอยู่ ถอดออกไปเล้ย ทำเหมือนกับอากาศร้อนมากสินะ
เสร็จแล้วเราก็มา Lunch On The Boat กันค่ะ หลังจากที่พายเรือเสร็จอาหารก็ถูกจัดไว้บนโต๊ะให้เรียบร้อย บริการดีมากจริงๆ ทั้งทริปนี้เราจ่ายแค่ 300กว่าบาทอ่ะนะ มันไม่น่าเชื่อ ฮ่าๆๆๆ เค้าจะคุ้มหรอวะ แต่อย่าลืมคนอื่นเค้าจ่ายราคาเต็มกัน ราวกับกลุ่มเราเป็นโจรแฝงตัวมาเนียนๆ5555555
ต่อไปเป็นจุดสน็อคเกิ้ล ตรงนี้คือสวยมาก เรือจะจอดให้ตรงนี้ น้ำตื้น สามารถโดดลงไปเล่นน้ำได้เลย
อากาศหนาวขนาดนี้ ถามว่าลงไหม ไม่ลงค่ะ แต่พวกฝรั่งเค้าสุดดีเนอะ กระโดดกันเต็มเลย โดดจากหัวเรือ แล้วว่ายไปขึ้นบันไดที่ท้ายเรือ ไม่รู้จะโดดทำไมแต่อย่างน้อยก็คงได้โดดมั้ง ถือว่าเป็นความคิดที่ดี5555555555
ต่อไปเรือก็พาเรามาถึง Monkey Island ทำไมถึงต้องชื่อนี้ เพราะที่นี่มีลิงด้วย เห็นอยู่ประมาณ 3ตัว
เดินไปทางขวาจะเห็นโขดหินที่มีตัวหนังสือใหญ่ พอเดินเข้าไป อ๋ออที่นี่มีเขาให้ปีนด้วย ทัวร์แนะนำให้ปีนพวกเราก็ปีนค่ะ มีกิจกรรมให้ทำเยอะจริงๆ
แรกๆก็ปีนไปตามๆเค้านั่นแหละ ไม่ได้อะไรมากหรอก หลังๆพ้นช่วงที่เป็นหิน เริ่มมีหน้าผา มองเห็นวิวทะเล หื้มมสวยดีนะ ใจชักอยากจะปีนให้ถึงจุดสูงสุดซะแล้ว~
ยิ่งปีน หินก็แหลมๆขึ้น พอมาปีนที่นี่ National Park นั่นเด็กๆไปเลย หลายคนหยุดเพราะเลเวลความยากขึ้นมาเรื่อยๆ ด้วยความที่ทาง ขึ้น-ลงใช้ทางเดียวกัน ต้องหยุดให้ข้างบนลงมาก่อนและต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก ถ้าจะตายก็จะตายเพราะโดนหินทิ่มนี่แหละ ไม่ใช่ตกเขา
ขาลงก็แวะตรงลานหินที่เดิม แวะถ่ายรูปกันตรงนี้ซะหน่อย
บังเอิญมีลิงมาแจมถ่ายรูปด้วย ให้ความ Monkey Island ไปอี้กกกก
ลงมาเดินเล่นชิลๆริมทะเล สักพักทัวร์ก็เรียกให้เราขึ้นเรือกลับกันแล้ว
ขากลับก็ผ่านตามเขา อ่าวต่างๆ และหมู่บ้านชาวประมงที่ลอยลำอยู่กลางน้ำ เค้าอยู่กันบนนั้น มีเด็กๆและน้องหมาวิ่งไปมา ที่นี่มันดีเนอะเราสี่คนยังคงพูดถึงกับความตะลึงที่เราได้มาราคานี้ได้ไง บ้าจริงๆ
เย็นแล้วหมดเวลาทัวร์ฮาลองเบย์ เรือมาส่งพวกเราที่ท่าเรือที่เดิม ขึ้นรถบัสพากลับโรงแรมกัน (Fullmoon Party Hotel)โชคดีที่เราได้ห้องพักในราคาพิเศษมาอีก1คืน อย่างที่บอกไม่ต้องนั่งเรือตอนกลางคืน เพราะถ้างั้นเราจะถึงฮานอยตอนดึก เดี๋ยวเคว้งกันอีก
ขึ้นไปเก็บของแล้วลงมาหาอะไรกิน วันนี้ยังไม่ได้ใช้เงินสักบาทเลย (จะใช้ได้ไงที่นี่เค้าใช้เงินดองกัน) ตะลึ่งตึ่งโป๊ะ เล่นมุกไปอีก555555 วันนี้เสียแค่ค่าข้าวเมื้อเย็นจริงๆ
วันที่ 11 ม.ค. 2018
จริงๆวันนี้ไม่ค่อยมีอะไรมาก เป็นวันเดินทางกลับสู่ฮานอย
กินบุฟเฟต์อาหารเช้า เชคเอ้าท์ 12:00 ขึ้นรถบัส ขึ้นเรือ และนั่งรถบัสเข้าเมืองฮานอย ใช้เวลาแทบจะทั้งวัน
เพิ่งจะมารู้ทีหลังว่าท่าเรือที่เราขึ้นเป็นคล้ายๆเรือขนส่ง อะไรประมาณนั้น เป็นท่าเรือชาวบ้านไว้ขนสินค้า เลยได้ได้ราคาถูก (จริงๆเราก็ไม่ซีเรียสอะไรเท่าไหร่ สุดท้ายจุดหมายก็เหมือนกัน)
บัสนี่เค้ามีบริการส่งถึงโรงแรมที่ฮานอยเลยนะ ไกด์ในรถถามว่าคุณจะลงที่ไหน คิดในใจ I don’t know เว้ยยย ตูไม่ได้จองอะไรไว้ทั้งนั้น เลยให้เพื่อนถามว่าโรงแรมที่ไหนดีบ้าง นางก็แนะนำมาให้ แล้วให้บัสจอดส่งที่นั่นเลย
16:00 ถึงหน้าโรงแรม Hanoi Brother Inn ถึงกับตกใจเพราะมันเป็นที่เดียว ที่เรามาถามราคาทัวร์ไปกั๊ตบาร์ตอนแรก ที่ทำเราหน้าแหกไว้ตอนนั้น มาทำเสียงแข็งใส่เรา ไม่รู้อะไรซะละ ราคาที่ว่าตูไปมาแล้ววว อิอิ
โรงแรมที่ฮานอยส่วนมากจะราคา 1000+ ถามว่าถูกกว่านี้ไหมก็จะเป็นพวก Hostel ที่นอนรวม ห้องน้ำรวม ถ้าใครไม่คิดมากก็สามารถประหยัดเงินได้อีกหลายบาทเลย
เก็บของอะไรเสร็จแล้ว อยู่ๆความคิดที่อยากกินจะบุฟเฟต์ของทะเลขึ้นมาแล้วสิ่ คืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ซุปหรือก๋วยเตี๋ยวอะ เลยสองหาใน Google ว่าร้านไหนเด็ดบ้าง
เดินตาม map ไปเรื่อยๆ เมืองเค้าคึกครื้นมาก เดินไปทางไหนจะได้ยินเสียงแตรตลอด
จุดหมายของเราคือ ร้าน Sen 60 Lý Thái Tổ มีอาหารทะเล อาหารญี่ปุ่น ซาซิมิ สเต็ก เยอะมากเรียกได้ว่าครบจบในราคา 350,000vnd
มาถึงหน้าร้านคนรอคิวเต็มเลย พนักงานบอกว่าวันนี้คิวเต็มแล้ว WTF เดินมาตั้งไกลพอจะมีสักทางที่จะได้กินมั้ย ใช้ความน่าสงสารออดอ้อนเข้าไป บอกว่าไม่รู้จริงๆ พรุ่งนี้ก็จะต้องกลับแล้ว สักพักหัวหน้าแผนกก็เข้ามา เหมือนจะได้ยินที่เราพูดกัน ก็รีบเรียกให้เราขึ้นไปชั้น3 ลัดคิวคนอื่นไปอย่างง่ายๆ
ร้านนี้เป็นร้านอาหารบุฟเฟต์ที่ใหญ่ที่สุดในฮานอย มีหลายชั้น และคนก็เยอะมาก แถมไม่จำกัดเวลาด้วย
กินอิ่มแล้วเราก็จะไปเมาต่อกันที่ถนน Tạ Hiện ที่นี่เป็น Pub Street เหมือนถนนข้าวสารบ้านเรา
ร้านที่เรานั่งชื่อ Tet Bar เกือบๆสุดซอยเพราะเท่าที่ดูร้านนี้เปิดเพลงดีที่สุดแล้ว มีบาระกุด้วย เด็ดสุดก็ลูกโป่งนี่ล่ะ ใหญ่กว่า แรงกว่าที่ข้าวสารหลายเท่า5555555
ขากลับเดินผ่านคุณป้าขายผลไม้ มีสตอเบอรี่เหลือๆแต่ก็แยะอยู่ ซึ่งคุณป้าน่าจะขายไม่ออกเพราะเริ่มดึกแล้ว เพื่อนถามว่าเท่าไหร่ทีแรก 50,000ดอง ต่อไปต่อมาเราก็หยิบโทรศัพท์จิ้มๆเลยว่า 20,000 ได้ไหม ถ้าไม่ได้ก็ไม่เอา นางก็กวาดๆมาหมดกระจาดเลย พร้อมกับทำสายตาอาฆาต55555555 ถ้าไม่งั้นจะไม่มีใครซื้อคุณป้าแล้วน่ะ
วันนี้เป็นอีก 1วัน ที่สนุกมากๆเลยจริงๆ กลับไปพักผ่อนกันดีกว่า
วันที่ 12 ม.ค. 2018
วันนี้เรามีเวลาเดินเก็บเมืองฮานอยได้ทั้งวัน เพราะเรามีไฟท์รอบ 20:50 กินอาหารเช้าของทางโรงแรมเสร็จแล้ว เชคเอ้าท์ แล้วฝากกระเป๋าไว้ได้อีก บริการดีจริงๆ ลืมไปเลยว่าตอนขากลับจากกั๊ตบาร์ ไกด์บอกว่าถ้านอนโรงแรมนี้ให้พูดว่ามาจาก Fullmoon Party ยูจะได้ส่วนลดอีก แต่ไม่ทันแล้วเราลืมบอกไปตั้งแต่วันที่เชคอิน เดี๋ยวจะน่าเกลียดเอา
เดินรอบเมืองฮานอยไปเรื่อยๆ เจอร้านขนายขนมทอด อันละ 10,000vnd มีหมู วุ้นเส้น ผักอยู่ข้างในอารมณ์เหมือนกินปอเปี๊ยะทอด
เราจะมุ่งหน้าไปโบสถ์ St. Joseph ที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญในฮานอยเมื่อใครมาถึงก็ต้องมาที่นี่
เดินตรงไปเรื่อยๆ แวะซื้อชานมไข่มุกที่ร้าน Shere Tea
ไปเรื่อยผ่านร้านกาแฟ CONG CAPHE ข้างนอกตกแต่ง เป็นสีเขียวเข้ม โดดเด่นกว่าร้านอื่นๆดูดีมีสไตล์
วันนี้กะว่าจะเดินชิลๆไปเรื่อยๆ อะไรสวยก็หยุดถ่ายรูป ผ่านทะเลสาปฮหว่านเกี๊ยม อากาศดีมาก
จุดหมายของเราคือไปร้านกาแฟชื่อว่า Cosa Nostra ที่นี่จะดาดฟ้าให้นั่งมองลงไปเห็นรถวิ่งผ่านไปมา เห็นผู้คน เป็นอะไรที่ดีนะ
อาหารอร่อย แต่ราคาค่อนข้างแพงเอาเรื่องเลย
ก่อนกลับไปเอากระเป๋าที่โรงแรมก็ได้ LINE ถามคนที่ให้ทัวร์กั๊ตบาร์ราคาพิเศษเรา ลืมบอกว่าเราแลก LINE กันเผื่อมีปัญหาตอนที่อยู่กั๊ตบาร์ คุยกันตลอดกับเพื่อนเรา แถมนางยังชมไม่หยุดว่าเพื่อนเราสวยจริงๆ ฮ่าๆๆ นางบอกว่าร้านนี้เค้าอร่อยมาก ราคาไม่แพง
ร้านนี้เลย COM PHO CO แถวย่าน old quarter
สั่งข้าวคนละจาน ให้ข้าวเยอะมากๆๆ ส่วนกับข้าวก็แชร์ๆกัน ต้มยำที่นี่ไม่ค่อยจัดจ้านเท่าบ้านเรา เหมือนเค้าใช้ความเปรี้ยวจากมะเขือเทศ สัปรด เอาอะไรประมาณนี้
เสร็จแล้วเราก็กลับมาโรงแรมเพื่อเอากระเป๋าไปสนามบินกัน ทีแรกว่าจะนั่งรถบัสสาย 36 กลับ พอเปิดแมพแล้วต้องเดินย้อนไปไกลมากๆ เลยลองถามพนักงานว่าแท็กซี่เหมาไปสนามบินเท่าไหร่ บอก300,000 ก็โอเคนะ ตกคนละไม่เท่าไหร่
สักพักแท็กซี่ก็มารับ ถึงเวลากลับกันแล้วว สายตาเหลือบไปเห็นป้ายสติกเกอร์หน้ารถเล็กๆ เขียนว่า Noi Bai Airport แค่ 260,000 พวกเราเลยถามคนขับ นางก็ให้ราคานั้น ไม่ยอมให้หลอกฟันหรอกเว้ย =//=
ขับไปเรื่อยๆเหมือนจะเสียค่าทางด่วนด้วย แต่พอถึงสนามบินเราถามคนขับว่า 260,000 ใช่ไหม เหมือนนางจะพยายามสื่อสารว่ามีค่าทางด่วนอีก 50,000 แต่นางพูดอังกฤษไม่เป็น เราเลยให้ไป 300,000 ถ้วนเลยไม่ต้องทอน หน้านางนิ่งมากไม่ดีใจเลย สงสัยยังขาดทุนอยู่หมื่นนึง5555555
ถึงแล้วเราก็ไปเค้าท์เตอร์เช็คอินกัน ผ่านตม. เรียบร้อยเตรียมตัวกลับบ้านเรากันเถอะ
ล้วงกระเป๋าเงินยังเหลืออยู่ 700,000กว่าๆ ใช้ยังไงก็ไม่หมดงั้นแลกคืนกลับเป็นไทยแล้วกัน ถึงจะไม่ค่อยคุ้มก็เถอะยังได้กลับมา 900กว่าบาท
บ้ายบายนะเวียดนามเหนือ มาที่นี่สนุกมาก ไม่เบื่อเลย
ผ่านฝน ผ่านหนาว มี Activity ให้ทำเยอะแยะคุ้มสุดๆ ไม่เสียดายเลย ธรรมชาติก็มีครบทุกรูปแบบ นี่ก็ถือเป็นเรื่องราวดีๆมาแชร์ให้ฟังกันจ้า เป็นยังไงบ้างหวังว่าจะชอบกันนะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ
Day 1 ( Hanoi-Sapa )
ค่าซิมVivaPhone(หาร2แล้ว) 136,195
นั่งรถบัสสาย86 30,000
ค่าก๋วยเตี๋ยว 35,000
ค่ารถบัสนอน Hanoi-Sapa-Hanoi (Round Trip)
500,637
ค่าโรงแรมที่ซาปา(หาร4แล้ว) 77,500
ค่าบาบีคิว(หาร4แล้ว) 90,000
รวม 869,332vnd = 1230฿
days 2 ( Sapa )
ค่าขนมปัง 15,000
ค่า taxi (หาร4แล้ว) 25,000 ไปฟานสิปัน
ค่า cable car fansipan 850,000
ค่า taxi ไปร้านหม้อไฟ (หาร4แล้ว) 25,000
ค่าหม้อไฟ (หาร4แล้ว) 115,000
ค่า hanoi beer (หาร4แล้ว) 17,500
ค่า taxi กลับรร. (หาร4แล้ว) 5,000
ค่าก๋วยเตี๋ยว 30,000
ค่า taxi มาขึ้นรถบัส (หาร4แล้ว) 7,500
รวม 1,090,000 = 1,545฿
days 3 ( Cat ba island )
ค่าก๋วยเตี๋ยว 30,000
ค่าแพ็คเกจไปเกาะกั๊ตบาร์-ฮาลองเบย์ 12$ = 272,498
ค่าขนมปังไส้กรอก2อัน 40,000
ค่าเช่ามอไซค์ (หาร2แล้ว) 50,000
ค่าเข้า hospital cave 40,000
ค่ามาม่าคัพ 20,000
ค่าเข้า national park 40,000
ค่านมร้อนที่ lepont 25,000
ค่าขนมจุกจิก 40,000
ค่า hotpot (หาร4แล้ว) 107,500
รวม 664,998 = 944฿
days 4 ( Halong bay )
ค่าโค้กกระป๋องมื้อกลางวันบนเรือ 20,000
ค่าก๋วยเตี๋ยวมื้อเย็น 30,000
ค่าข้าวโพดต้ม 15,000
รวม 65,000 = 92฿
Days 5 ( Hanoi )
ค่ามาม่าคัพตอนขึ้นเรือกลับ 20,000
ค่าขนมปังไส้กรอก 20,000
ค่ารร. Hanoi Brother Inn (หาร4แล้ว) 207,000
ค่าบุฟเฟต์ที่Sen60 375,000
ค่าร้านเหล้า (หาร4แล้ว) 137,500
รวม 759,500vnd = 1076฿
Days 6 ( Hanoi )
ค่ากระหรี่ปั๊บ 10,000
ค่าขนมที่ร้าน Cosa (หาร4แล้ว) 37,500
ค่าข้าวที่ร้าน Com Pho Co (หาร2แล้ว) 87,500
ค่าแท็กซี่มาสนามบิน (หาร4แล้ว) 75,000
รวม 210,000vnd = 295฿
ตั๋วเครื่องบิน 4,155฿
BG 5,182฿ ( ถือว่าถูกมากๆสำหรับ 6 วัน ทั้งค่ากิน ค่าเดินทาง ค่าโรงแรม ค่าซื้อแพ็คเกจ เหมานู่นเหมานี่อีก )
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 9,337฿
ยังไงก็หวังว่ากระทู้อันนี้จะเป็นแนวทางสำหรับคนที่อยากลองไปเวียดนามเหนือบ้างน้า ^^’