[Hanoi-Sapa] สาระที่หาไม่เจอ มีแต่ความเบลอกับ no plan

สวัสดีคร้าาาาา สาวๆทุกคน 

เราชื่อ แอ้ น้าาาา นี่เป็นกระทู้แรกเลย วันนี้เราจะมาชวนสาวๆ นอกเรื่องจากความสวยงาม แล้วไปเที่ยวกันจ้าาาาาา

ทริปวันนี้จะเป็นทริปฮานอย - ซาปา ( 6 วัน 5 คืน ) ที่หาสาระไม่เจอ Plan มี แต่ถึงเวลา No Plan ล้วนมันก็เลยจะออกมาแบบตามอารมณ์เรา แบบวันละ 5 อารมณ์

ตามไปดูกันเลยยยยยยยย

Day 1 : 3 Jan 18, in Hanoi

เราบินหางแดง โดยไฟลท์นี้ออกแต่เช้าที่ดอนเมืองจ้า ถึงฮานอยตอนประมาณ 9 โมงกว่าจ้าพอมาถึง ขอตอนรับสู่ฮานอย กับ1.โดนชาร์ทค่าเดินทาง

ส่วนใหญ่ก็พอรู้ว่าถ้าเที่ยวเวียดนาม เราต้องต่อรองค่ารถกันดีๆก่อนการเดินทาง เพราะมักจะโดนชาร์ทค่ารถเกินจริง ซึ่งเราก็น่าจะเป็นหนึ่งในนั้น เพราะว่าระหว่างเราตัดสินใจว่าจะเข้าเมืองกันยังไง ก็มีผู้ชายเวียดนามเดินมาเสนอราคาค่าเดินทางเข้าเมือง taxi 15$ (สำหรับ 2 คน) เราก็ต่อเหลือ 10$ เค้าไม่ยอม เค้าบอกว่า 12$ เราก็โอเค เค้าเลยเรียกอีกคนมา เราก็นึกว่าจะได้ taxi ป่าวเลย ได้ mini van (รู้ตัวตอนโดนพาเดินมาขึ้นรถ) (อ้าวประเดิมเวียดนามแบบงงๆ) แต่ไปคร้าเพราะส่งถึงโรงแรม 2.ครั้งแรกกับกาแฟยอดฮิต หลากสาขา CONG CAFE'วันนี้ลองกาแฟ CONG ยอดฮิตในหมู่ชาวเรา (รึเปล่า) เมนูที่สั่งคือ coconut milk with coffee ภาษาเวียดนามคืออะไรจำไม่ได้ แต่เออออออออ amazing มาก มันอร่อยสุด หอมมะพร้าว ลงตัวกับการผสมผสานระหว่างกาแฟและมะพร้าวจริงๆ

3.ไปกินข้าวเย็นที่ร้านเฝอเนื้อร้านนึง (แนะนำสำหรับคนกินเนื้อ) มันอร่อยมากกกกกกกกก ก.ไก่ล้านตัวจริงๆ ที่สำคัญในการปรุงรสเค้ามีมะนาวแท้ แบบหั่นเป็นชิ้นให้บีบเลยยยยย แถมกระเทียมดอง พอปรุงแล้วมันกลมกล่อมเข้ากันสุดอ่าาาา ยอม 

4.ไปต่อด้วยร้านนั่งดื่ม สำหรับสายดื่มแบบเรา (และแฟน) ซึ่งต้องขอบอกว่า ราคาเครื่องดื่มที่นี่ถูกกว่านั่งไทยแบบครึ่งๆ

ปล 2. บาร์เทนเดอร์ร้านนี้หน้าดีมากกกกกกกก ก.ไก่ ล้านตัว (อีกเช่นเคย) ควรมา ร้านชื่อ Polite&Co

5.ร้านโจ๊ก หน้าทางเข้าโรงแรม แบบโจ๊กริมถนนเลย มีแค่โจ๊ก หมู 3 ชิ้น ปาท๋องโก๋ และหมูหยอง หูยยยยยยย อร่อยลืมสุดๆ

Day 2 : 4 Jan 18, in Sapa

วันที่ 2 สำหรับทริปเวียดนาม ณ ซาปาจ้า เมืองที่ทุกๆคนรู้ว่า เป็นเมืองในหุบเขา มีนาขั้นบันไดที่เป็นไฮไลท์ เป็นเมืองที่ผสมผสานความเป็นตะวันตกในด้านสถาปัตยกรรม และเป็นเมืองที่หลายๆคนอยากมาเมื่อพูดถึงเวียดนามเหนือ

เพื่อนๆอาจจะเคยอ่านมาหลายรีวิวสำหรับซาปา แต่มาดูซาปาในแบบของเราบ้าง

1.สำหรับการเดินทาง

เราเลือกใช้รถบัสแบบที่เรียกว่า slepper bus แทนการนั่งรถไฟ เหตุเพราะเร็วกว่า ซึ่งเมื่อได้นั่งแล้ว ตามกำหนดเวลารถต้องออกตอน 7 โมงเช้า แต่เลทไป 45 นาที ถึงแม้จะมีการเลทแต่เราก็ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชม. และถึงไม่ได้ต่างจากเวลาที่ควรจจะเป็นมากนัก ส่วนขับรถเร็วรึเปล่า อันนี้ไม่รู้ เพราะ 5 ชม. ที่นั่งมาหลับตลอดทาง ก็มันชื่อ slepper bus เค้าเป็นที่นั่งให้นอน นอนจริงๆ ก็เลยได้นอนสมชื่อ

2.เมื่อมาถึง โอ้โห มีแต่หมอกกกกกกกกก กับอุณหภูมิ 12 c ไหนละนาขั้นบันได ไหนเมืองที่มีความเป็นตะวันตก แต่บ่นไม่ได้ ก็เผือก เลือกมาหน้าหนาว เพราะคิดว่าจะเจอ jackpot หิมะตกไง แต่เอาเหอะความฟินคืออากาศเย็นสบาย ชนิดว่าแอลกอฮอล์ทำอะไรเราไม่ได้ (มันก็จะเป็นแบบในรูปนี่ละ)

3.มื้อกลางวันกับ BBQ มีหลากหลายเนื้อให้เลือกสรร คือ เราเป็นครกินได้ทุกอย่าง ลองได้หมดไม่เกี่ยง นี่เลยได้จัดเนื้อกวาง กะนก เน้น นกมาทั้งตัวและหัวเลยจ้า ชอบเนื้อกวางเค้าหมักพริกไทยดำ โหยยยย หอมมากอร่อยเวอร์ (ใครทำใจไม่ได้ข้ามข้อนี้ไปเลย แต่ก็อ่านจบละนะ งั้นก็ทำใจแทนกับการกินของเราน่าจะดีกว่า)

4.อาหารเย็น ที่พยายามหารีวิวเยอะแยะ โดยคุณ B จนได้ร้านมาร้านนึงไม่ไกลจากที่พัก ติดรีวิว 5 ดาวใน tripadviser สั่งมาหลากหลายอย่าง ชอบสุด คือ ซุปเผ็ดเนื้อควาย จ๊ะ อ่านไม่ผิด แต่อร่อยเวอวัง เค้าบอกว่า ซุปนี้จะมีเฉพาะหน้าหนาว เห็นมะ นี่คือความโชคดีที่มาในหน้าหนาวแต่เราไม่มีรูป ฮาาาาาา

5.แล้วก็มาถึงขาแอลฯ แบบเรา เดินเข้าร้านนู้นออกร้านนี้ อยู่ 3-4 ร้าน กินร้านละขวด ไม่มีหลายไหนชอบเลยที่ไปนั่ง จนกลับเลยแวะหลายๆร้าน ดูเมนู ดูบรรยากาศ เผื่อพรุ่งนี้จะมานั่ง สรุป อีร้านที่แวะแต่ไม่ได้นั่ง 2-3 ร้านนี่ละที่ดี เพลียกับการเลือกทุกอย่างในวันนี้ 555อ่ะ วันนี้ก็หมดแค่นี้ กับซาปาวันแรก เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อปล. ทริปแพลนทั้งหมด ยกเลิกไป ขึ้น Fansipan คงไม่เห็นอะไรกับคนอื่นเค้า เพราะมีแต่หมอกบอกแล้วว่าหาสาระไม่ได้

Day 3 : 5 Jan 18, in Sapa

วันที่ 3 วันนี้ก็ยังคงอยู่ซาปา ตื่นมาอากาศดี หมอกไม่ลง ไม่ลงแค่ครึ่งชม.!!!!! หลังจากนั้นก็จะหมุนเวียนมาเรื่อยๆสำหรับมุมซาปาเราในวันนี้1.อย่างที่บอกว่า จากแพลนไปยอด Fansipan ยกเลิกไป เพราะหมอกหนาแน่นมาก แต่วันนี้อากาศดี เราเลยตัดสินใจไป Cat Cat Village โดยการเดิน!!!! เน้น เดินไปจากตัวเมือง ก็ประมาณ 5 กิโลแกกกกกกก แต่ยังดีที่เดินลงเขา ส่วนขากลับก็อาศัยพี่วินสิจ๊ะ ระดับ AB ขาไปก็ดู abnormal เบาๆอะหละ ขากลับเลยต้องขอ normal กับคนทั่วไปเค้า (หรอวะ เดินไม่ไหวก็บอก)AB/ abnormal คืออะไร แหะๆเพจเรากะคุณชาย B ที่อยากจะมีไว้แบ่งปันความไม่ปกติของเราสองคน

ABnormal เที่ยวแบบ(ไม่)ปกติ

2.Cat Cat Village ก็จะอารมณ์เหมือนเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ แต่อันนี้ศึกษาวิถีชีวิตชาวม้ง ค่าเข้า 70,000 ดอง (ประมาณ 98 บาท) ถ้าจะถ่ายรูปผู้คนในนั้น แนะนำให้ซื้อขนมห่อใหญ่ๆที่เค้าขายอ่ะ เอาไว้แจก ลูก เด็ก เล็กแดง จนอาม่า มาขอหมด นี่ก็ต่อราคา จาก 80,000 ดอง จนได้ 50,000 ดอง 555 โคตรขูดรีดม้ง หรือโดนม้งขูดรีดก็ไม่แน่ใจ

ปล. ตอนให้ครั้งแรก หันไปบอกคุณ B ว่า นี่ไม่ได้อยู่สวนสัตว์นี่หว่า คือ แบบไม่รู้จะสงสารยังไง แต่พอมันกลายเป็นการค้า ชาวเขาก็คงได้กินขนมด้วยวิธีนี้มั้ง เด็กๆวิ่งมาขอขนมแบบอยากกินอ่ะ

3.ก็เดินตามทางใน Cat Cat ก็จะผ่านหมูบ้าน ทำเครื่องเงิน เครื่องทอบ้าง อารมณ์เหมือนหมู่บ้านชาวเขาบ้านเราอ่ะ แต่ถ้าเดินตามเส้นทางเดิน มันก็จะมีส่วนผ่านน้ำตกด้วย ก็ดีนะ ถือว่ามาที่เดียวครบ ระยะทางก็น่าจะเกือบ 2 กิโลได้ ก็เดินไป บ่นไป ถ่ายรูป แกล้งเด็ก แกล้งยายไป สนุกดี

ปล. (ที่เท่าไรไม่รู้) นี่อ่ะน้ำตก แถมด้วยบรรยากาศเด็กๆ

4.กลับมาในเมือง มาแวะกิน Hot pot เนื้อม้า จะได้ถึงซาปาสักที ก็รวมๆแล้ว เนื้อเหนียว เคี้ยวจนปวดกาม ให้ผักเยอะดี ผักอะไรก็ไม่รู้นะ ต้มๆกินไป น้ำจิ้มอร่อยมากกกกกกก มีแค่พริก เกลือ มะนาว อร่อยจนแบบอยากห้อน้ำจิ้มกลับบ้านและ ณ ร้าน Hot pot เราสั่งแซลมอนมาด้วย วิธีกินบ้านเค้า คือ เอาแซลมอนแร่บางแช่น้ำมะนาว แล้วมาวางบนแป้ง ผัก คล้ายๆห่อแหนมเนืองหรือ สลัดโรลอ่ะ จิ้มน้ำจิ้มคล้ายโชยุ แต่มีพริกนิดๆ อร่อยเวอออออออ น่าห่อกลับบ้านอีกเช่นเคย5.วันนี้ซาปามีถนนคนเดินจากม้งด้วย ถือว่าโชคดี น่าจะมีศุกร์-เสาร์นะคิด เดา เพราะเคยอ่านแต่จำไม่ได้ละว่ามีคนบอกไว้ว่ามีถึงวันไหน ก็ขายของที่ม้งเดินๆขายตอนเราเดินเล่นในซาปาอ่ะหละ ก็มาเดินดูชีวิตเค้า สนุกดี

Day 4 : 6 Jan 18, in Hanoi

กลับมาฮานอยแล้วววววววววว เหมือนกลับบ้านอ่ะ ดีใจมากกกกก 1.วันนี้เดินทางกลับมาจากซาปา ฝนตกแต่เมื่อคืน ตื่นเช้ามาหนาวมาก เดินตากฝนไปขึ้นรถ ด้วยคิดว่ารถที่มา น่าจะเป็นรถที่กลับด้วย เพราะตั๋วเป็นภาษาเวียดนาม แต่เปล่าเลยไปผิดที่!!!! พีคแต่เช้า เลยได้เสียค่า taxi ไปขึ้นรถที่ขนส่งซาปาแทน2.เพราะเหตุรถที่นั่งกลับ คนละบริษัทกับรถที่นั่งมา ทำให้ได้สัมผัสความ local ในการเดินทาง มาเปรียบเทียบรถก่อน อย่างที่บอกว่าเรานั่ง Sleeper bus ทั้งไปและกลับ คนจองคือ โรงแรมที่เราพักที่ซาปา ทีนี้พอมันต่างกัน เรามาดูว่ามันต่างกันยังไง ตอนขามาอารมณ์ที่รั่งคือ กึ่ง first class นครชัยแอร์ แต่ไม่มีทีวีส่วนตัว และ entertainment อื่นๆ รถมีแวะพักเข้าห้องน้ำให้ แต่ไม่มีข้าว มีขนมกรุบกริบกับน้ำให้ ถือว่าก็โอเคประทับใจขับดี

ความพีค คือ ขากลับ ประทับใจตั้งแต่ยังไม่ขึ้นรถเลยจ้า พนักงานเก็บตัวให้เอากระเป๋าไปไว้ใต้ท้อง เราเลยบอกว่าในกระเป๋ามีกล้องจะขอเอาขึ้น เท่านั้นละจ้า โดนชักสีหน้าใส่ ส่ายหัวทันที พีคไป 1 พีคที่ 2 เพราะมะนเป็นรถนอน คือ ที่นอนอ่ะติดทางเดินเลย อารมณ์ว่า เปลี่ยนที่นั่งบ้านเราเป็นเบาะนอน เพราะฉะนั้นเวลานอน นางก็จะให้ถอดรองเท้าก่อนขึ้นรถ ทีนี้รถมี 3 ขั้นบันได วางกระดาษรองทุกขั้น คุณ B เค้าก็กำลังจะก้าวขั้นที่ 3 โดยใส่รองเท้า อีพนักงานคนเดิมอะหละ Noooooooo อย่างดัง แล้วก็ร้อง Oh shit คือ บอกสักคำมั้ยว่าให้ถอดรองเท้าขั้นไหน พีคไปอีกหนึ่ง พีคที่ 3 คือ รถขานั่งมาไม่จอดไหนเลยนอกจากจุดพักรถ แต่ๆๆๆๆๆๆๆ คันนี้ อารมณ์เหมือนรถ ป.3 บ้านเรา จอดตลอดรับคนข้างทาง ทุกคนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนขึ้นมา คือ แบบ เอ้อ jackpot จัง พีคสุดท้าย ด้วยความที่เราไม่รู้ว่าจะไปจอดตรงไหนของฮานอย เลยให้คุณ B ไปถามพนักงานประจำรถ เพราะเราจะได้แพลนถูกว่าจะเดินตรงไหนใกล้ โดนฮี ชักสีหน้าใส่จ้า บอกให้มานั่ง เดี๋ยวก็ถึงเองละ เอิ่มมมมมมสรุป ถ้าต้องการนั่งรถไปซาปา แนะนำ Sapa Express Bus ทั้งไปและกลับ3.พอมาถึง Check in อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ รีบกลับมาซ้ำโจ้กหน้าทางเข้า ละเดินเล่น แกกกกกก ถ้าเดินดีๆเจอร้าน local จะบอกว่าเสื้อผ้าถูกมากกกกกกกก ถูกกว่า JJ บ้านเราอีกกกกก4.ตกเย็น ด้วยความเป็น Gin lover ทั้งคู่ เลยเดินตามหา Gin Bar ชื่อ Mad Botanist ที่แนะนำโดย บาร์เทนเดอร์สุดหล่อ ซึ่งแบบร้านนี้โคตร Hidden bar แบบทางเข้าคือร้านกาแฟ แต่งเก๋มาก ป้ายคือ อยู่แบบลึกสุด ต้องมองดีมาก สำคัญคือ ตะกายขึ้นไป 5 ชั้น พอขึ้นไปเท่านั้นละแกกกกกกกก วิวโบสถ์สวยมากกกกก เหมือน private view สุด ดีเริ่ด แนะนำ เสียอย่างเดียว คือ ราคา พอๆกับไทยเลยจ้า5.ของกินอีกอย่างที่มาซ้ำ คือ เฝอเนื้อ (ที่บอกไปแต่ตอนต้นอะหละ) อร่อยมากกกกกกกกก แนะนำมากินเหอะ แบบไม่รู้ว่าเค้ามาควรกินเฝอที่ไหน หรือจะกินขนมปังอะไร แต่ร้านนี้ โคตรแนะนำให้จด ใน wish listสรุปง่ายๆ ฮานอย ดีกว่าซาปา 55555

Day 5 : 7 Jan 18, in Hanoi

คืนสุดท้ายแล้ววววววววววว พรุ่งนี้ต้องกลับละ

วันนี้เลยใส่ชุดเวียดนาม (อ่าวหย๊าย) เดินถ่ายรูปเล่นรอบๆทะเลสาบ และในเมือง

1.วันนี้เหมือนเค้าจะมีงานรับปริญญามั้ง สาวๆใส่ชุดอ่าวหย๊ายสีขาวเดินเต็มเลย เราเลยดูไม่ค่อยแปลกกับคนอื่นเค้า แต่ที่สำคัญ คือ โดนคนเวียดนามพูดภาษาเวียดนามใส่เยอะมากกกกกก 55552.แล้ววันนี้น่าจะเป็นแบบวันครอบครัวของเค้าด้วย คนออกมาเดินเล่นกันเยอะแยะ ดูอบอุ่นมากกกกกก

3.ตั้งแต่มาเนี้ย น้ำจิ้มอันนึงของเค้าอร่อยมาก มีแค่เกลือ พริก กับมะนาว โหยยยยยยยยย เดี๋ยวจะลองกลับไปทำที่บ้าน4.หมูย่างข้างทาง แบบมีหนังหมูกับวุ้นเส้น เอามาย่าง หูยเด็ดดดดดด กับน้ำมะนาวบ้านเค้า คือแบบมันกลมกล่อมได้รสมะนาว เปรี้ยวหวานพอดี บ้านเราควรมาศึกษาเรื่องของกินนะ

5.ตั้งแต่มา เพิ่งได้กินเปาะเปี๊ย ไม่สดนะ ทอด คือ แบบไม่ใช่อาหารประจำที่นี่มั้ง พวกแหนมเนือง กุ้งพันอ้อยด้วย คือ ที่นี่มีแต่เฝอ กับขนมปังฝรั่งเศสใส่กับพวกอะไรปิ้งของเค้าอ่ะ ที่เยอะๆ แต่แค่นี้ก็คิดว่าน่าจะถึงฮานอยละ เพราะกินจนพุงจะแตกสรุป ทริปฮาน่อย ครั้งนี้ เมืองดี คนน่ารักนะ แบบป้าข้างทาง ขายของเค้าพยายามจะต้อนรับเรามาก ทำให้นึกถึงสมัยกรุงเทพกำลังพัฒนา เมื่อ 10 ปีก่อนอ่ะ มันยังเป็นการผสมผสานระหว่างความเก่าสมัยก่อน กับความใหม่ที่กำลังเข้ามาแล้วมันมีเสน่ห์มากๆเลยให้กลับมาอีกมั้ย มาๆๆๆๆๆๆๆ เดินเพลินๆไปนู้นนี่นั่น สนุกดีนะ