เปิดกรุสมุนไพร เอาใจสายธรรมชาติ
beautgreat 8 7สวัสดีค่ะสาวๆ วันนี้ขอเอาใจชาวสายเขียว เอ้ย! สายออแกนิกกันบ้าง ใครเริ่มสนใจอยากลองใช้สมุนไพรดูแลผิวเชิญทางนี้เลยจร้าาาาาาาาาา :)
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ญ.ใช้ในชีวิตประจำวันเจ้าค่ะ ญ.ใช้สมุนไพรมาตั้งแต่เริ่มเป็นสาว จนตอนนี้...;( ก็อย่างที่รู้ๆ กันว่าธรรมชาติอาจะไม่เห็นผลทันตา แต่ให้ผลดีในระยะยาวและปลอดภัย ที่สำคัญถูกและดี!!! มากๆๆๆ
เริ่มกันเลยดีกว่า
1.สเปรย์น้ำใบย่านางสกัดเย็น ตัวนี้เป็นสเปรย์น้ำใบย่านางสกัดเย็น+สมุนไพรอีกหลายชนิด เลือกที่สกัดเย็นนะคะ เพราะรักษาสรรพคุณไว้อย่างครบถ้วนมากกว่า ใช้เหมือนกับน้ำแร่นี่แหละจ๊ะ ฉีดทับเมคอัพได้เลยนะ วิธีใช้ก็แค่ฉีดลงไปบนหน้าหรือตามร่างกายช แล้วซับด้วยทิชชู่ ไม่ทำให้เมคอัพเป็นคราบ จะฟินมากถ้าวันไหนอากาศร้อนๆ ฉีดตัวนี้แล้วเอาหน้าไปอังแอร์หรือพัดลม รับรองฟินลื้มมมม :)
อันนี้เป็นขวดเล็กสำหรับพกพา เขามีขวดใหญ่ใช้ดื่มได้ด้วยนะ ขวดเล็กที่ญ.ซื้อมาสนนราคาอยู่ที่ 18 บาท แต่ก็มี 20 25 40 บาท แล้วแต่ร้านนะคะ ในตลาดก็มีน้ำใบย่านางสกัดเย็นหลายยี่ห้อ ทั้งผสมใบเตย ผสมรางจืด หรือเป็นน้ำรางจืดไปเลยก็มี
สำหรับใบย่านางและสรรพคุณของเค้านั้นนนนนน เยอะมาก! 5555 อะยกตัวอย่างเช่น
- มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก จึงช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วและความแก่ชราอย่างได้ผล (ตัวแรกผ่านแล้วปะ)
- ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย เพราะเป็นสมุนไพรฤทธิ์เย็น จึงช่วยลดอุณภูมิในร่างกาย ยิ่งช่วงหน้าร้อนหรือวันไหนที่ต้องออกแดด ตัวนี้ช่วยได้เยอะเลยค่ะ
- ช่วยฟื้นฟูเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย
- ช่วยในการปรับสมดุลของร่างกาย
- ช่วยรักษาอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม คลื่นไส้ อาเจียนได้
2.น้ำมันมะพร้าวแสนนนนจะเบสิกมากเว่อ แต่สำหรับสาวจีบันแล้วญ.ขอลงรายละเอียดแบบเนื้อๆ เน้นๆ ว่ามันดี! อย่างไร
น้ำมันมะพร้าวนั้น อย่างที่รู้กันดีว่าสามารถใช้ได้ทั้งตัว บำรุงผมก็ได้ผิวก็ได้ โดยส่วนตัวแล้วญ.ใช้หลังอาบน้ำชะโลมตอนผิวเปียกเหมือนกับใช้เบบี้ออยเลยค่ะ หลังเช็ดตัวค่อยทาโลชั่นทับอีกที เพราะเป็นคนผิวแห้งมาก น้ำมันมะพร้าวช่วยให้ผิวชุ่มชื่นได้ตลอดทั้งวันจริงๆ สำหรับใครกลัวเรื่องกลิ่น หลังทาแล้วไม่มีกลิ่นน้ำมันติดตัวนะ ตัวก็ไม่เหนี่ยวเหนอะด้วย แต่กลิ่นจะติดผ้าเช็ดตัวแทน ยังไงซักบ่อยๆ ก็ดีค่ะ :)
คุณสมบัติของน้ำมันมะพร้าวนั้นดีกับผิวมาก หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ นั่นคือช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินในผิวชั้นในได้ดีค่ะ(อันนี้ก็เพิ่งรู้ 5555 ใช้มา 10 ปีแล้ว) ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและยังช่วยคงความชุ่มชื่นให้ผิวอีกด้วยค่ะ เรื่องความชุ่มชื่นนี่ญ.เห็นผลชัดเจนจากผมมากกว่าผิวค่ะ เพราะเป็นคนผมแห้งชี้ฟู ยิ่งทำสีผมเสียมาก แต่หมั่นใช้น้ำมันมะพร้าวหมักไว้ก่อนสระผม โดยจะหมักไว้ 10-15 นาที หรือเท่าที่มีเวลา แล้วลงแชมพูสระผมเลยโดยไม่ล้างน้ำก่อน แล้วค่อยล้างเอาน้ำมันส่วนเกินออก จากนั้นค่อยสระครั้งที่ 2 ตามปกติ หลักจากใช้มาสักระยะพบว่าผมแข็งแรงขึ้น แตกปลายน้อยลง
นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันรังสียูวี พวกน้ำมันธรรมชาติมีคุณสมบัตินี้กันทุกตัวอยู่แล้ว ชาวต่างชาตินิยมทาก่อนอาบแดดเพราะช่วยป้องกันผิวแดงอักเสบได้
สำหรับผิวหน้า สามารถใช้ทำความสะอาดและบำรุง
วิธีใช้แบบที่ 1.ใช้เหมือนโทนเนอร์ คือ ใช้หลังล้างหน้า ล้างหน้าและมือให้สะอาด หลังจากนั้นหยดน้ำมันมะพร้าวเล็กน้อยลงบนสำลีและเช็ดบนหน้า หลังจากใช้ไป 2-3 วันจะรู้สึกว่าผิวดีขึ้นค่ะ แต่ระวังสำลีจะยุ่ยเพราะความเหนียวของน้ำมันมะพร้าวนะคะ
วิธีใช้แบบที่ 2. ใช้ร่วมกับเซรั่มและครีม โดยขั้นตอนคือ โทนเนอร์ > น้ำแร่ (ช่วยน้ำสารบำรุงเข้าสู่ผิว) > เซรั่ม > น้ำมันมะพร้าว > ครีม โดยสูตรนี้ได้มาจากนิตยสารเล่มหนึ่ง(จำชื่อไม่ได้ >o<) ส่วนตัวยังไม่เคยลองเลยค่ะ เพราะครีมเยอะมากใช้ไม่ทัน(ลดราคาก็ซื้อเอาๆ ได้ใช้เมื่อไรค่อยว่าอีกที) โดยเค้าแนะนำว่า คนผิวแห้งสามารถใช้ได้ทั้งตอนเช้าและก่อนนอน ส่วนคนผิวมัน-ผสม ควรใช้เฉพาะก่อนนอนค่ะ
วิธีใช้แบบที่ 3.ใช้เช็ดเครื่องสำอาง อันนี้ใช้ได้ดีเลยค่ะ ใช้เหมือนกับออยเช็ดเลย ช่วยได้มากเครื่องสำอางออกหมดเกลี้ยงดีค่ะ
วิธีใช้แบบที่ 4.ใช้เป็นสครับปาก โดยใช้น้ำมันมะพร้าวผสมกับน้ำตาลทรายแดงหรือน้ำตาลอ้อย แบบที่เป็นผงละเอียด สีน้ำตาล ผสมกันพอหนืดๆ อย่าให้เหลวเกินไป แล้วเอามาถูๆ ที่ริมฝีปาก อย่าถูแรงหรือนานเกินไปนะคะ เดี๋ยวปากแตก สูตรนี้ทำแล้วปากเนียนนุ่ม อวบอิ่มมากเลยค่ะ เหมือนกับบำรุงมาดี kiss kiss
วิธีการเลือกซื้อ ควรเลือกน้ำมันมะพร้าวแบบสกัดเย็นนะคะ เพราะคงคุณค่าไว้มากกว่าและบริสุทธิ์มีสิ่งเจือปนน้อยกว่า น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นก็มีมากมายในตลาด เลือกที่เกรดดีๆ จะได้น้ำมันที่เหลวกว่าใช้ง่ายและซึ่มเร็วค่ะ
3.มะขาม น้ำผึ้ง พอกผิว สุพฤกษาสูตรนี้หลายต่อหลายคนเลื่องลือมา พอลองใช้จริงติดใจเลยจ้า แต่ต้องมีเวลาพอดูเลยนะ เพราะขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าพอกผิว เลยต้องใช้เวลาในการพอกนิดนึง
โดยสูตรนี้ ญ.ใช้สมุนไพรพอกผิว+สครับเกลือขัดผิว(ของโยโกะ) ขัดๆ ถูกแล้วพอกไว้ 30 นาที ผลที่ได้คือผิวเนียนนุ่ม(จากนม) สว่างกระจ่างใสขึ้น สีผิวสม่ำเสมอขึ้น คือจะไม่ขาวแบบสาวเกาหลี แต่ช่วยให้ผิวที่หมองคล้ำหรือเสียจากแดด ผิวกร้าน ดีขึ้นใสขึ้น ช่วยเรื่องการผลัดเซลล์ผิวได้ดีขึ้น
ข้อควรระวัง ไม่ว่าสูตรนี้หรือสครับไหนๆ ไม่ควรใช้ติดต่อกันทุกวันนะจ๊ะ เพราะต้องให้เวลาผิวได้สร้างชั้นผิวใหม่บ้าง ควรขัดแค่อาทิตย์ละครั้ง หรือ 2 ครั้งก็พอจร้า และที่สำคัญ ควรใช้ครีมกันแดดทุกวันด้วยนะจ๊ะสาวๆ
4.สมุนไพรขมิ้นขัดผิวกายสูตรนี้ไม่ทำให้ผิวเนียนนุ่มเท่ากับสูตรน้ำนม และไม่ได้ทำให้ขาวใสเท่ากับสูตรมะขาม แต่สูตรนี้ไม่มีกรดผลไม้เหมือนกับมะขาม แต่มีขมิ้นช่วยในการสมานผิว ฆ่าเชื้อและแบคทีเรีย เคยใช้ขมิ้นสดขัดผิวค่ะ ขมิ้นจะมียางอยู่นิดหน่อย ตอนขัดจะรู้สึกยิบๆนิดหน่อย แต่ความเหลืองน๊่... แต่พอผ่านไปสัก 2-3 วันผิวใสขึ้นมากเลยค่ะ มีน้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดและคลายเส้น ที่ชอบมากคือมีการบูร ขัดไปก็เย็นผิวไป ใช้ช่วงหน้าร้อนจะดีมาก และกลิ่นของการบูนยังทำให้จมูกโล่งหายใจสะดวกขึ้น กลิ่นหอมๆ ของสมุนไพรและการบูรช่วยผ่อนคลายได้มากเลย อีกอย่างไพลยังช่วยฆ่าแบคทีเรีย ลดอาการผดผื่นคันได้อีก สครับตัวนี้เหมาะกับอากาศบ้านเราเป็นการบำบัดและผ่อนคลายได้ดีจริงๆค่ะ
5.ผงขัดสมุนไพร 7 ชนิดซองเดียวได้ 7 ชนิด ไม่ต้องไปวิ่งหามาผสมกัน สะดวกดี ในซองนี้มีอะไรบ้างตามนี้เลยจ้า
1. ทานาคา ทานาคาสมุนไพรจากพม่าที่นิยมมากในไทย ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเกิดริ้วรอยและช่วยป้องกันการเกิดสิว
2. มะหาด จะทำให้สีผิวอ่อนลงได้ ลดความเข้มของเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง มีผลทำให้ผิวขาวได้ ปลอดภัยและไม่ทำให้ระคายเคืองผิว
3. ขมิ้น ช่วยต้านอนุมูลอิสระ กำจัดสารผิด ลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อราและแบคทีเรีย ฯลฯ
4.ไพล ช่วยลดผด ผื่น จุดด่างดำ สมานผิวให้เนียนนุ่ม ลดอาการอักเสบ ในสมัยก่อนใช้รักษาแผลสด
5.ว่านนางคำ สมานแผล ลดผดผื่นคัน ฆ่าเชื้อรา/แบคทีเรีย ต้านอนุมูลอิสระ
6.ใบมะกรูด ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยดับกลิ่น
7.ผงถ่าน ช่วยดูสิ่งปกปรก
วิํธีใช้ ง่ายๆ แค่ผสมกับน้ำสะอาด น้ำผึ้ง โยเกิร์ต น้ำมะนาว น้ำมะขาม หรือนม แล้วแต่สะดวกเลย ขัดประมาณ 5-10 นาทีแล้วล้างออก แต่ส่วนตัวชอบทิ้งไว้แปบนึงค่อยล้างออก
สูตรผงขัดแบบนี้มีมากมายเลือกตามใจชอบได้เลยจร้า ลองเลือกสมุนไพรที่ตรงกับความต้องการแล้วลองใช้ดู และควรใช้สม่ำเสมอเพื่อเห็นผลอย่างชัดเจน
6.ผงใบัวบกอันนี้เป็นน้องใหม่สำหรับ ญ.เลยเพราะเมื่อก่อนไม่ค่อยมีปัญหาสิว พอเริ่มมีสิวเลยมองหาตัวช่วย สำหรับใบบัวบกสำคัญเลยชื่อช่วยเรื่องผิวอักเสบ รอยแดง
วิธีใช้เหมือนสครับหรือมาร์กธรรมชาติทั่วไป แต่เค้ามีสูตรสำหรับปัญหาผิวต่างๆ
เช่น
ผิวมัน : ผสมกับโยเกิร์ต + น้ำมะนาว
ผิวแห้ง : ผสมกับน้ำผึ้ง + มะนาว
สิวอักเสบบนแผ่นหลัง : ผสมกับโยเกิร์ต + น้ำมะนาว
ริ้วรอย : ผสมกับน้ำผึ้ง
สำหรับใบบัวบก ไม่ว่าจะกินหรือทาก็ดีทั้งนั้นค่ะ เพราะชอบกินใบบัวบกเลยมีผิวดี หน้าเด็กกว่าวัยจนใครๆก็ทักผิดตลอด
7.สครับถั่วเขียวสครับตัวนี้เด็ด จัดไว้เป็นตัวสุดท้าย ขอตั้งชื่อว่า "สครับผัวหลง" 5555555555 จุ๊จุ๊ แต่ก่อนจะหลง เราต้องใช้ความอดและทนกับกลิ่นของนังก่อน ทีเด็ดของสครับตัวนี้คือใช้แล้วผิวเนียนนุ่มมากกกกกกกก ไม่ทำร้ายผิว ไม่กัด ไม่แสบ หรือเกิดรอยแดง ผิวไม่แห้ง สรรพคุณของถั่วเขียวมีมากมาย กินก็ดีสครับก็เริ่ด ยิ่งในช่วงหน้าร้อนยิ่งดีเลยค่ะ เพราะถั่วเขียวมีฤทธิ์เย็นลดอุณภูมิในร่างกาย ขับพิษร้อน ถั่วเขียวยังอุดมไปด้วยวิตามินอี ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยรักษาและสร้างความแข็งแรงให้กับเซลล์ผิวหนัง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวและยังช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากมลภาวะอีกด้วย
สำหรับคนที่เป็นสิว/ฝ้า แนะนำให้ทานถั่วเขียวต้มน้ำตาล สัปดาห์ละ 1 ด้วย สิว/ฝ้าจะลดลง เพราะถุ่วเขียวจะช่วยให้ตับขับสารพิษออกมาได้มากขึ้น
รับรองผิวเนียนนุ่ม สวยใส สะอาดจริงๆ Deep cleanแบบรู้สึกได้ แต่ที่บอกต้องอดและทนเพราะ กลิ่นของถั่วเขียวค่อนข้างแรง และเหม็นเขียวมาก ใช้ครั้งแรกอาจจะไม่ไหว แต่นานๆไปจะเริ่มคุ้น หรือจะผสมกับน้ำนม โยเกิร์ต น้ำผึ้ง อื่นๆ ที่สะดวก จะช่วยให้กลิ่นของถั่วเขียวลดลง สวยราคาประหยัด หาซื้อได้ที่ 7/11 ราคาอยู่ที่ประมาณ 42 บาท หรือใครสะดวกไปซื้อที่ตลาดมาบดเองก็ได้ค่ะ
8.มาร์กผงถ่าน ดินสอพองสูตรโบร่ำตามตำราโบราณใช้ในการดูแลผิว อันนี้ไม่มีแพ็กเกจอยู่แล้ว ซื้อมาเพราะเห็นว่าเป็นถ่าน ดินสอพองและถูกมาก แต่พอลองใช้แล้วผิวหน้านุ่มลื่นขึ้นมาก เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลย ที่สำคัญคือดินสอพองปกติใช้รักษาสิวอยู่แล้ว และรู้สึกได้เลยว่าใช้แล้วผิว ผดผื่น ลดลงอย่างชัดเจน
วิธีใช้ คือนำมาร์กผสมกับน้ำ ทาให้ทั่วหน้าแล้วพอกทิ้งไว้สัก 1 นาทีแล้วล้างออก ถ้าให้ดีควรใช้หลังล้างหน้า จะเห็นผลได้ชัดเจนมาก
สูตรนี้ใช้ได้ทั้งวัยรุ่น ผู้ใหญ่ ได้ทุกช่วงวัย แต่เด็กๆ ที่ผิวยังบอบบางยังไม่ควรนะคะ ใช้ได้เฉพาะเสปรย์น้ำที่อ่อนโยนต่อผิว
แม้อายุจะย่างเข้าเลข 3 แล้วแต่ผิวยังสดใสอยู่เลย
นี่คือรูปปัจจุบันค่ะ ผิวจริง รูปจริง