แต่งหน้าเดทวาเลนไทน์...ด้วยโทนส้มสดใส...จนหนุ่มๆหวั่นไหว
rangsinee.w 13 5สวัสดีเจ้า...กระทู้แรกของสาวเหนือ...ใครจะไปเดทวาเลนไทน์
แต่ไม่รู้จะแต่งหน้ายังไงดี เบื่ออะไรที่เป็นสีชมพู มาลองแต่งโทนสีส้มดูบ้างดีมั้ยคะ <<<<พร้อมแล้วไปชมเลยเจ้า>>>>
เริ่มต้นด้วยการเตรียมผิวค่ะ (หวานลง Skin care เรียบร้อยแล้วนะคะ)
STEP 1 : Smashbox Photo Finish Foundation Primer ลงหลังจากที่เราลง Skin care และกันแดดแล้วน๊า primer ตัวนี้ มีเนื้อเจลใส ตอนใช้บีบออกมาเพียงเล็กน้อย และลงตามจุดต่างๆ ที่มีปัญหารูขุมขนกว้างได้เลยนะคะ
STEP 2 : Illamasqua Skin Base Foundation #6.5 มาลงรองพื้นกันต่อ ตัวนี้กลายเป็นลูกรักของเราไปแล้วเพราะเป็นรองพื้นเนื้อบางเบา แต่ให้การปกปิด เป็นแบบ Medium-Full หลังจากลงรองพื้นไปแล้วรู้สึกว่าเบาและไม่หนักหน้า ตอนแรกดูเหมือนจะขาวไปสำหรับหวานแต่ทาไปซักพัก พอรองพื้นเซ็ทตัว จะพอดีผิวเลยค่ะ จริงๆแล้วหวานเป็นคนผิวผสมคือจะมีความมันตรง T-Zone แต่จะแห้งตรงช่วงแก้มค่ะ สามารถใช้ได้เลย ความพิเศษของตัวนี้คือสามารถเป็นคอนซีลเลอร์ได้ด้วย หวานเคยลงบริเวณที่เป็นรอยดำจากสิวก็สามารถปกปิดได้ดีเลยทีเดียวค่า ส่วนใครที่อยากได้การปกปิดมากขึ้นก็สามารถลงทับอีกรอบหนึ่งได้เลยนะคะ แต่หวานว่าลงเพียงรอบเดียวก็สวยแล้วจ้า งานผิวต้องยกให้รองพื้นตัวนี้เลย!
STEP 3 : U-star Zignature 3 in 1 perfect Cancealer ตัวนี้มี 3 สีในตลับเดียว คือ ได้ทั้ง เฉดดิ้ง ไฮไลท์ และคอนซีลเลอร์ เลยค่ะ เนื้อนิ่ม เกลี่ยง่าย และ ติดทน วิธีใช้คือ ให้ใช้นิ้วมือวนๆให้ได้ความร้อนจากนิ้วมือของเรานี่แหละค่ะจากนั้นก็แต้มลงไปตามจุดต่างๆตามที่เราต้องการได้เลย แต่ลุคนี้หวานใช้แค่เฉดดิ้งและไฮไลท์นะคะ เพราะรอยสิวและรอยคล้ำใต้ตา ใช้ Illamasqua Skin Base Foundation ก็เอาอยู่แล้วค่ะ
STEP 4 : Illamasqua Powder Foundation แป้งผสมรองพื้นตัวนี้จะมีความพิเศษคือมีเนื้อแป้งที่ค่อนข้างเนียนละเอียดมากๆค่ะ หวานลองแล้วรู้สึกว่าหน้าจะผ่องและเนียน ไม่หนักผิว เคยถ่ายรูปคือไม่ต้องพึ่งแอปใดๆ เลยจ้า และที่สำคัญยิ่งเหงื่อออกหน้ายิ่งผ่อง ผิวยิ่งสวย ทำให้มั่นใจได้ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน หวานจะใช้แปรงคาบูกิลงแป้งแทนการใช้พัฟนะคะ เพราะอยากให้ดูเป็นธรรมชาติ งานผิวและ ไม่โบ๊ะนั่นเอง ขอบอกค่ะว่าอยู่ทนและไม่ต้องเติมระหว่างวันให้เสียเวลาจ้า มีเวลาไปจ้องหน้าผู้แบบเต็มอิ่มแน่นอน
STEP 5 : NYC Smoot Skin Bronzing Powder บรอนเซอร์ตัวนี้ ติดทนและสีไม่เข้มจนเกินไป หวานว่าเหมาะสำหรับผิวสาวคนไทยมากๆ บางครั้งหวานจะเอามาคัดเบ้า หรือทำบรัชออนก็ได้เช่นกันจ้า ตัวนี้ลงทับเฉดดิ้งที่เราลงไปเลยน๊า แนะนำว่าลงอย่างเบามือน๊า
STEP 6 : Illamasqua Powder Blusher #Lover เตรียมผิวเรียบร้อยแล้ว มาลงบรัชออนกันบ้างค่ะ สี Lover ป็นสีสวยอีกสีนึงเลย (โทนส้มพาสเทล) คือทาได้ทุกสีผิว จะขาว จะเหลือง จะ 2 สีก็ทาได้นะ ตัวบรัชจะเป็นเนื้อ Matte ค่ะสีติดทนแตะครั้งเดียวรู้เรื่องตามสไตล์แบรนด์นี้เลยค่ะ แต่ก่อนจะลงบนแก้มของเราให้เคาะฝุ่นออกนิดนึงนะคะไม่งั้นจะแดงเป็นแก้มลิง เป็นบรัชที่เวลาปัดเพื่อนจะถามตลอด คือมันดูแพงแต่สดใสในเวลาเดียวกัน ดีไปอีก รักเลย
STEP 7 : Eye Primer / Eye Shadow / Eye Liner ในส่วนนี้หวานจะรวบรวมและอธิบายอย่างคร่าวๆนะคะเพราะไม่มีอะไรมาก ค่ะ อยากให้จุดเด่นอยู่ที่ปาก แก้ม ซะมากกว่า
7.1. Essence Eye Shadow Base เป็นเบสสำหรับตานะคะ ลงบริเวณเปลือกตาเพื่อให้ eye shadow ติดทนมากขึ้น และจะช่วยควบคุมความมันบนเปลือกตาได้ด้วยค่ะ
7.2 Aritaum Mono Eye no.g93 จะลงกึ่งกลางตา no.s15 จะเอาไว้คัดเบ้าตรงหางตาและด้านล่างตานะคะลากลงมาถึงกึ่งกลางตาดำค่ะ
7.3 Bacca Hilight #Opal ใช้ทาบริเวณหัวตา เพิ่มความสดใสของดวงตาค่ะ
7.4 Etude House Bling Bling สีขาวมุข เพิ่มตรงหัวตาอีกนิดนึงค่า
7.5 Lifeford Eye Liner ตัวนี้ใช้หมดไปหลายแท่งและไม่เคยเปลี่ยนใจ กรีดทับลงไปเลยนะคะ หลังจากนั้นก็ดัดขนตา ปัดมาสคาร่า และติดขนตาปลอม แบบธรรมชาติ หวานใช้ของใต้หวัน เป็นกล่องสีขาวนะคะ มันจะ สั้นตรงหัวตาและยาวตรงหางตา ให้ความเป็นธรรมชาติมากๆค่ะ และหวานติดตาข่ายทำตาสองชั้นเพิ่มเข้าไป เพื่อให้เห็นชั้นตาชัดขึ้นตาจะได้ดูโตขึ้นนั่นเองค่ะ
7.1. Essence Eye Shadow Base เป็นเบสสำหรับตานะคะ ลงบริเวณเปลือกตาเพื่อให้ eye shadow ติดทนมากขึ้น และจะช่วยควบคุมความมันบนเปลือกตาได้ด้วยค่ะ
7.2 Aritaum Mono Eye no.g93 จะลงกึ่งกลางตา no.s15 จะเอาไว้คัดเบ้าตรงหางตาและด้านล่างตานะคะลากลงมาถึงกึ่งกลางตาดำค่ะ
7.3 Bacca Hilight #Opal ใช้ทาบริเวณหัวตา เพิ่มความสดใสของดวงตาค่ะ
7.4 Etude House Bling Bling สีขาวมุข เพิ่มตรงหัวตาอีกนิดนึงค่า
7.5 Lifeford Eye Liner ตัวนี้ใช้หมดไปหลายแท่งและไม่เคยเปลี่ยนใจ กรีดทับลงไปเลยนะคะ หลังจากนั้นก็ดัดขนตา ปัดมาสคาร่า และติดขนตาปลอม แบบธรรมชาติ หวานใช้ของใต้หวัน เป็นกล่องสีขาวนะคะ มันจะ สั้นตรงหัวตาและยาวตรงหางตา ให้ความเป็นธรรมชาติมากๆค่ะ และหวานติดตาข่ายทำตาสองชั้นเพิ่มเข้าไป เพื่อให้เห็นชั้นตาชัดขึ้นตาจะได้ดูโตขึ้นนั่นเองค่ะ
STEP 8 : KATE Eyebrow N #Ex.5 เป็นที่เขียนคิ้วยอดนิยมของใครหลายๆคนค่ะ มีหลายเฉดสีให้เลือก หวานจะใช้สีเข้มสุด(หมายเลข1)เขียนกลางคิ้วไปจนถึงหางคิ้ว และสีอ่อน(หมายเลข2)บริเวณหัวคิ้วนะคะ เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นปลิงจ้า
STEP 9 : Illamasqua Antimatter Lipstick # Mars ลิปสติก Semi-Matte โทนนู๊ดอมส้ม ที่มีเม็ดสีแน่นไม่แพ้บรัชออน ทาแล้วจะช่วยขับผิวให้หน้าดูสว่างขึ้นด้วยค่ะ เป็นลิปสติกอีกตัวนึงที่ต้องมี เพราะทาแล้วไม่ตกร่อง ปากไม่แห้งด้วยนะคะ หวานทา 2-3 รอบยิ่งสวยขึ้นไปอีกค่ะ คือต้องพกติดกระเป๋าไว้เลย เพราะเป็นสีสุภาพที่สามารถทาได้ทุกวัน ถ้าใครเบื่อสีนู๊ดอมชมพูแนะนำให้ลองสีนี้เลยค่า แต่ถ้าใครอยากเพิ่มลูกเล่น ก็สามารถทาทิ้นสีแดงด้านในได้นะคะ จะได้ลุคที่ดูเป็นสาวเกาหลี อันยองกันไปอีก
STEP 10 : Becca Highlighter #Opal ขั้นตอนสุดท้ายในการแต่งหน้าในวันนี้เรามีผู้ช่วยตัวนี้ค่ะ เป็นไฮไลท์ที่มีความละเอียดมากตัวนึง ปัดแล้วไม่ไปเน้นรูขุมขนให้กว้างกว่าเดิม มีสีนวลๆ ถ่ายรูปสวยและไม่ลอยเป็นหนังปลาทูแน่นอนค่า
เย้...แต่งหน้าเรียบร้อยแล้ว ขอเวลาไปทำผมก่อนนะคะ แค่นี้ก็ได้ลุคสีส้มสดใส พร้อมจะทำให้ผู้ชายหวั่นไหวแล้วใช่ไหมคะ
ไม่ยากเลย ลองแต่งตามกันดูได้จ้า สำหรับวันนี้ไปก่อนน๊า เจอกันกระทู้หน้าค่า
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาชม กระทู้แรกของหวานนะคะ ><