Review ! 5 กันแดด แต่งหน้าทับก็ยังปัง

สวัสดีค่ะสาวๆ วันนี้หนูนาจะมารีวิวครีมกันแดดที่หนูนาใช้อยู่ประจำ สลับๆกันใช้ แล้วแต่วันแล้วแต่อารมณ์ แล้วแต่กิจกรรมที่ทำระหว่างวัน ช่วงหลังมีโอกาสได้ลองครีมกันแดดหน้าใหม่ๆเยอะ เลยอยากจะเอาแต่ละตัวมารีวิวตอนใช้ให้ฟังว่าแต่ละตัวใช้แล้ว แต่งหน้าทับไปแล้วเป็นยังไงนะคะ

ก่อนอื่นต้องมาบอกสภาพผิวของหนูนาก่อนว่าเป็นยังไง ผิวหน้าหนูนาเป็นผิวผสมค่อนไปทางมันแล้วแต่จุดของหน้า ถ้าเป็นทีโซนแน่นอนเลยคือมันมาก คือระหว่างวันถ้าไม่ใช้พวก primer คุมมัน หรือ แป้งคุมมันก็จะเอาไม่ค่อยอยู่ และอาจต้องใช้ทิชชู่ หรือกระดาษซับมันด้วยถึงจะทำให้หน้าที่แต่งมาไม่เป็นคราบมาก และเครื่องสำอางยังคงอยู่ถึงเย็นถึงดึกก่อนล้างหน้า

เพราะฉะนั้นการเลือกครีมกันแดดของหนูนาสำคัญมากหลักๆหนูนาจะดูที่ SPF ก่อน
แล้วตามด้วยเนื้อสัมผัสคือจะต้องลองเนื้อก่อนว่าเนื้อครีมกันแดดเป็นลักษณะไหน
เพราะสามารถดูได้ว่าสภาพหน้าเราเอาอยู่มั้ย อย่างหนูนาเป็นคนหน้าผิวผสมค่อนไปทางมัน ก็จะเลือกแบบที่เนื้อไม่ข้นมาก ที่สำคัญเลยตอนหลังหนูนาจะดูที่สรรพคุณ หรือคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ทาแล้วหน้าไม่มัน ไม่แพ้ ไม่ทำให้เกิดสิวและที่สำคัญ
ทาครั้งเดียว เอาอยู่ทั้งวันช่วยให้หน้าขาว ไม่ดำ

1. AVENE Cleanance solaire SPF 50+

ได้มาตอนแรกคือตื่นเต้นอยาก ใช้มาก สัมผัสกับมือ ไม่ได้รู้สึกว่าเหนียวอะไร คิดว่าตอนใช้น่าจะโอเค แต่พอใช้จริงๆกับหน้า กลับรู้สึกว่ากลิ่นนำ้หอมแรงมาก แล้วเวลาเกลี่ยแอบฝืดๆหน่อย ทาเสร็จจะหนืดๆ ก็อาจจะต้องรอให้เซ็ตตัวซักพักนึง 

ตอนทาเสร็จแล้ว หน้าเราจะขาวขึ้นมานิดนึงจากกันแดด แต่ให้ความรู้สึกหนักหน้าหน่อยๆ 

2. L’OREAL UV Perfect Aqua Essence SPF 50+ PA++++ Long UVA

จริงๆของ L’oreal มีหลายสูตรด้วยกัน แต่ที่เลือกสูตรนี้มาใช้เพราะเป็นสูตร aqua คือเนื้อค่อนข้างเกลี่ยง่ายที่สุด ทาง่าย 

แต่เมื่อทาเสร็จแล้วก็จะแอบมีความรู้สึกเหมือนทาครีมกันแดดจริงจัง ทำให้จะรู้สึกไม่ค่อยสบายหน้าเท่าไหร่ จะหนืดๆ ทาแล้วหน้าแอบมันทันที เหมือนใช้พวกกันแดดไปทะเลแบบ Banana boat อะไรแบบนี้ คิดว่าสูตรนี้เหมาะกันคนหน้าแห้งมากกว่า

3. ANESSA Perfect UV sunscreen aqua booster SPF 50+ PA++++

ตัวนี้เวลาทาคือลื่นมาก ทาง่าย เบาสบาย ซึมง่าย เกลี่ยก็ค่อนข้างง่าย แต่เสียอย่างเดียว ไม่ชอบกลิ่นเลย กลิ่นค่อนข้างแรง ทำให้เวลาทาแอบไม่มีความสุข 555

เวลาทาออกมาแล้วค่อนข้างกลืนไปกับสีผิวได้ดี ไม่เหนียว เบาสบายดี ทาแล้วจะได้ความรู้สึกว่าผิวหน้าเป็นกำมะหยี่ แต่เวลาใช้ต้องเขย่าดีๆ ไม่อย่างนั้นตัวผลิตภัณฑ์แอบนอนก้น

4. SMOOTH E Physical White Babyface Extra Fluid Formula UV Expert SPF 50+ PA+++

เนื้อตัวนี้ถึงไม่ได้เป็นนำ้เหลวๆ แต่ทาง่าย เกลี่ยง่าย เนื้อเบาสบาย ที่สำคัญกลิ่นดี
กลิ่นสะอาดๆเวลาทาแล้วที่ชอบคือไม่ทำให้หน้าสีเปลี่ยนเลยกลับทำให้หน้าดูเนียนมากขึ้น ข้อดีของ Physical Sunscreen ที่ต่างจาก Chemical Sunscreen ที่โดดเด่นเลยคือตัว Physical Sunscreen ทาแล้วสามารถออกแดดได้เลยทัน ที และช่วยสะท้อนรังสี UV ทั้งหมดด้วย แต่ถ้าเป็น Chemical Sunscreen จะต้องทาก่อนออกแดดประมาณ 15-30 นาที และต้องทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมงแถมยังดูดซับ UV ไว้บนผิวอาจทำให้เกิดการระคายเคืองบนผิวหน้าได้

แล้วที่ชอบอีกอย่างคือเคยอ่านเจอว่าจากที่หลายๆคนพูดถึงว่าสูตรนี้ไม่มีสารเคมี มั่นใจได้เลยว่าไร้เคมีกันแดดตกค้าง คนผิวแพ้ง่ายคนท้อง หรือผิวหน้าหลังทำเลเซอร์ก็ใช้ได้นะคะไม่ทำให้รู้สึกแสบผิวหรือแสบตาด้วย ก็เลยคิดว่าสำหรับหนูนาที่ต้องแต่งหน้าแล้วเครื่องสำอางค้างบนหน้าวันนึงหลายชม. ควรใช้อะไรที่ไม่มีสารเคมีจะได้ไม่อุดตัน ไม่เป็นสิว และยังเหมาะกับที่ไม่สะดวกทากันแดดทุก 2 ชั่วโมงเพราะสูตรนี้จะช่วยปกป้องได้นาน 8 ชั่วโมงโดยไม่ต้องทาซ้ำเลยค่ะ

5. EUCERIN Sun Protection CC Cream SPF 50+

ตอนลองเนื้อสัมผัสครั้งแรกชอบมากเพราะเป็นเนื้อมูส แถมเป็นสีเนื้อด้วย แห้งไวมาก
เกลี่ยลื่นดี มีกลิ่นนำ้หอมตามปกติไม่เยอะมาก ตอนทาต้องรีบเกลี่ยเร็วนิดนึงเนื่องจากแห้งไวมาก แล้วจะต้องเกลี่ยดีๆ ไม่อย่างนั้นจะเป็นคราบๆ

มีกลิ่นนำ้หอมตามปกติไม่เยอะมาก ตอนทาต้องรีบเกลี่ยเร็วนิดนึงเนื่องจากแห้งไวมาก แล้วจะต้องเกลี่ยดีๆ ไม่อย่างนั้นจะเป็นคราบๆ ตัวนี้คุมมันได้ดีระหว่างวัน