>> HOW TO << PUNKแต่ไม่พลาด! ไปคอนเสิร์ต โนว์หน้าเทา แต่งตามเรารอดแน่นอน

Face
- Illamasqua Primer Hydra Veil
- Illamasqua Skin Base Foundation 5.5
- Illamasqua Loose Powder
- Merrezca Foundation Stick สี Almond และ Light Nude
- Purminerals Mosaic Highlighting Powder สี Ornamental

​Eye
- Shiseido Integrate Gracy Eyebrow Pencil สี 662
- Illamasqua Brow Build สี Thrive
- Urban Decay Shadow Box
- Sleek Divine Eyeshadow Mediterranean Palette
- Seventeen Make Your Mark Eyeliner Pen
- Lancome Grandiose Waterproof Mascara

Lip
- Illamasqua Lipstick สี Vampette และ Cosmic

ขั้นตอนแรก เตรียมผิว
ฮาวทูนี้เน้นความติดทนและดูเป็นธรรมชาติของผิวหน้า บีใช้ Illamasqua Primer Hydra Veil ลงผิวหน้า หลังจากที่ลงครีมบำรุงเรียบร้อยแล้วค่ะ ไพรเมอร์ตัวนี้ คือสมควรต้องมีอ่ะ มันดีสมคำล่ำลือ เพื่อความติดทนของเครื่องสำอางค์ คอนเฟิร์มว่าเมคอัพติดทนยาวนานตลอดคืน แถมยังทำให้หน้าดูฉ่ำด้วย เพราะด้วยเทคโนโลยีการผลิต Anti-Oxidant Astaxanthin อันนี้ชอบมาก เพราะหลังคลอดลูกมานี้ หน้าบีแห้งเหี่ยวขั้นสุด รู้สึกแก่ขึ้นอีก 5 ปีรวด เวลาบำรุงผิวมีน้อย แต่ไพรเมอร์ตัวนี้มันช่วยทำให้ผิวกลับมารู้สึกเต่งตึงขึ้นสดชื่นขึ้น ตักมาใช้ 1 ตัก ละเลงให้ทั่วใบหน้าเลยค่ะ ดูความเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าก่อนและหลังทา ชัดเลยว่าความแห้งกร้านหายไป รอยคล้ำก็ดูจางลงนิดนึงด้วยค่ะ

ขั้นตอนที่ 2 ลงรองพื้น
บีใช้ Illamasqua Skin Base Foundation 5.5 รองพื้นตัวนี้ ตอบโจทย์ผิวหน้าคุณแม่หลังคลอดแบบบีมากค่ะ รักมากๆ สามารถปกปิดริ้วรอยที่อยู่ดีๆ มันก็ชัดโดดเด้งขึ้นมาซะอย่างงั้น แถมเนื้อบางเบาไม่หนักหน้า เจ้ารองพื้นตัวนี้มันมีคุณสมบัติพิเศษ คือสามารถใช้เป็นคอนซีลเลอร์ได้ด้วย บีเลยเอามาใช้ทาซ้ำบริเวณใต้ตาอีก 2 รอบเพื่อปกปิดความนอนน้อย (ความเปลี่ยนแปลงตามภาพด้านขวาค่ะ) ถ้าต้องการงานปกปิดริ้วรอยบริเวณไหนเป็นพิเศษ ก็ใช้แต้มๆแทนคอนซีลเลอร์ได้เลย รองพื้นตัวนี้ทาไปแวปแรกเหมือนหน้าลอย อย่าเพิ่งตกใจค่ะ ทิ้งไว้สักพักเนื้อรองพื้นมันจะกลืนไปกับหน้าเลย แล้วเนื้อมันก็ไม่แมตเกินไป คนผิวแห้งมากแบบบีใช้แล้วยังเกิด ยิ่งเหงื่อออกผิวยิ่งสวยค่ะ

ขั้นตอนที่ 3 คอนทัวร์และไฮไลท์  
ฮาวทูนี้เน้นความติดทนบีเลยใช้แบบเนื้อครีม จะใช้ Merrezca Foundation Stick สี Light Nude เป็นไฮไลท์ และใช้สี Almond เป็นเฉดดิ้งค่ะ เนื่องจากผิวหน้าอันแห้งกร้าน เลยต้องใช้แบบที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์ช่วย แถมเป็นรูปแบบแท่ง ใช้สะดวกดีค่ะ แต่จะไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบความแมต เบลนไฮไลท์และเฉดดิ้งให้เข้ากับพื้นผิวหน้าให้เกิดมิติบนใบหน้าตามภาพ แนะนำให้ใช้แปรงเกลี่ยค่อยๆ นะคะ ไม่งั้นหน้าจะกลายเป็นมิติพิศวงทันที 

ขั้นตอนที่ 4  ลงแป้งฝุ่น
เพื่อความเป็นธรรมชาติไม่หนักหน้า บีเลยใช้แป้งฝุ่นสีโปร่งแสงของ Illamasqua ค่ะ ชอบความเนื้อเบาของมันจริงๆ ใครไม่อยากหน้าลอยหน้าเยิ้มต่อสาธารณชน แนะนำให้ใช้แป้งฝุ่นหลังลงรองพื้นนะคะ สามารถพกไปปัดเติมระหว่างวันได้ด้วย ช่วยซับความมันได้ดีและยังทำให้หน้าดูไบรท์ขึ้นด้วยค่ะ

ขั้นตอนที่ 5 งานคิ้ว 
ลุคนี้จะขอไม่เน้นคิ้วมากค่ะ พั้งค์ไม่ต้องมีคิ้วที่เนี๊ยบคมกริบ ใช้ดินสอเขียนคิ้ว Shiseido Integrate Gracy Eyebrow Pencil สี 662 วาดกรอบคิ้วบางๆ ก่อนค่ะ แล้วค่อยระบายด้านใน ใช้แปรงปัดคิ้วเบลนให้สีมันกระจายทั่วทั้งคิ้ว แต่เบามือหน่อยที่หัวคิ้ว จะได้ดูธรรมชาติไม่แข็งจนเกินไป เพราะเราจะเน้นแต่งตาเด่นมากกว่าค่ะ และใช้ Illamasqua Brow Build สี Thrive ปัดเบาๆตามแนวขนคิ้วของเรา เพื่อเซ็ทให้เรียงตัวสวยงามติดทนตลอดคืน และดูเป็นธรรมชาติ บีถูกใจสีน้ำตาลนี้มาก เพราะคิดว่ามันพอดีเหมาะเจาะกับสีผมและสีผิวของเรา

ขั้นตอนที่ 6 งานตา
แต่งหน้าสไตล์พั้งค์ ที่ขาดไม่ได้ก็คือขอบตาแดงๆ ฮาวทูนี้บีจะใช้โทนส้มแดงเลือดนก เลือกสีจากพาเลท Urban Decay Shadow Box สุดที่รักของบีเอง ชอบความหลากสีสันและพิกเม้นแน่นของมัน ใช้สีส้มทาลงทั้งเปลือกตาเลยค่ะ ปัดให้ฟุ้งขึ้นมาจากหางตา และใช้สีน้ำตาลเข้มสีข้างๆ กันจากพาเลทเดิม ลงทับบริเวณรอยพับชั้นตา

ต่อจากนั้นเรามาลงอายไลเนอร์กันก่อนค่ะ บีใช้ Seventeen Make Your Mark
Eyeliner Pen เลือกใช้แบบเมจิกเพื่อความติดทนยาวนาน เขียนขอบตารอบตาเลยค่ะ และใช้อายแชโดว์สีดำจากพาเลทเดิมปัดทับไลเนอร์ให้ฟุ้งนัวๆ ออกมาเล็กๆ

ใช้สีแดงเข้มเนื้อแมตจากพาเลท Sleek Divine Eyeshadow Mediterranean Palette ปัดทับลงทั้งเปลือกตา และปัดลงมาที่ขอบตาล่างด้วย เพื่อความพังค์ของเรา

และสุดท้ายใช้ Lancome Grandiose Waterproof Mascara ปัดขนตาให้ดำเด้งขึ้นมา มันดีงามสมราคาจริงๆ ค่ะ ดำเด้งได้ใจ นึกว่าติดขนตาปลอมแบบธรรมชาติ และที่สำคัญจะเหงื่อไหลไคลย้อยขนาดไหนก็ไม่หลุดไม่เยิ้มแน่นอนค่ะงานนี้ 

ขั้นตอนที่ 7 ปัดแก้ม
บีใช้ Purminerals Mosaic Highlighting Powder สี Ornamental ค่ะ อันนี้ใช้ปัดไปทำงานเป็นประจำ เพราะมันได้ความรู้สึกแก้มสุขภาพดีตามธรรมชาติ แอบมีวิ๊งๆ เล็กๆ สำหรับลุค No MakeUp ก็ใช้ได้ค่ะ เนื่องจากลุคนี้สีตาและปากเราแรงแล้ว เราจึงปัดแก้มเบาๆ พอค่ะ ไม่งั้นจะเหมือนไปรำไทย

ขั้นตอนที่ 8 งานปากมาแล้ว
ตามปกติเมื่อนึกถึงลุคพั้งค์ๆ ร็อคๆ ก็จะนึกถึงลิปสีแดงเป็นอย่างแรกเลย
บีเลยใช้ลิป Illamasqua สี Vampette เป็นลิปสีแดงเข้มเบอกันดี้ ซึ่งบีชอบสีและเนื้อลิปมาก เป็นไอเท็มโปรดอีกแล้ว ทาไปดูคอนเสิร์ตประจำ จริงๆ คือบีเป็นแฟนของแบรนด์นี้ตั้งแต่ยังไม่เข้าไทยเลยค่ะ เพราะมีสีลิปให้เลือกหมดทุกโทนทุกแนว ชอบมากๆ และวันนี้บีเพิ่มช้อยส์ให้สาวๆสายหวานที่อยากจะร็อคบ้างสักวัน ด้วยลิป Illamasqua สี Cosmic แถมอีกลุคเพิ่มเติมให้ด้วยอ่ะ คือเอา 2 สีมามิกซ์กัน ทาสีนู้ดชมพู แล้วใช้สีแดงเข้มทาริมฝีปากด้านใน ออกมาเกร๋ๆ อย่างที่เห็นเลยค่ะ หรือจะทาสีชมพูนู้ดล้วนก็สวยไปอีกแบบ

Finished Look!!