ส่องกันชัดๆ ผู้ดีเงินเก่า New Gen มี lifestyle แบบใด

ช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทรนด์ Quiet Luxury ได้สร้างเสียงเลื่องลือถึงสไตล์เรียบหรูดูเลอค่าแบบไม่ได้อวดความมั่งมีอย่างโฉ่งฉ่าง ซึ่งหลายคนมองว่านี่คือคุณลักษณะโดดเด่นของบรรดา'ผู้ดีเงินเก่า' และอาจจะมีผู้จินตนาการถึงภาพลักษณ์ของชนชั้นสูงว่าดูเหมือนกับตัวละครในซีรีส์ Succession หรือบรรดามหาเศรษฐีหมื่นล้าน แต่เราจะมาชวนคุยถึงพวกเงินเก่าขนานแท้ที่สืบทอดยศฐาบรรดาศักดิ์กันหลายชั่วคน

บรรดา Gen ใหม่ของตระกูลผู้ดีมีสกุลจะมี lifestyle ตรงกับที่คุณคิดไว้หรือไม่ มาติดตามกันเลยค่ะ

ครั้งหนึ่ง Benedict Cumberbatch เคยยืนกรานว่า เขาไม่ใช่พวกชนชั้นสูง (upper class) ตามที่ใครๆพูดถึง เนื่องจากไม่ได้เติบโตมาในครอบครัวที่มีมรดกตกทอดให้กินใช้สบายๆ พ่อแม่ของเขาต้องทุ่มเททำงานในวงการแสดงเพื่อส่งเสียให้เขาเข้าเรียนใน Harrow โรงเรียนประจำชายล้วนที่ได้รับความนิยมในแวดวงชนชั้นสูง แม้ว่าเขาจะมีสำเนียงไพเราะเพราะพริ้งที่ดูเหมือนไม่พยายามจนเกินไป และเมื่อไล่เรียงวงศ์วานว่านเครือก็พบว่าบรรพบุรุษของเขานั้นรับราชการทหารหรือไม่ก็เป็นนักการทูต ทั้งยังมีความเชื่อมโยงแบบเครือญาติที่ห่างไกล(มาก)กับกษัตริย์อังกฤษ ซึ่งทำให้ใครต่อใครมองเขาในฐานะพระเอกผู้ดีมีสกุล แต่ Benedict ชี้ชัดว่า พื้นเพของเขาตรงกับชนชั้นกลาง หรือให้มากสุดคือกลางที่ค่อนไปทางสูง (Upper middle class)

แล้วผู้ดีเงินเก่าในอังกฤษและยุโรปมีลักษณะเช่นใด หรือมีค่านิยมใดที่บ่งบอกได้ชัดเจนว่า พวกเค้าเป็นชนชั้นสูงตัวจริง?

• สืบทอดเชื้อสายมาหลายชั่วอายุคนจากตระกูลขุนนาง  หลายตระกูลเป็นเครือญาติกับเชื้อพระวงศ์ ซึ่งในปัจจุบันก็ยังนิยมที่จะหาคู่ที่มีสกุลรุนชาติเหมาะสมกัน สตรีชั้นสูงที่ไม่ได้สืบทอดบรรดาศักดิ์ของครอบครัวอาจจะลงเอยกับผู้ที่มีฐานะมั่งคั่งในระดับเศรษฐีหรือมหาเศรษฐี ซึ่งการเข้าร่วมกิจกรรมแบบชนชั้นสูงชนในการพบปะกับกลุ่มคน top tier ได้มากกว่าคนทั่วไป  ไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมงานการกุศลหรือสารพัดอีเวนท์ที่เป็นจุดรวมตัวของกลุ่มคน elite ไปจนถึงการเข้าร่วมสโมสรที่คัดเลือกสถานะทางสังคมของสมาชิกที่เหมือนกับการหาคู่ของคนระดับเดียวกันไปในตัว  อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้ แม้แต่เชื้อพระวงศ์ระดับสูงก็ยังเลือกคู่ครองที่เป็นคนทั่วไป ไม่ใช่ผู้ที่มียศศักดิ์ จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้ดีเงินเก่าจะแต่งงานกับคนที่มีพื้นเพแตกต่างกัน 

• คำว่าผู้ดีเงินเก่าอาจจะไม่ได้หมายความว่าพวกเค้าต้องรวยล้นฟ้ากันถ้วนหน้า สายงานอาชีพของผู้ดีเงินเก่ามักปรากฏในวงการการเงิน การจัดการ กฎหมาย ศิลปะ หรือหากเป็นธรรมเนียมดั้งเดิม อาจจะเป็นสายงานการเมือง การทูต ตำแหน่งในกองทัพ และที่ขาดไม่ได้คือการรับหน้าที่ผู้อุปถัมป์กิจกรรมและมูลนิธิเพื่อการกุศล ส่วนกลุ่มที่ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ที่ตกทอดมายังรุ่นสู่รุ่น การดูแลและบริหารจัดการทรัพย์สินก็จะสร้างรายได้ให้กับพวกเค้าเช่นกัน  บางคนอาจจะใช้ connection กับคนใหญ่คนโตมาหลายยุคสมัยเพื่อช่วยต่อยอดทางํธุรกิจ ซึ่งคนรุ่นใหม่สามารถเลือกเส้นทางอาชีพตามความถนัดและความใฝ่ฝันได้มากกว่าคนยุคเก่าที่ต้องตอบสนองความคาดหวังของวงศ์ตระกูล

• การรับมรดกตกทอดนับตั้งแต่ยุคสมัยที่แบ่งอาณาเขตปกครองให้ขุนนางสร้างรายได้จากการปล่อยที่ดินให้เช่าและต่อยอดความร่ำรวยจากธุรกิจต่างๆทำให้พวกเค้ามีภาพลักษณ์ของผู้คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดชัดเจน และมักถูกจัดให้เป็นกลุ่มคน out of touch ที่ไม่รู้สึกรู้สาต่อความยากลำบากในการหาเลี้ยงชีพเหมือนกับคนทั่วไป แต่ผู้ดียุคใหม่เริ่มเปิดเผยให้ผู้คนได้รับรู้มากขึ้นว่า การรับมรดกที่สูงค่านั้นมาพร้อมกับความรับผิดชอบทั้งชีวิต หากขาดระบบบริหารจัดการที่ดี ไม่ว่าจะเป็นปราสาทหรือคฤหาสน์งดงามพร้อมอาณาบริเวณกว้างใหญ่อาจจะนำมาสู่ภาระหนี้สินล้นพ้นตัว 

ดังที่ช่อง ITV ในอังกฤษเคยนำเสนอรายการ Keeping Up With The Aristocrats ตีแผ่ชีวิตผู้ดีเงินเก่าที่อาจจะไม่ได้สวยหรูทุกกระเบียดนิ้วตามที่หลายคนจินตนาการไว้ แม้ว่าพวกเค้าจะสร้างรายได้จากการเปลี่ยนที่พำนักอันเก่าแก่มารับบริการนักท่องเที่ยวจาก Airbnb หรือรับจัดงานเลี้ยง ก็ยังต้องพยายามหลายทางเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและจ่ายหนี้สินที่คนรุ่นพ่อแม่ได้ก่อไว้ ทั้งๆที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเครือญาติของราชวงศ์ แต่บางตระกูลก็ต้องระดมสมองหาหนทางในการรักษาสมบัติประจำตระกูลไว้ให้คนรุ่นหลัง ไม่ได้ฟุ้งเฟ้อไร้ข้อจำกัดหรือว่าจ้างสต๊าฟหลายสิบคนคอยทำงานรับใช้ดังที่เราคุ้นเคยจากฉากหนัง แต่ยังมีอีกหลายตระกูลที่ประสบความสำเร็จจากการประกอบธุรกิจจนฐานะทางการเงินล่ำซำ ไร้ความกังวลใจเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเพื่อซ่อมแซมหรือรีโนเวทมรดกสิ่งปลูกสร้าง

• ถึงแม้ชนชั้นสูงจะไม่ได้ทำงานสายบันเทิง แต่ก็จะได้รับความสนใจจากสื่ออยู่เสมอ โดยเฉพาะผู้ดีที่มีรูปโฉมดึงดูดใจ หากสร้างชื่อเสียงจากสถานะดาวเด่นแห่งแวดวงสังคมก็อาจจะถูกกล่าวขวัญวนเวียนอยู่ตามคอลัมน์แฟชั่นของ VOGUE หรือนิตยสารดังเจ้าอื่น โดยเฉพาะหน้าข่าวของสื่อสายแวดวงสังคมผู้ดีคือ TATLER, VANITY FAIR และ OK Magazine แม้แต่หรือแม้แต่ชนชั้นสูงที่วางตัวห่างจาก spotlight หากมีพื้นเพน่าสนใจ สื่อเหล่านี้จะไม่พลาดการหยิบยกโพรไฟล์ของพวกเค้ามาแนะนำ

• ในขณะที่เหล่าเซเลบมักจะดึงดูดความสนใจจากแบรนด์ต่างๆ ทำให้ได้รับเชิญเพื่อเข้าร่วมอีเวนท์พรมแดงและแฟชั่นโชว์ไม่ได้ขาด กลุ่มผู้ดีเงินเก่าที่เป็นดาวเด่นในแวดวงสังคมก็ดูไม่แตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาคือโอกาสที่จะได้รับคำเชิญเข้าร่วมอีเวนท์เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ เช่น การแข่งขันโปโลเพื่อการกุศล, งานแข่งม้ารอยัล แอสคอต, งานเลี้ยงน้ำชาในสวนที่พระราชวัง, งานเลี้ยงต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง และอีกหลากหลายอีเวนท์ที่บ่งบอกความ exclusive  

• ให้คุณค่ากับการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะประเพณีส่งบุตรหลานเข้าเรียนในสถาบันอันมีชื่อเสียงในกลุ่มผู้ดีด้วยกัน จากยุคประวัติศาสตร์ที่ชนชั้นสูงจะได้ศึกษาเล่าเรียนด้านการเมืองการปกครอง ปรัชญา ภาษาต่างประเทศและขัดเกลาสมบัติผู้ดี ไม่ให้แสดงออกอย่างเสื่อมเสียต่อเกียรติยศวงศ์ตระกูล  ทุกวันนี้ ผู้ดีมีสกุลหลายตระกูลก็ยังรักษาแบบแผนเรื่องการศึกษาไว้อย่างเหนียวแน่น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเค้าจะเลือกเส้นทางอาชีพที่สอดคล้องกับสาขาวิชาที่ร่ำเรียนมา อาจจะมีคว้าปริญญาภาษาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ จิตวิทยา แต่หันมาเอาดีทางแฟชั่นหรือโฆษณา 

• ค่านิยมของชนชั้นสูงจากตระกูลขุนนางจะขับเคลื่อนไปตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะหนุ่มสาวที่หันมาเอาดีในอุตสาหกรรมแฟชั่น รวมถึงการสร้างชื่อในวงการ influencer ด้วยการนำเสนอชีวิตเลิศเลอแบบผู้ดีเงินเก่ายุคโมเดิร์น เป็นเรื่องไม่แปลกที่เราจะได้เห็นจะเห็นกลุ่มหนุ่มสาวที่มีบรรดาศักดิ์สร้างแฟชั่นแบรนด์ รับงาน modeling  สร้างบัญชี Instagram ที่มีผู้ติดตามหลายแสน นำเสนอรสนิยมการแต่งกายโฉบเฉี่ยวไม่ต่างจากดารา Hollywood และไม่ถูกมองว่าเป็นหัวขบถที่ฉีกกรอบธรรมเนียมดั้งเดิมจนเป็นที่ติฉินนินทาจากกลุ่มชนชั้นสูงด้วยกัน

Hugh Grosvenor ดยุคที่วางตัว low profile สวนทางกับความรวยระดับหมื่นล้าน

แม้ว่าจะสร้างเสียงกล่าวขวัญจากบรรดาศักดิ์ชั้นสูงและความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับเชื้อพระวงศ์ (เขาเป็นลูกทูนหัวของกษัตริย์ Charles และถึงขนาดเคยให้เจ้าชาย William ใช้เครื่องบินส่วนตัวประจำตระกูลเพื่อเดินทางไปพักผ่อนต่างประเทศ) แต่ Hugh Grosvenor ดยุคแห่ง Westminster กลับปรากฏตัวต่อหน้าสื่อน้อยครั้ง ผู้คนจะได้มีโอกาสพบเห็นเขาในอีเวนท์สำคัญของราชวงศ์อังกฤษและการทำหน้าที่ผู้อุปถัมป์มูลนิธิ Westminster แต่ถึงเขาจะเก็บตัวจากความอยากรู้อยากเห็นของสื่อ ดยุคหนุ่มผู้นี้ก็เคยขึ้นชื่อว่าเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมสุดๆในแวดวงสังคมชั้นสูง นั่นเป็นเพราะว่า ทรัพย์สินมหาศาลที่เพิ่มพูนมาจากการเป็นเจ้าของที่ดินกว้างใหญ่ไพศาลตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 1600 ต่อยอดมาเป็นอาณาจักรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ทำให้เขาติดอันดับ 4 ของมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินมากที่สุดในสหราชอาณาจักร ในช่วงวิกฤติการณ์โรค COVID ระบาด ยอดบริจาคเงินจากดยุคหนุ่มที่ตีเป็นเงินบาทได้เกินว่า 555 ล้านบาททำให้สื่ออังกฤษพาดหัวข่าวเกรียวกราว

แต่สถานะหนุ่มโสดเนื้อหอมก็หายวับไปไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ เนื่องจากเขาเพิ่งเข้าพิธีแต่งงานกับ Olivia Henson (นามสกุลเดิม) หญิงสาวที่มีสายเลือดขุนนางมาจากฝั่งแม่ และถูกยกให้เป็นอีเวนท์แห่งปีที่แม้แต่สื่อต่างประเทศก็ยังให้ความสนใจ แม้ว่าจะไม่มีการเปิดเผยบรรยากาศภายในเหมือนกับพิธีเสกสมรสของเชื้อพระวงศ์ก็ตาม 

แม้ครอบครัว Grosvenor จะเลื่องชื่อลือชาเรื่องสถานะขุนนางชั้นสูงและอาณาจักรธุรกิจหมื่นล้าน  แต่พวกเค้ากลับไม่ได้ก้าวมาสร้างสีสันในแวดวงสังคมมากเท่าใดนัก ดยุคหนุ่มสืบทอดทั้งบรรดาศักดิ์และหน้าที่ผู้บริหาร Grosvenor Group และไม่ได้เปิด Eaton Hall คฤหาสน์ประจำตระกูลที่มีอาณาเขตกว้างสุดลุกหูลูกตาในเมือง Cheshire ให้สื่อนำมาโพรโมทเหมือนกับบรรดาผู้ดีตระกูลอื่น การวางตัวแบบ low profile ที่ดูลึกลับอาจจะทำให้ฟันธงได้ยากว่าพวกเค้ามีวิถีชีที่หรูหรามากเพียงใด แน่นอนว่า สื่อบันเทิงจะจุดประเด็นการใช้เงินแบบไร้ข้อจำกัดตามแบบฉบับมหาเศรษฐี แต่ลุคที่ดูเรียบง่ายของพวกเค้านั้นน่าทำให้นึกถึงตัวละครทายาทผู้ดีเงินเก่าในหนัง Saltburn ที่ไม่ได้ยึดติดกับสไตล์หรูหราตลอดเวลา และจะเลือกแต่งตัวเนี้ยบกริบเข้ากับกาลเทศะ

หากพูดถึงชนชั้นขุนนางสูงศักดิ์แล้ว อาจจะทำให้หลายคนนึกถึงผู้ดีเงินเก่าฝั่งอังกฤษ แต่ประเทศสเปนนัั้นมีตระกูลขุนนางอยู่มากมายไม่แพ้กัน ยิ่งเป็นตระกูลเก่าแก่และมั่งคั่ง ก็จะยิ่งดึงดูดความสนใจจากสื่อ ที่สำคัญประเทศนี้ได้ปฎิรูปธรรมเนียมดั้งเดิมที่กำหนดให้บุตรชายคนแรกเป็นผู้มีสิทธิ์ในการสืบทอดบรรดาศักดิ์ให้เปลี่ยนมาเป็นบุตรคนแรก ไม่ว่าจะเป็นเพศใด กล่าวคือ ผู้หญิงสามารถรับหน้าที่ประมุขสูงสุดของวงศ์ตระกูลได้ ซึ่งแนวคิดแบบก้าวหน้าที่ลดทอนความเหลื่อมล้ำทางเพศนี่เองที่สร้างสีสันให้กับแวดวงผู้ดีเงินเก่าของสเปน

แฟนๆ Bridgerton อาจจะคุ้นกับเรื่องราวของผู้นำตระกูลที่ต้องวุ่นอยู่กับงานบริหารทรัพย์สินครอบครัวให้งอกเงย ซึ่งวิถีการสร้างรายได้ของผู้ดีโบร่ำโบราณนั้นแตกต่างจากปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง ดูอย่าง Rafael de Medina ดยุคแห่ง Feria ที่ได้ดำเนินรอยตามแบบแผนผู้ดีเป๊ะๆ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาด้านไฟแนนซ์จาก New York และก้าวสู่อาชีพด้านการเงิน แต่หลังจากสืบทอดบรรดาศักดิ์ดยุคในวัยหนุ่มแน่นเพียง 23 ปี เขาก็ริเริ่มจะเปลี่ยนเส้นทางสายอาชีพ ด้วยความสัมพันธ์แนบแน่นกับวงการแฟชั่นซึ่งทำให้เขาได้รับการยกย่องจากสื่อสเปนว่า เป็นหนึ่งในผู้ดีชั้นสูงที่แต่งกายดีที่สุด แม่ของเขายังเคยขึ้นชื่อว่าเป็นนางแบบระดับตำนานของสเปนที่มี connection กับดีไซน์เนอร์ระดับโลก เขาจึงตัดสินใจสร้างแบรนด์เสื้อผ้าหรูของบุรุษ Scalper  และบ่อยครั้งก็ได้แชร์ lifefstyle น่าอิจฉาทาง Instgram เขาหลงรักการปั่นจักรยานทางไกลและล่องเรือยอร์ช รูปโฉมหล่อหลาหุ่นเริ่ดทำให้เขาได้รับการทาบทามให้ถ่ายแบบลงนิตยสารดังรัวๆ เขาโชว์ความหรูหราของนาฬิกาสั่งทำและเสื้อผ้าแคชเมียร์จากแบรนด์ Loro Piana  รวมถึงการเดินทางด้วย private jet ไปยังที่หมายปลายทางอันสวยงามทั่วโลก ภาพลักษณ์ของผู้ดีหนุ่มผู้รักการผจญภัยช่างดูห่างไกลจากการวางตัวตามขนบธรรมเนียมเคร่งครัดของบรรพบุรุษ

ผู้ดีเงินเก่า Gen Z ที่แชร์ lifestyle ผ่าน social media

กาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงอาจจะทำให้เด็กรุ่นใหม่ไม่เห็นความจำเป็นในการยึดติดธรรมเนียมล้าสมัยอีกต่อไป เช่น ค่านิยมการคบหาสมาคมเฉพาะชนชั้นสูงด้วยกัน  ไม่สร้างความสัมพันธ์ข้ามชนชั้น หรือจะเป็นเรื่องการหลีกเลี่ยงการประกอบอาชีพที่จะทำให้คนภายนอกเข้าใจว่า ถังแตกจนจำเป็นต้องเหนื่อยยากตรากตรำทำงานราวกับชนชั้นล่าง แต่ยุคสมัยใหม่ได้เปิดเส้นทางให้เหล่าผู้ดีเงินเก่ามีตัวเลือกทางอาชีพที่หลากหลายมากขึ้น บางคนที่มีความสามารถโดดเด่น ก็ก้าวสู่เส้นทางความฝันเพื่อเป็นมืออาชีพ เช่น นักออกแบบภายใน  ดีไซน์เนอร์ นักแสดง ช่างภาพ ผู้กำกับ หรือแม้กระทั่ง DJ ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายหากจะได้เห็นลูกหลานขุนนางเปิดตัวเข้าสู่วงสังคมชั้นสูงแล้วเซ็นสัญญากับ modeling agency และเน้นประชาสัมพันธ์ตัวเองด้วย social media  

เลดี้ Delphi Primrose สาวสวยทายาทของท่านเอิร์ลแห่ง Rosebery กำลังได้รับความสนใจจากสื่อเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับสาวสังคมเด่นดังคนอื่นๆ เธอได้รับเชื้อเชิญให้นั่ง front row ในแฟชั่นวีค และรับจ็อบถ่ายแบบให้กับแบรนด์หรูอย่าง Yves Saint Laurent และ Dior เธอยังแชร์วีดีโอทางTiktok เรียกยอดเข้าชมหลายล้านครั้ง เธอเลือกคบเพื่อนฝูงคนบันเทิงโดยไม่ได้แบ่งแยกว่าจะต้องมาจากตระกูลขุนนางสูงศักดิ์เหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้น สื่อยังรายงานว่า หนุ่มหวานใจของเธอเป็นนายทหารที่ทำงานในปราสาท Belvoir สถานที่พำนักของครอบครัว Manners ตระกูลขุนนางระดับสูงที่เธอไปมาหาสู่

นิตยสาร Tatler ชี้ว่า เป็นเรื่องไม่แปลกที่จะเห็นเหล่าชนชั้นสูง gen ใหม่หันมาเรียกยอด likes ด้วยวีดีโอโชว์เต้นภายในปราสาท รวมถึงภาพ lifestyle น่าอิจฉา เหมือนกับเจ้าหญิง Maria Carolina และเจ้าหญิง Maria Chiara สองดัชเชสทายาทของเจ้าชาย Carlo ดยุคแห่ง Castro ผู้นำของราชวงศ์ Bourbon Two Sicilies พวกเธอแชร์ชีวิตหรูเริ่ดของชนชั้นสูงให้แฟนๆได้ตื่นตาตื่นใจทาง Tiktok อย่างสม่ำเสมอ  เจ้าหญิงพี่น้องที่สวยสะดุดตาจนถูกเปรียบเทียบว่าเป็น Barbie เติบโตในวิลล่างดงามที่เมือง Saint-Tropez  และและคุ้นเคยกับชีวิต jet setter เดินทางไปพำนักหมุนเวียนระหว่างเมือง Paris, Monte Carlo และ Rome พวกเธอพูดได้หกภาษาอย่างคล่องแคล่ว ให้เดากันเล่นๆ หลายคนก็น่าจะรู้ล่วงหน้าแล้วว่า พวกเธอหลงไหลเรื่องแฟชั่นและผ่านงานถ่ายแบบและร่วมงานกับแบรนด์หรูแห่งยุโรปเป็นประจำ และใฝ่ฝันที่จะสร้างแฟชั่นแบรนด์ร่วมกัน

แม้จะมีเชื้อสายเชื้อพระวงศ์อิตาเลียนและมีบรรดาศักดิ์เป็นดัชเชส แต่ระบอบกษัตริย์ในประเทศอิตาลีถูกล้มล้างไปเมื่อหลายสิบปีก่อน หลงเหลือราชวงศ์ที่สืบทอดบรรดาศักดิ์มายังคนรุ่นหลังแต่ไร้ซึ่งอำนาจการปกครองดังวันเวาน พวกเธอจึงไม่ต้องประพฤติตามกรอบสำรวมเคร่งครัดเหมือนกับราชวงศ์อื่นๆที่ยังรักษาความเป็นสถาบันมั่นคงไว้ได้ ด้านหนึ่งพวกเธอคือสาวสังคมร่วมเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือผู้คน แต่อีกด้านคือ influencer ที่มีจุดขายเรื่องชีวิตติด glam แบบฉบับชนชั้นสูง ถึงพวกเธอจะถ่ายแบบชุดว่ายน้ำลงนิตยสารก็ไม่ถูกจับผิดว่าแสดงออกอย่างไม่เหมาะสมจนเสียชื่อวงศ์ตระกูล

แม้ Lara Cosima (หรือชื่อเต็มคือ เคานท์เตส Maria Lara Cosima Henckel von Donnersmarck สืบเชื้อสายจากตระกูลขุนนางเยอรมนีและออสเตรีย) จะเพิ่งเปิดตัวเข้าสู่สังคมชั้นสูงจากงาน Le Bal des débutantes งานเต้นรำเปิดตัวอันโด่งดังแห่ง Paris เมื่อปีที่แล้ว แต่เมื่อผู้ดีสาววัย 21 ก้าวสู่เส้นทาง Content Creator ก็จุดประกายความสนใจจากชาวเน็ทจนทำให้มีผู้กดติดตามบัญชีทาง Tiktok พุ่งกระฉูดไปถึงล้านคนในระยะเวลาไม่นาน นอกจากชีวิตที่ดูเลิศเลอราวกับคุณหนูสูงศักดิ์ในนิยาย การบอกเล่าเรื่องราวนักเรียนแฟชั่นที่ฝึกงานกับแบรนด์ดังจนได้เดบิวท์บน runway ใน fashion week ในปีนี้ยังเป็นจุดขายที่ทำให้ชาวเน็ทเกาะสนอกสนใจ วีดีโอที่เผยโมเมนท์ตอนเธอเดินสะดุดล้มในขณะถ่ายแบบ หรือว่าจะเป็นตอนตัดผมสีแพลตตินั่มเป็นทรงหน้าม้าในรถระหว่างเดินทางไปชม fashion show สามารถดึงดูดยอดเข้าชมสูงเกินสิบล้าน

แม้จะมีคนเข้ามาเสียดสี Lara ว่า เธอใช้วิธีจัดฉากสร้าง content เพื่อเรียกร้องความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นวีดีโอถูก taxi เมินจนหวิดเข้าร่วม fashion week ไม่ทัน แต่โชคดีมีหนุ่มแปลกหน้าอาสาขับมอเตอร์ไซค์ไปส่ง หรือตอนที่นั่ง front row รอชมการเดินแบบ แล้วจู่ๆผู้จัดได้ส่งคนมาขอความช่วยเหลือให้เธอทำหน้าที่แทนนางแบบที่มาร่วมงานไม่ได้อย่างกะทันหัน แต่ผู้ติดตามบางคนก็ยอมรับว่า ถึงจะดูเหมือนจัดฉากจนขาดความสมจริงไปสักหน่อย แต่ก็พอใจกับความบันเทิงที่เธอมอบให้ แต่แค่เห็นเธอหมุนตัวพริ้วไหวราวกับเจ้าหญิง  Disney ก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจแล้ว ทั้งยังมีภาพฉากหลังเป็นอพาร์ทเมนท์ในแพรีสที่ประดับตกแต่งด้วยศิลปะอันงดงามซึ่งกลายมาเป็นสัญลักษณ์ประจำตัว แฟนๆตามดูวนไปไม่มีเบื่อ

ดราม่ายังไม่จบแค่ประเด็นนี้ เพราะหลายคนยังคลางแคลงใจกับที่มาของความร่ำรวยของ Lara  เกิดเป็นเสียงครหาว่า ตระกูล Donnersmarck เคยมีความเกี่ยวข้องกับพรรคนาซีและสร้างความร่ำรวยจากการกดขี่แรงงานเชลยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ข้อกล่าวหานี้บีบให้เธอต้องเปิดใจอธิบายว่า ครอบครัวของเธอร่ำรวยขึ้นมากจากความสำเร็จของพ่อที่โด่งดังจากอาชีพผู้กำกับหนัง แต่ถึงจะถูกโจมตีเรื่องประวัติความเป็นมาของบรรพบุรุษเพราะเปิดเผยชีวิตสุด perfect  ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า การนำเสนอชีวิตติด glam นี่แหละที่ทำให้เธอสร้างชื่อเสียงใน social media แซงหน้าทายาทตระกูลดังคนอื่นๆ 

ผู้ดีเงินเก่าบางตระกูลอาจจะยึดมั่นความน้อยแต่มากตามวิถี Quiet Luxury และหลีกเลี่ยงการเป็นเป้าความความสนใจจากการอวดความมั่งคั่งแบบโฉ่งฉ่าง แต่หากกลุ่มผู้ดีมีบรรดาศักดิ์จะหันมาโพรโมทชีวิตเลิศเลอเพื่อให้ผู้คนได้ชื่นชมก้ไม่ใช่เรื่องแหวกแนว แม้ว่าเรื่องราวของชนชั้นสูงจะดูเป็นสิ่งที่ดูห่างไกลเกินเอื้อมสำหรับคนทั่วไป และอาจจะมีคนมองว่า หากชนชั้นสูงโอ้อวดความร่ำรวยต่อบรรดาคนทำมาหากินก็ยิ่งจะเป็นการตอกย้ำเรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคม

แต่ในทุกวันนี้ ตัวเลข engagement ทาง social media ย่อมมีความสำคัญต่อการปูทางสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่จดจำ กระทั่งราชวงศ์ชื่อดังในยุโรปก็ยังต้องปรับตัวให้ทันยุคและเปลี่ยนภาพลักษณ์ดูเข้าถึงได้มากกว่าในอดีต หากไม่อยากได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ดีเงินเก่าที่เป็นที่รู้จักในวงสังคมแคบๆ และเพิ่มแรงดึงดูดให้เหล่าแบรนด์ชั้นนำหันมาให้ความสนใจ ก็ต้องเลือกใช้ social media ให้เป็นประโยชน์ เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่อยากรู้อยากเห็นถึงวิถีชีวิตของผู้ดีเลือดสีน้ำเงินเหล่านี้