6 รองพื้นคุมมัน สำหรับสาว 3วัย 3สภาพผิว
PkoPko 49 17สวัสดีค่า ทุ้กกคน มีใครเคยมีปัญหาเรื่องการเลือกรองพื้นแบบเราบ้างไหมคะ? อ่านรีวิวก็เยอะ ดูบล็อกเกอร์รีวิวอีกตั้งแยะ อันไหนๆก็ดูน่าใช้ไปหม๊ด เลือกไม่ถูกเลยซักที
กระทู้นี้เราตั้งใจทำขึ้นเพื่อแชร์ข้อมูลการทดสอบรองพื้น ที่ทำการเทสต์ร่วมกับช่างแต่งหน้ามือหนึ่งที่แต่งหน้าให้นางแบบ-นายแบบที่ไปออกงานอีเว้นท์ของห้างดังๆในกทม. (เพื่อนกันนั่นเอง ช่วงนี้งานอีเว้นท์ยกเลิกหมด นางว่างค่า เลยมีเวลามาเล่นกับเรา 555)
โจทย์ของเราคือ อยากได้
“รองพื้นคุมมัน ที่ได้งานผิวดี เป็นธรรมชาติ & ราคาสบายกระเป๋า คุณภาพเทียบเท่าเคาน์เตอร์แบรนด์ ”
และนี่คือ 6 รองพื้นคุมมัน Recommended by Make up Artistที่ช่างแต่งหน้าแนะนำให้ลองคร่า
รองพื้นที่เลือกมาวันนี้ เราจะจับคู่กันระหว่างรองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์และรองพื้นจาก drugstore หรือแบรนด์ออนไลน์ทั่วไป โดยพิจารณาจากฟินิชชิ่งหลังแต่งเสร็จ และประสิทธิภาพการปกปิดและความคุมมัน ที่ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกัน ดังนี้ค่ะ AกับB, CกับD และ EกับF
ขอเบลอชื่อรองพื้นเอาไว้ก่อนนะคะ เพื่อความยุติธรรมในการรีวิว (เราจะเฉลยกันอีกทีท้ายรีวิวค่า)
ลองเกลี่ยเนื้อรองพื้นกันดูนะคะ รองพื้น A, B, C, D เนื้อจะค่อนข้างเบา ลื่น เกลี่ยง่าย ส่วนรองพื้น E, F จะค่อนข้างแมตต์ แห้งไว ต้องรีบเกลี่ยนิดนึงค่ะ
รีวิวนี้เราทำการทดสอบกับนางแบบ 3วัย (20, 30 และ 40 ปี) ที่มีสภาพผิวแตกต่างกัน และเพื่อให้ได้คำตอบที่เป็นจริงไม่เอนเอียง ในการเทสต์เราจะไม่ให้คนทดสอบทราบว่าช่างใช้รองพื้นยี่ห้ออะไรค่ะ
ผู้ทดสอบคนที่1: “น้องยุ้ย” ตัวแทนสาวรุ่น วัย 20 ปี
สภาพผิว: ผิวแห้ง แพ้ง่าย
ปัญหาผิว: จุดด่างดำ รอยสิว และผดเล็กๆ
“หนูไม่ชอบหน้าตัวเองที่มีขี้แมลงวันกระจายเต็มใบหน้า อยากได้รองพื้นที่สามารถปกปิดขี้แมลงวันได้แบบเนียนๆค่ะ”
ผู้ทดสอบคนที่2 “ฝน” ตัวแทนสาวทำงาน วัย 30 ปี
สภาพผิว: ผิวผสม (ผิวแห้งบริเวณแก้ม แต่บริเวณทีโซนมีความมัน)
ปัญหาผิว: ฝ้า กระ จุดด่างดำ และสีผิวไม่สม่ำเสมอ
“ด้วยความที่เราเป็นคนผิวขาวมาก เลยหาสีรองพื้นที่เหมาะกับตัวเองยาก (ส่วนมากจะเข้มไป หรือไม่ก็ขาวเกินไปทาแล้วทำให้หน้าดูลอย) และพอใช้รองพื้นสีอ่อนมากๆ ก็จะไม่ค่อยปกปิดฝ้าที่แก้มได้เท่าไหร่”
ผู้ทดสอบคนที่ 3 “พี่พลอย” ตัวแทนสาว วัยกลางคน 40 ปี
สภาพผิว: ผิวมัน(มาก)
ปัญหาผิว: สิว ริ้วรอย จุดด่างดำ
“พออายุมากขึ้น ปัญหาผิวมาครบทุกอย่างเลย ทั้งรูขุมขนที่กว้างขึ้น สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ สิวฮอร์โมน ริ้วรอยตรงร่องแก้มและหางตา ส่วนขี้แมลงวันพี่มีเยอะตั้งแต่สมัยสาวๆแล้ว ต้องใช้รองพื้นที่ปกปิดสูงหน่อย ปัญหาอีกอย่างที่กังวลใจคือเราเป็นคนหน้ามันไว รองพื้นหลุดง่ายมาก”
มาเริ่มเทสต์กันเลยค่ะ
1. Finishing Test เปรียบเทียบประสิทธิภาพงานผิว :เราจะทารองพื้นคู่จิ้นที่เลือกไว้ อย่างละครึ่งใบหน้า แล้วทดสอบเปรียบเทียบประสิทธิภาพกัน
โดยช่างแต่งหน้ามือทองของเราจะเป็นคนจัดการทาให้ในปริมาณที่เท่ากัน และเพื่อให้เหมือนกับการแต่งหน้าจริงในชีวิตประจำวัน ก่อนทารองพื้นจะมีการทาMoisturizer + กันแดด+ไพรเมอร์ ให้ผู้ทดสอบก่อนลงรองพื้นค่ะ
ดูผลลัพธ์จากภาพเปรียบเทียบไปด้วยกันเลยนะค้า
Comment : รองพื้นทั้งหมด หนูว่ามันดีทุกตัวเลยนะ ทาออกมาแล้วผิวเนียนดีค่ะ ถ้าเทียบเฉพาะหัวข้อเรื่องการปกปิดแล้วหนูให้คะแนน E > F > A > D > C > B ตามลำดับค่ะ แต่ถ้าถามความชอบส่วนตัว รองพื้น EและF เค้าปิดขี้แมลงวันได้มิดเลยก็จริงนะ แต่ผิวดูแห้งไปเป็นขุยเหมือนขาดน้ำ ด้วยความที่เราผิวค่อนข้างแห้งอาจจะไม่เหมาะค่ะ คิดว่าแค่ปกปิดระดับMedium ประมาณ A, B, C, D ก็เพียงพอแล้วนะ ใน4ตัวนี้ ถ้าให้เลือกก็คงเป็น C กับ D ค่ะ เพราะผิวดูฉ่ำ ชุ่มชื้น ดูใสๆแบบสาวเกาหลี
ส่วน A กับ B ก็โอเคค่ะ ปกปิดได้พอๆกัน แต่สำหรับหนูมันดูแห้งไปนิด
Comment : เทียบกันเรื่องผลลัพธ์ ฝนชอบรองพื้น D ที่สุดค่ะ เพราะปิดฝ้าได้มิด แต่ผิวยังดูฉ่ำ เปล่งประกาย ได้งานผิวดูแพง
รองลงมา คือ C , A, E ปกปิดได้ค่อนข้างดี ส่วนB งานผิวเขาโอเคนะคะ ดูโกล์ใส แต่โทนสีขาวของเค้าอาจจะไม่เหมาะกับผิวเรา เพราะทาแล้วหน้าดูซีดหน่อยๆ ที่ฝนไม่ค่อยปลื้มเท่าไหน่คือรองพื้น F ค่ะ ดูแมตเกินไป ผิวแห้ง ตกร่อง เห็นริ้วรอยชัดเจนกว่ารองพื้นตัวอื่นๆ (ไม่อยากดูแก่ก่อนวัยอ่า)
Comment : สำหรับพี่ที่ต้องการการปกปิดสูง รองพื้น E และ Fดูจะตอบโจทย์เรื่องนี้ ปิดมิดทั้งกระ ฝ้า สิว พี่เป็นคนผิวมันเลยไม่ค่อยmind เรื่องหน้าแห้งซักเท่าไหร่ จะกังวลก็แค่ตรงใต้ตากับหางตาที่อาจจะดูแห้งไปนิด ซึ่งรองพื้นF ตรงใต้ตาดูจะแคร๊กตกร่องนิดๆ
ถ้าเทียบเรื่องงานผิว พี่ชอบรองพื้น C, A, D ตามลำดับนะ ปกปิดกลางๆ แต่ผิวยังเป็นผิว เหมาะกับการแต่งไปเดินเล่น ชอปปิ้งสบายๆ คือไม่เป๊ะเวอร์วังแต่ยังโชว์ผิวได้ ส่วนรองพื้น B น่าจะเหมาะกับเด็กๆที่ปัญหาผิวน้อย เพราะปกปิดน้อย ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติหน่อยเราให้ผู้ทดสอบทารองพื้นทิ้งไว้ จากนั้นให้ไปนั่งเล่นโทรศัพท์เพลินๆที่สวนหน้าบ้าน กับสภาพอากาศร้อนอบอ้าวของต้นเดือน พ.ค. เป็นเวลา 3ชม. ให้ใบหน้าเหนอะหนะได้ที่ แล้วถ่ายรูปเปรียบเทียบกัน
มาดูสภาพผิวหน้า หลังอยู่ข้างนอก มา 3ชม.กันค่ะ (แสงอาจจะเปลี่ยนไปบ้างนะคะ เพราะเทสต์กันทั้งวัน แต่พยายามถ่ายที่เดียวกัน มุมเดียวกัน ให้ได้แสงที่ใกล้เคียงกันที่สุด)
ดูด้วยตาเปล่าอาจจะไม่ชัดเจนเท่าไหร่ เพราะรองพื้นทั้ง6ตัวนี้ ช่างแต่งหน้าเขาการันตีมาแล้วว่าคุมมันดีเยี่ยมขึ้นแท่นแต่งให้นางแบบออกงาน/ถ่ายแบบได้ทั้งวัน คือคัดสรรมานำเสนอแล้วนั่นแหละ ดูจากภาพผู้ทดสอบแต่ละคนคือแค่มีความวาวนิดๆตรงหน้าผากและปลายจมูกเท่านั้น
เราเลยต้องพิสูจน์ให้ชัดเจนขึ้น ด้วยการซับหน้าด้วยกระดาษซับมัน (ช่างแต่งหน้าของเรา นางซับหน้าแบบจริงจังมากเลยนะคะ พยายามกดๆให้กระดาษดึงความมันออกมาให้ได้มากที่สุด)
เท่านั้นยังไม่พอค่ะ... จากนั้น ลองเอาน้ำเปล่าฉีดหน้าผู้ทดสอบแต่ละคน ให้เปียกโชกกันไปทั้งหน้า ทิ้งไว้ 1นาที ให้รองพื้นคลายตัว แล้วเอากระดาษทิชชู่ซับน้ำออก (แนบภาพให้ดูเล่นๆว่าเราเทสต์กันจริงจังขนาดไหน โดนพ่นน้ำกันถ้วนหน้าจ้ะ 555)
มาดูผลการทดสอบกันดีกว่าค่ะ
ผลลัพธ์ออกมาในทางเดียวกัน รองพื้น E & F ชนะเลิศด้านความคุมมัน ผลรองลงมาคือ A C D ที่ผลออกมาดูใกล้เคียงกัน และ B ท้ายสุด
ความกันน้ำอาจจะแตกต่างกันไปตามสภาพผิว รองพื้นมีแนวโน้มจะหลุดลอกได้ง่ายกว่าในสภาพผิวแห้ง ซึ่งรองพื้น E & F ก็ชนะเลิศในด้านความกันน้ำเช่นกัน (ยกเว้นในผู้ทดสอบผิวแห้ง ที่E&F หลุดลอกออกมากกว่า)
หลังการทดสอบ เราขอให้ผู้ทดสอบแต่ละคน เลือกรองพื้นที่ชอบที่สุด 2ตัว (ทีแรกเราให้เลือกแค่1 แต่เห็นแต่ละคนดูลังเล ตัดสินใจกันยากนัก เลยอนุโลมให้เลือกมา 2ตัวเลยละกัน)
ผลคะแนน
ผู้ทดสอบคนที่ 1: “น้องยุ้ย” ตัวแทนสาวรุ่น วัย 20 ปี
เลือกรองพื้น A และ D เหตุผลโดนใจคือ
“หนูชอบงานผิวแบบนี้มากค่ะ ปกปิดแบบไม่หนาไม่โบ๊ะ สวยใสสไตล์สาวเกาหลี & กันน้ำและคุมมันได้ดี พอเพียงสำหรับคนผิวแห้ง แค่นี้ก็ยิงยาวได้ทั้งวัน”
ผู้ทดสอบคนที่ 2: “ฝน” ตัวแทนสาวทำงาน วัย 30 ปี
เลือกรองพื้น C และ D เหตุผลโดนใจคือ
“ฝนให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการปกปิดมาเป็นอันดับหนึ่งเลย เพราะเราต้องทำงาน ต้องออกไปพบปะผู้คนเยอะ(ทำงานด้านการขาย) ภาพลักษณ์ต้องดูดีไว้ก่อนค่ะ รองพื้น C และ D ปกปิดในระดับที่ฝนพอใจ ให้งานผิวที่เนียนสวย Glow ดูแพง แต่งหน้าต่อได้ง่ายค่ะ”
ผู้ทดสอบคนที่ 3: “พี่พลอย” ตัวแทนสาววัยกลางคน 40 ปี“
เลือกรองพื้น C และ E เหตุผลโดนใจคือ
“สองจิตสองใจและลำบากใจมาก ว่าจะเลือกตัวไหนดี ถ้าโฟกัสที่การคุมมันและปกปิดสูง พี่เลือกE ซึ่งเหมาะกับการแต่งหน้าไปออกงาน ที่ต้องการความเป๊ะมากๆ หรือวันที่ต้องทำกิจกรรมนอกบ้านนานๆ(เพราะคุมมันได้ดี) แต่ก็ต้องแลกมากับเวลาในการทำความสะอาดใบหน้าที่มากขึ้นตอนล้างออก ส่วนถ้าเป็นรองพื้นที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้บ่อย พี่เลือก C และ Dค่ะ ให้งานผิวใกล้เคียงกัน ปกปิดได้ในเลเวลที่ไม่อายใคร ผิวสวยแบบดูเป็นธรรมชาติกว่า ทำให้ดูหน้าเด็กลง ให้คะแนน C มากกว่า D นิดนึงตรงที่คุมมันได้มากกว่ากันนิดหน่อย ”
มาถึงจุดนี้คิดว่าผู้อ่านน่าจะอยากทราบกันแล้วว่ารองพื้นคุมมัน ที่เราหยิบยกมารีวิวกันวันนี้มีอะไรบ้าง
และนี่คือ... ภาพเฉลยค่า
รายละเอียดและสรรพคุณของสินค้า (ตามที่แบรนด์เคลม)
- รองพื้น A : CHANEL MAT LUMIERE (SPF15, 30ml 2,120 THB) รองพื้นเพื่อผิวเรียบเนียน บางเบาดุจผิวชั้นที่สอง นวลเนียน ดุจกำมะหยี่ เนื้อสัมผัสแบบฟลูอิด เนื้อแมทท์ เบาบาง กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับผิว ให้ผิวแลดูเปล่งประกาย ไร้ที่ติ
- รองพื้น B : MTI JOY ONE (SPF30, 35ml 795 THB) รองพื้นที่ดังในหมู่ช่างแต่งหน้า พัฒนาจากการถ่ายภาพสตูดิโอ ให้เนื้อผิวที่ตัดแสงแฟรชและความละเอียดระดับ HD ได้ภาพที่มีมิติ เป็นเนื้อครีมโปร่งแสง แต่สามารถควบคุมสีผิวด้วย “ LUMINIOUS CONTROL PEARL POWDER ” ช่วยให้ผิวสว่างนานตลอดวัน ไม่หมองคล้ำ บำรุงด้วยสารละลาย Collagen และ ไฮโดรไลซ์ โปรตีน
- รองพื้น C : GIORGIO ARMANI LASTING SILK UV FOUNDATION (SPF20, 30ml 2,250 THB) รองพื้นที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Micro-fil™ technology ปกปิดได้ดี แต่ทว่าก็บางเบาขั้นสุด สูตรออยล์ฟรี ควบคุมความมันส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูกระจ่างใสสุขภาพดี
- รองพื้น D : LUCIA BABY SKIN FOUNDATION (SPF30 PA+++, 30ml 690 THB) รองพื้นสูตร Liquid Cream นำเข้าจากเกาหลี เนื้อเค้าจะไม่ข้นไม่เหลวจนเกินไป เกลี่ยง่าย ใช้ได้กับทุกสภาพผิว ปกปิดดีมาก แต่บางเบาไม่หนักหน้า คุมมันยาวนาน ผสานคุณค่าจากสารสกัดแพลงตอนและครอเรลลา ให้ผิวดูชุ่มชื้น ดูผิวสุขภาพดี ผิวสวยตลอดวัน
- รองพื้น E : ESTEE LAUDER DOUBLE WEAR STAY IN PLACE (SPF10 PA+++, 30ml 2,000 THB) รองพื้นที่ขายดีอันดับ 1 ของเอสเต ลอเดอร์ มอบการปกปิด ติดทนยาวนานตลอดวัน ผิวดูสวยไร้ที่ติ
- รองพื้น F : L’OREL INFALLIBLE 24HR MATTE COVER (SPF25, 30ml 399 THB) รองพื้นเนื้อแมต สูตรน้ำ ติดทนนานตลอด 24 ชั่วโมง ปกปิดขั้นสุด ทั้งริ้วรอยและจุดด่างดำได้อย่างเรียบเนียน ควบคุมความมันด้วย Shine Defy Blotting Spheres ช่วยดูดซับเหงื่อและน้ำมันใต้ผิวหนังอย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำให้เม็ดสีในตัวรองพื้นนั้นเปลี่ยน • พร้อมด้วยคุณสมบัติกันเหงื่อกันน้ำ
ขอขอบคุณช่างแต่งหน้า
สุดท้ายนี้เราขอแนะนำช่างแต่งหน้าแสนน่ารัก ที่สละเวลามาช่วยแต่งหน้าเทสต์กับเราในวันนี้
ช่างกอล์ฟ เป็นช่างแต่งหน้ามือทองแห่งพระนคร ที่แต่งหน้าให้เหล่าดารา นักแสดง นางแบบนายแบบชั้นนำ อีกทั้งยังมีส่วนร่วมในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยไปสู่ต่างแดน เป็นตัวแทนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เดินสายจัดการแสดงอย่างบ่อย ทั้งในประเทศและต่างประเทศบททิ้งท้ายจากช่างแต่งหน้า
“ในฐานะที่เราเป็นช่างแต่งหน้า เวลาจะเลือกรองพื้นแต่งหน้าให้ลูกค้า เราจะดูที่สภาพผิวและจุดประสงค์ในการแต่งหน้านั้นๆ แต่งหน้าเพื่อไปออกงานกลางวัน กับ กลางคืน ก็ใช้รองพื้นคนละตัวกัน แต่งหน้าเพื่อถ่ายภาพในสตูดิโอ กับ งานกลางแจ้ง ก็ใช้รองพื้นคนละแบบ ซึ่งรองพื้นแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น เขาก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน เราไม่จำเป็นต้องใช้รองพื้นแค่ตัวเดียวนะ สามารถเอามาผสมกันได้ เทคนิคของกอล์ฟคือ จะเอาจุดเด่นของรองพื้นที่เราต้องการมารวมร่างกัน เช่นอยากปกปิดมากๆ(รองพื้นสูตรปกปิด ส่วนใหญ่เนื้อจะค่อนข้างหนา) แต่ไม่อยากให้เนื้อแมต หนักหน้าเกินไป เราก็จะเอารองพื้นเนื้อGlow มาผสมด้วยนิดหน่อย เพื่อเพิ่มมิติให้ผิว
กอล์ฟคิดว่า “ราคา” ไม่ได้มีผลต่อประสิทธิภาพของรองพื้นมากมายนัก จะเห็นได้จากรองพื้นคุมมันทั้งหมด ที่กอล์ฟนำมาเทสต์ให้ดูวันนี้ รองพื้นที่แม้ว่าจะอยู่ใน segment ราคาต่างกัน แต่ก็ให้ผลลัพธ์เทียบเคียงกันได้ ที่ต้องเทสต์แบบปิดยี่ห้อไว้ ก็เพราะกอล์ฟไม่อยากให้สังคมไทยยึดติดกับแบรนด์มากเกินไป อยากให้มองกันที่คุณภาพมากกว่า ยิ่งในเศรษฐกิจแบบนี้รองพื้นที่ราคาย่อมเยาว์ แต่คุณภาพดี ยังมีให้เลือกใช้อีกเยอะครับ