รีวิวละเอียด Jergens Ultra Healing ฉบับสาว(เคย)ผิวแห้งกร้านและย่ำแย่มากๆ + แนะนำสำหรับคนที่อยากลอใช้
believe_yours 8 6สวัสดีจ้าาา นี่เป็นกระทู้แรกของเราในเว็บJebanเลย หลังจากที่เป็นนักอ่านและผู้ที่เสพรีวิวจากบิวตี้บล็อกเกอร์คนอื่นๆในเว็บนี้บ่อยๆ55555 ถ้ามีอะไรผิดพลาดหรืองงๆอะไรตรงไหนก็ต้องขอโทษก่อนเลยเนอะ
วันนี้เราขอมารีวิว+แนะนำไอเท็มบำรุงผิวที่เราชอบและเลิฟมากกกกกก เราอินกับตัวนี้มาได้ประมาณปีนึงละ ตั้งแต่ได้ใช้มาเราก็ไม่เปลี่ยนใจไปใช้ยี่ห้ออื่นอีกเลย ต้องกราบขอบพระคุณคุณแม่และคุณน้าเรางามๆเลยที่แนะนำตัวนี้กับเราในวันที่สภาพผิวเราตอนนั้นย่ำแย่มากๆๆๆๆๆๆๆๆถึงมากที่สุด จนตอนนี้ผิวเราดีขึ้นมาก(แต่ก็ไม่ถึงกับดีเลิศเพอร์เฟ็คขนาดนั้นอะนะ)
ก่อนอื่นเราก็ขอพูดถึงตัวผลิตภัณฑ์ สภาพผิว และไลฟ์สไตล์ของเราในวันที่เริ่มใช้ก่อนเนอะ
สีผิว :: น้ำผึ้ง-แทน แล้วแต่ช่วง
สภาพผิว :: ผิวแห้ง(มากๆๆๆๆๆๆ) ยังหาครีมที่ทาครั้งเดียวแล้วอยู่รอดโดยที่ผิวไม่แห้งตลอดทั้งวันไม่ได้ อย่างดีคือผิวสามารถชุ่มชื้นได้มากสุดก็ประมาณ3ชั่วโมง มีอาการผิวที่แห้งลอกเป็นวงเป็นจุดๆตามแขนเนื่องจากใช้สบู่ยี่ห้อนึงละแพ้หนักมาก ถ้าไม่ได้รับการบำรุงจะแอบคันๆอยู่นิดๆ ผิวไม่เรียบเนียน
ไลฟ์สไตล์ :: โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในห้องแอร์หรือในที่ร่ม ไม่ค่อยมีกิจกรรมที่ต้องออกเหงื่อหรือต้องทำกลางแจ้งซักเท่าไหร่ (ถ้าไม่จำเป็นจริงๆอะนะ5555)
ผลิตภัณฑ์ :: รู้จักและเห็นผ่านตามานานละแต่ไม่เคยคิดจะซื้อเพราะ1.ไม่เคยใช้มาก่อนกลัวแพ้อตนนั้นยิ่งเพิ่งแพ้จากสบู่มาด้วย 2.ใช้ครีม+ผลิตภัณฑ์ต่างๆรักษามาหลายปีแต่ก็ไม่หายเลยคิดว่าตัวนี้ก็คงไม่ต่าง 3.ตอนนั้นยังไม่ค่อยมีใครใช่+ไม่มีรีวิวเลยขอไม่เสี่ยง (แล้วตอนนี้ละ เป็นไง กลายเป็นลูกรักลูกเลิฟไปแว้วววว)
เนื้อ :: ที่เคยอ่าน+ดูรีวิวผ่านๆคนส่วนใหญ่จะบอกว่าเนื้อหนัก เกลี่ยยาก การซึมปานกลาง แล้วก็ค่อนข้างเหนอะหนะ แต่สำหรับเราคือเนื้อไม่ได้หนักและหนาแค่เวลาทาวนจนซึมหมดแล้วมันจะเหมือนมีอะไรบางๆมาเคลือบผิวอะ แต่สบายผิวนะ ไม่เหนอะหนะ กำลังดีเลย ทาทีเดียวอยู่ได้ยันพรุ่งนี้เช้าอะ ปริมาณนิดเดียวสามารถทาได้บริเวณกว้างเด้อเพราะว่านางต่อนข้างเข้มข้นและชุ่มชื้น
กลิ่น :: ไม่ได้หอมแบบน้ำหอมนะ เป็นหอมแบบสะอาดๆฟีลเหมือนเพิ่งอาบน้ำเสร็จอะ กลิ่นอ่อนๆ คือถ้าไม่เข้ามาระยะประชิดก็จะไม่ได้กลิ่นอะ ไม่ได้ติดผิวตลอดทั้งวันนะ ซัก3ชม.ก็ไม่มีกลิ่นละ แต่ดีนะ เพราะเวลาเราจะฉีดน้ำหอมอะกลิ่นจะไม่ตีกัน
ปริมาณ :: ที่เราใช้ก็ตามรูปข้างต้นเลยขนาด813มล. เป็นแบบที่เพิ่มปริมาณ25% ขนาดปกติแบบไม่เพิ่มของมันก็650มล.อะ แต่ถ้าใครอยากได้ขนาดอื่นๆก็สามารถไปลองหาซื้อได้นะ ที่เคยเห็นก็มีตั้งแต่ขนาดหลอดพกพา100มล.ไปจนถึงขวดปั้ม650มล.เลย
อะ เข้าเรื่อง คือก่อนได้ลองโลชั่นตัวนี้ผิวเราคือแห้งกร้าน มีร่องรอยจากอาการแพ้สบู่เมื่อหลายปีที่แล้วที่ดีขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่ได้หายอะ ถ้าอธิบายให้เห็นภาพก็คงเหมือนหน้าปกนิยายที่มันจะมีส่วนที่นูนๆลื่นๆขึ้นมาเพิ่มเน้นจุดใช่ปะแล้วพื้นที่ที่เหลือก็จะแบบ..แห้งๆไรเงี่ย เวลาเราลูบไปก็จะสะดุดใช่ม่ะ ผิวเราก็อารมณ์นั้นเลยแต่แครกลับกันที่ผิวส่วนใหญ่จะลื่นๆเป็นผิวปกตืแต่ส่วนที่มีอาการจะเป็นวงแห้งๆที่ผิวลอกถึงทาครีมทาโลชั่นแล้วแต่ก็ไม่ช่วย
จนวันหนึ่งแม่เราเห็นเราใช้โลชั่นยี่ห้อนึงละแม่นางก็ทักว่ามีโลชั่นที่นางใช้ละดีกว่าตัวนี้อีกนะ(ไม่บอกยี่ห้อด้วยนะ) เพราะนางก็เคยใช้ตัวนี้ที่เราใช้อยู่ที่ไม่เวิร์คเหมือนกัน พอดีกับรุ่นน้องที่ทำงานแม่นางแนะนำตัวนี้ให้พอดีเลยเปล่ยนมาใช้คือดีมาก อย่างงั้นอย่างงี้บลาๆๆๆๆๆ (ปล. เราไม่ได้อยู่กับแม่เนอะ จะเจอกันช่วงที่เป็นholidayยาวๆที่นางจะสามารถลาพักร้อนได้นานๆเช่น ช่วงเมษา ช่วงตุลา เป็นต้น) ถามว่าตอนนั้นอินี่เชื่อไหม บอกเลยจ้าว่าไม่ค่อย แล้วตอนนั้นกำลังจะไปช็อปกันพอดีนางเลยพาไปซื้อ เราก้แบบอืมๆ สูตรนี้ก็ได้เพราะว่าที่ผ่านมาต้องใช้โลชั่นที่ชุ่มชื้นขั้นสุดของสุดของสุดตลอด(นั้นขนาดสุดละนะก็ยังเอาผิวอินี้ไม่อยู่ถึงจะไม่อยู่ห้องแอร์ก็เหอะ) สรุปวันนั้นกลับมาลองจ้าา ถามสิว้าวไม่ว้าว แทบช็อคไปเลย คคือแบบ..เห้ยยยยย ดีเว่อร์ อินี่ไปอยู่ที่ไหนมา ทำไมไม่ยอมใช้ตั้งแต่แรกกกกก นี่คือfirst impressionนะก็เอาใจไปละระดับหนึ่ง ก็ใช้ต่อมาเรื่อยๆ เห้ยย effectที่ได้หลังจากการใช้แค่ไม่นานคือมันจะเกินคาดเกินไปละ
คืองี้ หลังจากใช้ไปได้ไม่นานใช่ปะ ประมาณเดือนนึง-เดือนกว่าๆมั้งคือรู้สึกได้เลยอะว่าผิวเรียบเนียนขึ้น บริเวณที่มีอาการแพ้ผิวไม่ลอกแล้วเหลือแต่แบบ...เป็นตุ่มๆอะ(ไม่รู้จะอธิบายไง) ผิวลื่นขึ้นถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทา สักพักนึง เอ๊ะ ทำไมผิวบริเวณที่มีอาการแพ้ถึงเริ่มเนียนกับผิวที่ปกติมากขึ้น ณ ตอนนั้นอารมณ์แบบso amazingเว่อร์อะ5555555