Review : พลีชีพ! แต่งหน้ายังไงให้ทน!
แหวนเพชร บัววดี 10 3เอาละค่ะ กระทู้นี้เรียกว่าพลีหน้าศพ หน้าสด กระทู้ฆ่าตัวตายเลยก็ว่าได้ อยากจะขอมาแชร์ประสบการณ์การแต่งหน้ายังไงให้ติดทน จริงๆมันง่ายมากกก ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย ก่อนอื่นขอบอกสภาพผิวหน้าเราหน่อย หน้าเราจะค่อนข้างไปทางแห้ง แต่งหน้าลงแป้งยังไงก็ไม่ค่อยติด ระหว่างวันต้องเติมซ้ำบ่อยๆ เครื่องสำอางแพงแค่ไหนก็เอาไม่อยู่อ่ะไม่ค่อยมีความมั่นใจต้องส่องกระจกตลอดว่าหน้าจะลอกไหม จะเป็นคราบไหมส่วนมากเครื่องสำอางที่เราใช้มันค่อนข้างสำหรับคนหน้าแห้งควบคุมความมันและ Dewy หน่อยๆ เป็นพวกบ้าการแต่งหน้าเทรนเกาหลี เงาๆ ฉ่ำเลยก็ว่าได้เสียเงินลองมาหลายอย่างแล้วค่ะ สุดท้ายค้นพบแล้วว่าการบำรุงผิวก่อนนอนให้แน่นคือเคล็ดลับที่จะทำให้การแต่งหน้าวันต่อไปติดทนที่สุด คอนเฟิร์ม!
มาเริ่มกันเลยธรรมดาง่ายๆนิดเดียว
เหล่านี้คือหน้าตาของเครื่องสำอางที่เราใช้นะคะ จะเห็นว่าเป็นชะนีที่ใช้ไม่เยอะเล้ยยย ใช่ไหมคะ?
ขั้นตอนแรก หลังจากที่เราลงครีมบำรุง กันแดดเสร็จ ต่อด้วยการฉีดน้ำแร่เลยค่ะ
เราขอเรียกขั้นตอนนี้ว่าขั้นตอนการเตรียมผิวค่ะ เราจะฉีด ยูเซอรีน HYA Mist Spray ก่อนจะลงรองพื้นใช้เหมือนเป็นเซ็ทติ้งสเปร์ยก่อนแต่งหน้าเลยก็ว่าได้ เลือกมาแล้วว่าสเปร์ยตัวนี้มีไฮยาลูลอน เหมือนช่วยอุ้มน้ำให้ผิวเราได้ดีหน้าก็จะชุ่มชื้น ซึ่งสาวหน้าแห้ง หน้าลอก แต่งหน้าติดไม่ทนแบบเราชอบมากก หน้าก็จะสดๆหน่อย สเปร์ยตัวนี้เราชอบละอองมันมากกละเอียดนุ่มๆ น้ำไม่เป็นก้อนๆในรูปแอบเติมสีลิปไปนิดนึงกลัวเพื่อนๆ ตกใจ
ขั้นตอนที่2
เตรียมผิวหน้ากันแล้ว ลงรองพื้นกันเลย เราเลือกใช้เป็น Cushion ค่ะ อย่างที่บอกชอบสายเกาหลีๆ ก็ต้องจัด Cushion หน่อย ตัวนี้พุ่งตัวไปซื้อเพราะอยากจะสวยเหมือน “แต้ว” สักหน่อย ตัวนี้คือ The face shop Cushion เราใช้เบอร์ N2 สีจะออก Natural หน่อย จะไม่คุมมัน แต่ตัวนี้จะไม่วาวมากสามารถใช้กับประเทศไทยได้ค่ะ
ขั้นตอนที่3
ลง Cushion เสร็จขั้นตอนต่อมาลงจะลง Cream blush illamasqua สีออกชมพูตุ่นๆ จำเบอร์ไม่ได้ค่ะ เลือนลางไปหมดแล้ว บรัชแบบเนื้อครีมจะติดทนเหมือนเป็นเบสให้เราทาแบบฝุ่นและติดทนมากกว่าค่ะ เราชอบใช้ยี่ห้อนี้สีสวยติดทน เกลี่ยง่ายยมาก สภาพก็จะเยินๆหน่อยเพราะไว้ในรถโดนแดดละลายหมดเลยค่ะ
ขั้นตอนที่4
ลงพวกเนื้อครีมเสร็จต่อไปมาเซทด้วยแป้งฝุ่นให้พร้อมกับการลงสีสันบาหน้าหน่อยค่า ตัวนี้จะบอกว่าถูกและดีเลย คือแป้ง rimmel stay matte pressed powder แป้งตัวนี้ยอดฮิตตลอดกาล ฝากเพื่อเหมามาจากอเมริกาเลย ชอบเพราะถูกด้วยดีด้วย
ขั้นตอนที่5
มาค่ะถึงขั้นตอนมงกุฎของหน้าแล้วค่ะ คือการเขียนคิ้วนั้นเอง ตัวนี้ใช้ของใน Nami มีขายตาม 7-11 เลยค่ะ เขียน มีหัวฟองน้ำด้วย เขียนไปตามรูปทรงคิ้วเราเลยค่า ง่ายมั๊ก ชอบเขียนทรงตรงๆ ตามเทรนสายเกานั้นเอง
ขั้นตอนที่6
เหนื่อยกันอะยังคะ แต่คนเขียนเริ่มเหนื่อยแล้ววว 555+ ขั้นตอนการลง eye shadow กันบ้างอันนี้เรามีอีกทริคะนึงมาฝากถ้าใครไม่มี primer นะคะ เราใช้ spary น้ำแร่ hya mist ฉีดตรงหัวแปรงแล้วแตะสี eye shadow จะบอกว่ามันเวิคมากก ช่วยให้สีตาติดทนตลอดทั้งวันเลยอ่ะ ลุคการแต่งก็จะแต่งโทนน้ำตาลค่ะ ง่ายและดูดีด้วย (อันนี้พูดเอง แหะๆ) เสร็จแล้วก็กรีดตาได้
ขั้นตอนที่7
ขั้นตอนเกือบสุดท้าย แต่ยังไม่ท้ายสุดน๊าขอรวบเป็นขั้นตอนเดียวกันเลย เพราะไม่มีอะไรยากเลยขั้นตอนนี้ ปัดแก้มใช้ของ Tart ตัวนี้ pigment แน่นมากกก ปังเว่อ ปัดทีเดียวแก้มเป็นตูดลิงเลย ต้องระวัง และลงลิปสติกของ Rasa เป็นแบรนด์ใน Facebook ตัวนี้ทำจากธรรมชาติสีสวยดีเลยซื้อมาลองค่า
Finishing กันด้วยการฉีดสเปร์ยไปอีกรอบ ใช้ยูเซอรีนตัวเดิมนั้นแหละย้ำๆกันเข้าไป
หน้าแน่นแล้วไปพิสูจน์กัน วันนี้ก็จะลองไปใช้ชีวิตข้างนอกบ้านสัก 5-6 ชั่วโมงนะคะ เดี๋ยวลองมาดูผลกันว่าหน้าจะแน่นนานแค่ไหน
กลับมาแล้วววววววว นี่คือถ่ายหลังจาก fitness เสร็จเบรินหนักมากกก คนคงแปลกใจ ออกกำลังกายทั้งวิ่ง+เข้าคลาส หน้าก็ยังไม่หลุด ที่สำคัญหน้าแน่นไปออกกำลังกาย 555 อย่าได้แคร์ค่ะ แต่สีปากก็จะเบาลงเพราะกินทั้งน้ำและข้าวไป แต่สาบานได้ว่าไม่ได้เติมแป้งหรือซับหน้าเลยด้วยซ้ำ ผลลัพธ์ออกมาได้เท่านี้ ก็ปลื้มมากกกกก ครั้งนี้ไปแล้ว ครั้งหน้ามีอะไรดีๆ มาแชร์กันอีกนะคะ ฝากติดตามด้วย...