Ezerra VS Atopalm อะไรที่ใช่สำหรับเรา

(づ￣ ³￣)づ สวัสดีทุกคนเข้าสู่โลกของหน้าแห้งๆๆ  

เค้าขอเล่าเรื่องก่อนรีวิวน้า (●´ω｀●)

ถ้ามันเยอะไป ข้ามไปช่วงรีวิวเลยจ้า

แหะๆๆๆ ¯\▁(◔◡◔)▁/¯

แต่ก่อนตั้งแต่ตอนเด็กๆๆเค้าเป็นสาวหน้ามัน

ชนิดที่แบบเยิ้มๆๆ ทำให้ฟิล์มซับหน้ามันทีใสทั้งแผ่นเลย

โตมาหน่อยถึงรู้ว่ายิ่งซับยิ่งมันขึ้น

ก็เลิกซับหน้าไปเลย (；￣Д￣）

แล้วที่หนักกว่านั้นคือ เค้าเป็นสิวเต็มหน้าเลย

คิดดูระดับความมันเยิ้มกับสิวเต็มๆๆหน้า

หน้าแบบนี้ เค้าก็ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่า....

(●o≧д≦)o วันนึงเราจะหน้าแห้งถึงลอกเลยค่ะ

เสียดายที่เราก็ไม่ได้เก็บรูปหน้าแย่ๆๆสมัยนั้นไว้ด้วย จะได้ให้เห็นถึงความต่าง

ความแห้งน่าจะเกิดมาจาก

1. กินยา(สอบถามหลังไมค์เอานะคะ)

2. ไปทำเลเซอร์หน้า

3. ใช้ยาแต้มสิวไม่ถูกวิธี

4. ไม่บำรุง

5. อายุที่เพิ่มขึ้น

เนี่ยแหละเป็นจุดเริ่มต้นความแห้งบนใบหน้าเค้า (ʕ;ᆺ;ʔ)

(๑•ᴗ•๑)♡ที่มาของการรีวิวนี้

บอกเลยว่า เป็นเพราะเค้าไม่เคยหน้าแห้งมาก่อนไง

เค้าก็เลยต้องค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆนานา

เพื่อรักษาหน้าที่มันแห้งๆๆแบบนี้

กว่าจะรู้ว่าหน้าแห้งต้องเริ่มที่อะไรก็เสียเวลาไปเยอะ(๑¯ ³¯๑)♡

อันนี้เค้าขอเล่าจากความมโนของตัวเองนะคะ

(・∇・)ﾉﾞ❤คือหน้าเราๆขาดน้ำกันถูกมั้ยคะ

เพราะฉะนั้นแล้วเราก็ต้องหาอะไรที่ช่วยกักเก็บน้ำกับเติมน้ำให้หน้าเรา

เค้าก็เลยมาลงเอยที่ moisturizerლ(╹◡╹ლ)

(ข้อมูลเกี่ยวกับmoisturizer ให้หาอ่านในnetนะคะ ไม่อยากCopyเขามาแปะ เดี๋ยวจะยาว แค่นี้ก็ยาวแล้ว)

1. Ezerra

• ขนาด 25 g. ราคา 390฿(ราคาร้านยาขายส่ง)

• ขนาด 50 g. ราคา 620฿(ราคาร้านยาขายส่ง)

＼(#´▽｀)人(´▽｀#)ノตัวแรกที่ขอแนะนำคือแบรนด์ Ezerra 

เป็นตัวแรกของเค้าเลยแหละ

ที่เค้าเลือกซื้อของแบรนด์นี้เพราะว่า....

ช่วงนั้นหน้าเค้าเหมือนกับว่าแพ้ (ಥ﹏ಥ)

แพ้ทุกสิ่งอย่าเลยแหละ หน้าบางมากๆๆๆ

ทาอะไรนิดๆๆหน่อยๆๆก็แดงไปหมดเลย

เค้าก็ศึกษาหาข้อมูลไปเรื่อยๆจนพบว่าเจ้าตัวนี้

Ezerra เป็นครีมสำหรับทาแก้อาการผิวหนังอักเสบ

L(・o・)」ผื่นแดงคันภูมิแพ้ที่มันเกิดกับเด็ก ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น

อ่อนโยน ลดอาการคันผดผื่นบนหน้าได้ดี

ด้วยเหตุนี้คนที่เป็นสิวสเตียรอยด์ที่มักมีผิวแห้ง ผื่นคัน

เป็นๆหายๆจึงสามารถใช้ Ezerra cream ทาเบาเทาอาการที่เกิดขึ้นได้

Σ(ノ°▽°)ノข้อดีของ Ezerra cream

ที่แตกต่างจากครีมทาลดผดผื่นผื่นที่นิยมใช้ทาเพื่อรักษาสิวสเตียรอยด์ทั่วไปคือ

Ezerra cream เป็นครีมที่ไม่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์( ｡ᵔᴗᵔ｡)人(｡ᵔᴗᵔ｡ )

ถึงแม้จะระงับผดผื่นคันได้ดีไม่เท่าครีมตัวอื่น

แต่ Ezerra cream ดูปลอดภัยและมีผลข้างเคียงน้อยกว่า

(Copy เขามานะ เพราะเราอ่านเจอแบบนี้แหละ ถึงเลือกเจ้าตัวนี้)

ヽ(=^･ᴥ･^=)丿ที่สำคัญคือใช้กับเด็กได้ด้วย ก็แปลว่าอ่อนโยนมากๆๆเลย

2. ATOPALM Intensive Moisturizing Cream
     ขนาด 100 ml ราคา 800 ฿

ตัวนี้เป็นตัวที่ 2

หลังจากที่เค้าใช้ Ezerra มาประมาณ 5 หลอด ✌ʕ●ᴥ●ʔ

ที่เปลี่ยนยี่ห้อไม่ใช่อะไรเลยนะ

ヽ(⌒∇⌒)ﾉ มันเกิดจากความโรคจิตของเค้าเองแหละ

เคยมั้ยที่เวลาเราใช้อะไรซ้ำๆเดิมๆต่อให้มันดีขนาดไหน

ก็มีอาการเบื่อสิ่งที่ใช้เดิมๆ乁( –ω–乁)

นั่นแหละตัวเค้าเองแหละ

ʕ≖͞з≖͞ʔʃเค้าก็หาข้อมูลไปอีกแล้วจ้า

จนมาเจอว่าทุกที่บอกว่าเจ้าตัวนี้ดีมากๆๆๆๆๆๆ

ถึงขั้นจัดอันดับตัวนี้ก็มาต้นๆๆเลยนะ୧(๑•̀ㅁ•́๑)૭✧

เค้าก็เลยอยากจะลองใช้ดูว่าสมคำร่ำลือมั้ย

(ง ˙o˙)ว  (ในส่วนนี่เป็นส่วนที่Copyมานะ เพราะอ่านเจอแบบนี้ถึงเลือกซื้อจ้า)

ส่วนผสมพิเศษด้วยเทคโนโลยี MLE (Multi Lameller Emulsion)

เทคโนโลยีเพื่อการเสริมสร้างเกราะป้องกันของผิวให้แข็งแรงლ(￫ω￩)ﾉ

ทำให้ผิวให้มีการกักเก็บความชุ่มชื่นได้อย่างยอดเยี่ยม

โดยพัฒนาส่วนประกอบโครงสร้างให้เหมือนกับ

โครงสร้างของไขมันธรรมชาติในชั้นผิวหนังมนุษย์

ซึ่งทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดของร่างกาย

ทำให้เนื้อครีมซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างรวดเร็ว

ไม่เหนียวเหนอะหนะผสานเป็นหนึ่งเดียวกับชั้นไขมันธรรมชาติ

รู้สึกได้ถึงความชุ่มชื่นทันทีที่ใช้ ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะภายนอก

ทำให้ชั้นผิวที่อ่อนแอและโดนทำลายจากสภาวะต่างๆได้ดีขึ้น

ଘ(੭*ˊᵕˋ)੭*คุณสมบัติมันแบบ ตู้วหูววววววมากอ่า

เค้าก็เลยไปสอยมาใช้

อธิบายมาเยอะแล้ว (๑•̀ㅂ•́)و
ตอนนี้เข้าสู่ช่วงของการรีวิวดีกว่าเนอะ

(◍•﹏•)ก่อนอื่นก็เริ่มจากดูสภาพหน้าสดๆ
ปัญหาที่เกิดบนใบหน้าเราเอง
บอกเลยว่าลงทุนมากเลยงานนี้ (≧∧≦)۶
เพราะเค้าอยากให้เห็นถึงความดีของเจ้า2ตัวนี้จริงๆๆ

(ಥ‿ಥ)ﾉﾞข้างAเป็นข้างที่ลอกเยอะ
เค้าพยายามถ่ายให้ชัดที่สุดเท่าที่จะทำให้ได้แล้วเน้อ~~~
ลองซูมๆๆดูการลอกของหน้าเค้านะ(ʃƪᵔᵌᵔ)

ข้างB ไม่ค่อยลอกเยอะเท่าข้างA
ซูมภาพมันเข้าไป ซูมๆๆๆ (⊙ꇴ⊙)

ผู้สนับสนุนภาพจาก Note8 จ้าาาาา (・///∇///・) 55555+
มีก็ดีที่สุดได้เท่านี้แหละ

(*´･Д･)σ เอาจริงๆๆนะเราก็อธิบายความต่างของเนื้อครีมทั้ง 2 ตัวไม่ค่อยออกเลย
เพราะว่า มันแทบจะเหมือนกันเลยอ่าจิ
เอาเป็นว่า┗(・o・)┛ Atopalm จะดูมันๆๆหน่อยๆๆ
แล้ว Ezerra เนื้อดูบางเบากว่า

เค้าจะเอา Atopalm ทาข้าง A นะคะ
ส่วน Ezerra จะทาข้าง B ค่ะ

หลังจากที่ทาข้าง A ด้วย Atopalm
สิ่งที่เห็นคือหน้าที่ลอกเป็นขลุยๆๆหายไปเลยจ้า(っ¯¯з¯¯)っ
และผิวหน้าก็แลดูจะมันหน่อยๆๆด้วย
ส่วนตัวเค้าเป็นคนผิวหน้าผสม
คือมีทั้งแห้งและมัน
เค้าแนะนำว่าควรทา (*´･Д･)σเฉพาะจุดที่มีปัญหาพอ
ไม่ความนำมาทาทั้งหน้านะคะ
ส่วนคนที่หน้าแห้งทั้งหน้าก็ทาให้ทั่วเลยจ้า ლ(´ڡ`ლ)มันดีงามมาก

จากที่ศึกษาข้อมูลมามีคนพูดกันเยอะเรื่องอุดตัน
เค้าก็คิดนะว่ามันก็อุดตันพอควรเลยแหละ
เพราะ Atopalm มีความมันต่อใบหน้าเราระดับนึง
เค้าเลยทาแค่เฉพาะจุด แล้วก็ดีที่จุด
ที่มีปัญหาผิวหน้าแห้ง รูขุมขนตรงส่วนนั้นไม่กว้าง
(。･д･)ﾉﾞหมดปัญหาเรื่องอุดตันไปเลย

(つ•́‿•̀)つส่วนข้าง B ที่ทาด้วย Ezerra
ขลุยๆที่หน้าก็หายไปพอควร
ก็ยังมีเหลือขลุยให้เห็นเล็กน้อย
แต่ตัวนี้ใช้แล้วไม่รู้สึกมันมากเท่า Atopalm
เค้ารู้สึกว่าบางเบาดี∩≧ᴗ≦∩ในระดับนึงเลยแหละ

เรื่องอุดตันนี่หายห่วงได้เลย
ヽ(・∀・)ノตั้งแต่ใช้มาหมดไปหลายหลอดก็เพราะ...
เราเอามาทาทั้งหน้าเลยจ้า
หมดไปเยอะ (・∇・)ﾉﾞ❤ปลื้มใจเว่อวังอลังสุด
สบายๆๆๆหน้ามากกกกกกกก
และที่สำคัญนะตอนนั้นเราใช้อะไรที่หน้าก็แดงไปหมดเลย
ทั้งร้อนทั้งแสบหน้ามากกกกก
พอเราได้ใช้ Ezerra แล้วรู้สึกหน้าแข็งแรงขึ้น
(づ￣ ³￣)づอาการแสบหน้าลดลงจนไม่มีอาการแสบแล้ว

ภาพอาจจะดูยากไปหน่อย(〃•́﹏•̀)
เพราะมันห่างไกลกันมากไปชิมิ
เค้าก็เลยทำสรุปภาพรวมมาให้จ้า

ข้างนี้เป็นข้างที่ใช้ Atopalm

ส่วนข้างนี้ใช้ Ezerra

สรุปโดยรวมเมื่อเทียบกันแล้ว
ヾʕ⊙Д⊙ʔก็มีความแตกต่างกันอยู่ระดับนึงเลย

• ราคา
  ถ้าสังเกตดีๆๆแล้ว Ezerra จะแพงกว่าเยอะเลยนะ
  ถ้าเทียบในปริมาณที่เท่ากัน ขนาด 100 ml
  Ezerra ราคาก็จะประมาณ 1200 บาท
  แต่ Atopalm ราคาแค่ 800 บาทเอง 
• (⊃｡•́‿•̀｡)⊃คุณภาพ
  เรื่องของคุณภาพ ถ้าความเห็นส่วนตัวเค้าเลยนะ
  เค้าเทไปทาง Atopalm
  เพราะใช้แล้วรู้สึกว่าหน้าดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลย
  เวลาที่เค้าแต่งหน้า ลงรองพื้นด้วย
  ในบางครั้ง ที่ทาด้วย Ezerra ก่อนแต่งหน้า
  ระหว่างวันหน้าอยู่ๆๆก็ลอกเลยจ้า
  เหตุการณ์วันนั้นคืองงมากว่าทำไมหน้าพังขนาดนี้
  เพราะเหตุนี้ก็เป็นอีก1เหตุผลที่ทำให้อยากจะลอง Atopalm
  พอมาใช้ Atopalm แล้วก็ไม่เกิดเหตุการณ์หน้าลอกอีกเลย
  
  

(*´･Д･)σถ้าถามเค้านะว่าจะเลือกอะไรระหว่าง 2 ตัวนี้
บอกเลยว่าเลือกทั้งคู่จ้า ♡＼(^・ω・^)/♡
ทั้งๆๆที่รู้ว่า Atopalm เห็นผลชัดเจนและดีกว่า
เพราะว่าบางวันเราก็ไม่ได้ต้องการความหนักหน้ามากจนเกินไป
อยากมีฟิวสบายๆๆๆหน้าบ้าง
เนื่องจากคนผิวหน้าผสม ไม่ควรทา Atopalm ทั้งหน้า
มันจะทำให้อุดตัน
ლʕ⊝ꀾ⊝ʔლดังนั้นเค้าเลยเห็นว่ามันจึงจำเป็นต้องมีไว้ทั้งคู่เลยจ้า

ขอบคุณทุกคนนะคะ (./\.)
ที่อ่านมาถึงจุดนี้
(ﾉﾟ▽ﾟ)ﾉหวังว่าคงไม่เกินโควต้าใครนะ แฮร่~~