The Ordinary Review Vol. 1 รีวิวจัดเต็มมม

50 5
ฮัลโหลลลทุกคน วันนี้เรามารีวิวสิ่งที่เพื่อนๆถามกันเขามาเยอะที่สุด นั่นก็คืออออ The Ordinary นั่นเอง เย้

จากที่ได้ยินทั้ง blogger ไทยและต่างชาติรีวิวกันมามากมาย เราก็บ้าาหอบซื้อกลับมาตอนที่ไป Deciem shop ที่เกาหลี
ซึ่งแต่ละอย่างราคาดีงามมากกกกกก ตกขวดละ 300-500 บาทเท่านั้น กับ Serum และครีมต่างๆนาๆ ที่ผลิตโดนยึดหลักวิทยาศาสตร์ และมี research paper รับรองเกี่ยวกับสารต่างๆที่ใช้ใน product แต่ละตัว!
หลังจากที่เอิร์กทดลองใช้มาสักพัก ก็ขอมาสรุปผลไว้ในโพสนี้กันเล้ยย
Note : เอิร์กเป็นคนผิวผสม แห้งหน้าแก้ม มันช่วง T-Zone มีสิวประปรายเป็นบางช่วง

Product list 

⁃ Argireline Solution 10%
⁃ Caffeine Solution 5% + EGCG
⁃ Buffet
⁃ Hyaluronic Acid 2% + B5
⁃ Natural Moisturizing Factors + HA

The Ordinary - Argireline Solution 10%


เริ่มกับตัวที่เราตื่นเต้นที่จะได้ลองใช้ที่สุดดด
ต้องบอกก่อนว่า ตอนเราไปซื้อ The Ordianry ครั้งแรก ยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับแบรนด์เท่าไหร่ พอเข้าช้อปก็เกิดอาการงงเป็นไก่ตาแตก เพราะชื่อ product แต่ละตัวเป็นชื่อสารต่างๆ ส่วนตัวอยากได้เซรั่มสำหรับ anti aging แต่ก็มีหลายตัวเหลือเกินนน เราเลยถามพนักงานว่าแต่ละตัวต่างกันยังไง พนักงานเลยอธิบายว่าตัว Argireline เป็น peptide serum เราก็อ้าวว ตัวนี้ก็ peptide อีกตัวก็ peptide แล้วมันต่างกันยังไงอ่าา

จนนางก็อธิบายประมาณว่าตัวนี้เหมาะสำหรับคนอยากเริ่มป้องกันริ้วรอยต่างๆ บลาๆๆ จนนางพูดประโยคนึงว่า This product works as painless botox for your skin แค่ประโยคนี้ประโยคเดียว ทำให้เราคว้าเซรั่มตัวนี้ใส่ตะกร้าอย่างไวจ้าา 55555

เรากลับไป research เพิ่มว่าตัว Argireline มีประโยชน์ยังไง ก็พบว่า Argireline จะช่วยลดการยึดตัวของกล้ามเนื้อ ช่วยลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่นพวกเส้นเล็กๆที่หน้าผาก ริ้วรอยใต้ตาอะไรประมาณนั้น 

ลักษณะเนื้อเซรั่มจะเป็นน้ำใสๆและเหลวมากจนคิดว่านี่น้ำเปล่าปะเนี้ย  ทาแล้วซึมเข้าผิวทันที ไม่ได้เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวแต่อย่างไร อ่อนโยนมากพอที่จะทาใต้ตาได้(พนักงานแนะนำมา)

สรุป!!!

ไม่มีผลลัพธ์ที่ชัดเจนแต่อย่างไรจ้าา ฮือออ
ใช้จนหมดขวดก็ไม่รู้สึกอะไรนอกจาก รู้สึกดีว่าเราทา anti aging serum ไปแล้วนะ 5555 ไม่รู้ว่าเป็นเพราะต้องใช้ไปนานกว่านี้หรือเปล่า เราไปอ่านรีวิวคนที่ใช้ดู ก้มีหลายคนที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีกับเซรั่มตัวนี้ ยังไรก็ตามด้วยราคาที่มันถูกมาก 300 นิดๆ กับส่วนผสมที่มีหลักฐานยืนยันทางวิทยศาสตร์ และ product ตัวนี้ก็ไม่ได้ทำให้เราแพ้หรือระคายเคืองใดๆ ใครอายุ 20 กลางๆ แล้วอยากเริ่มใช้ anti aging serum เพื่อป้องกันริ้วรอย เราว่าตัวนี้ก็อ่อนโยนดี ใครอยากลองใช้ดูเผื่อจะเวิคก็ลองไปตำกันได้นะจ๊ะ

คะแนน 6/10

The Ordinary - Caffeine Solution 5% + EGCG 


มาถึงตัวที่เพื่อนๆถามกันมาเยอะที่สุดดดด Caffeine Solution เป็น product ตัวเดียวของ The Ordinary ที่ช่วยเรื่องใต้ตาโดยตรง ทางแบรนด์เคลมว่าคาเฟอีนจะช่วยลดรอยคล้ำและความบวมใต้ตา เราเป็นคนนึงที่ใต้ตาคล้ำมากกก คล้ำแต่เด็กจนหมดหวังที่จะแก้ไปแล้ว อาศัยแต่งหน้าไปเรื่อยๆ หลายคนว่าตัวนี้ดีเลยต้องลอ

สรุป!!

อย่างที่คาดไว้ product ตัวนี้ไม่ช่วยเรื่องรอยคล้ำใต้ตาสักเท่าไหร่ ส่วนเรื่องบวมเราว่าช่วยได้นะ ปกติเวลานอนดึกแล้วตื่นเช้าตาจะบวมดูบรือๆ แต่หลังจากใช้ตัวนี้ตาก็ไม่ค่อยบวมเท่าไหร่แล้ว ตัวเซรั่มไม่ได้ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับใต้ตา เนื้อเซรั่มเป็นสีน้ำตาลใสๆ กลิ่นคล้ายกาแฟเบาๆ (เบาจริงๆ) ซึมง่ายไม่เหนอะหน่ะ ส่วนตัวเรายังมีอายครีมที่ชอบมากกว่าตัวนี้ แต่เพื่อนเราที่ใช้ Caffeine Solution แล้วชอบมากๆ จนตอนนี้ถอยขวดที่สองมาแล้วก็มีเหมือนกัน เราว่าถ้าใครมีปัญหาเรื่องตาบวมแล้วมี budget ไม่มาก เราก็แนะนำเซรั่มตัวนี้ค่ะ

คะแนน 7/10

The Ordinary - Buffet

 

เซรั่มตัวนี้ดังมากกกกกกก เป็น anti aging อีกตัวที่ มีส่วนประกอบของ peptide หลายๆชนิดรวมกันในขวดเดียว ทางแบรนด์เคลมว่าจะช่วยแก้ปัญหาการลดเลือนริ้วรอยหลายๆประการได้ (Short note : Peptide คือ active ingrdient ที่นิยมมาใช้ใน anti-aging product สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและสารต้านอนุมูลอิสระให้กับผิว) เราลองเซรั่มตัวนี้หลังจากที่ใช้ Argireline หมดไป ถึงจะใช้ได้ไม่นานมาก แต่ก็เห็นผลในระดับที่น่าพอใจ

สรุป!!!

เราชอบตัวนี้มากกว่า Argireline มากกกก บอกเลยว่าเป็นเซรั่มที่ราคาไม่แพงแต่คุณภาพดี เหมาะสมแก่การไปตำ
เราใช้มาสักพักก็รู้สึกว่าหน้าอิ่มขึ้นหลังตื่นนอน เนื้อเซรั่มมีความข้นและสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ในระดับนึง แต่ในความข้นของเซรั่มก็ไม่ได้ทำให้เนื้อซึมยากเลยนะ ทาไปสักพักก็ซึมเข้าผิว ไม่ทิ้งความหนึบบนใบหน้า ส่วนเรื่องการป้องกันหรือลดเลือนริ้วรอย เซรั่มตัวนี้คงไม่สามารถทำให้ริ้วรอยที่ชัดเจนนั้นหายไปได้เลย แต่ก็ทำให้ผิวหน้าโดยรวมรู้สึกดีมีความอิ่มฟูมากขึ้น เรื่องริ้วรอยถ้าอยากให้เห็นผลชัดเจนอาจจะต้องใช้ไปนานๆกว่านี้จ้า

คะแนน 8.5/10

The Ordinary - Hyaluronic Acid 2% + B5


ไฮยาลูรอนิค แอซิด เองจ้าาา สาวๆหลายคนน่าจะคุ้นเคยกับชื่อสารนี้ พูดง่ายๆก็คือสารที่ใช้ในน้ำตบ ฮาดะ ลาโบะ ตัวดัง เซรั่มตัวนี้นอกจากจะมีไฮยาลูรอนิค แอซิดที่เน้นการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวแล้วยังมี Vitamin B5 ที่ช่วยให้ผิวมีความนุ่มชุ่มชื่นมากกว่าเดิมด้วย เหมาะสำหรับคนผิวแห้งและผิวขาดน้ำมากๆจ้า เนื้อเซรั่มมีความข้นสูงกว่าทุกตัวที่พูดถึงมา มีความหนืดและใช้เวลาประมาณนึงกว่าเนื้อเซรั่มจะซึมเข้าผิว แต่เมื่อเซรั่มซึมเข้าผิวแล้วก็ไม่รู้สึกเหนียวหน้านะ

สรุป!!!

ถ้าให้เทียบกับตัว ฮาดะ ลาโบะ เราว่าคนผิวแห้งน่าจะชอบเซรั่มตัวนี้มากกว่า เรารู้สึกได้เลยว่าหลังจากใช้เซรั่มตัวนี้ผิวมีความชุ่มชื้นที่นานกว่า เราชอบใช้เซรั่มตัวนี้ตอนกลางคืนที่รุ้สึกว่าหน้าแห้งๆล้าๆ ตื่นมาเหมือนผิวได้รับการเติมน้ำอย่างเต็มที่ ส่วนคนผิวมันอาจจะไม่ค่อยปลื้มเพราะเซรั่มมีความเหนอะ ทั้งนี้ผลลัพธ์ก็ต้องแล้วแต่สภาพผิวของแต่ละคนด้วย ส่วนตัวแล้วเราค่อนข้างพอใจกับเซรั่มตัวนี้ค่าา

คะแนน 8.5/10

The Ordinary - Natural Moisturizing Factors + HA


ตัวนี้ไม่ต้องพูดอะไรมากมาย เคยแชร์ไปแล้ว ซื้อหลอดเล็กมาไม่พอ ต้องกลับมาพรีหลอดใหญ่ รักสุดๆใช้ทุกวันอย่างต่อเนื่องเป็น day moisturizer ที่ทำให้หน้าไม่มันแต่ชุ่มชื้นงงปะ 555

ใครอยากอ่าน full-review ตามลิ้งนี้ได้เลยจ้า > https://www.jeban.com/topic/252136

คะแนน 9/10 ✨
จบไปแล้วกับ The Ordinary Review Vol. 1 เนื่องจากเราติดใจกับแบรนด์นี้มากๆ ก็ไปหาตัวที่เค้าว่าดีมาลองอีก ยังไงก็ฝากทุกคนติดตาม Vol. 2 กันด้วยนะค้าาา


eark-ii

eark-ii

@eark.and.etc

FULL PROFILE