[ HowTo ] มาส์กหน้ายังไงให้คุ้มที่สุดใน “1 แผ่น”

20 6
สวัสดีเพื่อนๆ ชาวจีบันทุกคนค่าา
วันนี้เมย์มาแบ่งปันทริคเล็กๆ น้อยๆ จากการมาส์กหน้าให้ฟังกันค่ะ
บางคนอาจจะใช้มาส์กหน้าแบบแผ่นแค่ครั้งเดียวแล้วทิ้งไป
แต่หารู้ไม่ว่ามันใช้ได้มาก 1 ครั้งนะคะทุกค๊นนน
แต่ว่าไม่ใช่เอามาแปะซ้ำอีกรอบนะ 55555
บางคนก็ซื้อมาส์กหน้าแผ่นนึงมาซะแพงเลย
ใช้ได้ครั้งเดียวมันก็ดูไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่เลย
ของแพงก็อยากจะใช้ให้เต็มที่ไปเลยเนาะ

มาค่ะวันนี้แหละเมย์จะมาเล่าให้ฟังว่าเมย์ใช้มาส์กหน้ายังไงให้คุ้มที่สุด
ที่สุดของที่สุดไม่ให้เหลือแม้แต่หยดเดียว!
ถ้าพร้อมกันแล้วไปลุยกันเลยค่าา
1. เริ่มจากเลือกมาส์กหน้าที่เราชอบได้เลยค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นมาส์กกู้หน้าประจำตัวมาส์กราคาแพง
มีข้อแนะนำเล็กน้อยว่าให้เลือกมาส์กที่ซึมได้เร็วค่ะ
หรือมาส์กที่ทิ้งความเหนอะไว้หลังเอาออกได้น้อยที่สุด
2. จากนั้นเราก็มาส์กหน้าตามปกติค่ะ
รอเวลาเอาออกนอนเล่นโทรศัพท์แบบสวยๆ 555
3. ขั้นตอนเบสิคที่สุดคือหลังจากเอามาส์กออกแล้ว
เราต้องกดๆ ให้น้ำมาส์กซึมเข้าสู่ผิวหน้าให้หมด
ทำตามคำแนะนำหลังซองเป๊ะๆ เด๊ะๆ
4. อย่าเพิ่งทิ้งทั้งแผ่นมาส์กและซองมาส์กนะคะ!
หัวใจสำคัญของการมาส์กหน้าคือน้ำมาส์กที่ช่วยกู้ผิวหน้าเรานี่แหละค่ะ
หยิบมาทั้งคู่เลยค่ะแล้วบีบเอาน้ำมาส์กออกมา
ในปริมาณที่เราใช้เสมือนน้ำตบค่ะ
5. จากนั้นก็จัดการตบลงบนผิวเหมือนตอนใช้น้ำตบเลยค่ะ
น้ำมาส์กมีเท่าไหร่ใช้ให้คุ้มไปเลยค่ะไม่ต้องกลัวเปลือง
ทริคนี้ได้มาจากการดูแลผิวของสาวๆ เกาหลีค่า
เค้ามักจะใช้น้ำตบตบวนไปหลายๆ รอบ (ประมาณ 7 รอบเลยนะ)
มันจะช่วยให้ผิวชุ่มฉ่ำอิ่มน้ำมากๆใครยังไม่เคยลองต้องลองทำดูค่ะ
แล้วจะดูว่าผิวเด้งอิ่มน้ำมีอยู่จริงและง่ายยยยยนิดเดียว
ขอแค่ความขยันในการตบวนไปแค่นั้นเอง 55555
แท๊แด~จบไปแล้วกับขั้นตอนใช้มาส์กยังไงให้คุ้มที่สุดค่ะ 555
ส่วนแผ่นมาส์กที่ยังมีน้ำมาส์กเหลือๆ บ้างก็เอาไปทาแขนทาขาให้หมดค่ะ
ได้ฟีลเหมือนขัดผิวพร้อมบำรุงไปในตัวเลย
เท่านี้เราก็จะได้ใช้มาส์กที่เราชอบได้คุ้มที่สุดแล้วค่ะ

สำหรับวันนี้เมย์ขอตัวลาไปก่อน
บ๊ายบายค่าา


MayPannapat

MayPannapat

สวัสดีค่ะ ชื่อเมย์นะคะ
มีผิวผสม-ขาดน้ำค่าา
เมย์คลั่งไคล้ในสกินแคร์มากกกๆ
คอนเซ็ปท์ผิวเมย์คือ "ผิวดี อะไรก็ดี"
เป็นคนขี้เกียจใช้รองพื้นเพราะตื่นสาย
อะไรที่ทำให้ผิวสวยเลยก็ชอบสรรหามา

ชอบรีวิว skincares มากกว่า cosmetics ค่ะ

E-mail : pannapat2539@gmail.com

FULL PROFILE