เสน่ห์ร้าย..นายอาชญากร

คุณอาจจะยังจำชายหนุ่มคนหนึ่งที่กลายมาเป็น Internet Sensation ให้ชาวเน็ทร้องอู้วว้าวคนนี้ได้

ในขณะที่ผู้คนมากมายต่างรู้ดีว่ารูปร่างหน้าตาไม่ได้เป็นสิ่งบ่งบอกพฤติกรรมและศีลธรรมในใจ เรื่องอาชญากรหน้าตาสวยหล่อราวกับดาราก็ได้เคยเห็นกันมาบ้างแล้ว   อย่างไรก็ตาม  ในขณะที่เจอเรมี มีคส์ นักโทษหนุ่มกำลังรับโทษจองจำในคุก  ในโลกภายนอกก็ได้เกิดความฮือฮาแบบ viral เมื่อมีคนนำภาพ mug shot ของเขาออกมาเผยแพร่

ในตอนนั้นอาจจะไม่มีใครสนใจชื่อเสียงเรียงนามของนักโทษตาคมผู้นี้  และขนาดนามให้ว่า Hot Felon  อาชญากรสุดฮ็อท   

เขาถูกจำคุกเป็นครั้งที่สอง  ครั้งแรกถูกจับกุมข้อหาขโมยรถ  ส่วนล่าสุดที่ได้รับโทษจำคุกสองปีนั้นเพราะครอบครองอาวุธปืนอย่างผิดกฎหมาย   ช่วงที่เป็นวัยทีนก็เคยทำร้ายร่างกายผู้อื่นมาแล้ว   สำหรับบางคนอาจจะไม่ได้ถือสาเรื่องนี้เพราะเห็นว่าเป็นการละเมิดกฎหมายที่ไม่ได้รุนแรงขนาดฆ่าฟันใคร   social media จึงเต็มไปด้วยคำพูดพร่ำเพ้อถึง bad boy ในชุดสีส้ม  แต่ก็เอาน่ะ มันเป็นเพียงความคึกคะนองของชาวเน็ท  เพราะแม้ว่าสื่อจะลงข่าวว่ามีคนที่หลงไหลในความหล่อของเขาถึงขนาดจะจ่ายเงินค่าประกันตัวที่ถูกตั้งไว้ 1 ล้านเหรียญ  แต่จริง ๆ แล้วแม่ของเขาเรี่ยไรเงินจาก gofundme ได้เพียงไม่กี่พันดอลลาร์เท่านั้น

นอกจากความคึกคะนองของสาวๆ ที่โพสท์ข้อความร่ำร้องอยากควงนักโทษ   ที่ขาดไม่ได้คือการนำภาพ mug shot ไปทำ meme สร้างความฮา  สื่อTV ตื่นเต้นไปขอสัมภาษณ์ที่เรือนจำ

เขายืนยันกับนักข่าวว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนเลวร้ายเหมือนกับที่ตำรวจได้กล่าวหา "ผมเป็นคนรักครอบครัว เป็นสามี เป็นพ่อ และผมก็ทุ่มเททำงานเต็มที่" เจอเรมี่ยืนยันว่าเขาออกจากแกงค์อันธพาลมาหลายปีแล้วและก็ทำงานในโรงงานแลกค่าแรงขั้นต่ำ  แต่เมื่อสร้างความฮือฮาในโลกออนไลน์  เขาก็ได้เซ็นสัญญากับเอเจนซี่ตั้งแต่ยังไม่ออกจากคุก

เมื่อได้รับอิสระออกมาก็มีผู้จัดการส่วนตัวทันที

เจอเรมี่ได้กลับไปหาครอบครัวที่เฝ้ารอ  ทั้งภรรยาและลูกๆ ดูมีความสุขกับชีวิตที่เปลี่ยนแปลง  จากหัวหน้าครอบครัวที่เป็นอดีตสมาชิกแกงค์  เขาพาครอบครัวย้ายเข้าไปที่บ้านหลังโต งานนายแบบดูรุ่งโรจน์ขึ้นมาโดยไม่ต้องทุ่มเงิน PR เพราะสื่อดัง ๆ ต่างช่วยดันด้วย gossip จนกระทั่งเจ้าตัวได้ก้าวเข้าสู่วงการแฟชั่นอย่างเต็มตัวด้วยงานเดินแบบในแฟชั่นวีค

(ลูกแท้ ๆ ของเจอเรมี่คือน้องคนเล็กสุดค่ะ ส่วนอีก 2 คนนั้นเป็นลูกเลี้ยง)

  ดีไซน์เนอร์ที่ว่าจ้างก็happy เพราะสื่อบันเทิงช่วยประโคมทำข่าวให้แบรนด์  และยังมีโอกาสได้กระทบไหล่คนดังระดับซุปตาร์ซะด้วย

แต่เพราะมีประวัติอาชญากรรมติดตัว มันก็ไม่ได้อำนวยโอกาสให้ เมื่อเขาต้องเดินทางไปที่อังกฤษ แต่กลับถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศจนต้องเดินทางกลับอเมริกา  

มันจึงเหมือนตลกร้าย  เมื่อพาพาราซซี่ได้จับภาพในขณะที่เขาเที่ยวสำราญใจใกล้ชิดกับสาวไฮโซอังกฤษผู้พะยี่ห้อทายาทสาวของเซอร์ฟิลลิปและทีน่า กรีน เจ้าของArcadia Group ที่ดำเนินธุรกิจเสื้อผ้า high street หลายแบรนด์ เช่น Topshop, Topman และ Dorothy Perkins  เป็นมหาเศรษฐีระดับพันล้าน (แน่นอนค่ะ ไม่ใช่พันล้านบาท แต่นับค่าเงินอังกฤษ - อเมริกัน)  ทรัพย์สินเมื่อรวมกับภรรยาแล้ว $4,900,000,000  ครอบครัวกรีนโด่งดังเรื่องไลฟ์สไตล์อันหรูหรา โคลอี้อาจจะมีเงินทองใช้จ่ายมากกว่าดาราฮอลลีวู้ดชื่อดังโดยที่ไม่ลงมือทำงานอะไรมากนัก  เธอมีเปิดไลน์รองเท้า  ถ่าย reality show มีเพื่อนฝูงเป็นคนดังมากมาย เดินทางไปรอบโลกเพื่อเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ  และมีรายงานว่าเธอพบกับนายแบบหนุ่มหล่อที่มีประวัติอาชญากรรมที่เทศกาลหนังเมือง Cannes เมื่อสปาร์คกันจึงหาทางวนเวียนมาพบปะสานความสัมพันธ์แบบลับ ๆ ต่อ   

และนั่นมันเพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่เขาอวยพรภรรยาเนื่องในวันแห่งความรัก  และประกาศว่าจะรักเธอตลอดไป

และฉากรักบนเรือยอว์ชนั้นก็เกิดขึ้นเพียงแค่เดือนเดียวหลังจากที่นายแบบลุคแบดบอยได้โพส์ภาพสวีทกับภรรยา  พวกเค้าไม่ได้อยู่ในช่วงแยกกันอยู่    มีผู้ประสงค์ดีส่งภาพให้เธอดู และรู้สึกเหมือนกับโลกถล่มทลายไปต่อหน้า

เรื่องนี้โฉ่งฉ่างมากค่ะ   พาพาราซซี่ตามไปได้ขนาดถึงตอนที่เจอเรมี่กลับมาเผชิญหน้ากับภรรยา  และ  guess what   เขายืนขอแยกกันอยู่อย่างรวดเร็วโดยระบุวันที่เริ่มแยกทางเป็นว่าเกิดขึ้นในเดือนก่อนที่จะมีภาพตอนนัวเนียกับสาวมหาเศรษฐีบนเรือยอว์ช (นัยว่าเบี่ยงประเด็นเรื่องนอกใจออกไป)   ส่วนทายาท Topshop ก็ไม่รีรอ เธอเปิดตัวความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มสุดฮ็อททันที โดยไม่ได้ตอบของภรรยาอีกฝ่ายที่ตั้งคำถามผ่านสื่อว่า "  เธอทำอย่างนี้กับลูกผู้หญิงด้วยกันได้อย่างไร ?"

หลังจากสื่อประโคมข่าวได้เพียงไม่กี่วัน  โคลอี้ก็โพสท์ภาพนั่งเคียงข้างแฟนหนุ่มและบรรยายภาพว่า  " การเริ่มต้นครั้งใหม่  เราขอต้อนรับทั้งความเห็นที่ชื่นชมและเกลียดชัง"

"เขาบอกชั้นว่าจะไปทำงานที่ตุรกี  ภาพพวกนี้มันทำให้ชั้นใจสลาย  ไม่เคยมีสัญญาณอะไรมาก่อนเลยว่าเขาต้องการจะมีใครคนใหม่ "

"เขากลับมาแล้วก็ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น  เสียใจที่ชั้นเจ็บปวด นี่คือสามีที่อยู่กันมา 8-9 ปี  ชั้นรักเค้าสุดใจ ชั้นยังรักเค้าอยู่ มันยากเย็นเหลือเกินที่จะคิดถึงเรื่องนี้  ชั้นอยากจะมีสามีที่รออยู่ที่บ้านเหมือนเดิม"


เมลิซซาผู้มีอาชีพเป็นนางพยาบาลเคยต้องรับหน้าที่ผู้ดูแลครอบครัวอย่างโดดเดี่ยวในขณะที่เจอเรมี่ชดใช้ความผิดในเรือนจำ  แม่ของสามีเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อตอนที่เขาเริ่มโด่งดังว่า  เจอเรมีออกจากแก็งค์ผิดกฎหมายหลังจากที่ได้เจอกับเธอและลงเอยด้วยการแต่งงาน   แม่สามียืนยันว่าลูกสะใภ้คือคนหาเลี้ยงครอบครัวและเชื่อมั่นในเจอเรมี่เสมอมา


"เราวางแผนจะมีครอบครัวที่มั่นคงไปด้วยกัน  แต่มันไม่มีวันนั้นอีกต่อไป"   เมลิซซ่ากล่าวน้ำตาคลอ  

   

พอสื่อทำข่าวปุ๊บ คู่รักใหม่ของวงการก็เดินหน้าความสัมพันธ์อย่างเผิดเผย   ตอนแรก ๆ บางสื่อปรามาสว่าเป็นแค่ fling ไม่ได้จริงจัง เหมือนกับคุณหนูสุดรวยที่ควงหนุ่มหล่อเร้าใจโดยไม่ได้สนใจฐานะหรือประวัติความเป็นมา  แต่กลายเป็นว่าพวกเค้าหวานกันมานานหลายเดือน  และฝ่ายชายก็ประกาศกับสื่อว่า "  ถึงเธอจะไม่มีเงินสักดอลลาร์ ผมก็ไม่แคร์สักนิด!"

"ผมไม่เคยมีความสุขเท่านี้มาก่อนในชีวิต" (แหงล่ะ)  " เราพบรักแท้   รักกันมากและมีความสุขมากครับ"

"ผมรักโคลอี้ที่ตัวของเธอ  ถ้าเธอไม่ได้มีเงินผมไม่ก็สนใจสักนิดเพราะพวกเรามีความสุขอย่างล้นเหลือ"




ส่วนคำถามจากสื่อว่าท่านเซอร์มหาเศรษฐีมีความคิดเห็นอย่างไรต่อความรักของลูกสาวกับอดีตนักโทษ    เจอเรมี่ตอบว่า..

"พ่อของเธอไม่เคยตั้งคำถามอะไรกับอดีตของผมเลยครับ  ท่านไม่เคยทำให้ผมรู้สึกลำบากใจและผมก็ไม่หวั่นกลัวด้วยว่าท่านจะคิดในแง่ไหนในตัวผม เพราะท่านรู้จักลูกสาวของตัวเองดี"

"ท่านรู้ว่าลูกสาวกำลังมีความรักและเธอจะไม่เลือกคนที่ไม่เหมาะสม   ผมไม่เคยได้รับความรู้สึกที่มีพ่อมาก่อน เพราะพ่อของผมถูกจำคุกตลอดชีวิตจากการฆาตกรรม ตอนที่ผมอายุแค่ 9 เดือน    พ่อได้รับการปล่อยตัวออกมาแล้วล่ะครับแต่ผมยังไม่เจอพ่อเลย  หวังว่าจะได้เจอกันสักวันหนึ่ง"

นอกจากเรื่องประวัติการเข้าแกงค์และถูกจำคุกมาสองครั้ง  สื่อได้ตามขุดคุ้ยประวัติครอบครัวของเจอเรมี่มาหมด ไม่ว่าจะเป็นแม่ที่เคยติดเฮโรอีนและทำร้ายร่างกายและพ่อที่ถูกจำคุกมาหลายสิบปีหลังจากที่ฆ่าผู้หญิงด้วยการแทงเธอมากกว่า 30 ครั้ง และยังข่มขืนผู้หญิงอีกคน

"ความเป็นอยู่มันแร้นแค้นมาก ผมโหยหาคนเป็นพ่อที่จะคอยปกป้องดูแลและเป็นแบบอย่างมาตลอด ในที่สุดก็ใช้ชีวิตอยู่ในแกงค์"

คบหากันไม่กี่เดือน  โคลอี้และเจอเรมี่ต่างเคยไปพบครอบครัวของกันและกันแล้ว  ในขณะที่เซอร์ฟิลลิปยังสงวนท่าทีกับแฟนลูกสาว  แม่ของเธอดูต้อนรับเขาเป็นอย่างดี

ความสัมพันธ์ของพวกเขาดูก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว  โคลอี้ดูสนิทสนมกับลูกชายของเจอเรมีเป็นอย่างดี  ตามมาด้วยเสียงซุบซิบว่าว่าโคลอี้เริ่มแต่งตัวปกปิดช่วงกลางของร่างกาย  หรือว่าเธอกำลังจะกลายเป็นคุณแม่ ?

เมื่อเดือนมีนาคมที่แล้วสื่อกอสสิปก็ตีข่าวฮือฮาอีกครั้งว่าโคลอี้ กรีนกำลังต้องท้องลูกของhot felon และไม่ใช่ว่าเพิ่งตรวจพบการตั้งครรภ์แต่เข้าไตรมาสที่ 3 แล้ว

เดลี่เมลเข้าถึงแหล่งข่าววงในและรายงานว่าโคลอี้ได้เลี้ยงฉลองร่วมกับคนสนิทก่อนจะคลอด เธอบอกทุกคนว่ากำลังจะมีลูกชาย และมีความสุขเป็นที่สุด   พร้อมกับยืนยันข่าวด้วยภาพโคลอี้ตอนพักผ่อนกับเจอเรมีบนเรือแบบชัดเจน

เพียงไม่กี่วันต่อมา โคลอี้และเจอเรมี่ก็ประกาศต้อนรับลูกชายตัวน้อย น้องเจย์เดน เบบี้บอยตามที่แทบลอยด์ดังว่าไว้   จากความสัมพันธ์ที่ถูกมองว่าเป็นเรื่องเล่น ๆ แค่ทายาทธุรกิจบิ๊กบึ้มที่หลงเสน่ห์เสน่ห์อดีตแบดบอยแค่ชั่วครั้งชั่วคราว  ตอนนี้สื่อไหนก็พูดว่าพวกเขากำลังวางแผนหมั้นหมายเพื่อสร้างครอบครัวสุขสันต์พร้อมหน้าพร้อมตา เมื่อนับนิ้วคำนวณ timeline ก็จะพบว่า โคลอี้ตั้งท้องหลังจากที่คบกับเจอเรมี่ได้เพียง 3 เดือน  และเพียงวันเดียวจากที่ประกาศข่าวดีเรื่องลูกชายคนใหม่  การหย่าของเจเรอมี่ก็มีผลทางกฎหมาย สื่อได้รายงานว่าอดีตสามีภรรยาจะแชร์สิทธิ์การเลี้ยงดูด้วยกันแบบ 70 : 30 และเจอเรมี่จะต้องจ่ายค่าเลี้ยงดู 1000 เหรียญต่อเดือน แม้จะมีข่าวลือออกมาว่ารายได้ของเขาสูงลิ่ว แต่จากการยื่นหลักฐานต่อศาลและผ่านการเจรจากับแม่ของลูกแล้ว  จะเห็นได้ว่าฐานรายได้ของคุณพ่อลูกสองไม่ได้สูงเป็นล้านเหรียญเหมือนที่สื่อเคยระบุไว้

ส่วนเรื่องที่เจอเรมี่ถูกปฏิเสธไม่ให้เดินทางเข้าอังกฤษนั้นคงไม่เป็นปัญหา  เพราะครอบครัวของโคลอี้ได้ย้ายไปอยู่โมนาโคนานมาแล้ว  (ครอบครัวกรีนที่รวยล้นฟ้าถูกกล่าวหาว่าย้ายไปอาศัยต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษี)

พ่อของเจอเรมี่ที่ถูกปล่อยตัวออกมาจากคุกได้เกือบปีนั้นได้ให้ข่าวกับสื่อโดยตรง เขาเป็นผู้คอนเฟิร์มเรื่องการตั้งท้องของโคลอี้  และยังประกาศว่าทั้งคู่วางแผนจะแต่งงานกัน  ตัวเขาหวังว่าจะได้รับเชิญไปร่วมงานแต่งและพบกับแฟนของลูก  แม้หลังจากได้รับอิสระแล้วก็ยังไม่ได้พบกับลูกชายสักครั้ง  แต่ได้คุยกันทางโทรศัพท์บ่อย ๆ