ดีบอกต่อ [รีวิว] เครื่องสำอางสายบุญ! ไม่ทดลองกับสัตว์ และ รักเพื่อนร่วมโลก */\* ที่ใช้ดี๊ดี

     ในช่วงหลายปีมานี้ .. มีการพูดถึง การทดลองเครื่องสำอางในสัตว์ กันมากขึ้น เนื่องด้วยว่าวิธีการของมันที่ค่อนข้างรุนแรงประมาณนึง ทั้งการหยอดเครื่องสำอางลงลูกตากระต่าย การทาที่ผิว และ สุดท้ายพอทดลองเสร็จสัตว์พวกนั้นก็ต้องตาย
     จึงมีการรณรงค์มากขึ้นในเรื่องนี้ และแบรนด์ต่างๆก็เริ่มตระหนักถึงเรื่องนี้กันมากขึ้นค่ะ
ซึ่งเราเองก็สนับสนุนเรื่องนี้เลยพยายามจะเลือกใช้เครื่องสำอางที่ไม่ทำร้ายสัตว์ตลอด วันนี้เลยอยากจะมาแชร์กันค่ะว่ามีอะไรบ้างที่เราใช้อยู่ แล้วใช้ดีด้วย

1.Scentio Milk Plus Whitening Q10 Facial Foam
ขอโทษที่ดอกไม้เหี่ยวไปนิส เราเก็บดอกไม้ที่ตกพื้นมาจ้า
(เพื่อให้เข้ากับตีม ไม่เบียดเบียนโลกเนอะ)
     SCENTIO  เป็นเครือของ Beauty Buffet ค่ะ ซึ่ง Beauty Buffet ก็คือแบรนด์ไทยแบรนด์หนึ่งที่ไม่ทดลองกับสัตว์ค่ะ โดยบางแบรนด์จะสังเกตได้ง่ายๆเลย เพราะจะเป็นรูปกระต่ายอยู่ข้างหลังตัวสินค้าเลย ส่วนบางแบรนด์ก็มีที่กล่อง ยิ่งเป็นของคนไทยด้วย แถมไม่ทดลองกับสัตว์อีก เราก็เลยอยากสนับสนุนมากๆเลยค่า
     ตัวนี้เป็นโฟมล้างหน้าที่โฟมนุ่มมาก ให้ความชุ่มชื้นได้ดี๊ดี …  แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการล้างออกยากนิดนึง  ตัวเนื้อโฟมนุ่มละเอียดเลยทีเดียว  และหลายๆรีวิวบอกว่ากลิ่นหอมนมมากๆ ซึ่งก็หอมจริงๆ นะ กลิ่นเหมือนขนมเลย >___<   เหมือนเอานมมาล้างหน้าเลย
    Scentio Milk Plus  ตัวนี้ เด่นเรื่องที่มี Co-enzyme Q10 มีวิตามินอี มีสารสกัดอโลเวรา และ มี Glycerin ที่ช่วยรักษาสมดุลให้ผิวหน้า จึงให้ความชุ่มชื้นดีมาก แต่ถ้าคนที่ชอบโฟมแบบล้างออกง่ายๆ ล้างแล้วผิวจะตึงๆ อาจจะไม่ชอบนะคะ

แต่รักตรงที่ตีฟองได้ง่ายมากๆ และ ฟองนุ่มมากๆค่ะ ไม่แปลกใจเลยนะ ที่คนใช้กันเยอะ ^^

คะแนน ::  8 \ 10  ค่ะ  
2. Wet n Wild Cover All Concealer Palette
Wet n Wild ก็เป็นอีกแบรนด์หนึ่งเช่นเดียวกัน ที่ไม่ทดลองกับสัตว์ ดูได้จากหน้า Website เค้าได้เลยค่ะ
ซึ่งเจ้าคอนซีลเลอร์ตัวนี้ ของ Wet n Wild ถือว่าดังประมาณนึงเลยนะ เพราะมีถึง 4 สีในตลับเดียว
               มีสีชมพูอ่อน ตัว Brightens ไว้ปกปิดจุดด่างดำ รอยดำๆ
               ส่วน สีเขียว ตัว Neutralizes ปกปิดรอยแดง เช่นสิวอักเสบต่างๆ
               สีขาว ตัว Highlights ไว้ไลท์ดั้ง เฉดดิ้งหน้า อันนี้ คือดีมากค่ะ ใช้ดี ดั้งพุ่งฝุดฝุด
               ส่วนสีเนื้อ Covers ใช้เป็นคอนซีลเลอร์ตามปกติได้ตามปกติเลยค่ะ แต่เราว่าสีมันออกน้ำตาลไปนิดนึงค่ะ

ทดลองปาดให้ดูค่ะ สีฟรุ้งฟริ้งเชียว

โดยส่วนตัวชอบสีชมพู กับ ตัวไฮไลท์นะ ได้ใช้ค่อนข้างเยอะดีค่ะ เอาจริงๆ ราคาไม่แพง รวมๆแล้วตัวนี้คุ้มค่าดีจ้าา

คะแนน ::  9  \  10 ราคา ok  หักตรงสีเนื้อมันสีน้ำตาลเกินไปหน่อยจ้า แต่รวมแล้วชอบมากๆเลย
3. Kindness Happy Glow Antioxidant Radiance Moisturizer
     Kindness เป็นสกินแคร์ที่ดังอยู่ช่วงนึง เราก็เลยซื้อมาลอง ด้วยความที่เห็นเป็นแบรนด์ของคนไทย (อีกแล้ว) แล้วก็ไม่ทดลองกับสัตว์ รักสิ่งแวดล้อม (ใช้หมึกพิมพ์ฉลากจากถั่วเหลือง) แล้วก็มีทำ CSR อีก คือถ้าซื้อครีมของเค้า เค้าจะบริจาคให้โครงการคนที่ขาดแคลนน้ำสะอาด อะไรประมาณนี้ เลยรู้สึกว่า เออ ซื้อดีกว่า
     แล้วตัวนี้เหมาะกับคนผิวแพ้ง่ายด้วย แม้เราจะไม่ได้ผิวแพ้ง่าย แต่ก็รู้สึกว่าใช้ของอ่อนโยนจะดีกว่า เพราะของไคนด์เนสเป็นครีมออร์แกนิค ซึ่งพอใช้แล้วหน้าก็ชุ่มชื้นขึ้น ทาบางๆทุกคืนก่อนนอน รู้สึก ok มากๆ  จากที่หน้าเราแต่ก่อนแห้งๆ และมีสิวเล็กน้อย พอใช้ไปได้สักพัก รู้สึกเลยว่าหน้าดีขึ้น และนางอ่อนโยนมากจริงๆ ชุ่มชื้นนิดๆ และที่สำคัญคือ หน้าเรานุ่มขึ้นมากกกก

เนื้อครีมเป็นสีออกเหลืองส้ม จากสาหร่ายสีแดง ที่เป็นส่วนผสม ซึ่งสาหร่ายสีแดงจะช่วยเรื่องริ้วรอยได้ดี

คะแนน ::  9.5 \ 10  รู้สึกว่าแบรนด์เค้าใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆดี ตัวครีมก็ดี ใช้แล้วหน้าดีขึ้นจริง

4.L'Ocean Perfection Two-Way Cake
     โลแซงเป็นแบรนด์เล็กๆจากเกาหลี ที่ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ไม่ทดลองกับสัตว์เช่นกัน ซึ่งแป้งอัดแข็งผสมรองพื้นตัวนี้ร่ำลือกันว่า มีเนื้อละเอียด  กันแดด ได้คุมมันดี ปกปิดได้ ไม่เป็นคราบด้วย เราก็เลยไปซื้อมาลองบ้าง
     ซึ่งก็ดีจริงๆ เนื้อแป้งปกปิดดี แต่ไม่หนักหน้า ใช้นิดเดียวหน้าจะเนียนขึ้นมากกกก ไม่ต้องพึ่งคอนซีลเลอร์เท่าไรเลย ... ยกเว้นช่วงนั้นสิวจะมาเยือนจริงจัง

แล้วก็ทนเหงื่อ ทนลมได้ดี ตัวพัฟที่ให้มาก็คุณภาพดี สมราคา และสมกับที่คนในโลกออนไลน์ชอบกัน

มีสัญลักษณ์กระต่ายน้อยว่าไม่ทดลองกับสัตว์แน่นอน แต่ราคาที่ติดเกินไปมากเลยค่ะ เราซื้อ Konvy มาแค่890 เองค่ะ 55

คะแนน ::  9.8 \ 10 ไปเลย ใช้ดีจริง ไรจริงนะคะ
5.Oriental Princess Natural Power C Brightening Serum
Oriental Princess ก็เป็นแบรนด์ไทยดีๆอีกแบรนด์นึง ที่ชูเรื่องไม่ทดลองกับสัตว์บ่อยมากค่ะ ซึ่งเราก็คอยสนับสนุน โอเรียนทอล มาตลอดเพราะราคาโอเค คุณภาพดี หาซื้อง่าย
        แต่สำหรับเซรั่ม วิตามินซี ตัวนี้ ค่อนข้างผิดหวังนิดนึงค่ะเพราะตอนแรกคิดว่าจะเหมือนเซรั่มทั่วไป ที่เบาๆสบายหน้าหน่อยแต่ตัวนี้คือมันมากๆ ค่ะ เหมือนเอาน้ำมันมาทาหน้าเลย

    เนื้อซึมค่อนข้างยาก ขัดกับภาพภายนอกมาก ที่ดูเป็นเหมือนน้ำเปล่าใสๆ แต่จริงๆแล้ว หนืดและมันสุดๆ ตอนแรกที่ซื้อก็เพราะซื้อตามรีวิวต่างๆ แล้วก็ชอบแบรนด์อยู่แล้ว ก็เลยซื้อ แต่พอมาใช้จริงๆไม่ชอบเลยค่ะเหลือเต็มเลย ใช้ไม่หมด แต่สำหรับคนที่ต้องการความชุ่มชื้นมากๆ อาจจะชอบนะคะ แต่สำหรับเรามันไปนิดนึงจริงๆ

คะแนน ::  5 \ 10 ค่ะ ให้ได้แค่พอผ่านนะคะ ตัวอื่นๆของแบรนด์นี้ชอบจริงๆนะ แต่ตัวนี้ขอไม่ค่อยโอนะคะ */\* 

6.Chic & Charm Blush By Beauty Cottage
    บิวตี้ คอทเทจ เป็นอีกแบรนด์ไทยที่ ไม่ทดลองในสัตว์เช่นเดียวกัน ซึ่งตัวที่จะมารีวิวนี้คือบลัชออน  Chic & Charm Blush สี  No.02 Poppy Pink ค่ะ .. ตัวตลับนางสีสวยมาก ที่ซื้อเพราะตลับเลยนะเนี่ย มันน่ารักอ่า ><

     สีจะออกชมพู พีชนิดๆ พาสเทลหน่อยๆ ปัดออกมาแล้ว สีโอเคเลยค่ะ  แต่อาจจะไม่ค่อยติดทนนิดนึง มีชิมเมอร์ เพิ่มความแวววาวนิดหน่อย แต่เห็นไม่ชัดค่ะ
แล้วเค้าใส่ Mixed Berry Complex เพื่อบำรุงผิวเราเข้าไปด้วย  ราคาอาจสูงไปนิด ราคาราวๆ 400 ค่ะ แต่เราชอบสี และการทำแบรนด์ของเค้า ก็เลยซื้อมา
ชอบที่ความเป็นวินเทจ คือแพ้ลายดอกไม้อะไรพวกนี้ค่า

คะแนน ::   8 \ 10 ทุกอย่างโอเคเลย ติดที่ราคาแอบสูงไปนิดนึง

      สำหรับรีวิวนี้ก็มีเครื่องสำอางที่เราชอบประมาณนี้นะคะ นี่ก็เป็นอีกวิธีนึง ที่เราจะสนับสนุนอะไรดีๆได้ โดยไม่ยุ่งยากเลยค่ะ เพราะเครื่องสำอางก็เป็นสิ่งที่เราๆใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว แค่ลองพลิกฉลากดูนิดหน่อย เท่านี้ก็สนับสนุน และเป็นกำลังใจให้แบรนด์ได้ทำอะไรดีๆต่อไปแล้วค่ะ
สำหรับวันนี้ขอบคุณค่ะ

Discussion (13)

kindness ใช้ดีจริง เราใช้อยู่ แต่เพิ่งรู้ว่าเค้าบริจาคอะไรด้วยนะเนี่ย 
 เออดีแฮะ เราไม่ค่อยไปวัด แค่บริจาคเงินให้แมวจร กับใช้คสอ แบบนี้ก็พอแล้วน้อ  
 Wet n Wild ดีจริงไรจริงจ้ะ ตัวไล๊ดั้ง พุ่งมากกกกก ชอบ
วิตซีโอเรียนทอลเราชอบน้าาาาา มันให้ความชุ่มชื้นดีอ้ะ เพราะผิวเราแห้งมากกกกกกก  
 Kindness แบรนด์สายบุญเว่ออะ ตั้งแต่ชื่อละ คือเค้าไคน์สมชื่อจริงๆ