6 ผู้ช่วยเด็ด พิทักษ์หน้าสาวออฟฟิศ ให้สวยสตรองทั้งวัน

20 3

จะบอกว่าเป็นสาวออฟฟิศ ที่ต้องออกไปพบลูกค้า ขายงาน พรีเซนต์งาน เข้างานเช้า กลับดึก เวลามาตรฐาน 8 ชม. ไม่เคยพอ ทุกวันนี้ทำงาน 12 ชม. ตลอดดดดดดดด จนพี่ที่ทำงานหลายคนทักว่าเรื่องหน้า ไม่ใช้หน้าโทรมนะ แต่ทักว่าหน้าเป๊ะทั้งวันทั้งคืนเลยนะ ใช้อะไร ทำอะไรมา มีความลับอะไรปะ หรือเติมเมคอัพทุกชม. เราก็บอกว่าเปล่าเลยพี่ จะเอาเวลาไปไหนไปเติม ฮ่าๆ ก็เลยบอกไปว่าใช้อะไรบ้าง บลาๆ 


จากเรื่องวันนั้น เลยมาเป็นกระทู้นี้ เลยอยากมาแชร์ให้ฟังกันฉบับคนออฟฟิศ ว่าการมีตัวช่วยดี ก็ทำให้หน้าดูดีมีชัยไปกว่าครึ่ง นั่งทำงานตั้งแต่เช้า-ค่ำ แบบไม่ต้องห่วงหน้าเยิ้ม หน้ามัน เมคอัพไหล 

พื้นฐานเลยยยย ของการที่จะไม่อยากหน้ามัน เมคอัพเยิ้ม ตัวสำคัญที่สุดคืออยู่ที่ครีมกันแดดนี่แหละจ้า ถ้าเลือกผิด ไม่เหมาะกับผิวหน้าของตัวเอง ต่อให้เลือกผลิตภัณฑ์ต่อๆ ไปช่วยคุมมันแค่ไหน มันก็เท่านั้นอ่า เพราะระหว่างวันครีมกันแดดมันก็ไหลเยิ้ม ดันเมคอัพออกมาอยู่ดี และที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ คือ Smooth E Physical Sunscreen White Extra Fluid SPF 50+ PA+++ คือใช้มาไม่รู้กี่กระปุกแล้ว ซึ่งก่อนหน้าจะมาเจอตัวนี้ เราก็ใช้ทั้งที่เป็นสูตรกันน้ำ กันเหงื่อ คุมมัน แต่ก็ยังไม่ถูกใจ จนมาเจอตัวนี้แหละ 

ซึ่งความดีงามของมันคือเป็นครีมกันแดดชนิดไม่มีสารเคมี 100% ที่ไว้ใจได้ว่าจะไม่ทิ้งสารตกค้าง หรือทำไม่ให้เกิดสิวอักเสบ สิวอุดตันแน่นอน ใครที่มีผิวเซ้นซิทีฟแนะนำเลย และไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีน้ำมัน ไม่มีสารที่ก่อเกิดทำให้ผิวแพ้ และเป็นกันแดดแบบ physical sunscreen คือจะสะท้อนรังสียูวีออกไป ช่วยลดโอกาสการแพ้ได้ ซึ่งเราก็เป็นคนผิวแพ้ง่าย หน้าแดงง่ายเวลาโดนแดด ในจุดนี้คือมันก็ตอบโจทย์เราได้ดี และที่สำคัญเป็นสูตรควบคุมความมัน กันแดดได้ยาวนานถึง 8 ชม. ซึ่งก็จริงอย่างที่เค้าบอก หน้าเราไม่มันเลย (แม้จะทาเดี่ยวๆ ไม่มีเมคอัพช่วย) 


ส่วนเนื้อครีมก็เกลี่ยง่าย ซึมไวมากกกก ทาแล้วหน้าจะไบร์ทขึ้นมา 1 ระดับ แต่ไม่วอก ไม่วาว ไม่ลอย ไม่เทานะ ฮ่าๆ ไม่ต้องกลัวจ้า ราคา 500 กว่าๆ ไม่แพงเลย เมื่อเทียบกับความคุมมันได้ทั้งวัน ไม่ต้องกังวลเรื่องสิวบุก และกันแดดได้ดีด้วย

--------------------------------------------------------------------

ต่อมาเป็นตัวเบส วันไหนที่อยากหน้าเป๊ะ แบบหลังเลิกงานมีปาร์ตี้ต่อ หรือต้องนั่งประชุมกับทีมครีเอทีฟสุดหล่อตอน 3 ทุ่ม หน้าก็จะต้องเป๊ะหน่อย ฮ่าๆ บ้อบอ เราก็จะลงตัวนี้ช่วย เป็น Chanel Le Blanc De Chanel Multi-Use Illuminating Base

ซึ่งตัวนี้ก็ไม่มีอะไรมาก คือมันก็ช่วยให้เมคอัพติดทนขึ้นอีกระดับ ช่วยปรับสีผิวหน้าของเราให้ดูเรียบเนียน สว่างขึ้น เป็นตัวช่วยคุมความมันอีกอันนึง 


ส่วนเนื้อครีมจะเป็นขาวขุ่นๆ ทาแล้วจะหนึบๆ หน้า ต้องเกลี่ยดีๆ เพราะมันซึมไวมาก ซึ่งตัวนี้ราคา 2 พัน จำได้แม่นเว่อร์ เพราะราคามันแรง เลยไม่เน้นทาทุกวัน ด้วยเหตุผลที่ว่า เปลือง กลัวหมดเร็วนั่นเอง 555555 

--------------------------------------------------------------------

ขั้นต่อไปจะเป็นขั้นปกปิดต่างๆ ซึ่งเราก็ไม่ได้มีปัญหาผิวที่ต้องการปกปิดเท่าไหร่ ส่วนใหญ่คือปัญหาหน้ามันที่ทำให้ปวดหัว ซึ่งตัวครีมกันแดดสมูทอีก็ได้ช่วยได้ไป 70% แล้ว อีก 30% ก็เบสชาแนล ขั้นตอนนี้เลยเลือกเป็นคูชชั่น Laneige BB Cushion Whitening SPF50+PA+++ 

ให้หน้าดูโกลว์ๆ ใสๆ เผยความเป็นผิวไม่เน้นโบ๊ะหนา แต่ถ้าทาเดี่ยวๆ ก็ไม่รอดนะ หน้าจะเยิ้มเว่อร์ๆ อย่างน้อยคือต้องลงครีมกันแดดก่อน แล้วตามด้วยแป้งฝุ่น หรืออะไรก็แล้วแต่ 

เนื้อสัมผัสคือบางเบามาก ชอบ ไม่หนักผิว ปกปิดระดับ 1.5/5 ตัวนี้จะเน้นขาวใสมากกว่าอย่างที่บอก ใครมีปัญหาผิวพวกจุดด่างดำ ตัวนี้อาจจะไม่เหมาะ หรืออาจจะหาพวกคอนซิลเลอร์มาช่วยก็ได้ค่ะ ราคาพันนิดๆ ก็ถือว่าไม่แพงนะ

--------------------------------------------------------------------

พอเรื่องผิวๆ จบ ก็มาเพิ่มเติมความมีเลือดฝาด หน้าใสอมชมพูแบบไม่ได้ตั้งใจ ตื่นมาก็เป็นแบบนี้เลย ด้วย M.A.C CREAMBLEND BLUSH สีชมพูนมๆ เพราะครีมบลัชแบบนี้จะติดทน ติดแน่นกว่าฝุ่น 

ตัวนี้จะให้ความแก้มชมพู เงาๆ น่ารัก สีโทนซอฟท์ๆ ให้ลุคดูธรรมชาติสุดๆ เนื้อครีมจะเหนียวหน่อย มีความหนึบที่หน้าอยู่บ้าง แอบเกลี่ยยากหน่อย แต่ไม่เป็นไร เพราะสีมันน่ารักมาก ยอม อันนี้จำราคาไม่ค่อยได้แล้วอ่า น่าจะประมาณ 8-9 มั้ง ถ้าผิดต้องขออภัยด้วย

--------------------------------------------------------------------

และขั้นตอนสุดท้ายเกี่ยวกับผิวหน้า ก็คือลงแป้งฝุ่นทับเพื่อเซตทุกอย่างเมคอัพทุกอย่างให้อยู่คงทนมากยิ่งขึ้น เราจะเลือกแป้งแบบสีโปร่งแสง เพราะไม่อยากเมคอัพที่ลงๆ มาสีเพี้ยน เลยใช้เป็น Laura Mercier Translucent Loose Setting Powder

ซึ่งตัวนี้สามารถเติมได้ตลอดทั้งวัน แต่…เราไม่เติม เพราะขี้เกียจพกมันเป็นกระปุกใหญ่ ฮ่าๆ ไม่ทำให้หนักหน้า เบาสบายผิวสุดๆ ซึ่งตัวนี้เราว่าก็มีส่วนช่วยในเรื่องของคุมมันได้เหมือนกันนะ เนื้อแป้งเนียนละเอียด ตบๆ ไปที่ผิวแล้วนวลเนียนเลยล่ะ ราคาประมาณ 1400-1500 นี่แหละจ้า

--------------------------------------------------------------------

สุดท้ายและท้ายสุด จะออกจากบ้านไม่ได้ถ้ายังไม่กรีดอายไลเนอร์ ซึ่งเราใช้เป็นของ M.A.C Liquidlast Liner

ตัวนี้คือติดทนมากกกกกกก ถ้าไม่ใช้ออยล์ล้างคือไม่ออก เอาน้ำมาทู จนเปลือกตาแดงแล้วแดงอีกก็ไม่ออกนะจ๊ะ เหงื่อออกก็ไม่แพนด้า สรุปคือ ถ้าไม่อาบน้ำ 3 วัน มันก็สามารถอยู่กับเราแบบติดทนแน่นทั้ง 3 วัน ฮ่าๆ มันจะมาในรูปแบบจุ่ม เส้นไลเนอร์จะใหญ่หน่อยนะ ราคาประมาณ 1000

--------------------------------------------------------------------

และสุดท้าย เราจะมาตัดทอน จาก 6 เหลือ 4สำหรับวันรีบๆ หรือไม่ได้ไปไหนเป็นพิเศษ ก็จะเหลือเท่านี้ที่เราใช้ทุกวัน เพราะอย่างที่บอกว่าเราเป็นคนหน้ามัน ผิวแพ้ง่าย แต่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องรอยดำ รอยแดงต่างๆ ที่ต้องปกปิด 

1. เลยลงกันแดด ที่ช่วยคุมมัน กันแดด และกันเมคอัพเยิ้ม
2. ตามด้วยครีมบลัชให้หน้าดูมีอะไรหน่อย
3. เซตด้วยแป้งฝุ่นอีกที ให้ดูผ่องๆ 
4. ขึ้นอีกนิดและกรีดอายไลเนอร์ พร้อมก้าวออกจากบ้านแล้วจ้า 

ทั้งหมดนี่คือตัวช่วยของสาวออฟฟิศ ที่ช่วยให้หน้าเราสวยสตรองสู้แดด สู้ลม สู้ความมัน สู้ความตื่นเช้า กลับดึกได้อย่างดีเลยแหละ :p


momeko

momeko

FULL PROFILE