[ Anti-Acne ] สิวต้องหาย | เป็นสิวใช้อะไรดี ? My Skin Care Routine รวบรวมของที่ใช้จริง เห็นผลจริง ดูแลปัญหาผิวอย่างเป็นระบบ

สวัสดีครับเพื่อนๆ Jebanista ทุกคนเลยนะครับ

วันนี้ เจมส์จะขอเอาใจเพื่อนๆ คนที่มีปัญหาสิว กันบ้าง

เชื่อว่า ปัญหาสิว ถือเป็น ปัญหาระดับโลก ที่ทุกคนต้องเคยเป็นกัน

รวมทั้งตัวเจมส์เองที่เป็นสิวมาตลอดชีวิต

ดังนั้นเจมส์เลยมีความคุ้นชิน และ เคยชินกับสิวมากกก

เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนแท้เลยจริงๆ

เจมส์เลยอยากแชร์ Item สกินแคร์ต่างๆ ที่เจมส์ใช้จริงในช่วงนี้

และ อยากจะแนะนำ บอกต่อแก่เพื่อนๆ

ว่าสิ่งเหล่านี้ Skin Care Routine เหล่านี้ เขาดีจริงๆนะตัวเธอ

แถมราคาก็ไม่ได้แพงจนเกินไปด้วย

คือเจมส์ใช้แล้ว สิวที่เป็น สิวที่มีต่างๆก็คือ ทุเลา ลงจริง

พอเพื่อนๆอ่านจนมาถึงตรงนี้ ก็คงต้องอยากรู้แล้วใช่ไหมครับ

ว่า Skin Care Routine ที่เจมส์เอามารีวิวมีอะไรบ้าง

โอเค,, ไปดูกันเลยครับ

Skin Care Routine ที่เจมส์ใช้ในช่วงนี้จะมีทั้งหมด 7 ตัวด้วยกันนะครับ

มีตั้งแต่ ขั้นตอนล้างหน้า ทำความสะอาด ไปจนถึงบำรุงผิว แต้มสิวเลย

ก่อนอื่นที่จะมารีวิวแต่ละตัว

เรามาทำความเข้าใจกับสิว และเข้าใจปัญหานี้คราวๆกันก่อนนะครับ

สิว คือ การที่เซลล์ผิวเก่าที่ทับถมกันและไปรวมตัวกับไขมันที่อุดตัน + เชื้อแบคทีเรีย

สาเหตุของการเกิดสิวก็มาจากหลายๆปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมน ไม่ว่าจะเป็นความมันบนใบหน้า หรืออะไรก็ตาม

แต่จากที่เจมส์เรียนมา ประกอบกับ ประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ

สิวต่างๆ มักจะเกิดกับผิวที่มีปัญหา ผิวที่ไม่สมบูรณ์แข็งแรง

ซึ่งตรงนี้เจมส์ขอเรียกว่า “ปัญหาของผิวที่ไวต่อการเกิดสิว” นั่นเอง

และคนที่มีปัญหาผิวแบบนี้ ก็จะทำให้เกิด ปัญหาต่างๆตามมาได้โดยง่าย

เช่น ปัญหาผิวมัน / ปัญหาสิว / ปัญหาผื่นแดง / ปัญหาสิวหนองอักเสบๆ / ปัญหารอยแผลจากสิว เป็นต้น

จากรูปข้างบนก็ถือว่าเป็น  Guideline ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนะครับ

เพื่อนๆสามารถหยิบข้อมูลตรงนี้ไปใช้กันได้เลยครับ

----------------------------------------------------

สกินแคร์ที่เจมส์ใช้ทั้งหมด จึงต้องมีประสิทธิภาพในการช่วยดูแลปัญหาผิวอย่างครอบคลุมให้มากที่สุดด้วย

มาเริ่มที่ตัวแรกกันก่อนเลยนะครับ

เป็นเหมือน Step แรกในการดูแลผิวเลยที่ทุกคนไม่ควรละเลย นั่นคือ Step ของการทำความสะอาด

Step. 1 เช็ดๆ ทำความสะอาดสิ่งสกปรก เครื่องสำอาง และ ครีมกันแดด

จะบอกว่า แม้คุณจะไม่แต่งหน้า การที่คุณทาครีมกันแดด หรือการที่คุณออกไปเผชิญมลภาวะมา พวกสิ่งสกปรกต่างๆก็จะเกาะที่ผิวเราแน่นเหมือนกัน ทำให้การทำความสะอาดค่อนข้างจำเป็น ยิ่งแล้วถ้าคุณแต่งหน้า โอกาสการอุดตันก็ยิ่งเพิ่ม มากกว่าปกติ

แถมครีมกันแดดบางชนิด รองพื้น หรือ แป้งแต่งหน้าบางชนิดล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าอย่างเดียวก็ใช่ว่าจะออกหมดจด

ซึ่ง Cleansing Water ตัวนี้ของ Biore ถือว่าดีมากๆ , อย่างแรกคือ ราคาไม่แพง , สอง คือ เช็ดแล้วสะอาดใสดี

แถมเขามีสารบำรุงใส่เข้ามาด้วยนะ ก็จะมีน้ำเกลือธรรมชาติ + สารสกัดจากใบชิโซะ มินท์ ที่จะช่วยลดปัญหาสิวจากแบคทีเรียได้

Step. 2 ล้างหน้าให้สะอาดใส

โฟมล้างหน้าวิปโฟม ที่ช่วยลดปัญหาสิวและความมันบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โฟมตัวนี้ดีตรงที่ไม่ทำให้หน้าแห้งตึงเลย แม้แต่คนผิวแห้งใช้ก็ตาม ดีมากๆ

แถมช่วยทำความสะอาดอย่างล้ำลึก เผยผิวกระจ่างใส เนียนนุ่ม

ด้วยสารสกัดจาก ส้มจากเกาะเชจู และดอกคาเมลเลีย จากประเทศญี่ปุ่น

พร้อมจัดการปัญหาสิวอย่างตรงจุดด้วย BHA (Micronized Salicylic Acid)

และเจ้า BHA เนี่ยแหละ จะช่วยทั้งผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก และ ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียได้ด้วย

เลยทำให้สิวแห้งไว กว่า ไงครับ

แถมวิปโฟมก็คือ นุ่ม ตีฟองได้ฟู แต่ก็ไม่ได้ฟองแน่นเหนียวอะไรขนาดนั้น โดยรวมถือว่าชอบจ้า

แถมโฟมตัวนี้ยังอ่อนโยนด้วยนะ เพราะเขาปราศจากสารกลุ่ม SLS และ SLES ที่อาจจะทำให้บางคนระคายเคืองได้นั่นเอง

Step. พิเศษ มาสก์โคลนเพื่อช่วยดูดจับน้ำมันส่วนเกิน และ Detox ผิว

Step นี้ เจมส์จะใช้ก่อนอาบน้ำ ล้างหน้าครับ

มาสก์โคลน ถือว่าเป็นตัวดังสุดๆเลยในแบรนด์ของเขาก็ว่าได้ เพราะทางแบรนด์ Innisfree เขาใช้วิตถุดิบ raw material จากเกาะเชจูทั้งหมด ตัวนี้เป็นรุ่น มูสมาสก์ คือจะบอกว่ามีความใช้ง่าย สะดวก กว่าแบบกระปุกมากๆ

เนื้อมูสนุ่มฟู เกลี่ยง่ายทำให้ใช้นิดเดียวก็เกลี่ยได้ทั่วใบหน้า

มาสก์โคลนนี้ ทาให้ทั่วใบหน้าเว้นรอบดวงตา และ ปาก พอกทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออก

ตัวนี้จะช่วยในเรื่องของการควบคุมความมัน ดูดซับความมัน ดูดสิ่งสกปรกต่างๆในรูขุมขน ที่เป็นอีกสาเหตุของการเกิดสิวนั่นเอง ตัวนี้ดีมาก ช่วงที่เจมส์หน้าพังๆก็จะมาสก์ทุกวัน ตอนเช้า มาสก์ก็จะช่วยให้หน้าวันนั้นๆ ไม่ค่อยมันเท่าไหร่

เลิฟสุดๆ

Step. 3 บำรุงผิวที่มีปัญหาสิว ลดระคายเคือง ปลอบประโลมให้ผิวทรงตัวอยู่ได้

เจลว่านหางจระเข้ เจลอเนกประสงค์ของทางแบรนด์ Innisfree ตัวนี้มีส่วนผสมจากสารสกัดว่านหางจระเข้ สูงถึง 93.6 %

แถมเป็นว่านหางจระเข้จากเกาะ เชจู แหล่งธรรมชาติที่มีความบริสุทธ์สูง

ตัวนี้หลักๆเลยเจมส์ทาเป็นเหมือนตัวช่วยลดการระคายเคือง + ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว + ต้านการอักเสบ

อีกทั้งว่านหางจระเข้ เขาเองก็มีสรรพคุณ อย่างช่วยเรื่องรอยแผลเป็น ช่วยให้ผิวสมานตัวเองได้ดีขึ้นด้วย

เอาจริงๆเจลว่านหางจระเข้ ของ Innisfree ถือดีตรงที่ว่าไม่มีน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์เลยทำให้ผิวที่ระคายเคืองง่ายๆ หรือผิวแพ้ง่าย เป็นสิวใช้ได้อย่างสบายใจ

แถมยังมีสารที่ชื่อว่า Madecassoside เป็นส่วนผสมในหลอดนี้ด้วยนะ

เจ้า Madecassoside จะช่วยเรื่องสมานผิว รอยแผลจากสิว รอยแดง อะไรแบบนี้เป็นหลักเลย

แถมราคาถูกมาก หลอดใหญ่ด้วย มีติดบ้านไว้อุ่นใจครับ

มาถึง Step. 4 พระเอกของเรา

เมื่อเป็นสิว ก็ต้องมีเจลแต้มสิว สิเนอะ

ทำไมถึงบอกเป็น Step. พระเอก เอาง่ายๆถ้าเพื่อนๆคิดตามก็แบบ สิวมันคือตัวการร้ายใช่ไหมครับ

ตัวเจลแต้มสิวก็เหมือนเป็น Hero เป็นพระเอกมาปกป้องผิวเราจากพวกวายร้าย นั่นแหละ

เจลใสแต้มสิวที่เจมส์ว่า เด็ดมากๆ เพราะเขาไม่มีอาการแสบ ร้อน หรือระคายเคืองผิวเลย

ต่างจากเจลแต้มสิวในตลาดพอสมควร เพราะเจ้า DR.WU Intensive Blemish Spot Treatment With BHA

ผสานนวัตกรรมทางด้านส่วนผสมอย่าง Aekni:17 ส่วนผสมที่ได้ทำการวิจัยต่อเนื่องมา 5 ปี

เอาง่ายๆก็คือส่วนผสม 17 ชนิดที่ช่วยฟื้นฟู และช่วยเรื่องผิวที่เป็นสิวนั่นแหละครับ

อีกทั้งยังครอบคลุมไปถึงเรื่องผื่นแดง และ รอยแผลเป็นจากสิว

ตัวนี้เขาช่วยรักษารอยแดงและแผลที่เกิดจากสิวได้จริงๆ และทางแบรนด์เขาก็เคลมเองเลยว่าเห็นผลภายใน 3 วัน

และเหมาะสำหรับ คนที่มีผิวมัน ผิวไม่เรียบ และผิวที่พบปัญหาสิวทุกประเภท

ซึ่งเจมส์ก็เลยจัดการ ทดลองซะเลย เก็บภาพ เก็บข้อมูลหน่อย ดูสิว่า 3 วันจะหายไหม สิวที่เจมส์เป็นเนี่ยลองดูกัน

สิวอักเสบ เป็นอีกสิวประเภทนึงที่กวนใจเจมส์มากๆ

เจ็บก็เจ็บ บวม อักเสบแดงๆ แถมเป็นแล้วก็ชอบทิ้งรอยกวนใจ

แบบนี้ . . . ต้องจัดการ

ใช้เจลแต้มสิวเลยจ้า พาน้องสิวมาทำความรู้จัก DR.WU คุณหมอไต้หวันของเราซะหน่อย

เจมส์ก็แต้มแบบนี้ตลอดระยะเวลา 3 วัน เช้า-เย็น-ก่อนนอน

ผลลัพธ์ที่ได้คือ สิวดีขึ้นตามภาพเลยจ๊ะ จากสิวอักเสบๆปูดๆ ก็ค่อยๆแห้งและยุบหาย หัวหลุดกันไป

ความจริงตั้งแต่ 24 ชั่วโมงแรกแล้วที่รู้สึกเห็นผล คือ จากตัวแรกหัวสิวเป็นสีเหลือง 24 ชั่วโมงผ่านไปมันกลางเป็นหัวดำๆตรงยอด จากที่ปวดๆก็ทุเลาลง เบาปวดสิวลง นี่ก็ใจชื้นทาๆไป ครบ 3 วันก็คือเริ่ดดดด

ตามภาพเลยจ๊ะ ดีขึ้นละ เย้ !!! จะเห็นว่ารอยก็ไม่ได้สีเข้มมากเนอะ เพราะว่า เขามีส่วนผสมของ วิตามิน B3 + Tranexamic Acid เสริมฤทธิ์กันทำงานช่วยในแง่ของ WHITENING ไปพร้อมๆกัน

Step. 5 ตัวช่วยจัดการกับรอยสิว รอยดำ รอยแดง และรอยแผลเป็นต่างๆ

เจลช่วยเรื่องรอยสิว รอยแผลเป็นต่างๆ ที่ถือว่าดังมากๆตัวนึงเลยนะครับ สำหรับตัวนี้

เนื้อเป็นเจลใส เกลี่ยง่าย มีกลิ่นแปลกๆ แบบหัวหอมแดง

ถูกต้องแล้วครับเพราะสารออกฤทธิ์หลักๆของเจ้าตัวนี้ก็คือ สารสกัดจากหัวหอมแดง + โปรวิตามิน B5

ที่ช่วยส่งเสริมให้ผิวมีการสมานตัวได้ดีกว่าปกติ กระตุ้นการสร้างพวกเส้นใยต่างๆ ส่งผลให้รอยหายไวนั่นเอง

ตัวนี้ทาไปสัก 2 Weeks ก็คือเริ่มรู้เรื่องเลยว่าหน้าใสขึ้น แต่ราคาก็ไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ เสียตรงนี้เลย

Step. 6 Moisturizer บำรุงผิว คืนความชุ่มชื่น ให้ผิวกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง

   

CeraVe ถือว่าเป็น มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ที่เคยโด่งดังในไทยเรามานานหลายปีแล้ว

แต่เจมส์จะบอกว่า เขาใช้ดีจริงๆนะ เจมส์เองก็ใช้มาหลายขวดแล้ว เนื่องจากที่เห็นผลเลยก็จะเป็นเรื่องผิวกลับมาแข็งแรง

ผิวชุ่มชื่นขึ้น ใช้ไปเรื่อยๆรู้สึกผิวแลดูสุขภาพดีขึ้นจริง ผิวแห้งๆ ลอกๆ รับรองหาย

ตัวนี้แม้คนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ระคายเคืองง่ายเองก็ใช้ได้ เพราะเขาไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมเลย

เรียกได้ว่าเหมาะมากๆ กับผิวที่ระคายเคือง ตอนที่เป็นสิว มากๆ

ตัวนี้เจมส์ทาแค่ก่อนนอนนะครับ

-----------------------------------

มาดูกันดีกว่า

ถึงผลลัพธ์ เมื่อเจมส์ใช้ Skin Care Routine ทั้งหมดนี้

เอาจริงๆ สภาพหน้าเจมส์ด้านซ้าย คือ ทั้งผิวอักเสบ ทั้งหน้าแดง สิวก็มี ผื่นก็มี

พอเจมส์เริ่มบำรุงผิวตามที่รีวิวมาทั้งหมด เป็นเวลา 3 วัน

สภาพค่อยๆ กลับมาดีดังเดิม พวกรอยแดงต่างๆกลับดีขึ้นมา ฟื้นฟูได้ดี แต่ก็ไม่ใช่ว่าใสปิ๊งเลย

ก็ยังคงมีสิว ยังมีรอย ยังมีผื่นแดงอยู่ แต่แค่สภาพ Overall ภาพรวมคือดีขึ้นมากครับ

อย่าลืมว่า Skin Care ต้องใช้ไปเรื่อยๆ กว่าจะเห็นผลต้องใช้เวลาสักหน่อย

รีวิวนี้เป็นเพียงการทดลอง เก็บภาพ ให้เพื่อนๆได้เห็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงเฉยๆนะครับ

ถ้าเพื่อนๆสนใจ Item ที่เจมส์นำมารีวิววันนี้

ก็สามารถไปหาซื้อตามกันได้นะครับ เจมส์เชื่อว่าเพื่อนๆต้องเห็นผลตามแหละ

เพราะอันนี้เจมส์เองก็คัดเอาตัวเด็ดๆ ดีๆ มาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเหมือนกัน

เอาเป็นว่าวันนี้เจมส์ขอจบรีวิวไว้เพียงเท่านี้นะครับ

แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้านะครับ

ขอบคุณครับ บ๊ายบาย