ท้าพิสูจน์!! ความสดชื่นเพื่อผิวออร่ากับ Citra AURA GEL
mosarilla 14 3ฮัลโหล !! สวัสดีแดดประเทศไทยค่ะทำไมมันร้อนกันขนาดนี้เนี่ยยยยย
ร้อนแบบแค่ก้าวเท้าออกจากบ้านก็จะระเหยกลายเป็นไอแล้วอ่ะดูแลสุขภาพผิวกันหน่อยยเนอะ
วันนี้มีของดีของเด็ดมาขิงข่าเพื่อนๆอีกตามเคย
ต้องบอกก่อนว่ามันเป็นความบังเอิญมากที่เราได้เจอน้อง Citra Aura Gel
ตัวนี้คือด้วยความเป็นแม่ศรีเรือนไปซื้อของเข้าบ้านที่ Tops แล้วรู้สึกผิวแห้งหมูเลยเนียนๆ
เดินไปตรงโซนครีมบำรุงผิวเพื่อหาตัวเทสเตอร์ค่ะ ฮ่าๆๆๆ ละเราก็คว้าน้องใส่ตะกร้าแบบไม่ลังเล ด้วยความที่ข้างหลอดเคลมน้อง Citra Aura Gel ว่ามีส่วนผสมของวิตามิน B3+ E
ซึ่งช่วยบำรุงให้ผิวขาวใส ถ้าหากใช้ครั้งแรกๆจะไม่ค่อยมีความแตกต่างเท่าไหร่นะคะ
แบบยังไม่รู้สึกว่ามันสว่างแพรวพราวอะไรขนาดนั้น
แต่รู้สึกได้จริงว่าผิวชุ่มชื้นและไม่แห้งกร้านขึ้นมานิดหน่อย
และด้วยความสงสัยไปหมดทุกอย่างบนโลกใบนี้ของหมู คืออยากรู้มากกกก
ว่าประสิทธิภาพจะเหมือนที่เขียนเคลมไว้มั้ย เรื่องความชุ่มชื้นผิวสดชื่นเอย
เรื่องทาแล้วไม่เหนอะหนะเอย หมูเลยแงะของที่มีในตู้เย็นมาอีกแล้วค่ะ
คราวนี้แอบขโมยแอปเปิ้ลของพี่สาวมา คิคิ
อย่างแรกเลยคือ เราต้องจับคุณแอปมาทำมิดีมิร้ายก่อนค่ะผ่านางเลย เย้ยยย!
(นี่น่าจะสนุกเกินเบอร์ไปหน่อย ฮ่าๆๆๆ) ต่อมาคือบีบตัวเนื้อครีมเจลลงไปแล้วชโลมให้ทั่วค่ะ
แล้วก็จับทั้งสองชิ้นยัดไมโครเวฟเลยค่ะ ในขั้นตอนนี้หมูจะตั้งระดับความร้อนไว้ที่ 600
(หน่อยเป็นอะไรไม่รู้ แต่ความร้อนกลางๆค่ะ) ต่อ 30 วินาที ทำซ้ำ 4-5รอบ
เพื่อจำลองการขาดน้ำของผิวระหว่างวันค่ะ
(ขอไม่ถ่ายไมโครเวฟนะคะ สภาพทุเรศทุรังมากกก ฮรือออ
เหมือนจะเห็นความแตกต่างไม่ค่อยชัดกันใช่มั้ย ??
ภาพด้านบนคือหมูปล่อยคุณแอปทิ้งไว้ ประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากใส่ไมโครเวฟรอบสุดท้าย
ด้านที่ใช้เจลค่อนข้างจะยังมีความชุ่มชื้นกว่าพอประมาณเลยค่ะ ส่วนด้านซ้ายที่ไม่ใช้เจล
วงด้านในจะคล้ำกว่าและผิวแอปเปิ้ลจะแห้งมากกว่าแบบสังเกตได้เลย
แต่ค่ะแต่เนื่องจากกลัวว่าจะเกิดความไม่ยุติธรรมกับฝั่งแอปเปิ้ลที่ไม่ใช้เจล หมูมีตัวเลือกที่สองให้เสมอ นั่นคือ จับครีมปกติมาทดสอบร่วมกับครีมเจลกันไปเลยจ้า พร้อมแล้ว ลุยโลดด!!
ไปค้นแอปเปิ้ลในตู้เย็นมา วันนี้จะโดนด่ามั้ยให้ทาย ฮ่าๆๆๆจัดการผ่าน้องเลยยแล้วหยดครีมลงบนผิวเนื้อเลยค่า! พยายามทาให้เท่าและปริมาณเท่ากันนะคะ
เพื่อความยุติธรรมสำหรับคุณแอปทั้ง 2 ซีกจ้า ^____^
รอบนี้จัดเบาๆ ระดับความร้อน 600 ต่อ 30 วินาที ทำซ้ำ 3 รอบแล้วเอาออกมาวางทิ้งไว้ด้านนอกประมาณ 20 นาที ค่ะ
ผลออกมาคือไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก แต่น้อง CitraAura Gel จะยังมีความชุ่มชื้นของเนื้อแอปเปิ้ลมากกว่านิดหน่อยค่ะ
ยกนี้ คุณ Nivea body milk แพ้ไปอย่างน่าเสียดายมาวัดความเหนียวหนึบเหนอะของครีมกันบ้าง
เนี่ยคือกลัวจะหาว่าเล่นตุ๊กติ๊ก...? (มุขไม่ฮาพาเพื่อนถีบหน้าฮ่าๆๆ ตุกติกก็พอแล้ววว) หมูจับเวลาให้เลยนะเอาให้เห็นจะๆเลยว่าตัวไหนซึมเข้าผิวช้าหรือเร็วกว่ากัน หยดครีมลงเท่าๆกันค่ะห้ามขี้โกง ฮ่าๆๆชูสองนิ้วขึ้นมาละจัดการทาน้องครีมทั้งสองชนิดที่แขนพร้อมกันได้เลย
ทาถูๆๆให้ทั่ว เกลี่ยให้เท่าๆกันแล้วนะ ไม่โกงๆค่ะ
รูปนี้สังเกตนาฬิกาจับเวลาไว้ที่ 5 นาทีอันนี้ไม่ได้หมายถึงตัวเนื้อครีมซึมช้านะคะ
คือหมูทาให้ทั่วแล้วนั่งรอให้มันซึมจนมันแห้งไปเองค่ะ
ถ้าเราลูบไล้ครีมทาๆถูๆปกติแป๊บเดียวแห้งบางทียังถูไม่ทั่วเลยนางชิงแห้งไปก่อนก็มีค่ะ ฮ่าๆๆๆ
ทดสอบความเหนียวสุดคลาสสิกด้วยทิชชู่ตัดแผ่นเล็กๆ
เอาคุณทิชชู่โรยแขนแล้วใช้มือกดทับไป 1 ทีค่ะ
รูปนี้เห็นความแตกต่างชัดมาก คือด้วยเนื้อครีมเจลกับครีมปกติของ Nivea องค์ประกอบด้านกายภาพไม่ค่อยจะเหมือนกันค่ะทำให้เนื้อครีม Citra Aura Gel แห้งเร็วกว่าเยอะเลยอาจจะเพราะเนื้อครีมมีความเบาบางกว่า มีส่วนประกอบของน้ำด้วยซึ่งไม่ทำให้เหนียว อันนี้เหมาะสำหรับคนที่หงุดหงิดเวลาต้องรอให้ครีมแห้งในระดับนึงก่อนลงกันแดดอ่ะ ปาดCitra Aura Gel ปุ๊บ หยิบครีมกันแดดเปิดแทบไม่ทันค่ะ ฮรืออ แห้งไวม๊ากกกก
ฝากเคล็ดไม่ลับซักนิดค่ะ หมูว่าด้วยความเนื้อครีมของ Citra Aura Gel มันมีส่วนประกอบของน้ำค่อนข้างเยอะ ถ้าวันไหนอากาศร้อนๆอยากปกป้องผิวแต่ไม่อยากหงุดหงิดครีมเหนียวเหนอะ เอานางยัดตู้เย็นหรือผึ่งใต้แอร์ไว้ซัก 10 นาที จับมาทาผิวอีกทีนี่คือฟินมากกก เย็นสดชื่นสุดๆ พร้อมสู้กับแดดประเทศไทยแน่ๆค่ะสำหรับวันนี้จบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ หมูไปกินข้าวเหนียวมะม่วงฉ่ำๆดับร้อนก่อนน้า!!บายค่า.. อิอิ