รีวิว JLO X INGLOT BOOGIE DOWN BRONZER & LIVIN’ THE HIGHLIGHT

17 4
พูดเลยว่าสำหรับคนที่ชอบบรอนเซอร์และไฮไลท์คอลเล็คชั่นนี้พลาดไม่ได้ เพราะ Inglot นำเจ้าแม่ผิวบรอนซ์โกลว์ไฮไลท์พุ่งๆปังๆ อย่าง Jennifer Lopez มาคอลแล้ปด้วย เอฟซีคุณแม่อย่างเราก็คงจะพลาดไม่ได้ ในไลน์เค้ามีเกือบทุกอย่างเลยตั้งแต่งานผิว งานปาก งานตา งานแก้ม  INGLOT ยังไม่มีในไทยนะฮะ อยากได้ต้องหาร้านพรีเอา เราทำรีวิวไว้เผื่อใครต้องการจะซื้อ และยังไม่เห็นมีคนไทยทำ เราเลยทำเองซะเลย ไปชมกันเล้ยยยย 
1.Boogie Down Bronzer J215  สี Golden Sun (ประมาณ 1300 บาท (เคส+บรอนเซอร์))
Packaging น้องคนนี้แยกกันมานะครับ เป็นเคสกับตัวบรอนเซอร์ ต้องนำมาประกอบเอง ต้องซื้อแยกกันนะจ๊ะ คือเค้าจะเป็นแบบแม็กเน็ต ถ้าหมดแล้วก็สามารถซื้อเปลี่ยนเฉพาะตัวผลิตภัณฑ์ได้ โดยอาจจะต้องซื้อแม่เหล็กขนาดเท่าถ่านนาฬิกาเพิ่มเพื่อช่วยในการดึงให้แพนหลุดออกจากเคส ตัวเคสมีความเบาสามารถพกไปไหนได้สบาย และตรงตัวล็อกเป็นแบบแม็กเน็ต ส่วนตัวเราแล้วโดยรวมเรารู้สึกว่ามันยังไม่แน่นหนาเท่าไรนัก อ่อ... ด้านในมีกระจกมาให้ด้วยนะ
Texture & Shade เนื้อเนียนนุ่มดีแต่ !!!!! คือเวลามันปัดแล้วมันมีฟอลเอ้าท์เยอะมากเลยอ่ะ มันเป็นฝุ่นเยอะซึ่งเราเป็นคนค่อนข้างไม่ชอบให้แพคเกจจิ้งมันเลอะนี่ก็เป็นข้อเสียอย่างนึง และสีที่เราซื้อมาคือ Golden Sun เบอร์ J215 เป็นสีที่อ่อนที่สุด ตัวเรายังสามารถใช้ได้ (NC35) สีสวยมากกกก เป็นสีน้ำตาล วอร์มโทน คือน้ำตาลเหลือง ๆ เทียบกับ Benefit Hoola แล้วตัวนี้สีออกเหลืองในขณะที่ Hoola ออกแดง แต่JLO ไม่เหลืองมากยังใช้คอนทัวร์ได้อยู่สีไม่ตลกดั้งไม่ส้ม บรอนเซอร์มีหลายสีมาก ประมาณ 5 สีได้มั้ง มีทั้งคูลโทนและวอร์มโทนลองเข้าไปดูได้ในเว็บไซต์ของเค้า.  
รวม ๆ แล้วให้ 8 /10 หัก 2 คะแนน เพราะแพ็คเกจไม่ค่อยแน่นหนา และเนื้อผลิตภัณฑ์ เป็นฝุ่นมากไปเสียดาย 
2.Livin’ The Highlight J201 สี Radiant
Packaging ตัวนี้เป็นไฮไลต์แบบฝุ่น(Loose) ที่มาในรูปแบบกระปุก ซึ่งกระปุกมีความแน่นหนามาก ด้านในมีพัฟสำหรับใช้ในการทาในบริเวณกว้าง ตามตัวตามหัวไหล่ไหปลาร้าอะไรก็ว่าไป และที่สำคัญคือ พัฟนุ่มมากกกกก เปิดเข้าไปจะเจอสติ้กเกอร์ติดไว้สำหรับกันไม่ให้ผลิตภัณฑ์เลอะเทอะ (ตอนหลังเราลอกออกทั้งหมดเพราะมีพัฟอุดรูอยู่แล้ว) และแน่นอนว่าน้องจะไม่ออกมาเลอะเทอะกระเป๋า เพราะตัวฝาเองก็จะอัดให้แน่นขึ้นไปอีกระดับนึงเพื่อป้องกันการเลอะเทอะ ถือว่าทำได้ดีทีเดียวเรื่องของแพ็คเกจ
  • Texture & Shade เนื้อสัมผัสไม่ละเอียดมาก ซึ่งถือเป็นสัญญานที่ไม่ค่อยดี เพราะมันแสดงถึงเกล็ดชิมเมอร์ที่ค่อนข้างใหญ่ (ตอนแรกตกใจมากว่าปัดออกมาแล้วจะเป็นเกล็ดบนหน้ารึเปล่า) พอปัดขึ้นมาแบบ โอ้โหแม่เจ้า ใช่แค่นิดเดียววาวไปถึงดาวอังคาร คือมันวาวจริงแบบจริงบิ้วยิ่งวาว แบบสุดจริงนี่คือวาวที่สุดตั้งแต่เรามีมา วาวแบบว้าววาว ตอนปัดนี่คือร้องเพลงเลยอ่ะ วาว วาว ว้าว (ทำนองเพลง wild thought) แต่เชื่อมั้ยถ้าปัดดี ๆ ความเป็นเกล็ดมันไม่ได้โชว์บนผิวขนาดนั้น มันก็ดูเหมือนไฮไลท์ปกติ แต่เวลาแตะต้องแตะน้อย ๆ ค่อย ๆ บิ้ว เพราะถ้าแตะขึ้นมาเยอะ พวกส่วนเกินนั่นแหละที่จะทำให้หน้าของคุณมีแต่กากเพชรซึ่งมันจะดูไม่แพง ดังนั้นจึงต้องใจเย็น และนี่ไม่ใช่ ผลิตภัณฑ์สำหรับชาวเร่งรีบเท่าไร ในส่วนของสี สีที่เราซื้อคือสี Radiant เบอร์ 201 เป็นสีอ่อน ซึ่งเค้าทำออกมา 2 สี อีกสีจะออกบรอนซ์ ๆ ทอง ๆ คือสี Luminous และมันเข้มไปสำหรับผิวเรา (NC35) แต่ Radiant จะออก เงิน ๆ ทอง ๆ ซึ่งถือว่ากำลังพอดี ไม่ขาวไป ไม่เข้มไป 
รวมๆ แล้ว ให้ 8/10 หัก 2 คะแนน เกล็ดชิมเมอร์ใหญ่ไปนิดนึง สัมผัสมันมีความสากนิดเดียว แบบนี้ดดดดเดียว กับอีกอย่างคือความใช้ยากและเสี่ยงเลอะเทอะ
สรุป ๆ ๆ ๆ มัน “เกือบเวิร์ค” คือเรารู้สึกว่าตอนออกมามันว้าวมากเลยนะ เราแบบอยากเป็นเจ้าของอยากซื้อ จะเอา ๆ ชั้นต้องมี แต่พอฟังรีวิวจากหลาย ๆ คนก็เริ่มแอบหวั่น แต่สุดท้ายก็สอยมาจนได้ ก็ยังมีความผิดหวังนิดหน่อยตามคะแนนที่หักไป แต่ถ้าใครเอฟซีแม่ก็จัดได้เลยจ้า สำหรับตัวแทนที่คิดว่าน่าจะพอทดแทนได้ ในส่วนของบรอนเซอร์ก็ Benefit Hoola แต่ไฮไลท์นี่เรายังไม่เจอ เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากลองก็แนะนำให้สั่งไฮไลท์ดีกว่าเพราะมันแปลกดี เราขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ ถ้าใครสงสัยทิ้งคอมเม้นไว้ใต้โพสได้เลย ตอบทุกคอมเม้นแน่นอน ส่วนรีวิวต่อไปคืออะไร รอติดตามจ้าาา 


Jayskennedy

Jayskennedy

Thailand | Personal Reviews | Im a sucker for Foundations, Bronzers, Highlighters and some of Beauty Products. Follow me if you don’t want to miss my reviews.

FULL PROFILE