Skin Care เติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ฉบับมนุษย์ผิวแห้ง

เราเป็นคนนึงที่ปักธงเลยว่าชั้นคือมนุษย์ผิวแห้ง ซึ่งหลายๆคนจะเจอปัญหานี้ในช่วงฤดูหนาว เราเป็นคนนึงไม่ว่าจะช่วงฤดูไหนก็เป็นคนผิวแห้งเป็นทุนเดิมอยู่แล้วค่ะ เพราะงี้สกินแคร์ที่ใช้ก็จะเน้นหนักไปทาง เติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ไม่แห้งเอี๊ยดจนทำให้ผิวเราต้องสร้างน้ำมันให้ผิว จนทำให้ผิวเสียสมดุล และไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื่นได้ในที่สุด แถมยังเป็นปัจจัยหลักๆเรื่องหน้าหมองคล้ำ และผิวเหี่ยวย่น พูดแล้วเหมือนจะซีเรียสแต่นี่คือเรื่องจริงๆที่มนุษย์ผิวแห้งแบบเรากังวลสุด แต่อย่าได้กังวลไปซาร่า วันนี้เราเลยจึงขอแชร์ Skin Care เติมความชุ่มชื้นให้กับผิว  ที่เราใช้แล้วมันโอเคกับเรา เพื่อเป็นแนวให้สาวๆทั้งหลายกัน แถมอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอสำหรับผิวแพ้ง่ายด้วย พูดแล้วมากจะหาว่าโม้เยอะ ไปดูกันดีกว่ามีอะไรบ้าง 

เริ่มด้วยการทำความสะอาดผิวหน้ากันก่อนเลย เพราะเราเชื่อว่าผิวที่ดีเริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดค่ะ

เซ็ทความสะอาดผิวหน้า No7 Radiant Results Cleansers ซึ่งในเซ็ทนี้มี 3 ตัว 3 สเต็ป

โลชั่นทําความสะอาดเครื่องสําอาง และสิ่งสกปรกต่างๆ พร้อมคงความนุ่ม ชุ่นชื่นให้ผิว ทําให้ผิวสะอาด กระจ่างใส เนื้อโลชั่นเค้าเป็นสีขาวขุ่น เมื่อเกลี่ยลงผิวจะเป็นลื่นๆ 

เราจะใช้ปั้มโลชั่นลงฝ่ามือ สำหรับจำนวนปั้มขึ้นที่ใช้ขึ้นอยู่ความหนักของเครื่องสำอางนะคะ ส่วนตัวเราปกติจะแต่หน้าบางๆ จะใช้ประมาณ 3 ปั้ม แล้วนวดวนๆเบาๆให้ทั่วหน้า จากนั้นใช้สำลีเช็ดออก เกลี้ยงโล้นเลยจ้า จะรู้สึกได้ว่าหน้ามีความสะอาดในระดับนึง ไม่ทิ้งความมันของเนื้อโลชั่น และมีความชุ่มชื่นอยู่พอสมควรเลยค่ะ

 No7 Radiant Results Purifying Clay Cleanser All Skin Types

โฟมทำความสะอาดผิวหน้า ที่มีส่วนผสมของโคลน 10 % ช่วยในการดูดซับความมัน และสิ่งสกปรกปรกออกจากผิว ช่วยกระชับรูขุมขน ให้ผิวสะอาดสดชื่น และไม่ทำให้ผิวแห้งตึง เนื้อโฟมเป็นนุ่ม แต่ไม่ค่อยมีฟองเท่าไหร่

โดยหลังจากที่เราเช็คเครื่องสำอางเสร็จเราจะทำความสะอาดผิวหน้าตัวน้องโฟมตัวนี้แล้วล้างออก ปริมาณในการบีบกะประมาณตามความรู็สึกเลยค่ะ นวดให้ทั่วหน้าแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า หลังล้างเสร็จ ผิวหน้าเกลี้ยง ไม่เอี๊ยด ตึงเลยค่ะ 

ต่อด้วยการปรับสภาพผิวหลังล้างหน้าให้พร้อมแก่การบำรุง 

โทนเนอร์ช่วยเตรียมผิวหลังจากการล้างหน้า ช่วยฟื้นฟู ผิวเนียนนุ่ม สุขภาพดีขึ้น และผิวหน้ากระชับ  

เราจะใช้โทนเนอร์นี้เทลงบนสำลี แล้วเช็ดให้ทั่วหน้า แต่สิ่งที่แอบนอยกับความเจ้าตัวนี้คือ ปากขวดน้องกว้างเกินไป จึงทำให้หลายครั้งซุ่มซ่ามเทหกเลอะเทอะไปหมด โอ๊ย T^T แต่หักความรู้สึกที่ใช้ไปสักพักจะสังเกตว่ารูขุมขนเล็กลง แต่เรื่องความกระจ่างใสยังไม่เห็นผลค่ะ

โดยเซ็ทนี้เราสอยมาจาก Boots ค่ะ
ราคาประมาณตัวละ 400 กว่าบาท

ต่อไปเป็นงานบำรุงกันบ้างดีกว่าค่ะ 

ตัวนี้เล่าเสียงเล่าลือหนาหูมาก เป็นเซรั่มที่ช่วยเติม และกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว และพร้อมสร้างเกราะป้องกันความชุ่มชื้นในผิวด้วยน้ำมันจากเมล็ดชาเขียว เนื้อเซรั่มเป็นเนื้อใสๆคล้ายๆน้ำ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เมื่อลงผิวซึมไวมาก

โดยเราจะใช้แต้มให้ทั่วหน้า 5 จุดแล้วเกลี่ยบางๆ ความรู้สึกหลังใช้สักประมาณ 2 อาทิตย์จะรู้สึกได้อย่างชัดเจนเลยค่ะ ว่าผิวหน้าชุ่มชื้นมากเลยค่ะ และผิวฟูขึ้นเหมือนผิวคนพักผ่อนอย่างเพียงพอเลยค่ะ

เราซื้อมาจาก Innisfree ที่เกาหลีค่ะ
ราคาประมาณ 700 กว่าบาท ที่ไทยน่าจะประมาณพันนิดๆค่ะ

เจลครีมบำรุงผิวหน้าเพื่อความชุ่มชื่น เป็นเนื้อเจลเบาบาง ให้ความรู้สึกเย็น ชุ่มชื่น และช่วยบำรุงผิวให้กลับมามีชีวิตชีวา น่าสัมผัส มีกลิ่นคล้ายๆแอลกอฮอลอ่อนๆ แต่ไม่ฉุน

เราจะตัวนี้ทาก่อนนอน เกลี่ยบางๆ จะบอกว่าเนื้อน้องตัวนี้ซึมไวมากเหมือนได้ทาอะไร แถมตื่นเช้ามาหน้าเฟรชขึ้นมาในระดับนึงเลยค่ะ 

เราได้ตัวนี้ Village11 Factory ที่เกาหลี
ราคาจำไม่ได้แถมเราซื้อตอนมีโปรซื้อ 1 แถม 1 ด้วย ><

สลีปปิ้งมาร์กให้ผิวนุ่มเนียน ฉ่ำใส เหมือนผิวได้รับการพักผ่อนมาอย่างเต็มอิ่ม ตัวนี้สรรพคุณเหมือนกับตัวสีฟ้าเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือ เป็นกระปุกม่วง และกลิ่นลาเวนเดอร์ ลิมิเต็ดอิดิชั่น หน่อววว ครีมเป็นเจลข้น เนื้อสัมผัสเย็นสบาย กลิ่นหอมลาเวนเดอร์ 

วันไหนที่ล้าๆหรือนอนน้อยจะใช้น้องคนนี้แหละช่วยในการเฟรชผิว เพราะพอตื่นมาจะรู้สึกว่าผิวหน้าอิ่มๆ ฟูเหมือนคนนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพองี้เลยค่ะ 

ตัวนี้ได้มาจากช้อป  Laneige ที่เกาหลี
ราคาประมาณ 800 กว่าบาทค่ะ 

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับ Skin Care ของเราในวันนี้หวังว่าจะพอเป็น Item ในเช็คลิสของสาวๆกันในอนาคตกันได้นะคะ ส่วนใครใช้แล้ว ชอบตัวไหน รู้สึกยังไงมาเล่าให้เราฟังกันด้วยน๊า ไว้มีอะไรอัพเดท เราจะมาเล่าให้ฟังกันใหม่น๊า รัก.