[Find my Kopitiam] การเดินทางของผม by โกปี๊ ลูกชายคนเล็กของหนูคิส
King of Eugenie 17 4วันแมวโลกผ่านไปแล้ว 2 วัน ผมเพิ่งมีเวลามาเล่าหาสาวๆ เล่าเรื่องการเดินทางให้ฟัง
ผมไม่รู้เลยว่าผมเกิดวันไหน เวลาไหน ที่ไหน พ่อแม่ของผมเป็นใคร
ผมรู้แต่ว่าผมจำความได้อีกที ผมรู้สึกหิว หมดแรง ทุกอย่างมืดไปหมด ผมคล้ำไม่เห็นทาง ผมร้องขอให้คนช่วย เผื่อมีใครผ่านมา ผมได้แต่รอ ไม่รู้ว่าวันเวลาผ่านไปถึงไหนแล้ว
ไม่รู้ทั้งจุดเริ่มต้น และไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดที่ไหน หรือผมจะต้องจบการเดินทางทุกอย่างตรงนี้ ผมไม่รู้เลยจริงๆ
วันที่ 21 เดือนมิถุนายน 2018 ช่วงสาย ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งนึง
อยู่ๆก็มีคนช่วยผมออกมา ตาของผมยังไม่ชินกับแสงเท่าไหร่ ผมรู้สึกว่าผมแทบจะไม่มีแรงเหลืออยู่อีกแล้วด้วยซ้ำ
มือของผู้ชายคนนึงอุ้มตัวผมออกมา ผมได้สัมผัสกับอากาศเย็น หนาว และผมรู้สึกว่าผมย้ายไปอยู่กับมือของคนอีกคน มือที่เล็กสองมือได้ประคองผมไว้
ผมไม่รู้ว่าผมอยู่กับใคร แต่ผมตัดสินใจใช้แรงที่มีวิ่งไปเกาะที่ไหล่ของคนๆนั้น
"ผมรอดแล้ว"
วันที่ 21 เมื่อ 2 เดือนก่อน
คิสเดินไปซื้อกาแฟกระป๋องที่ร้านสะดวกซื้อ และร้านไม่เหลือพนักงานอยู่เลยสักคน
คิสเดินตามหา เพราะต้องการรีบจ่ายค่ากาแฟและรีบไป แต่พนักงานมาออกันที่ด้านข้างร้าน พร้อมสินค้าที่กองพะเนินเต็มรถเข็น
พนักงานพูดว่า ได้ยินเสียงร้องของแมวมา 2 วันแล้ว แต่หาไม่เจอว่าอยู่ที่ไหน จนหาแหล่งเสียงเจอ ก็เลยเอาของออกเรียกกู้ภัยมาช่วยกันเอาแมวออกมา
คิสยืนรอพนักงาน และก็คิดอยู่ว่าถ้าแมวออกมาคงจะไม่มีใครเอาแน่ๆ เพราะที่นี่ไม่ใช่สถานสงเคราะห์สัตว์ แถมยังอยู่ในปั๊ม ไม่ใช่ร้านหน้าตลาดที่จะมีคนใจดีเอาเศษอาหารมาให้กิน
แล้วสิ่งที่คิดไว้ก็เป็นเรื่องจริง เมื่อกู้ภัยอุ้มแมวตัวเล็กเท่าฝ่ามือออกมา ไม่มีใครจะดูแลแมวตัวนี้ต่อ คิสคิดว่าจะประกาศตามหาบ้านให้เค้าทีหลังเลยยื่นมือออกไป
"เดี๋ยวขอรับเอาไว้เองค่ะ"
พนักงานตบมือกันทั้งร้าน(อายมาก) กู้ภัยและพนง.ขอคิสถ่ายรูปคู่กันหมด(นี่ชั้นได้รางวัลนาฎราชใช่มั๊ย ตอบ!!)
ไม่คิดว่าแค่เริ่มต้น สิ่งที่ลูกแมวตัวนี้ทำคือปีนขึ้นมาเกาะบนไหล่คิส
คิสจำได้ว่าตัวเค้าสั่นไปหมด แต่กลับมาแรงปีนขึ้นมา คิสทำได้คือประคองไว้ และรีบจ่ายค่ากาแฟ และคิดว่าสิ่งที่ควรตามหาที่สุดคือนมแพะ เพราะลูกแมวตัวนี้ดูหงึกๆหงักๆ ตัวมอมแมมไปด้วยฝุ่นจนแทบจะคลุกเป็นสีเทา
"ไม่ต้องกลัวนะ ไว้จะหาบ้านให้"
คิสตั้งชื่อเค้าว่า "โกปี๊" แปลว่ากาแฟในภาษาบ้านคิส เพราะกาแฟนำพาให้เราได้มารู้จักกัน คิสคิดอย่างแรก คือคิสจะซ่อนโกปี๊จากที่บ้านยังไงดี เพราะไม่มีใครอนุญาตให้เลี้ยงแน่ๆ โกปี๊เป็นแมวจรยังไม่เท่าไหร่ แต่บ้านคิสเป็นคนจีนโบราณ โกปี๊มีตัวสีดำคงโดนไล่ออกจากบ้านแน่ๆ และเด็กคนนี้คงจะต้องตาย เพราะคิสมั่นใจว่าเค้าจะไม่รอด เค้าขาดแม่ ไม่มีนมกิน ต่อให้เจอคนใจดีเก็บไป ก่อนจะได้โชคดี อาจจะโดนรถเหยียบไปก่อน
โกปี๊กินยากมาก คิสเทนมไว้ก็ไม่กิน เอาสลิงป้อนก็แหวะนม ทำยังไงก็ไม่ยอมกิน
คิสเลยต้องตั้งเวลาไว้ทุกๆ 1 ชั่วโมง เพื่อมาเข้าห้องพระ แล้วจับโกปี๊กดลงให้ปากจุ่มลงไปในชามนม ให้นมติดปาก อย่างน้อยก็ได้สักหยด ทำยังไงก็ได้ให้เค้ากิน คิสก็ทำแบบนี้ทุกชั่วโมงเท่าที่คิสอยู่บ้าน
คิสไม่เอาเค้ามาอยู่ด้วยในห้องเพราะห่วงว่าจะมีโรคและติดไปที่ชิโน่ เลยกะว่าจะรอสัก 2 อาทิตย์ค่อยพาไปหาหมอ ตรวจให้เรียบร้อย
คิสมีอัดคลิปไว้ตอนประกาศหาบ้านให้โกปี๊ เรียกว่าซนระดับชาติมากๆ
ตอนแรกคิสเรียกว่าโอเลี้ยงนะคะ และมาเปลี่ยนเป็นโกปี๊ทีหลัง เพราะรู้สึกน่ารักกว่า 55
หาบ้าน
และ
โกปี๊
คิสต้องเข้าไปทำแบบนี้ตลอด หนทางสุดท้ายในการป้อนนมแนวแบบฮาร์ดคอร์
จนเช้าวันนึงที่คิสตื่นมา จะเข้าไปทำความสะอาดห้องให้โกปี๊(ห้องคิสจะเช็ดแล้วเดทตอลตลอด และโกปี๊ยังเริ่มหัดเข้ากะบะทราย ห้องเละไปหมด)
ชามนมที่เทเอาไว้หายหมดเกลี้ยง!!
คิสจำความรู้สึกได้ดีว่าคิสช๊อคมาก คิสรีบไปหยิบนมแพะในตู้เย็นมาแล้วเทในชาม
คิสไม่รู้ว่ามันหายไปเพราะอะไร เพราะมีคนในบ้านมาเจอแล้วหรือยังไง
โกปี๊เดินมาแบบขายังไม่แข็งแรง แล้วก้มลงไปกินนม และหันหน้ามาร้องใส่คิส
น้ำตาคิสไหล คิสบอกเลยว่ามันพิเศษมากๆที่คิสรู้ว่าเค้ามีพัฒนาการ และเค้าจะรอดตายแล้ว คิสกลัวมาตลอดทุกวันตั้งแต่เราอยู่ด้วยกัน ถ้าเค้าไม่ยอมกิน เค้าจะไม่รอด แต่ตอนนี้เค้ารอดแล้วแน่ๆ ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณทุกอย่าง คิสร้องไห้บอกโกปี๊ว่ามี๊ขอบคุณหนูมากที่ทำให้มี๊สบายใจสักที รอดจริงๆแล้วนะ
และคิสก็ยังไม่รู้ว่าโกปี๊เป็น He or She เลยได้แต่ถามคนอื่นเอา รู้มั๊ยว่าโกปี๊เป็น He or She ช่วยคิสดูกันหน่อยนะ
ผ่านไป 9 วันหลังจากพบกันครั้งแรก
บ้านคิสเจอตัวโกปี๊และมันเหลือเชื่อมากๆว่าทุกคนรักโกปี๊กันหมด
คิสดีใจที่ที่บ้านอนุญาตและมั่นใจแล้วว่าจะได้เลี้ยงดูโกปี๊อย่างดีที่สุด
คิสเห็นว่าเค้าเป็นแมวขี้เหร่ กลัวคนจะรังเกียจ ยิ่งครอบครัวคนโบราณ ขาวดำยิ่งเป็นของต้องห้าม คิสใส่ชุดอะไรสีดำก็ยังโดนว่าเลย
คิสรู้ว่าทำไมป๊ากับมี๊ถึงเอ็นดูโกปี๊(ดีไม่ดี เอ็นดูกว่าชิโน่ด้วย 55) เพราะโกปี๊เป็นแมวฉลาดมากๆ และขี้อ้อน
คิสไม่เคยเห็นโกปี๊หลับเลยสักครั้งเดียว ถ้าเปิดประตูไปหา โกปี๊จะวิ่งมา บางทีก็ล้ม แล้ววิ่งต่อมาอ้อนที่เท้า คิสจับไปดื่มนม ก็กินคำเดียว แล้วก็จะหันมาหา ถ้าคิสจะเดินออกจะร้อง ร้องแบบไม่ยอมให้ไป จนคิสต้องถีบโกปี๊เบาๆหลายครั้ง ไม่งั้นคิสออกจากห้องไม่ได้เลย
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง 9 วันเท่านั้น ไม่ต้องตามหาใครที่ไหนแล้วนะ
ที่นี่ละ บ้านหลังเล็กๆ แต่เป็นบ้านของหนูนะโกปี๊ เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว
^_____^
คิสว่าโกปี๊เป็นแมวที่เกิดมาให้คนรักแท้ๆ ใครก็ต้องรัก
เค้าเป็น My Little Cup คลิปนี้คิสเล่นกับเค้าในวันที่ 7 เดือน 7 เลขสวยจริงๆ
My Little Cup
คิสมีความสุขกับโกปี๊ในทุกๆวัน เค้าทำให้คิสยิ้มมาตลอด
จนคืนวันที่ 8 หม่ามี๊ไปหาโกปี๊(หม่ามี๊จะไปหาโกปี๊และชิโน่ เช้าเย็นทุกๆวัน) และเจอโกปี๊หมดแรงอยู่ในมุมห้องพระ
มี๊โทรหาคิสและเรานัดกันไปเจอที่โรงพยาบาลสัตว์จุฬาเพราะตอนนั้นก็เกือบ 3 ทุ่มแล้ว คลินีคแถวบ้านคิสไม่สามารถให้ออกซิเยนต่อได้
คิสวิ่งมาเจอกับหม่ามี๊ด้วยความงงสุดขีด เพราะตอนเช้ายังเล่นกับเค้าอยู่
ไม่แน่ใจว่าท้องเสียหรือเป็นอะไร หม่ามี๊บอกว่าไม่ใช่เค้าเหมือนไม่มีแรงไปเลย
คิสเปิดกรงมาอุ้มเค้า เค้าเหมือนแมวที่ไร้กระดูกไปแล้ว ไม่มีแรง ไม่เหลือแรงอีก
คิสรับสภาพไม่ได้ตั้งแต่เปิดกล่องออกมา ร้องไห้ลั่นโรงพยาบาลแบบไม่อาย เพราะไม่เคยเห็นโกปี๊สภาพนี้ แม้แต่เจอกันครั้งแรกยังมีแรงเกาะมาถึงไหล่คิสได้ แต่นี่เค้าไม่เหลือแรงอะไรเลย
เครื่องเอกเรย์เสีย หมอทำอะไรไม่ได้นอกจากให้น้ำเกลือ พ่นยา ให้ออกซิเจน และคิสต้องไปแอดมิดที่อื่น เพราะพักค้างไม่ได้ อุปกรณ์ไม่พร้อม
คิสพูดกับโกปี๊ตลอดเวลา "โกปี๊อย่าหลับนะลูก อย่าเพิ่งหลับ อยู่กับมี๊ก่อน มี๊มีที่ๆอยากพาไปอีกหลายที่เลย เดี๋ยวหนูจะต้องเล่นกับพี่ชิโน่่ เป็นเพื่อนกับพี่ชิโน่ อยู่กับมี๊ อ้อนหม่ามี๊ ห้ามกลับนะคะ มี๊อยู่ตรงนี้กับหนูตลอดเวลา หนูอย่ากลัวอะไรนะ"
จนถึงเวลาตีสอง ของวันที่ 9
ทางรพ.แจ้งให้คิสต้องไปแอดมิดต่อที่อื่น พร้อมรายละเอียดรพ.สัตว์ที่อื่นให้คิสตรวจสอบ
คิสอุ้มโกปี๊ เพราะโกปี๊ร้อง คิสบอกว่าเดี๋ยวก็ถึงมือหมอ เดี๋ยวก็ได้ตรวจแล้ว เดี๋ยวก็หายแล้วนะ คิสมั่นใจมากว่าโกปี๊จะผ่านไปได้ เพราะเค้าผ่านเรื่องลำบากมาพอแล้วตั้งแต่เค้าเกิด
จนคิสกำลังจะเดินออกจากรพ.(คิสอยู่รพ.เป็นคนสุดท้ายในคืนนั้น) โกปี๊ร้องขึ้นมาอีก จนคิสเปิดกรงใหม่อีกรอบ
โกปี๊ดื้นแรงในมือคิส ร้องจนสุดเสียง ตัวเค้าเหยียดด้วยความทุกข์ทรมาน คิสได้แต่ช๊อคเพราะไม่รู้ว่าอาการนี้คืออะไร คิสงงๆ จนเค้ากระอักเลือดจากปาก คิสเข่าแทบทรุด มือคิสไม่ได้อ่อนจนทำเค้าหล่น แต่ใจคิสแทบสลาย
คิสจำได้ไม่ลืม คิสวิ่งกลับไปประดูห้องหมอ ร้องดังที่สุดให้คนช่วย พอมีหมอออกมา คิสขอให้เค้าช่วย ช่วยเค้าด้วย ขอให้ช่วยด้วย หมอออกมากัน 3 คน และพยาบาล ผู้ช่วย
คิสโดนกั้นไม่ให้เข้าห้อง คิสรับไม่ได้ และไม่รู้ว่าทำไมโกปี๊กลายเป็นแบบนี้ไปได้
คิสภาวนาในใจขอให้พระเจ้าช่วย คิสไม่ได้รักสัตว์ แต่คิสรักโกปี๊ คิสอยู่กับเค้ามาแค่สิบกว่าวันเท่านั้น มันเกินไปที่จะเอาเค้าไปจากคิสตอนนี้ คิสและเค้าต้องอยู่ด้วยกันต่อสิ
คุณหมอเดินออกมาถามคิสว่าประสงค์จะให้ยื้อชีวิตด้วยการปั๊มหัวใจมั๊ย
คิสก็ไม่ค่อยเข้าใจ แต่หมอบอกว่าน้องโคม่าแล้ว
คิสถามหมอว่า "ขอถามคุณหมอ ว่าเค้าจะเป็นยังไงบ้าง"
คุณหมอได้ให้ความเห็นทางการแพทย์อย่างตรงไปตรงมา
คิสเหลือคำถามสุดท้าย "เค้าจะเจ็บรึป่าว"
และคำตอบที่คิสได้ ทำให้คิสต้องส่ายหัวให้หมอว่าให้เค้าสู้ด้วยตัวเองพอ
คิสพูดออกมาในใจ "ถ้าไหว ขอให้อยู่กับแม่ ไม่ไหว อย่ามีห่วงอะไร แม่จะรักหนูตลอดไป แม่จะไม่มีวันลืมหนู แม่ให้สัญญา"
คิสจับตัวประคองเค้าไว้ในตอนที่เค้าไม่เหลือลมหายใจอีกต่อไปแล้ว ตรงนี้คือที่ๆเราพบกันครั้งแรก และคิสรู้สึกว่าเราเกิดมาให้พบกัน
คิสขอบคุณที่เดินมาเกาะตรงนี้ ที่ตรงนี้ ทำให้คิสพาเค้ากลับมา ขอบคุณจริงๆ
คืนนั้นคิสรับตัวเค้ากลับมาถึงบ้านในเวลาตีสามกว่าๆ
พาเค้าไปที่มุมที่เราเคยเล่นด้วยกัน
คิสพูดกับโกปี๊ว่า "มี๊ขอโทษที่มี๊ไม่เคยพาหนูเข้านอน ไม่เคยได้อยู่ด้วยกันแบบพี่โน่ มี๊คิดว่าจะได้ทำกับหนูตอนหนูโตแล้ว มี๊คิดว่าตัวเองยังมีเวลาอีกมากมาย มี๊ไม่คิดว่าหนูจะรีบไปจากมี๊เร็วขนาดนี้ คืนนี้ เรานอนหลับไปด้วยกันนะ มี๊จะนอนกล่อมให้หนูนอนหลับเอง หลับให้สบายตรงนี้ ฝันดีนะลูก"
คิสเองก็ไม่เคยมีลูก คิสไม่รู้หรอกว่าใจของแม่คนนั้นเป็นยังไง
การมาของโกปี๊ทำให้คิสรู้สึกเฉียดใกล้ความรู้สึกนั้นมากที่สุด ความรัก ความสูญเสีย ความเป็นห่วง ความกังวล หัวใจของคนที่รักอย่างที่ไม่มีเหตุผลรองรับเป็นยังไง
คิสเพิ่งเข้าใจว่าทำไมตอนที่คิสเข้าห้อง ICU แล้วคิสลืมตามากี่ครั้งคิสก็เห็นมี๊อยู่ ทั้งๆที่มี๊คิสเป็นคนไฮเปอร์แอคทีฟ อยู่นิ่งๆนานๆไม่ได้ ต้องหาอะไรทำ แต่เค้าอยู่นิ่งๆรอคิสได้ตลอด คืนสุดท้ายที่อยู่กับโกปี๊ คิสไม่ได้ละสายตาจากเค้าเลยแม้แต่นาทีเดียว ห้องน้ำก็ไม่เข้า คิสทนหมด ขอให้ได้มองเค้า คิสกลัวไปหมด
โกปี๊ทำให้คิสหันกลับมาดูตัวเองว่าได้ทำหน้าที่ลูกที่ดีบ้างรึยัง
โกปี๊ได้ทำให้มี๊ยิ้ม มี๊หัวเราะ แล้วเราละ ทุกวันนี้ทำรึยัง โกปี๊จะรีบเข้ามาหาคิสทุกครั้งที่เปิดประตู คิสต้องกลับมานึก เวลาปะป๊าหม่ามี๊กลับมา เคยรึยังที่รีบกลับไปเอาน้ำ เอาชาไปให้ดื่ม ลงไปให้ที่บ้านได้เห็นหน้า
คำตอบคือคิสยังทำได้ไม่เท่าที่โกปี๊ทำ คิสเพิ่งมาเรียนรู้จากลูกแมวตัวนึงที่เข้ามาในชีวิตแค่ 19 วัน