เปิดโต๊ะเครื่องแป้ง แมนๆ คุยกันเรื่องเมคอัพครัช!

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยแต่งหน้าเวลาไปทำงาน ไม่ได้มั่นหน้าว่าหน้าดีแต่อย่างใด แต่ด้วยความที่เป็นคนตื่นสาย แค่อาบน้ำหาชุดใส่ไปทำงานแต่ละวันมันก็แทบจะหมดเวลาแหล่วววว จะให้แต่งหน้าแบบเต็ม 100 ก็คงจะถูกไล่ออกเพราะไปทำงานสายกันพอดี ทุกๆ วันเลยแต่งได้แค่ 10-20% เบาๆ ส่วนมากเวลาจะแต่งแบบจริงจังหน้าไปไหนมาไหนก็จะเน้นแต่งเพื่อออกงานสำคัญๆ ต่างๆ หรือมีนัดกับเพื่อนบ้างอะไรบ้างนั่นเอง

และไอเทมที่จะมารีวิวในครั้งนี้ ได้มาแบบฟลุ๊คๆ เพราะพี่สาวให้มา นางให้มาจริงๆ เพราะก่อนหน้าที่จะถึงวันเกิดนาง นางก็บ่นๆ กับเพื่อนๆ ว่าอยากได้เมคอัพใหม่ เพราะของเก่านางใกล้+เกือบๆ จะหมด ยังไม่ได้เติมของใหม่ แล้วทีนี้เพื่อนๆ อีเจ๊แกก็ซื้อของมาเซอร์ไพรซ์วันเกินนางจ้าาา (นางใช้ Three เป็นประจำอยู่แล้วจนเพื่อนจำได้) สรุปว่า วันเกิดนาง ของขวัญชนจ้าาาาาาา เพื่อนซื้อของมาชนกันโดยไม่ได้นัดหมาย ทีนี้ผลประโยชน์มันก็เลยตกอยู่ที่ข้าพเจ้านั่นเอง อะไรที่ซ้ำๆ กันที่เพื่อนนางซื้อมาชน ก็ตกเป็นของเอิ๊กนี่แหละ 5555+ อยู่ดีๆ ได้ใช้ของฟรีแบบเก๋ ขอใส่แฮชแท็กแพร็พพพ #หน้าปังตังค์อยู่ครบ ไหนๆ ก็ได้ของดีมาใช้ฟรีๆ แล้ว ก็เลยจะขอรีวิวสักหน่อย (ขอบคุณนะเจ้) จะมีตัวอะไรบ้าง มาดูกันเล๊ยยยยย

• THREE ANGELIC SYNTHESIS FOUNDATION SERUM No.102
• THREE AIRLIFT SMOOTHING WAND
• THREE ULTIMATEDIAPHANOUS LOOSEPOWDER No.02

ก่อนอื่นเลยนั้นเอิ๊กจะขอแยกการแต่งหน้าออกแบบ 2 แบบก่อนเนอะ

แบบวันทั่วไป วันทำงานปกติ

THREE ULTIMATEDIAPHANOUS LOOSEPOWDER

นี่แหละคือคำตอบในวันทำงานเร่งรีบของเอิ๊ก ตัวเดียวจบ เอาอยู่กับตัวแป้งฝุ่นเบอร์ 02 ตัวนี้ เพราะถึงจะเป็นเพียงแค่แป้งฝุ่น แต่ว่าคุมมันได้ระดับนึง แถมช่วยเพิ่มระดับความไบร์ทของผิวหน้าให้ดูสว่าง ไม่หมองระหว่างวันด้วย ที่ชอบมากๆ คือเป็นสูตรแป้งที่ออนโยนและเอาอยู่ทุกสภาพผิว ผิวแพ้ง่ายบอกเลยว่าไม่ต้องกลัวใช้ได้แน่นอน โดยวันรีบๆ แบบนี้เอิ๊กใช้พัฟของ THREE ลงกับหน้าเลย ลงให้ทั่วผิวหน้าแล้วตบด้วยลิปมันหรือวาสลีนแค่นี้ก็เอาอยู่สำหรับวันทำงานแบบผู้ชายแล้ว ไม่เยอะ และหน้าไม่สดจนเกินไป

​แบบวันที่ต้องออกไปงานสำคัญ หรือไปเที่ยวกับเพื่อนๆ

THREE ANGELIC SYNTHESIS FOUNDATION SERUM

เริ่มต้นด้วยรองพื้นหัวดรอปเปอร์ใช้งานได้ง่าย และที่สำคัญเป็นรองพื้นรักษ์หน้า (รักษ์โลกด้วยแหละ) เพราะส่วนผสมมากกว่า 83% นั้นมาจากธรรมชาติทั้งนั้น ใช้แล้วหายห่วงเรื่องการแพ้ได้เลย ตัวเนื้อรองพื้นเอาจริงๆ ให้ความชุ่มชื้นนะ เนื้อสัมผัสเบาแต่ปกปิดผิวได้แบบเนียนๆ ไม่เป็นคราบด้วย ที่ชอบคือมันเป็นรองพื้นที่เหมือนเป็นสกินแคร์บำรุงผิวไปด้วยอะ คือมันมีส่วนผสมโบทานิคอล ออยล์ 9 ชนิด ตอนลงรองพื้นแล้วใช้มือนวดผิวหน้าไปเรื่อยๆ สารอาหารผิวมันก็จะกลืนเข้าไปของผิวหน้า ทำให้สุขภาพผิวดีขึ้นด้วย เอิ๊กใช้สี 102 เข้ากับผิวหน้าได้ดีเลย แล้วก็ยังปกป้องผิวจากแสงแดดด้วย SPF38/PA+++ อีกด้วยนะ

ตอนใช้เอิ๊กใช้มือในการเกลี่ยรองพื้นให้เข้ากับผิว ไม่ได้ใช้แปรงหรือฟองน้ำนะ ความรู้สึกเหมือนว่าเป็นไอเทม 2 in 1 ที่ได้ทั้งเมคอัพและสกินแคร์ ในตัวเดียว ใครที่ผิวแพ้ง่ายบอกเลยว่า อันนี้เวิร์กจริงอะไรจริง ปกปิดเบาๆ บางๆ แบบผิวธรรมชาติไม่โป๊ะ เอาใจไปเลย

THREE AIRLIFT SMOOTHING WAND

หลังจากที่ลงรองพื้นไปแล้ว ก็ต้องมาถึงคอนซีลเลอร์ที่มีส่วนผสมของโบทานิคอล เป็นงานปกปิด แต่อันนี้ไม่ใช่งานปกปิดจุดด่างดำแบบคอนซีลเลอร์ทั่วไปนะ เพราะว่ามันคือคอนซีลเลอร์ที่ไม่มีสี ย้ำอีกครั้ง คอนซีลเลอร์ที่ไม่มีสี!!! เอาไว้ใช้ไฟต์กับปัญหาผิวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพวก รูขุมขนกว้าง ร่องแก้ม ร่องหน้าผาก และยังรวมไปถึงลดรอยหมองคล้ำได้ด้วย เพราะตัวเนื้อคอนซีลเลอร์สีชมพูจะทำให้บริเวณที่ทาดูสว่างขึ้นเมื่อกระทบกับแสงนั่นเอง ฟีลว่าไม่ต้องไปฉีดฟิลเลอร์หน้าก็ดูฟูดูเต็มได้ประมาณนี้เลยเจ้าตัวนี้เอิ๊กใช้หลังลงรองพื้นนะ ตัวเนื้อจะเนื้อนุ่มๆ ฟีลเดียวกับซิลิโคนเลย ลงแล้วก็เอานิ้วนี่อแหละนวดเบาๆ ให้ตัวเนื้อคอนซีลเลอร์ทำหน้าทีเติมเต็มร่องรอยที่ลึกๆ บนผิวหน้าให้ตื้นขึ้นมานั่นเอง (อันนี้จะลงก่อนลงหลังรองพื้นก็ได้ตามสะดวกเลยนาจา เพราะมันเป็นซีลเลอร์ที่ไม่มีสี สะดวกตอนไหนเอาที่สบายใจเลย)

THREE ULTIMATEDIAPHANOUS LOOSEPOWDER

เมื่อกี้อธิบายไปแล้วว่าวันปกติก็ใช้ตัวแป้งฝุ่นเบอร์ 2 อันนี้ เพราะมันช่วยผิวเนียนๆ ด้วยแป้งฝุ่นเนื้อแมตต์ ที่แน่นอนว่ามีส่วนผสมจากธรรมชาติถึง 80% มีส่วนผสมของโบทานิคอล ออยล์ ที่ช่วยในการบำรุงผิวหน้าไปในตัวด้วย เนื้อแป้งมีความละเอียดและอ่อนโยนมากๆ เพราะส่วนผสมไม่มีการแต่งสังเคราะห์ ไม่มีการทดลองหรือใช้ส่วนผสมที่มาจากสัตว์ ลงหน้าปุ๊ปกลืนไปกับผิวเลยให้ฟีลแมตต์แบบธรรมชาติมากๆ ตรงนี้คือที่ชอบสุดๆ เลยเอามาใช้บ่อยๆ แม้ไม่ได้ใช้รองพื้น แต่พอใช้คู่กับตัวรองพื้น THREE ANGELIC SYNTHESIS FOUNDATION SERUM บอกเลยว่างานดีจริงอะไรจริง คือมันเข้ากันมากไม่ต้องลงแป้งเยอะเลย คงกระพันอยู่ได้เกือบทั้งวัน (อันนี้ไม่เวอร์ พูดจริง)

อย่างที่บอกว่าตอนไม่ใช่รองพื้นเอิ๊กใช้พัฟของ THREE เพื่อความละเอียดทั้งหน้า แต่ตอนที่เอิ๊กใช้คู่กับตัวรองพื้น แป้งฝุ่นเอิ๊กจะใช้แปรงในการลง เพราะว่ารองพื้นปกปิดทำให้ผิวหน้าของเราเนียนๆ เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว แค่เอาแปรงปัดๆ เบาๆ ให้ทั่วหน้าเก็บรายละเอียดพอให้แป้งช่วยคุมมัน แล้วลงลิปมันเบาๆ ก็พร้อมออกงานแล้วแหละ

เปรียบเทียบกันหน่อย ก่อนและหลัง

เมคอัพในยุคนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเรื่องของผู้หญิงเสมอไป เพราะยุคนี้ผู้ชายเขาก็แต่งหน้ากันนะ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายจริงๆ หรือผู้ชายที่เป็นเกย์ เพราะเมคอัพช่วยเสริมความมั่นใจให้เรารู้สึกดีกับตัวเองได้ อยากจะบอกเพื่อนๆ ที่เป็นผู้ชายทุกคนว่า เมคอัพไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แค่เปิดใจกับมันแล้วมันจะทำให้คุณดูดีขึ้นครับ ^^*