[How to] แต่งหน้าโชว์งานผิวใส ๆ ด้วยไอเทมน้อยชิ้น แต่ผิวปังนะจ้ะ!
Up to Me Review 41 9ช่วงนี้ฟ้าฝนไม่เป็นใจอย่างแรง ร้องไห้ใส่หัวคนเดินดินกันบ่อย ๆ แทบไม่เว้นวัน ถ้าจะให้มา Makeup หนัก ๆ คงไม่ค่อยจะดีนัก พาลจะไหลเยิ้มไปกับสายฝน หรือบาวันที่ร้อนมาก ๆ ก็ไหลไปกับเหงื่อได้ เพราะฉะนั้นการแต่งหน้าเบา ๆ ที่เน้นงานผิวปั้วะปัง จึงเป็นคำตอบสำหรับเรา ด้วยความเชื่อที่ว่า Makeup จะออกมาดีได้พื้นฐานผิวก็ต้องดีด้วย แล้วก็บวกตามมากับเครื่องสำอางที่ดีงามไม่หนักหน้า ไม่ทำให้ผิวระคายเคือง รวมถึงควรใช้ได้ทุกวันแบบไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาอุดตันทำร้ายผิวด้วยนะจ้ะ
วันนี้เราจึงคัด 6 ไอเทมที่จัดว่าดี เด็ด ดัง และเริ่ดดดดต่องานผิวที่เราอยากนำเหนอ >3< และขอบอกก่อนนะคะว่าหัวใจสำคัญของงานผิวสวยคือความชุ่มชื้นผิวค่ะ เพราะฉะนั้นไอเทมเดดเหล่านี้คือตัวช่วยพิชิตผิวชุ่มน้ำ เด้งใสสุด ๆ กันไปเล๊ยยยยย
เริ่มกันที่สเต็ปแรกต้องบำรุงผิว และปรับสมดุลผิวให้สุขภาพดีอิ่มน้ำ เพื่อให้เมคอัพติดทน คำตอบที่ดีในเรื่องนี้คือการใช้ออยล์บำรุงผิวค่ะ เราเลือกใช้ Divine Youth Face Oil#L’occitane ที่เป็นสารสกัดจากน้ำมันหอมระเหยของ จากดอกอิมมอคแตล (Immortelle) และมีคุณค่าของออยล์ที่บำรุงผิวอีกหลากชนิดผสมอยู่ด้วย จึงเป็นสารสกัดจากธรรมชาติแท้ 100% เลย เนื้อสัมผัสของออยล์เป็นสิ่งที่หลายคนกลัว แต่สำหรับตัวนี้บอกเลยว่าบางเบา ซึมไวฝุด ๆ แต่ให้ความชุ่มชื้น เติมน้ำ และช่วยกักเก็บความฉ่ำน้ำของผิวได้ดี จึงเป็นสิ่งดีงามที่เราควรใช้บำรุงได้ทั้งเช้า เย็น และก่อนแต่งหน้าค่ะ
Trick & Tips: การใช้ออยล์ไม่ว่าจะชนิดใดก็ตาม ให้ถูกวิธีนั้นคือการวอร์มออยล์บนฝ่ามือให้อุ่น แล้วแท็ป ๆ บนผิวหน้าค่ะ ความอุ่นนี้เองจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของออยล์ให้ดียิ่งขึ้นนะคะ
ขั้นตอนที่ 2 มาเพิ่มความติดแน่นของเมคอัพ แถมยังได้การบำรุงผิวจากไพร์เมอร์ลูกรัก Beyond Veil #ILLAMASQUA ไพร์เมอร์เนื้อพุดดิ้งเด้งดึ๋ง ๆ สีแชมเปญพร้อมชิมเมอร์ช่วยกระจายแสงที่หน้าได้ดี เรากล้าใช้ทุกวัน เพราะว่าโนว์ซิลิโคน ไม่อุดตัน แถมมีบำรุงให้ด้วย คือรีบมาก ทาครีมบำรุงไม่ทัน เราก็ไม่กลัวทาตัวนี้แทนบำรุงพร้อมช่วยให้ผิวสามารถรองรับเมคอัพในขั้นตอนต่อไป และมั่นใจได้ว่าเมคอัพจะติดทนไม่มีหมองระหว่างวันด้วย เยิฟ ๆ ใช้หมดมาไม่รู้กี่กระปุกแล้วจร้า
เนื้อชิมเมอร์สีแชมเปญของน้องเค้าคือความแน่นอนที่แท้ทรูลงผิวแล้วฉ่ำดีมากเว่อร์
และขั้นตอนที่ 3 ก็มาถึงนางเอกงานผิวสวยที่แท้ทรูของเราแล้ว กับรองพื้นที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบำรุงผิวได้ด้วย Angelic Synthesis Foundation Serum #THREE มีกันแดดในตัวด้วยน้า ขึ้นแท่นรองพื้นลูกรักที่แบบร๊าคคคคคคคมากเว่อร์ เพราะทั้งบางเบ๊าบางเบา ไม่เหนอะ เกลี่ยง่าย และยังได้รับการบำรุงผิวด้วย เนื่องจากเค้าตั้งตัวเป็น “เซรั่มรองพื้น” เลยจ้า หรืออีกชื่อภาษาอังกฤษเก๋ว่า Makeup Skincare พี่ BA เหลาให้ฟังว่าใช้บ่อยได้ทุกวันได้ยิ่งดีเพราะมีตัวบำรุง และออยล์ถึง 9 ชนิด ช่วยฟื้นฟูผิวพังให้กลับมาปังได้ด้วย ฟังแล้วเคลิ้มไง ๆ บวกกับตามรีวิวจนต้องไปช้อปสอยมาทั้งคอลเลคชั่นใหม่แบบกลัวว่าน้องมากันแค่ตัวเดียวจะเหงาเด้อ แต่ก็ไม่ได้สงสารเป๋าตังเล๊ยยยย เอาบอกเลยว่าคุ้มค่าแก่การลงทุนใช้มา 2 เดือนทุกวัน ๆ ยังไม่ลดถึงครึ่งขวดเลยจร้า แถมผิวยังดูใสขึ้นด้วยนะเอ่อ
Trick & Tips: ด้วยความว่าน้องเค้ามีออยล์ผสมอยู่ค่อนข้างเยอะ เราจึงต้องทำการวอร์ม ๆ และก็วอร์มเบา ๆ ด้วยนิ้วมือก่อนทาลงบนผิวหน้า ทาตัวนี้ต้องทาให้เหมือนการทาครีมบำรุงจ้ะ ไม่ต้องปาดปาบ ๆ แต่เน้นความละมุน เน้นความอุ่นของนิ้วมือเรา จะช่วยให้เนื้อรองพื้นเค้าเนียบกริ๊บ เข้ากับผิวได้อย่างดีงาม แต่บอกก่อนนะว่าใครที่ต้องการงานปกปิดผิวมาก ๆ ไม่แนะนำ อย่างที่บอกน้องเค้าให้งานผิวใส งานผิวจริง ๆ ช่วยปรับผิวให้ใสละมุนขึ้น หากต้องการปกปิดพอควร แนะนำให้ใช้น้องเค้าเป็นเบสเมคอัพได้จ้ะ แล้วค่อยลงรองพื้นแบบปกปิดชัดเจนแจ่ม ๆ ทับอีกตัว บอกเลยว่าเริ่ดดดดดดดดด
Trick & Tips: เพิ่มเติม ใครที่ใต้ตาคล้ำ ๆ แบบเราจากนอนน้อย ภูมิแพ้ บลา ๆ ใช้ Angelic Synthesis Foundation Serum #THREE แต้ม 3 จุดแล้วเกลี่ยได้เลยจ้ะ
งานผิวที่แท้ทรู แต่งหน้ายังไงให้เหมือนไม่แต่ง เหมือนเป็นผิวที่แม่ให้มา อิอิ
ขั้นตอน 4 เก็บงานผิวให้เข้าทีกันด้วยตัวช่วยล้ำ ๆ ที่เราบอกว่าควรมี Airlift Smoothing Wand #THREE ฟีลแบบไพร์เมอร์ชนิดแท่ง ๆ ที่ไม่มีซิลิโคนมากวนใจผิวอีกเช่นเคย เป็นตัวช่วยเก็บพวกรอยใต้ตา หางตา หรือตีนกา ร่องแก้ม จมูก และรูขุมขน ด้วยเนื้อสัมผัสโปร่งแสงใส ๆ ที่ทาลงไปส่วนที่เราอย่างเติมเต็มให้ดูตื่น เพราะมี Polymer เป็นตัวหลักในการหักเหแสงควรทาเป็นทางเดียวกันไม่ถู ไม่ขยี้ซ้ำนะคะ
Trick & Tips: ทาแล้วเอานิ้วแท็ป ๆ ให้เข้าที่ค่ะ จะเซทตัวได้ดีมาก ๆ กับรองพื้นซีรี่ย์เดียวกันนี้
ตบผิวให้เป๊ะไม่เยิ้มระหว่างวันด้วยขั้นตอนที่ 5 Ultimate Diaphanous Loose Powder # THREE แป้งฝุ่นที่อณูเล็กมว๊ากกกกก เบาเบางและไม่เป็นคราบ เป็นสิ่งที่เราใช้ปิดงานผิวให้ดูสุขภาพดีมากขึ้น ด้วยว่าเป็นแป้งฝุ่นโปร่งแสงที่เนื้อแมทท์ก็จรินะ แต่ไม่ด้านไม่ฝืนธรรมชาติอ่ะ แรกลังเลใจสอยมาดีมั้ย เพราะเป็นคนไม่ทาแป้งจร้า แต่พอได้ลองเนื้อสัมผัสที่นุ่มจากพัฟของนาง และความเบาบางที่สัมผัสผิวหน้า รวมถึงเทสระหว่างวันแล้วว่าคุมมันดีช่วง T Zone ที่เป็นปัญหาของสาวผิวผสมสุด ๆ ก็เลยตัดสินใจสอยยกเซทตามมา และก็ใช้ตบเบา ๆ หลังลงรองพื้นเสร็จมาจนทุกวันนี้ล่ะ ชอบแค่ไหนไม่ต้องพูดเนอะ บอกเลยใครไม่มีพลาดมว๊ากกกกก!
ตบเบา ๆ พัฟนุ่มละมุนผิวหน้า เหมือนมาชเมลโล่เลยอ่ะ
ขั้นตอนสุดท้ายที่เราขาดไม่เคยได้เหมือนกันเพื่อความฟินนิชลุคในแต่ละวันให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ต้องมีตัวช่วยให้เมคอัพเราติดทนเพิ่มไปอีก แถมทำให้ผิวชุ่มชื้นด้วย เราใช้ Fix Make-Up Long-lasting Make-up Hold #CLARINS นี่ก็เป็นหนึ่งในแบรนด์รักที่ชอบสอยของใหม่ ๆ มาลองตล๊อดดด ตัวนี้ตอนแรกนึกว่าขวดน้ำหอมจ้ะนังเด๋อ ทรงเหมือนเกิ๊น เป็นมิสท์ไว้ใช้ฉีดผิวละอองที่ออกมาจากหัวสเปรย์สัมผัสนุ่มมว๊ากกก แถมมีกลิ่นหอมหรู ๆ สไตล์แบรนด์ให้เคลิ้มตอนฉีดนางอีก นอกจากฉีกเพื่อรับความรู้สึกสดชื่นส่วนผสมของ Aloe vera แล้ว ยังช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานอีกด้วย ตัวนี้เราก็เอาติดกระเป๋าไว้ฉีดระหว่างวันเติมความเฟรซให้หน้ายามร้อน ๆใช้ได้นาน ใช้มานานหลายเดือนแระ ดูจิยังลดไปไม่ถึงไหนเลย
Trick & Tips: หัวสเปรย์คืองานดีมากกกก ให้ละอองเบาบาง ปลอบประโลมผิวฝุด ๆ ฉีดหลังจบงานเมคอัพ หรือจะพกฉีดระหว่างวันได้สบายๆ เพื่อความชุ่มชิ้นของผิวแล้ว เป็นอีกตัวที่ตอบโจทย์อยู่
อวดงานผิวละมุน ที่เพื่อน ๆ แต่งตามกันได้ง่าย ๆ เลยใช่มั้ยล่ะคะ แถมแต่งแล้วผิวสวยผิวดี ไม่หมองระหว่างวัน และโนว์เทาหมีด้วยนะเอ่อ!