[How to] แต่งหน้าคุณแม่ ในเมื่ออายุเป็นเพียงตัวเลข ริ้วรอยก็เสกให้สวยงามได้

ใครก็ชอบพูดให้กำลังใจกันว่าอายุเป็นเพียงตัวเลขสายลมผ่าน... แต่ตาลเชื่อว่าคุณแม่หรือคนมีอายุหลายๆท่านคงเพลียใจกับริ้วรอยที่เพิ่มมากขึ้นทุกปีๆ แต่งหน้ากลบยังไงก็กลบไม่มิด หนำซ้ำเครื่องสำอางยังตกร่อง เห็นริ้วรอยชัดกว่าเดิม! จริงๆตาลอยากจะบอกว่า การมีริ้วรอยไม่ใช่เรื่องเลวร้ายขนาดนั้นหรอกค่ะ อย่าพยายามไปปกปิดเค้าเลย แทนที่จะพยายามปกปิด อัดรองพื้นหนาๆ ตาลอยากให้ลองแต่งหน้าโดยยึดหลักคอนเซปต์ Less is More แต่งเบาๆ เน้นความเรียบง่าย รับรองว่าคุณแม่จะต้องออกมาสวยเด้งไม่แพ้ลูกๆวัยใสแน่นอน XD

คุณแม่ของตาลอายุจะ 62 ปีแล้วค่าา พื้นผิวสีแทนเข้มเลยแหละ เพราะนางชอบเข้าสวนปลูกต้นไม้เป็นชีวิตจิตใจ วันนี้ขอยืมตัวมาเป็นนางแบบสักหน่อย ภาพนี้เปรียบเทียบ Before กับ After ให้เห็นชัดๆไปเลย 

เนื่องจากคนมีอายุผิวจะแห้งกว่าปกติ ดังนั้นตาลจะเริ่มต้นด้วยการทา Moisturizing Primer เพื่อปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนและช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว นอกจากนั้นยังช่วยให้เมคอัพติดทนนานอีกด้วยค่ะ

ตาลหลีกเลี่ยงการใช้รองพื้น เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะตกร่องและทำให้เห็นเส้นริ้วรอยชัดกว่าเดิม โดยตาลเลือกใช้ Tinted Moisturizer แทนค่ะ นอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวอีกขั้นแล้ว ยังทำหน้าที่ปรับสีผิวให้เรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย เนื่องจาก Tinted Moisturizer เค้าบางเบามากอยู่แล้ว ดังนั้นตาลจะไม่ใช้ฟองน้ำเกลี่ยนะ เพราะเดี๋ยวมันจะบางเกินไป ตาลเลยใช้แปรงทารองพื้นเป็นตัวเกลี่ยเนื้อครีม บอกเลยว่าทาออกมาแล้วผิวสวยเด้งดูเป็นธรรมชาติมาก

หลังจากทาผลิตภัณฑ์เนื้อครีมเสร็จ เราก็ต้องปัดแป้งฝุ่นเพื่อเซตไม่ให้มันเคลื่อนตัวและตกร่องนะคะ ตาลใช้เป็นแปรงขนาดเล็กค่อยๆปัดแป้งเบาๆทั่วใบหน้า ระวังอย่าทาแป้งหนาเกินไปนะคะ เพราะจะทำให้ผิวแห้งและเห็นริ้วรอยชัดขึ้น

ตาลเลือกใช้ดินสอเขียนคิ้วหัวเล็ก เพราะควบคุมโครงคิ้วได้ง่ายกว่า และตาลไม่อยากเขียนคิ้วคุณแม่ให้หนาเกินไป เพราะดูไม่สมวัยเท่าไหร่ ขั้นตอนนี้ก็แค่เติมคิ้วให้เต็มและเกลี่ยให้เนียนค่ะ

มาแต่งสีตากันค่ะ ตาลเลือกใช้โทนสีน้ำตาลแมตค่ะ ด้วยความที่คุณแม่มีอายุมากแล้ว...การที่จะมาทาตาสีม่วง สีชมพู มันก็ดูไม่สมวัยเนอะ ดังนั้นการเลือกใช้สีโทนธรรมชาติที่เข้มกว่าสีผิวเพื่อเพิ่มมิติให้ดวงตาจะออกมาดูดีที่สุด และตาลพยายามหลีกเลี่ยงสีที่มีประกายชิมเมอร์เพราะจะทำให้เห็นริ้วรอยชัดขึ้นด้วย...
เริ่มด้วยการปัดสีครีม (เบอร์1) ให้ทั่วเปลือกตาเพื่อเป็นเบสก่อน จากนั้นใช้สีน้ำตาล (เบอร์2) ทาบริเวณเบ้าตา พยายามอย่าให้เกินเส้นประตามภาพนะคะ จากนั้นใช้สีน้ำตาลเข้ม (เบอร์3) จิกลงไปบริเวณหางตา (Outer V) และปิดท้ายด้วยการปัดสีครีม (เบอร์1) อีกครั้งหนึ่งเพื่อทำให้ดวงตาดูสว่างและสดใสขึ้น

ตาลใช้ดินสอเขียนขอบตาแทน Liquid eyeliner เพื่อเส้นขอบตาที่นุ่มนวลค่ะ การเขียนขอบตาเส้นแข็งๆหางยาวเฟี้ยวเนี่ย ขอผ่านนะคะ ไม่เข้ากับลุคคุณแม่เลยยย แถมหนังตาที่ตกยังจะทำให้หางไลเนอร์บิดเบี้ยวไปตามกันอีกด้วย หลีกเลี่ยงการเขียนอินไลเนอร์เลยนะคะ เพราะจะยิ่งทำให้ดวงตาดูเล็กลงกว่าเดิม ไม่เวิร์คอ่าา

ปัดมาสคาร่าแค่ขนตาบนก็พอค่ะ คนมีอายุขนตาล่างร่วงแทบจะหมดแล้ว อย่าพยายามไปปัดมันเลย จะเลอะซะเปล่าๆ

เฉดดิ้งบริเวณกรอบหน้าและข้างสันจมูก ด้วยความที่คุณแม่ตาลผิวสีเข้ม ตาลก็จะใช้สีเข้มสุดในพาเลตบริเวณกรอบหน้านะ ส่วนข้างสันจมูกจะใช้สีอ่อนลงมาหน่อย เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติค่ะ อย่าลืมเกลี่ยให้เนียนนะคะ สำคัญมากๆๆๆ

เนื่องจากเราพยายามหลีกเลี่ยงการทาผลิตภัณฑ์เนื้อครีมหนาๆเพราะจะทำให้ตกร่อง เราจึงต้องมาพึ่งไฮไลต์แบบฝุ่นแทน ค่อยๆปัดบริเวณสามเหลี่ยมใต้ตา หน้าผาก สันจมูก เป็นคางตามเส้นประในภาพเลยจ้า 

เวลาปัดแก้ม ห้ามปัดที่กระพุ้งแก้มเด็ดขาด! เพราะจะทำให้แก้มดูย้อยเข้าไปใหญ่ ให้ปัดตามเส้นรอยประในภาพ เพื่อยกพวงแก้มขึ้น หน้าจะได้ดูตึง ดูสดใสขึ้น

คนมีอายุปากจะบางลงนะคะ ดังนั้นตาลจะใช้ดินสอเขียนขอบปาก เขียนเลยขอบปากจริงออกมานิดหน่อย เพื่อทำให้ปากดูอวบอิ่มขึ้น

จากนั้นค่อยทาลิปสติกสีเดียวกัน เติมสีให้เต็ม แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จแล้วค่า

Finished Look ก็จะประมาณนี้ สวยสมวัยตามธรรมชาติ~

เห็นไหมคะ...เราไม่จำเป็นต้องพยายามปกปิดริ้วรอยเลย แค่รู้เทคนิคเล็กๆน้อยๆเราก็จะสามารถทำให้มันสวยขึ้นได้ บอกเลยว่า ยิ่งพยายามปิด ยิ่งเห็นชัดเด้อ ดังนั้น Less is More นี้แหละค่ะ ตอบโจทย์การแต่งหน้าสาวมีอายุเป็นที่สุดดด!