การควบคุมน้ำหนักด้วยวิธีธรรมชาติไม่พึ่งยา
Pinyapattig
12
2
สวัสดีจ้าาาสาวๆ Jeban วันนี้ติ๊กจะมาแชร์วิธีที่ติ๊กใช้ในการควบคุมน้ำหนัก ซึ่งเป็นวิธีที่ติ๊กใช้แล้วได้ผลเวลาน้ำหนักขึ้นมา 2-3 โล โดยวิธีที่ติ๊กใช้เป็นวิธีที่ไม่ใครๆ ก็สามารถทำตามได้ง่ายๆ เลยค่ะ โดยติ๊กจะมีวิธีการควบคุมและลดได้โดยจะเน้น การทานอาหาร และการออกกำลังกาย นะคะ แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นวิธีการที่ใครๆ หลายคนได้ทำกันอยู่หรือเปล่าค่ะ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ติ๊ก เป็นคนที่มีขนาดสะโพกใหญ่ เอวเล็ก นะคะ โดยจะมีขนาด อก 32 เอว 23 สะโพก 37 ค่ะ สัดส่วน สูง 164 น้ำหนัก 52 (ติ๊กเป็นคนที่มีกระดูกใหญ่ค่ะ) ช่วงที่ติ๊กคิดว่าอ้วนที่สุด คือ น้ำหนัก 54 กิโลกรัมค่ะ ซึ่งเมื่อน้ำหนักขึ้นคนก็จะไม่รู้เพราะจะไปลงที่หน้า ก้น ขามากกว่าค่ะ เลยทำให้ดูเป็นคนที่จะดูไม่ได้อ้วนอะไรแต่จะรู้สึกว่าก้นและขาใหญ่มากค่ะ เวลาใส่กางเกงรัดๆ ที่เน้นก้น แต่ใครๆ ก็ว่าหุ่นดี แต่เปล่าเลย ติ๊กชอบรู้สึกว่าอ้วนเวลาน้ำหนักขึ้น ติ๊กก็เลยพยายามหาวิธีการควบคุมน้ำหนักจากหลายๆ คนที่ทำกัน และได้หาวิธีการลดในส่วนของสะโพกกับขาค่ะเพื่อไม่ให้ใหญ่ไปกว่านี้ค่ะ (ส่วนอกนั้นไม่เห็นจะเพิ่มขึ้นเลย ได้แต่ใช้ฟองน้ำดันเอาค่ะ 555) เลยบอกกับตัวเองว่า การออกกำลังกายและการควบคุมอาหารดีที่สุดค่ะ
เป็นที่ทราบกันดีว่าไม่ว่าใครๆ ก็อยากที่จะมีรูปร่าวสมส่วน หุ่นดีกันทั้งนั้น ยิ่งผู้หญิงอย่างเราด้วยแล้วเมื่อมีคนทักว่าอ้วนก็จะรู้สึกว่าอ้วนหรอ แล้วอ้วนตรงไหนก็จะทำให้เรารู้สึกอยากจะรีบลดทันที จนในบางครั้งหรือบางคนอาจจะใช้วิธีลดโดยการกินยาลดน้ำหนัก ซึ่งเป็นสิ่งที่คิดผิดเลยค่ะ เพราะอาจจะทำให้เกิดการเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ติ๊กเลยเลือกวิธีการที่จะควบคุมอาหารและวิธีการออกกำลังกายค่ะ และวิธีการควบคุมน้ำหนักและออกกำลังกายของติ๊กมีดังต่อไปนี้
วิธีการควบคุมอาหาร คือ
- ห้ามกินมากเกินไป (ไม่ควรกินเยอะจนเกินพิกัด ควรกินอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ควนทาผัก ผลไม้เป็นประจำและกินให้มากขึ้น กินให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่พอเหมาะ และทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ ควรลดปริมาณแป้ง น้ำตาล และเนื้อสัตว์ลง เมื่อทานอิ่มแล้วงดทานของจุกจิก)
- ห้ามกินน้อยเกินไป (ถ้าหากกินน้อย จะทำให้ผอมลงได้ไวจริง แต่สุดท้ายก็จะโยโย่กลับมาน้ำหนักขึ้นไว สุขภาพไม่ดี อาจจะเป็นลมได้)
วิธีการออกกำลังกาย
- ออกกำลังกายที่ฟิตเนตแบบไม่หักโหม
- ออกกำลังกายแบบซิดอัพ ลุกนั่ง แพ็งค์ วิ่ง เดินไว ว่ายน้ำ เป็นต้น
- ออกกำลังกายกระชับสัดส่วนโดยเฉพาะ (ลดสะโพกและขา) โดยการลุกนั่ง กระโดดตบ เดินบ่อยๆ เดินเร็ว ปั่นจักรยาน เป็นต้น
- แต่ในบางครั้งเวลาอยู่ที่ทำงานอาจจะใช้การออกกำลังกาย โดยการนั่งแล้วเขย่งขาและเกร็งหน้าท้องบ่อยๆ หรืออาจจะเดินหรือขยับท่วงท่าบ้างอย่านั่งบ่อยจะทำให้ก้นและขาใหญ่ขึ้นค่ะ
อาหารที่ทาน ได้แก่
- ส้มตำ กุ้งอบวุ้นเส้น ผัดผักไร้น้ำมัน ยำวุ้นเส้น ผลไม้ สลัด ปลาเผา ปลาย่าง ผักต้มกับน้ำพริก ขนมปังปิ้ง นมจืด0% โยเกิร์ต ไข่ต้ม เป็นต้น
แต่ถ้าหากอยากทานเป็นมื้อๆ ที่ติ๊กทาน (ช่วยได้เยอะช่วงลดน้ำหนักค่ะ) ก็คือ
- มื้อเช้า ขนมปังปิ้ง กับน้ำขิง โยเกิร์ต ไข่ต้ม
- มื้อกลางวัน ข้าวกับน้ำพริกผักต้ม เกาเหลา ส้มตำ ไก่ย่าง ปลาเผา
- มื้อเย็น สลัดผัก ผลไม้ ไข่ต้ม ส้มตำ ยำวุ้นเส้น
ทั้งนี้แล้วแต่คนจะถนัดว่าจะทานตอนไหนนะคะ เวลาทานอย่าลืมทาน้ำด้วยนะคะ
สิ่งที่งดและหลีกเลี่ยงช่วงควบคุมน้ำหนักหรือลดน้ำหนักมากที่สุด ได้แก่
- อาหารบุฟเฟ่หรือโต๊ะใหญ่ เช่น หมูกระทะ อาหารโต๊ะสั่งมาเยอะๆ
- ของทอด เช่น เฟ้นฟราย ไก่เคเอฟซี ปลาท่องโก๋
- ขนมกรุบกรอบทั้งหลาย
- ขนมหวาน เช่น ไอติม บิงซู
- น้ำอัดลมและน้ำหวาน เช่น โค๊ก เฮลบลูบอย
- เบเกอรี่ เค้ก ครัวซองต์ คุกกี้ ฯลฯ
- เหล้า/เบียร์
เมื่อได้ออกกำลังกายและควบคุมอาหารตามที่ติ๊กได้ทำแล้ว น้ำหนักก็เริ่มลด แต่ลดเยอะไปทำให้หน้าอกลงไปด้วย จากอกที่เคยวัดได้ 32 นิ้ว จนกลายเป็น 29 นิ้ว ทำให้เราต้องเพิ่มน้ำหนักโดยการกินแต่ไม่ได้กินเยอะกินเพียงแค่กินปกติเท่านั้นค่ะ แต่พอกินพุงก้อมาตามภาพแบบนี้เลยค่ะ แต่ก็มีแต่คนบอกว่าไม่ได้อ้วนอะไร เพียงแต่ว่าเราต้องกระชับเฉพาะส่วนมากกว่าค่ะ
ทุกวันนี้ติ๊กแค่ใช้วิธีการควบคุมน้ำหนังไม่ให้อ้วนเกินไปและผอมเกินไปค่ะ ปัจจุบันติ๊กมีน้ำหนัก 52 กิโลกรัม เอวก็ยังคง 23 เหมือนเดิม สะโพกอาจจะใหญ่ไปหน่อย แต่ก้อเน้นการออกกำลังกายและใส่ชุดที่ไม่เน้นก้นค่ะ สวย หุ่นดีในสไตล์ติ๊ก อิอิ
สรุปผลการควบคุมน้ำหนักและการออกกำลังกาย ถ้าเราออกกำลังกายพร้อมกับการควบคุมน้ำหนักไปด้วย ก็จะทำให้เรามีน้ำหนักที่เราต้องการ
และทำให้เรามีสุขภาพร่างกายแข็งแรงนะคะ
(ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคลด้วยนะคะ)
สำหรับวันนี้ ขอจบวิธีการควบคุมน้ำหนักและการออกกำลังกายของติ๊ก
เพียงเท่านี้นะคะ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะคะ
วันนี้ลาไปก่อนนะคะ สวัสดีค่า