รีวิว 5 Pre-Serum แบรนด์ดัง ที่คุณควรต้องลอง
Wanviset 27 3สำหรับคนที่ขี้เกียจอ่าน Full Review กดดูคลิปด้านล่างได้เลยจ้า
สำหรับเนื้อหาแบบ Full Review ของเซรั่มแต่ละตัว สามารถกดดูได้ที่ด้านล่างเลยค๊าบ :
L’Oreal Youth Code Pre-Essence (ขนาด 30ml / ราคา699.-)
ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้ และผลหลังทาผลิตภัณฑ์
จากส่วนผสมข้างต้นผลลัพธ์ที่คาดหวังได้จาก Pre-Essence ขวดนี้จะออกแนวเสริมสร้างปราการปกป้องผิวให้แข็งแรงเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยให้สารต่างๆ ที่ลงไปหลังจากนี้แทรกตัวเข้าไปในผิวได้ดีขึ้น (ซึ่งในจุดนี้ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้ร่วมกันด้วยครับ เพราะบางตัวมีขนาดโมเลกุลที่ใหญ่ ก็ยากแก่การแรกตัวเข้าไปในผิว ทำได้แค่เคลือบผิวไว้เท่านั้นครับ)ส่วนเรื่องประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อสภาพ อาจต้องชั่งใจซักเล็กน้อยเนื่องจากสารต่างๆที่ถูกใส่ลงมานั้นได้รับการเคลมโดยทางบริษัท L'Oreal และบริษัทผู้ผลิตสารนั้นๆ ซึ่งมีข้อมูลค่อนข้างน้อยและบูมยังหาข้อมูลมารองรับส่วนนี้ไม่ได้เท่าที่ควรครับ
OLAY : Regenerist Miracle Boost Youth Pre-Essence (40ml./899.-)
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Pre-Essence หรือ Pre-Serum ได้ออกสู่ท้องตลาดมาเนิ่นนานหลายปีแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าบูมก็มีโอกาสได้ทดลองใช้มาบ้างเหมือนกัน ก็ต้องบอกตามตรงว่าในช่วงแรกๆ ที่ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ออกมานั้น บูมยังไม่ค่อยเข้าใจคอนเซ็ปท์ของเค้าเท่าไหร่นัก เพราะในเมื่อบางแบรนด์ส่วนผสมของ Pre-Serum แทบจะใกล้เคียงกับ Serum เกือบทุกอย่าง จะแตกต่างก็เฉพาะในเรื่องเนื้อสัมผัสและสารนำพาบางตัวเท่านั้น
จนได้มาลอง OLAY : Regenerist Miracle Boost Youth Pre-Essence อย่างจริงจังและได้ทำความเข้าใจคอนเซ็ปท์ของทางโอเลย์ในเรื่อง Pre-Essence ซึ่งทางโอเลย์ได้เก็บข้อมูลปัญหาการใช้ Skincare จากผู้บริโภคในช่วงอาย่ 25ปี ขึ้นไป พบว่าปัญหาหลักๆ คือความสามารถในการซึมซาบลงสู่ผิวที่ลดน้อยลง แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ปัญหาใหม่แต่อย่างใด และมีหนทางแก้ไขที่หลากหลาย เช่น การผลัดเซล์ผิว การสคลับ ฯลฯ แต่ทางโอเลย์กลับมองว่านั่นเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ ต้นเหตุหลักๆ ของมันอยู่ที่....
จนได้มาลอง OLAY : Regenerist Miracle Boost Youth Pre-Essence อย่างจริงจังและได้ทำความเข้าใจคอนเซ็ปท์ของทางโอเลย์ในเรื่อง Pre-Essence ซึ่งทางโอเลย์ได้เก็บข้อมูลปัญหาการใช้ Skincare จากผู้บริโภคในช่วงอาย่ 25ปี ขึ้นไป พบว่าปัญหาหลักๆ คือความสามารถในการซึมซาบลงสู่ผิวที่ลดน้อยลง แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ปัญหาใหม่แต่อย่างใด และมีหนทางแก้ไขที่หลากหลาย เช่น การผลัดเซล์ผิว การสคลับ ฯลฯ แต่ทางโอเลย์กลับมองว่านั่นเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ ต้นเหตุหลักๆ ของมันอยู่ที่....
"เมื่ออายุมากขึ้น มีการสะสมเซล์ขี้ไคลหนาขึ้น มีการผลัดตัวได้น้อยลง อันเนื่องมาจากพลังงานในเซล์นั้นมีน้อยลง" จะดีกว่าไหมถ้าเราแก้ปัญหาที่ต้นเหตุฟังดูดีใช่ไหมหละ แต่พอโอเลย์เปิดไพ่ว่าสารที่เค้านำมาแก้ปัญหาในเรื่องนี้นั่นก็คือ "Niacinamide" หรือ Vitamin B3 นั่นเอง กลับทำให้แอบผิดหวังเล็กๆ เพราะบูมคาดหวังว่าจะเป็นสารอะไรที่แปลกใหม่ และว้าวกว่านี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีหรอกนะ เพราะเจ้า Niacinamide หรือ Vitamin B3 นั้นมีเป็นหนึ่งในสารที่มีประโยชน์กับผิวมากตัวหนึ่ง อาทิ
- การเป็น Whitening
- การเพิ่ม Skin Barrier
- ลดการอักเสบ
- ลดการเกิดสิว
นอกจากนี้ Nicinamide ยังมีคุณสมบัติในการดูดซึมสู่ผิวได้เป็นอย่างดี ทำให้กระบวนการเมตาบอลิซึ่มดีขึ้น เมื่อกระบวนการเมตาบอลิซึ่มทำงานดีขึ้น การพัฒนาตัวของเซลล์เคราติโนไซด์จึงเป็นไปอย่างปกติที่ควรจะเป็น รวมถึงการเพิ่มการสร้าง Ceramide ซึ่งเป็นไขมันสำคัญในการเชื่อมกำแพงปกป้องผิวให้ดียิ่งขึ้น และนี่เป็นเหตุผลที่มาอธิบายว่าผลิตภัณพ์ตัวนี้สามารถช่วยให้ผลิตภัณฑ์ตัวอื่นซึมซาบสู่ผิวดีขึ้นได้อย่างไร
Texture (เนื้อสัมผัส)
ส่วนผสมที่น่าสนใจ
- Niacinamide : หรือวิตามินบี3 เป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อผิวในหลายด้าน อาทิ ช่วยลดริ้วรอย ลดรอยแดง/ดำ(hyperpigment) เพิ่มความชุ่มชื้น ด้วยการกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน และเซราไมด์ (ceramide) และยังทำให้ผิวแข็งแรง ต่อสู้กับการระคายเคือง (irritants) ต่างๆได้ดีขึ้น รวมถึงสามารถลดความมันบนใบหน้า (sebum excretion) และยังเป็น Whitening อีกด้วย ซึ่งเจ้าสาร Niacinamide มีผลการวิจัยรับรองว่าสามารถช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน และลดการเกิดสิวได้ เมื่อใช้ติดต่อกันอย่างน้อย 6-8สัปดาห์ ในความเข้มข้นที่เหมาะสม (แนะนำ 5%, ชนิด Safe-B3 สามารถใช้ได้สูงสุด 10% โดยไม่ก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคืองผิว)
- Inositol : Vitamin B8 (Inositol) ให้ความชุ่มชื้นผิวอย่างต่อเนื่อง สามารถปรับความชุ่มชื้นผิวให้สมดุล เหมาะสำหรับทั้งผิวผสม เพื่อปรับความมันให้สมดุลขึ้น และเหมาะสำหรับผิวแห้ง เพื่อให้ความชุ่มชื้นผิว จากการทดลองพบว่า การใช้ติดต่อกันตั้งแต่ 0-6สัปดาห์ จะช่วยคงความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้เป็นระยะเวลายาวนานและต่อเนื่อง
- Lilium Candidum (Madonna Lily) Flower Extract : สารสกัดจากต้นดอกลิลี่ขาวในแถบเมดิเตอร์เรเนียนและเอเชียใต้ ซึ่งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ชั้นผิว โดยมีคุณสมบัติสร้างชั้นฟิล์มบนผิวช่วยกักเก็บน้ำ อีกทั้งอุดมด้วย saponin และ poly saccharides ที่ช่วยต้านการอักเสบและช่วยปกป้องผิวให้แข็งแรง
- Palmitoyl Pentapeptide-4 : หรือ Pal-KTTKS หรือในอีกชื่อก็คือ Matrixyl เป็นเปปไทด์ที่ประกอบไปด้วยกระอะมิโนที่เป็นเหมือนสารตั้งต้นของคอลลาเจน ประสิทธิภาพของเปปไทด์ตัวนี้ในการลดเลือดริ้วรอยนั้นแต่เดิมมีแต่การวิจัยของ P&G เท่านั้น ซึ่งเขาก็แสดงให้เห็นว่ามันมีประสิทธิภาพดีเลยล่ะ (แหงสิ) ทำให้ข้อมูลในเรื่องของประสิทธิภาพตรงนี้ยังคงมีข้อกังขา
สรุป
จากที่ได้ทดลองใช้ OLAY : Regenerist Miracle Boost Youth Pre-Essence มาประมาณ 2 สัปดาห์ บูมคิดว่าเจ้า Pre-Essence ขวดนี้น่าจะเหมาะกับมนุษย์ทุกสภาพผิว ด้วยเนื้อสัมผัสที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดี ซึมง่าย คาดหวังผลในเรื่องการเพิ่มความชุ่มชื้น และเพิ่ม Skin Barrier ได้ รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะเจ้าฝา Dropper มันก็จะดูดผลิตภัณฑ์ขึ้นมาด้วยตัวมันเอง ให้เพียงพอต่อการใช้ 1 ครั้ง และเมื่อหมุนปิดมันก็จะดูดผลิตภัณฑ์ใหม่อีกครั้งข้อสังเกตุนิดเดียวคงไม่พ้นเรื่องส่วนผสมของน้ำหอมที่ใส่เข้ามา อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคือง หรือการแพ้ได้ ดังนั้นแนะนำให้ทดลองกับท้องแขน หรือบริเวณลำคอ ทิ้งไว้ซัก 1 คืนเพื่อสังเกตุอาการแพ้ก่อนจะทาลงบนให้หน้านะขอรับ
VICHY : Mineral 89 (50ml./1,300.-)
หากพูดถึง VICHY หลายๆ คนรวมถึงตัวบูมเองก็คงนึกถึงผลิตภัณฑ์เด่นๆ ของแบรนด์อย่าง สเปรย์น้ำแร่ ที่โด่งดังติด 1 ใน 5 ของสเปรย์น้ำแร่ที่หาซื้อได้ง่าย ในราคาที่เอื้อมถึงโดยส่วนผสมสำคัญของแบรนด์อย่างนน้ำแร่นั้นอยู่ระดับ High Mineral Concentration ทำให้น้ำแร่ VICHY มีการศึกษาพบแล้วว่าเป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้การปกป้องตัวเองจากอนุมูลอิสระในผิว มีคุณสมบัติในการเป็น Buffer Effect เพื่อช่วยปรับค่า pH ของผิวจากกรดหรือด่างที่เข้ามากระทำกับผิว
นั่นก็เพราะการใช้น้ำแร่ VICHY เป็นจุดเด่นนั้นแน่นนอนว่าต้องใส่ในปริมาณความเข้มข้นที่สูง แต่ในทางปฏิบัติ ด้วยปริมาณแร่ธาตุที่มีอยู่เยอะแยะตาแป๊ะไก่ ทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์ไม่เป็นไปในรูปแบบที่ทาง VICHY ต้องการ ซึ่งต้องใช้เวลาหลายปีทีเดียวกว่าจะออกมาเป็นเจ้า VICHY : Mineral 89 ขวดนี้
"หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือคือน้ำแร่ VICHY เด่นในเรื่องการเสริมกระบวนการปกป้องตัวเองของผิว คงค่าความเป็นกรดด่างของผิวที่อาจเสียสมดุลไปจากสารเคมีหรือมลภาวะ และช่วยเสริมความแข็งแรงของผิวนั่นเองจ้า"แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น ผลิตภัณฑ์หลายๆ ตัวของ VICHY ที่บูมเคยมากลับไม่ค่อยได้ชูจุดเด่นในเรื่องน้ำแร่ซักเท่าไหร่ มักจะเน้นในเรื่องวิตามิน หรือสารสกัดอื่นๆ ที่ใส่เข้ามาซะมากกว่า ซึ่งจากการได้หาข้อมูลจึงเข้าใจแจ่มแจ้งถึงบางอ้อว่าทำไม....?
นั่นก็เพราะการใช้น้ำแร่ VICHY เป็นจุดเด่นนั้นแน่นนอนว่าต้องใส่ในปริมาณความเข้มข้นที่สูง แต่ในทางปฏิบัติ ด้วยปริมาณแร่ธาตุที่มีอยู่เยอะแยะตาแป๊ะไก่ ทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์ไม่เป็นไปในรูปแบบที่ทาง VICHY ต้องการ ซึ่งต้องใช้เวลาหลายปีทีเดียวกว่าจะออกมาเป็นเจ้า VICHY : Mineral 89 ขวดนี้
Active Ingredients(สารออกฤทธิ์หลัก)
VICHY : Mineral 89 |
แน่นอนว่าคงเป็นอะไรอื่นไปไม่ได้นอกจาก น้ำแร่ของเมือง VICHY : ซึ่งก็อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าน้ำแร่ VICHY เด่นในเรื่องการเสริมกระบวนการปกป้องตัวเองของผิว คงค่าความเป็นกรดด่างของผิวที่อาจเสียสมดุลไปจากสารเคมีหรือมลภาวะ และช่วยเสริมความแข็งแรงของผิวนอกจากนี้สารตัวอื่นที่ใส่เข้ามาก็เพื่อช่วยในเรื่องการกักเก็บความชุ่มชื้นบนผิว ปรับสมดุล pH ของสารอื่นๆ และสารกันเสียเท่านั้น
Ingredients : Aqua / Water / Eau, PEG/PPG/Polybutylene Glycol-8/5/3 Glycerin, Glycerin, Butylene Glycol, Methyl Gluceth-20, Carbomer, Sodium Hyaluronate, Phenoxyethanol, Caprylyl Glycol, Citric Acid, Biosaccharide Gum-1. (Code F.I.L. :B192067/1)
Texture(เนื้อสัมผัส)
VICHY : Mineral 89 (เนื้อผลิตภัณฑ์) |
เป็นเนื้อเจลใสๆ มีความหนืดเล็กน้อย แต่ก็ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่ายพอสมควร โดยส่วนตัวแล้วบูมว่า คนผิวผสม - มัน น่าจะแฮปปี้กับเนื้อแบบนี้ นอกจากนี้เมื่อเซทตัวแล้วยังไม่ทิ้งความรู้สึกเหนอะหนะไว้บนผิว ให้รำคาญใจอีกด้วยหละ
VICHY : Mineral 89 (หลังผลิตภัณฑ์เซทตัวดีแล้ว) |
Scent(กลิ่น)
นับเป็นอีกหนึ่งในเรื่องที่น่ายินดี คือ ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมหละ ทำให้เราตัดความกังวลเรื่องการแพ้ หรือการระคายเคืองจากน้ำหอมไปได้เปราะหนึ่งทดสอบความชุ่มชื้นบนผิว
ทดสอบความชุ่มชื้นข้างที่ทา VICHY : Mineral 89 |
ทดสอบความชุ่มชื้นข้างที่ไม่ได้ทา VICHY : Mineral 89 |
สรุป
ส่วนตัวแล้วบูมคิดว่า VICHY : Mineral 89 อยู่ใน Position ของ Pre-Serum ในขั้นตอนแรกก่อนลง Serum แต่ควรรอให้เค้าเซทตัวซักครู่ค่อยลงผลิตภัณฑ์ตัวถัดไป แต่หากใครจะใช้เป็น Main Serum ก็ไม่ผิดกติกาเช่นกันจ้า
ข้อสังเกตุ : สิ่งเดียวที่เป็นข้อสังเกตุของบูม คือ ราคา จริงอยู่ว่า VICHY : Mineral 89 ตัวนี้ทำหน้าที่ได้ดี อย่างที่คาดหวังไว้ แต่ราคาค่าตัวก็แอบแรงเอาเรื่อง สำหรับส่วนผสมที่ดูเบสิกแบบนี้ แต่ก็อย่างที่ได้เกริ่นไปตอนต้นว่าการเลือกใช้น้ำแร่ VICHY ที่มีปริมาณแร่ธาตุอยู่เยอะเป็นส่วนประกอบหลักนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว
หมายเหตุ : สำหรับคำถามว่าใช้แล้วจะแพ้ไหม / จะอุดตันผิวหรือไม่ ? อันนั้นบูมไม่สามารถให้คำตอบได้ เนื่องจากสภาพผิวของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดคือขอ Sample หรือ ทดลองใช้กับบริเวณท้องแขนหรือลำคอ แล้วสังเกตุอาการซัก 1 วัน ก่อนใช้บนใบหน้านะขอรับ
Sulwhasoo : First Care Activating Serum EX (60ml./2,800.-)
ส่วนผสมที่น่าสนใจ
- OPHIOPOGON JAPONICUS ROOT EXTRACT : หรือ Dwarf Lilyturf อุดมไปด้วยสารซาโปนินที่ช่วนต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ ยังมีข้อมูลอีกว่าสารสกัดจากพืชชนิดนี้ช่วยทำให้ชั้น Skin Barrier หรือชั้นปราการผิวยึดติดแน่นและแข็งแรงขึ้น ส่งผลให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น
- GLYCYRRHIZA URALENSIS (LICORICE) ROOT EXTRACT : สารสกัดจากชะเอมเทศ (Licorice Extract) มีคุณสมบัติ ลดการอักเสบของผิว ลดรอยแดงจากสิว ลดการระคายเคือง ลดความมันของผิว ควบคุมความมันบนใบหน้า ลดการเกิดสิว นอกจากนี้ ความสามารถในการควบคุมความมันผิวของสาร และยังสามารถนำไปใช้สำหรับลดการผมร่วงที่เกิดจากหนังศรีษะมันเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของผมร่วง
- CAMELLIA SINENSIS LEAF EXTRACT : สารสกัดจากใบชาเขียว มีคุณสมบัติช่วยลดการระคายเคืองบริเวณผิว ช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ ป้องกันการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น รอยด่างดำบนใบหน้า ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และลดการอักเสบของผิวหนัง
- PAEONIA ALBIFLORA ROOT EXTRACT : สารสกัดจากรากโบตั๋น เป็นที่รู้กันดีว่ามีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ลดการระคายเคือง ทางด้าน Small Solomanseal ช่วยเสริมเรื่องความชุ่มชื้น
- NELUMBO NUCIFERA SEED EXTRACT : สารสกัดของบัวหลวง มีคุณสมบัติทางเภสัชวิทยา จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว และยังปรับสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเชลล์ผิว และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และชะลอการเจริญของเม็ดสี Melanin
- CHRYSANTHEMUM MORIFOLIUM FLOWER EXTRACT : หรือสารสกัดจากดอกเก๊กฮวย มีฤทธิ์ลดแบคทีเรีย เชื้อรา และต้านการอักเสบ
- PAEONIA SUFFRUTICOSA ROOT EXTRACT : สารสกัดจากรากผักเบี้ยใหญ่ มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดอาการแพ้ ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย แถมยังช่วยต้านอนุมูลอิสระได้อีกด้วย
ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้
โดยรวมแล้วเจ้า Pre-Serum ขวดนี้เด่นในด้าน
- ให้ความชุ่มชื้น
- ปลอบประโลมผิว
- Anti-Oxidant
- ลดการอักเสบ
- Whitening
- เพิ่ม Skin Barrier ช่วยให้ผิวแข็งแรง