เตรียมตัวไปเกาหลี อากาศหนาวติดลบ ทำยังไงให้แต่งหน้าอยู่ติดทน
Threethirdthird 13 1พอช่วงปีใหม่ ทุกคนจะยิ่งรีบแพลนไปเที่ยวกันใช่มั้ยคะ?
แบมม์ก็เป็นคนนึงที่เรื่องเที่ยวนี่ขยันสุดๆ 555 แต่ไปมาแล้วนะคะ
แบมม์ไปที่เกาหลีมา อากาศไม่ได้เย็นสบายขนาดนั้น
เพราะอากาศแห้ง ติดลบ หนาวสั่นเลยแหละ
เพราะฉะนั้นเราต้องเตรียมตัวและวางแผนไปให้ดีเลย
นอกจากเรื่องความหนาวที่เราต้องหาโค้ทใส่แล้ว
เรื่องปัญหาผิวแห้ง ผิวตัว ผิวหน้าที่แต่งหน้าไม่ติดก็เป็นกับดักทำให้ทริปเราพังได้นะคะ
วันนี้แบมม์เลยมีเทคนิคและไอเท็มดีๆ สำหรับคนที่ต้องการให้หน้าชุ่มชื่น แต่งหน้าติดทนทั้งวัน
ในอากาศติดลบแบบนี้มาฝากกันค่ะ
เพราะแบมม์ลองทำเองกับตัวมาแล้ว รับรองว่าวิธีนี้ได้ผลแน่นอน
เริ่มจากผิวก่อนเลย
พื้นฐานของการแต่งหน้า จริงๆไม่ว่าจะอากาศแบบไหน ผิวต้องมีความเตรียมพร้อมตลอดเวลา
โดยเฉพาะถ้าเราไปในอากาศหนาวๆ เรายิ่งต้องบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นกว่าปกติ 2-3 เท่าเลยทีเดียว
อย่างแบมม์เคยใช้ตัว Crystal Bright water lock gel cream
ของ K Bright มาก่อน แล้วมันให้ความชุ่มชื่นแบบดีมากๆๆ
จากเดิมที่เป็นคนผิวแห้ง สีผิวไม่สม่ำเสมอ หน้าไม่นุ่ม มีสิวผดขึ้นทั้งหน้า
ที่สำคัญ ตอนหน้าแห้ง ริ้วรอยตามร่องแก้มมาไวมาก
แต่หลังจากเริ่มใช้แค่ 2 เดือนเอง ผลลัพท์ดีขึ้นไวมาก เราก็เลยติดใจใช้มาตลอดเลย
รอบนี้เราเลยลองขนน้องๆ K-Bright ไปทั้งเซ็ตเลยจ้า ทั้งหมดนี้ราคา 1,100 บาท ที่ Sephora ค่ะ
มีตัวที่ยังไม่เคยลองใช้บ้าง แต่หลังจากใช้ไปรอบนี้ แต่ละตัวก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย
เรื่องความกระจ่างใส และผิวชุ่มชื่น เป็นจุดเด่นของเค้าจริงๆ
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเป็นลักษณะของผงแป้ง
ใช้ผสมกับน้ำเล็กน้อยแล้วทำความสะอาดให้ทั่วใบหน้า
ด้วยความที่เราไปในอากาศแห้งมากๆ
ตอนแรกก็แอบกลัวว่ายิ่งเป็นเนื้อแป้งจะทำให้เราหน้าแห้งมั้ย
ซึ่งหลังจากพอได้ใช้ ฟองของเค้าเนี่ยน้อยมาก แทบไม่เกิดฟองเลย
แต่ผลลัพท์ตรงข้ามเลยจ้า ผิวไม่เกิดการแห้งตึง หน้านุ่มขึ้น
ที่เห็นชัดเจนเลยคือ ผิวกระจ่างใสทันทีหลังล้างหน้าเสร็จ First Impression ตัวนี้ถือว่าดีบวกๆค่ะ
หลังจากล้างหน้าเสร็จ ปกติแบมม์จะใช้ตัว โทนเนอร์เพื่อเตรียมสภาพผิวให้พร้อมในการบำรุง
แต่รอบนี้ ลองเปลี่ยนมาใช้เป็นตัวเอสเซนส์ในเซ็ตที่มี
CRYSTAL BRIGHT TREATMENT ESSENCE
ลักษณะคล้ายน้ำตบแหละค่ะ ซึ่งเจ้าตัวเอสเซนจ์ของ K Bright เนี่ย
เหลวใส มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ระคายเคือง
ใช้หลังจากล้างหน้าเสร็จเลย เหมือนเป็นการเร่งให้ผิวกระจ่างใสขึ้นไปอีก
ตัวนี้ใช้แล้ว ซึมเข้าสู่ผิวไวมาก ไม่ทิ้งคราบ หรือความเหนอะหนะให้ผิว ผิวรู้สึกสบายมาก
ผิวกระจ่างใส โดยรวมถือว่าชอบนะคะ ใช้แค่นิดเดียวก็สามารถทาได้ทั่วหน้าเลย
หลังจากเราลงโมเลกุลที่เหลวและเบาที่สุดไปแล้ว ก็ต่อด้วย การบำรุงวิตามินซีเข้าสู่ผิวกันต่อค่ะ
แต่วิธีใช้ ต้องใช้สองตัวควบคู่กันนะคะ
ตัวแรกเป็น ICY-LOCK MIRACLE BOOSTER PEARLS HYDRA GLOW
เม็ดบูสเตอร์ที่ช่วยทำให้ผิว กระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ รอยต่างๆให้ผิวเรียบเนียนเสมอ
แต่ที่เราชอบมากๆเลยคือ มันมีเทคโนโลยีเฉพาะตัวของเค้าที่เรียกว่า ICY – LOCK
ช่วยในการล็อคพวกสารสกัด ประสิทธิภาพทั้งหลายในเม็ดบูสเตอร์เนี่ยให้คงประสิทธิภาพสูงสุด และยังไม่ทำให้เสื่อมประสิทธิภาพของตัวผลิตภัณฑ์อีกด้วย
เราแค่แกะเม็ดบูสเตอร์ออกมา แล้วหยดเซรั่มของเค้าที่ชื่อว่า
CRYSTAL BRIGHT ILLUMINATING SERUM
ไปอีกแค่ 3 หยดพอ เกลี่ยเล็กน้อยให้เป็นเนื้อเซรั่มเข้มข้นแล้วทาได้ทั่วบริเวณใบหน้าเลย
ขวดเล็กนิดเดียวตอนแรกแอบกลัวว่าจะไม่พอ
แต่เอาเข้าจริง คุ้มค่า ประหยัดมากๆ ทั้งหน้าใช้ไม่เปลืองค่ะ
และตัวสุดท้ายในเซ็ตของเค้าที่เราเคยใช้เป็นประจำ
Crystal Bright water lock gel cream
แต่แอบกระซิบว่า เราเอากระปุกใหญ่ที่ใช้ทุกวันไปด้วย เพราะเราชอบมากกกกก
มันเป็นครีมที่ให้ความชุ่มชื่นกับผิวมากๆๆ
ถือเป็นไฮไลท์ของแบมม์เลย หลังจากใช้ตัวนี้ก็รู้สึกได้เองเลยว่าเครื่องสำอางติดทน
ไม่ไหลเยิ้ม หน้าไม่ลอก ไม่เป็นขุยเลยค่ะ
แบมม์จะใช้ทาก่อนแต่งหน้า และก่อนนอนนะคะ
อ้อลืมบอกเนื้อผลิตยังไม่เป็นคือสักทีเดียวจะมีความเป็นเจลน้อยๆ หรือครีมแบบบางเบา
เวลาทาก็จะมีน้ำออกมาคือชอบมาก
เรื่องกลิ่นนี้คือหอมละมุน ถ้าทาตื่นเช้ามาหน้านุ่ม กระจ่างใส เด้งเลยแหละ
ขอแอบให้คะนอนตัวนี้ 10/10 ไปเล๊ย
จะบอกว่าจริงๆ เคยแอบกลัวว่าสินค้าเกาหลีจะไม่เหมาะกับคนไทยนะ
แต่ สำหรับ K Bright สกินแคร์สัญชาติเกาหลีตัวนี้คือดี ลบความคิดเดิมๆไปเลย
ยิ่งมาใช้ที่เกาหลี อากาศหนาว ติดลบแบบนี้ ยิ่งเห็นผลลัพธ์ที่มันคุ้มค่าชัดเจน
ควรค่าแก่การมีนะจ๊ะ!
มาถึงขั้นตอนเมคอัพกันบ้างดีกว่าค่ะ
เริ่มจาก Primed อันนี้ก็เป็นตัวช่วยกันเหนียวที่จะทำให้เครื่องสำอางอยู่ติดทนทั้งวัน
แบมม์ถอย Primed & Ready ของ Collection ไปเกาหลีด้วย
จะบอกว่าของ Collection แบมม์ใช้ตัว concealer ของเค้าก็ดีเหมือนกัน
ส่วนตัว Primed ไม่ผิดหวังเลย ช่วยให้เครื่องสำอางสีชัด ติดทนนานทั้งวัน
นอกจากลิปก็แทบไม่ต้องเติมแป้งเลยค่ะ
สำหรับตัวนี้ เราจะใช้ก่อนลงรองพื้นนะคะ ปาดไป 5 จุดทั่วไปหน้าได้เลย
และมาถึงในส่วนของรองพื้นบ้าง
อันนี้แล้วแต่เลยค่ะว่าใครใช้ BB, CC หรือรองพื้น
แต่ส่วนตัวแบมม์ชอบรองพื้นของศรีจันทร์มากๆๆ
อย่างแรกเลยคือเนื้อสัมผัสของเค้าค่อนข้างเบา เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ ไม่เกาะเป็นก้อน
และให้สีผิวค่อนข้างเป็นธรรมชาติ กลบรอยต่างๆ ได้ดีในระดับนึง
ใครที่ไม่มีคราบรอยดำ รอยสิวที่ชัดเจน ก็สามารถใช้ตัวนี้เอาอยู่ค่ะ
และมาถึงในส่วนของลิปกันบ้าง
เริ่มจากลิปสติกสีแดงแท่งนี้ก่อนเลย เป็นสีแดงของ Revlon เนื้อแมทท์
เม็ดสีของเค้าติดทนมากๆ แต่เราจะเอามาทาแก้มกันค่ะ 5555
คือมันเป็นเทคนิคที่หลายคนคงจะเคยทำอยู่แล้ว แต่รอบนี้ที่เลือกใช้ของ Revlon
เพราะเราต้องการให้แก้มเราดูมีเลือดฝาด สุขภาพดี เป็นธรรมชาติ อยู่ได้ทั้งวัน
เนื่องจากมันเป็นสีแดงที่แบบเข้มข้นมาก 5555 เราจะค่อยๆใช้แตะเล็กน้อยบนแก้มนะคะ
แต่จะเข้มกว่าปกติหน่อย แล้วค่อยใช้แป้งกลบเอาค่ะ
และลิปตัวสุดท้าย ขาดไม่ได้เลย เลือดไหลซิบแน่นอน
เป็นลิปมันในตำนาน หลอดสีน้ำเงินของ Nivea ค่ะ
ตัวนี้ใช้มาตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมเลย หมดแล้วซื้อซ้ำตลอด
เราจะใช้ทาตั้งแต่ตอนหลังล้างหน้าเสร็จเลย เหมือนลิปมาส์กอะ บำรุงไว้ก่อน
พอเราทาลิปแมทท์ที่เป็นสีสดลงไป มันจะให้ริมฝีปากที่ดูไม่ชุ่มชื่นมากไป กำลังพอดี
ที่สำคัญลิปที่ทาลงไปซ้ำจะให้ความติดทนมากกว่าเดิม
ที่สำคัญ ปากไม่แตก ไม่เป็นขุย ไม่ลอก
ทาลิปไหนก็มั่นใจ ไม่ต้องหวั่นกับอากาศหนาวแน่นอนค่ะ
อย่างสุดท้ายยยย! อากาศจะหนาวแค่ไหน ก็อย่าได้สะท้านกับละอองน้ำค่ะ
สเปรย์น้ำแร่ ของ Evian เราพกขนาดเล็กไปด้วย หลังจากแต่งหน้าเสร็จแล้ว
เราจะฉีดทั่วหน้าอีกรอบนึง ให้เครื่องสำอางค์ติดทนมากขึ้น
แต่ฉีดครั้งเดียวพอนะ ไม่ต้องฉีดระหว่างวัน เพราะหน้าเราชุ่มชื่นจากการบำรุงผิวแล้ว
สำหรับเทคนิคง่ายๆ และไอเท็มดีๆ
บอกก่อนว่าแบมม์ใช้จริง และลองกับอากาศติดลบมาแล้วจริงๆ
ย้ำว่า ใช้ดีมาก ควรค่าแก่การมี ได้ลองทุกไอเท็ม
ได้ผลลัพท์ที่ดีมากๆ ถ่ายรูปสวยแน่นอน แถมกลับมาผิวยังไม่แห้ง หรือลอกให้แสบหน้าด้วย
ส่วนครั้งหน้า ไว้แบมม์จะเอาเทคนิคเตรียมตัวเที่ยวในอากาศติดลบ (-8 ถึง 7 องศา) มาฝากกัน
รับรองว่าได้มีชุดสวยๆ ไว้ถ่ายรูป แถมน้ำหนักก็ไม่เกินมาฝากกันนะคะ
ส่วนกระทู้นี้ แบมม์ไปแล้วน้า บายๆ