(รีวิว) Hatomugi กับผู้ชายที่ขี้เกียจบำรุง ยังต้องร้องว้าว!!
Watcharapol Whelp 23 4
น้ำตบกับผู้ชายที่ขี้เกียจในการบำรุง
*ผลลัพธ์การใช้อยู่ย่อหน้าที่ 4*
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยนี้เป็นบล็อกแรกที่ผมเขียนอาจจะมีผิดพลาดบ้าง วรรคไม่ถูกบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี่นะครับ
เริ่มเลยดีกว่าครับ..!
ลักษณะผิวหน้า
ผมจะเป็นผสม มันมากช่วงจมูกและร่องแก้ม กรอบหน้าจะแห้งจนถึงขึ้นเป็นขุย และเป็นคนที่ขี้เกียจลงสกินแคร์หลายๆตัวเพราะรู้สึกว่ามันยุ่งยาก เลยจะชอบพวกเซรั่ม
หรือ น้ำตบที่จบในหนึ่งเดียว ซึมเร็ว ไม่เหนียวเนอะ
และวันที่ ZA ตัวเซรั่มน้ำตบหมด ก็เลยต้องมองหาตัวใหม่มาทดแทน ด้วยความที่เราก็อยากหาตัวที่ราคาถูกและดีเพราะเป็นคนชอบลองอะไรใหม่ๆเปลี่ยนไปเรื่อยเลยไม่อยากซื้อแพงๆกลัวใช้ไม่หมด
จนเดินไปเจอเจ้าตัวนี้ Hatomugi ลดราคาจาก 580 เหลือ 280 งงมากว่าทำไมมันถูกจัง แถมได้ตั้ง 500ml. เลยลองเปิดหาอ่านรีวิวดู หลายท่านบอกว่าดี ด้วยความอยากลองแต่แอบเผื่อใจไว้เพราะดูจากเนื้อผลิตภัณฑ์เป็นน้ำมีแค่สีขุ่นๆซึ่งไม่คิดว่าจะเห็นผลอะไรมากนัก.
หลังจากใช้มาได้ ประมาณ 20 วัน
(วันเว้นวันลดไปไม่ถึงครึ่งขวด) ไม่ได้ใช้คู่กับสกินแคร์ให้ความชุ่มชื่นใดๆ ผลลัพธ์คือหน้านิ่มขึ้นมองออกเลยว่าผิวอิ่มน้ำแบบพอดีไม่ทำให้หน้าดูมัน รู้สึกผิวแข็งแรงสิวผดไม่ขึ้น แต่ไม่ลด ความกระจ่างใส่ไม่เห็นผล
แต่ที่แน่ๆหน้าอิ่มน้ำจริงๆครับ.
วิธีการใช้ในแบบของผม
วันไหนรีบๆก็จะเอาชุบสำลีและกดๆทั้วหน้าลำคอบวกกับตบเบาๆนิดหน่อย
หากวันไหนว่างจริงๆก็จะเอามาพอกทิ้งไว้กับสำลีทั้งใบหน้าประมาณ 15 นาทีแล้วจึงดึงออก
เหมือนแผ่นมาสก์หน้าปกติเลย.
สรุปโดยรวม
ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ผมพึ่งค้นพบว่ามันดีจริงๆเลยอยากบอกต่อ เพราะไม่มีกลิ่น ไม่มีแอลกอฮอล์ และผลิตจากญี่ปุ่นซึ่งมั้นใจได้ว่าปลอดภัยต่อผิวที่แพ้ง่าย แนะนำเลยครับทั้งผู้หญิง และผู้ชายที่ต้องการตัวบำรุงง่ายๆแต่จบในตัวเดียว.
ปล.ผลลัพธ์การใช้ขึ้นอยู่แต่ละสภาพผิวแต่ละคนนะครับ สำหรับผมว่าดีและหลายๆคนว่าดี ลองดูไม่เสียหายราคาไม่แพงใช้ได้เยอะ ผมใช้เกือบเดือนยังลดไม่ถึงครึ่งขวด.
สุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านบล็อกแลกที่ผมเขียนนะครับ ครั้งต่อๆไปผมจะหาสกินแคร์มาอัพเดตสำหรับผู้ชายที่สาวๆก็สามารถใช้ตามได้มาให้นะครับ.
