ไขข้อข้องใจ เพราะอะไรผู้หญิงวัยสี่สิบในยุคใหม่จึงดูอ่อนวัยเมื่อเปรียบเทียบกับในอดีต
candy 11 5ในอดีตนั้นดูจะเป็นเรื่องธรรมดาหากผู้ใหญ่วัยสี่สิบจะถูกมองว่า นี่คือกลุ่มคนที่พ้นผ่านความเป็นหนุ่มสาวที่รุ่งโรจน์ที่สุดในชีวิต (Prime Time) ไปแล้ว และเตรียมก้าวสู่ความสูงวัยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่ยุคสมัยที่แปรเปลี่ยนทำให้ผู้คนมีมุมมองต่อวัยนี้ไม่เหมือนเดิม การเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตมายาวนานนั้นไม่ได้หมายความว่าพวกเค้าจะต้องยอมจำนนต่อความโรยราตามกาลเวลา หลายคนดูสดใสอ่อนวัยจนเดาอายุกันไม่ค่อยจะถูก ทำให้มีการยอมรับว่า อายุหลักสี่ไม่ได้เป็นข้อจำกัดขัดขวางการใช้ชีวิตให้คุ้มค่า และพวกเราไม่จำเป็นต้องให้ใครมากำหนดว่า Prime Time ควรต้องสิ้นสุดไปตอนไหน
มาติดตามกับเราเลยว่า เพราะอะไร ผู้หญิงหลายคนยังดูอ่อนเยาว์เมื่อเข้าสู่วัยสี่สิบไปแล้ว
บทบาทของผู้หญิงรุ่นใหม่เปลี่ยนแปลงไปจากกาลเก่า
มันอาจจะเป็นเรื่องพิลึกสำหรับคนรุ่นใหม่เมื่อได้รับรู้ว่า Bridget Jones ตัวละคร rom-ron โด่งดังแห่งยุค 90s- 2000s เอาแต่วิตกจริตเพราะเธอยังไร้คู่ครองในวัยสามสิบ มิหนำซ้ำ คนรอบข้างก็ยังขยี้หนักๆว่า นาฬิกาความสาวของเธอจวนจะหยุดเดินแล้ว ราวกับสถานะสาวโสดในวัยเลขสามนำหน้าเป็นสิ่งที่น่าสิ้นหวังซะเต็มประดา และนี่คือสิ่งที่สะท้อน mindset ของคนในสังคมที่เพิ่งจะผ่านมาไม่ถึงสามทศวรรษเท่านั้น แต่สำหรับทุกวันนี้ พวกเราได้เห็นสาวสามสิบสวยใสที่ยังไม่ได้เป้าหมายในการหาคู่อยู่เกลื่อนกลาด แม้บางคนจะได้ยินคำถามจากป้าข้างบ้านว่า 'เมื่อไรจะแต่งงาน?' แต่แรงกดดันให้ผู้หญิงรีบมีสามีได้ลดน้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด
จากประวัติศาสตร์อันยาวนาน บทบาทของผู้หญิงมักถูกจำกัดไว้ภายใต้คำว่าภรรยาและแม่ การผูกติดคุณค่าความเป็นหญิงไว้กับการแต่งงานสร้างครอบครัวเพียงอย่างเดียวอาจจะปิดกั้นโอกาสในการพัฒนาตัวเองภาระยากที่จะได้เปิดหูเปิดตาเรียนรู้โลกกว้าง ยังไม่ทันเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ก็ถูกปลูกฝังให้มุ่งมั่นกับการฝึกฝนเป็นแม่ศรีเรือนเพื่อเตรียมพร้อมสู่วงจรการหาคู่ ไม่ต้องย้อนอดีตไปไกลมาก หญิงสาวมากมายหลายคนในศตวรรษที่ 20 ต้องเร่งรีบมีสามีและให้กำเนิดทายาท ยังไม่ได้ใช้ชีวิตสนุกสนานตามประสาเด็กสาวอย่างเต็มที่ก็ต้องกลายมาเป็นคุณแม่ซะแล้ว แม้ว่าจะผู้หญิงหลายคนไม่ได้ทิ้งความรักสวยรักงาม ยังเลือกแต่งองค์ทรงเครื่องให้ดูน่าดึงดูดใจตามสมัยนิยม แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ออร่าแห่งความอ่อนเยาว์กลับจางหายไป เนื่องจากพวกเธอต้องทุ่มเทกับการดูแลครอบครัว ไม่ได้มีโอกาสเปิดกว้างให้โฟกัสกับสิ่งที่ตัวเองทำในสิ่งที่ต้องการอย่างแท้จริง
หลังจากที่โลกหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ความโมเดิร์น ผู้หญิงได้เรียนรู้ถึงบทบาทใหม่ที่ช่วยให้พวกเธอพึ่งพาตนเองได้ พวกเธอก้าวออกจากบ้านไปทำงานหาเลี้ยงชีพ พบปะผู้คนหน้าใหม่ เลือกทำกิจกรรมที่โปรดปราน พวกเธอได้ค้นพบแนวทางหลากหลายในการพัฒนาตัวเองจากภายในไปถึงภายนอก เป็นเรื่องไม่แปลกในยุคนี้หากเราจะได้เห็นผู้หญิงทำงานที่ดูเก่งกาจ เมื่อพวกเธอกลับบ้านไปก็ยังรับผิดชอบครอบครัวได้เป็นอย่างดี หรือจะพูดให้ถูกก็คือ สำหรับผู้หญิงยุคใหม่ ไม่ว่าจะแต่งงานแล้วหรือยังโสด พวกเธอก็ให้ความสำคัญกับการแบ่งเวลามาดูแลตัวเองให้สวยพริ้งอยู่เสมอ
Social Media ได้สร้างอิทธิพลให้ผู้หญิงตื่นตัวเรียนรู้เรื่องการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม
สมัยนี้ผู้หญิงเตรียมตัวเรียนรู้ศาสตร์แห่งการชะลอวัยกันตั้งแต่เนิ่นๆ ถ้าเกิดกังวลใจสงสัยเรื่องความงามก็ลองไถหน้าจอ (ใกล้ตัวสุดๆก็ Jeban) ปรึกษากูรูจากโลกออนไลน์ คำแนะนำที่มีประโยชน์ก็จะเด้งกลับมาในเวลาไม่นาน พวกเราสามารถเข้าถึงคลังข้อมูลเพื่อศึกษาสารพัดวิธีดูแลตัวเองให้สวยอ่อนเยาว์จากผู้เชี่ยวชาญและพิสูจน์ผลลัพธ์จากผู้ที่ผ่านประสบการณ์จริงได้ทุกที่ทุกเวลา ลดความเสี่ยงจากการเลือกทำสวยแบบไม่ปลอดภัย เป็นจุดได้เปรียบจากผู้หญิงในยุคเก่าต้องกลายเป็นเหยื่อจากความอยากสวยแต่ขาด guideline ที่ถูกต้องมานักต่อนัก
Healthy LIfestyle
คนรุ่นใหม่ได้รับข้อมูลเรื่อง healthy lifestyle นำไปปรับใช้จนได้ผลชัด นอกจากจะใช้ผลิตภัณฑ์ความงามและเลือกหัตถการที่เหมาะสม ยังไม่ละเลยกุญแจสำคัญในการชะลอวัย นั่นคือ โภชนาการอาหาร การออกกำลังสร้างกล้ามเนื้อ การหลีกเลี่ยงแสงแดดแรงและควันบุหรี่ที่่ทำลายผิวพรรณและพักผ่อนให้เพียงพอ เห็นตัวอย่างชัดเจนจากบรรดาคนดังที่หันมาแชร์เส้นทางความสวยสุขภาพดีกัน ไม่ว่าจะเป็นวิธีฟิตหุ่นจนมีกล้ามสวยๆหรือการดูแลเรื่องอาหารการกิน และโฟกัสกับเรื่อง longevity หรืออายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ แตกต่างจากในอดีตเมื่อหลายปีก่อนที่เรามักได้ยินเรื่องราวการไดเอทแบบสุดโต่งของคนดังเพื่อความผอมบาง
Hair Is Everything!
เมื่อพูดประโยคนี้ขึ้นมา คุณอาจจะนึกถึงฉากสุดฮาของพี่น้องแห่งซีรีส์ Fleabag แต่เรากำลังเจาะจงถึงสไตล์ทรงผมของผู้หญิงยุคเก่าที่มี energy ความอาวุโสชัดเจน อาจจะเป็นเพราะว่า คนยุคเก่าก่อนปลาบปลื้มกับการสร้างเสริมบุคลิกให้ดูภูมิฐานน่าเชื่อถือ ในสายตาของคนรุ่นใหม่ บางทรงจะเพิ่มความสูงวัยจนเป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง แม้ว่าทรงผมเหล่านั้นจะฮิตสุดๆเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่มันดันตรงกับสไตล์ที่ผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนในยุคนี้เค้าชื่นชอบกัน
พวกเราได้เห็น hairstylist จับทรงผมย้อนยุคมาประยุกต์เพื่อสร้างลุคสวยโดดเด่นบนพรมแดงกันเป็นเรื่องปกติ แต่จะมีบางลุคที่ 'รอดยาก' อย่างเทรนด์ดัดลอนเล็กจัดกระบังตั้งเพิ่ม volume ที่ได้รับความนิยมในช่วง 80s แต่อาจจะทำให้นึกถึงสไตล์แบบอาจุมม่าหรืออาม่า
สำหรับผู้หญิงยุคใหม่ เพียงแค่เลือกจัดแต่งทรงผมที่สวยพริ้วไหวเป็นธรรมชาติก็จะช่วยส่งให้ออร่าหน้าเด็กยิ่งเปล่งประกาย ไม่ต้องคิดซับซ้อนว่า นี่คือทรงผมที่เหมาะกับวัยสาวไม่เหมาะกับผู้ใหญ่วัยสี่สิบ ยิ่งเดี๋ยวนี้มี app จำลองทรงผมต่างๆที่เข้ากันใบหน้าและความชอบก็ยิ่งช่วยให้ตัดสินใจเลือกง่ายเข้าไปใหญ่
แน่นอนว่าทำผมสวยและบำรุงผิวพรรณกันเต็มที่แล้ว makeup ยังเป็นตัวแปรสำคัญที่จะสร้างลุคที่ดูเปล่งปลั่งอ่อนเยาว์กว่าอายุจริง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้าลุคธรรมชาติหรือแต่งจัดเต็ม สาวๆสามารถเรียนรู้วิธีจับคู่สีและเทคนิคที่ช่วยเน้นจุดดีให้ยิ่งโดดเด่นและแก้ไขจุดที่ทำให้ไม่มั่นใจ ซึ่งพัฒนาการของศิลปะแห่งการแต่งหน้ายุคใหม่นั้นไม่เคยหยุดนิ่ง มีเทรนด์ใหม่มาให้ทดลองอยู่เสมอ อยากได้ได้ลุคที่โดนใจและเข้ากับตัวเรา ก็เพียงแต่กด search ไม่กี่คลิก แตกต่างจากยุคที่ไร้ social media สาวๆต่างยึดสไตล์ของคนดังหรือ how to ตามนิตยสารมาเป็นต้นแบบ แต่อาจจะเป็นลุคที่ไม่เข้ากับทุกคนไปซะหมด เห็นได้ชัดจากเทรนด์การแต่งหน้ายุค 80s ที่เน้นสีเข้ม shade ต้องคมชัดแทบทุกบริเวณใบหน้า ยิ่งรวมกับทรงผม volume อลังการ ทำให้คนอยากหน้าเด็กอาจจะแต่งตามยาก ต้องจับมาประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัย
นวัตกรรมความงามที่ก้าวหน้า
Marilyn Monroe เคยกล่าวไว้ว่า เธออยากจะแก่ตัวลงไปโดยที่ไม่ต้องไปผ่าตัดตึงหน้า เพราะเธอต้องการความกล้ามากพอในการยอมรับโฉมหน้าที่เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา แต่ก็ยอมรับว่า หากเสียชีวิตไปตั้งแต่ยังไม่ทันจะแก่ มันอาจจะเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายกว่า
คำพูดของเธออาจจะชวนให้ใจหาย เพราะเธอจากโลกนี้ไปก่อนวัยอันควรจริงๆ แต่ก็พอจะเข้าใจมุมมองของเธออยู่บ้างว่า สำหรับสาวงามที่มีรูปร่างหน้าตาเป็นเครื่องมือทำมาหากินถึงขนาดถูกยกให้เป็น beauty icon เช่นนี้ ไม่แปลกที่เธอจะวิตกกังวลเรื่องความแก่ชรา ส่วนตัวเลือกในการทำการศัลยกรรมเสริมความงามและหัตถการอื่นๆก็ยังมีข้อจำกัด เมื่อพูดถึงเรื่องชะลอวัย ผู้คนในอดีตเมื่อหลายสิบปีก่อนอาจจะนึกถึงการผ่าตัดดึงหน้าเพื่อจัดการกับความหย่อนคล้อยของผิวพรรณจนดูอ่อนเยาว์ลงไปหลายปี แต่ก็เป็นการผ่าตัดต้องทำภายใต้การดมยาสลบซึ่งชวนให้ใจสั่นคลอน
แต่การพัฒนาเทคโนโลยีในศตวรรษที่ 21 ก็ได้เปิดโอกาสให้พวกเรามีตัวเลือกที่น่าสนใจ แม้จะไม่ได้ผ่านคมมีดหมอ ก็สามารถเนรมิตผิวพรรณที่ดูอ่อนกว่าวัยได้
คำพูดของเธออาจจะชวนให้ใจหาย เพราะเธอจากโลกนี้ไปก่อนวัยอันควรจริงๆ แต่ก็พอจะเข้าใจมุมมองของเธออยู่บ้างว่า สำหรับสาวงามที่มีรูปร่างหน้าตาเป็นเครื่องมือทำมาหากินถึงขนาดถูกยกให้เป็น beauty icon เช่นนี้ ไม่แปลกที่เธอจะวิตกกังวลเรื่องความแก่ชรา ส่วนตัวเลือกในการทำการศัลยกรรมเสริมความงามและหัตถการอื่นๆก็ยังมีข้อจำกัด เมื่อพูดถึงเรื่องชะลอวัย ผู้คนในอดีตเมื่อหลายสิบปีก่อนอาจจะนึกถึงการผ่าตัดดึงหน้าเพื่อจัดการกับความหย่อนคล้อยของผิวพรรณจนดูอ่อนเยาว์ลงไปหลายปี แต่ก็เป็นการผ่าตัดต้องทำภายใต้การดมยาสลบซึ่งชวนให้ใจสั่นคลอน
procedure ที่มีประสิทธิภาพยังช่วยกอบกู้ผิวพรรณให้กลับมาสวยสดใส กรณีที่สร้างความฮือฮากันมากในช่วงนี้คือ Lindsay Lohan ที่ใครๆต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า lifestyle ที่หนักหน่วงในอดีตของเธอทำให้สูญเสียความอ่อนเยาว์ของวัยสาวไปอย่างน่าเสียดาย เพราะรูปโฉมที่เปลี่ยนแปลงไปจากช่วงที่ยังเป็นนางเอกดาวรุ่งราวกับเป็นคนละคนอาจจะเป็นสาเหตุที่งานแสดงของเธอหดหายมาหลายปี แต่เมื่อ Lindsay ตั้งหลักได้อีกครั้ง เธอก็แปลงโฉมครั้งใหญ่จนทำให้ชาวเน็ทตื่นเต้นกับ The New Era เธอเผยถึงความประทับใจจากการกระชับผิวหน้าจากการทำ RF Microneedling และยังมีแพทย์ศัลยกรรมที่ลงความเห็นว่า เธออาจจะใช้ตัวช่วยเป็นฟิฺลเลอร์หรือโบท็อกซ์ แต่ฉีดแบบพองาม ไม่ได้ทำหน้าหนักมือจนดูสูงวัยเหมือนกับหลายปีก่อน
Lindsay ใช้เวลาช่วงวัยสาววนเวียนขึ้นศาล เช็คอินในสถานบำบัดและตกเป็นข่าวฉาวซ้ำๆจนชื่อเสียงตกต่ำลง แต่เมื่อหวนคืนสู่วงการในวัยใกล้สี่สิบ เธอก็พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง เธอดูอ่อนวัยกว่าตอนที่อายุไม่ถึงสามสิบซะด้วยซ้ำ
สร้าง Self-Love แข็งแกร่ง โอบรับความเปลี่ยนแปลงของวัย
ไม่ว่าจะมีกรรมพันธุ์ดีสักแค่ไหน หรือทุ่มเทดูแลตัวเองให้งามจากภายในไปสู่ภายนอก ในที่สุดแล้ว พวกเราก็ไม่สามารถเอาชนะธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องแก่ชรา ทว่า เหล่าเซเลบคนงามวัยหลักสี่ที่เปล่งประกายความสดใสต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเธอไม่ได้หวั่นเกรงความแก่ แต่เรียนรู้ที่จะยอมรับถึงความเปลี่ยนแปลง ซึ่งแม้จะไม่ได้อ่อนเยาว์เหมือนกับตอนที่ยังเป็นสาวแรกรุ่น แต่เมื่อผ่านร้อนผ่านหนาวมานานก็ได้ค้นพบว่า นี่แหละคือ version ที่ดีที่สุดของพวกเธอ จากการหล่อหลอมประสบการณ์ลองผิดลองถูกจนจนค้นพบตัวตนที่แท้จริง สร้างเสริมสติปัญญาให้เฉียบคมขึ้น รวมถึงความมั่นใจทางเซนส์ทางความงามและแฟชั่นที่เข้ากับตัวเอง ไม่ต้องคอยวิ่งตามใคร บางคนเห็นภาพตัวเองสมัยยังเป็นสาวรุ่นอาจจะแอบเขินกับงแฟชั่นที่ดูห่างไกลจากความเริ่ดในวัยสี่สิบซะด้วยซ้ำ
เนิ่นนานหลายปีก่อน อายุที่นำหน้าด้วยเลข 4 อาจจะฟังดูเป็นเรื่องชวนห่อเหี่ยวใจสำหรับผู้หญิงที่ต้องต่อสู้กับสังคมที่เลือกปฏิบัติทางวัย (Agesim) แม้แต่นางเอกระดับแนวหน้าก็เคยยอมรับว่า เคยพบกับความเจ็บปวดเมื่อถูกฝ่าย casting ปฏิเสธด้วยเหตุผลว่า พวกเธอดูสูงวัยเกินไปไม่เข้ากับงาน กลายเป็นแรงกดดันให้พยายามเสาะหาวิธีการเพื่อรักษาความเยาว์ไว้ให้นานที่สุด เมื่อเลือกใช้บริการจากคลีนิคความงาม แต่หากผลลัพธ์ที่ได้ไม่ตรงกับความคาดหวังของคนในสังคม ก็ถูกเย้ยหยันซ้ำเติมให้จิตตกกว่าเดิม และหลายคนยังมองว่า คำพูด 'ชีวิตเริ่มต้นเมื่อวัยสี่สิบ' เป็นเพียงการปลอบใจตัวเองเท่านั้น
แต่ผู้หญิงยุคใหม่หลายคนก็ได้พิสูจน์แล้วว่า พวกเธอสามารถใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าและพัฒนาตัวเองให้ยิ่งดีงามไปได้พร้อมๆกัน
เราขอเป็นกำลังใจให้ผู้หญิงรักษาความมาดมั่นไว้เสมอ ไม่สลัด self-love ทิ้งไปเพียงเพราะตัวเลขอายุเพิ่มขึ้น