ท้าพิสูจน์ 2 ครีมกันแดดทาตัว ยี่ห้อไหนช่วยกันแดดได้ปังที่สุดในปี 2018
orn_soranya 11 5เอ้าเอ้า ก่อนจะหมดปี 2018 กันไป อยากเม้าว่ามีเรื่องนึง ที่เถียงกับแก๊งเพื่อนไม่เคยจะชนะสักที เวลานัดออกทริปทะเลกันปัญหาหลักคือเรื่องโลชั่นครีมกันแดดที่ใช้ทาตัวเนี่ย ว่าใครใช้อะไร แย่งซีนกันสุดฤทธิ์ว่าของตัวเองดีสุด ปังสุด เลยมาท้าพิสูจน์สาวๆ กันหน่อยว่า โลชั่นกันแดดตัวไหนจะช่วยกันแดดได้ดี ได้นานที่สุดในปี 2018 นี้กันแน่ เลยคัดเจ้าแม่ครีมกันแดด 2 ตัวที่ยืนหนึ่งมาสูสี แย่งมงกันสุดๆ ให้พวกเธอได้ท้าไปพร้อมกับฉัน โลชั่นกันแดดที่ว่าคือ Nivea Sun Protect&Moisture Body Lotion SPF50+ PA++++ กับ Banana Boat Sun Sport Lotion SFP50+ PA+++ ก็นั่นแหละตามที่บอก จะมาทดสอบเฉยๆ ก็ดูจะธรรมดาไป เลยเบิกตัวช่วยทดสอบมาอีกแรง คือ แผ่นวัดแสง Smart Sun มาช่วยอีกแรง เทสให้ดูกันจะๆ ไม่จกตา ไม่มายากันแน่นอน พูดมาก็เยอะ มาเริ่มทดสอบกันไปพร้อมกันเราเลยนะสาวๆ
จุดเด่น คุณสมบัติสุดว้าว
Banana Boat : โลชั่นกันแดดทาตัวสำหรับสายสปอร์ตอย่างตัวจริง ทางแบรนด์เค้าเคลมว่ากันน้ำได้ดี ไม่รู้สึกเหนอะหนะ มีเทคโนโลยี Avotriplex สร้างเกราะป้องกันผิวไหม้จากแดดเผา เนื้อครีมเกลี่ยง่าย ซึมไว เนื้อครีมไม่ไหลเยิ้ม พร้อมเหงื่อ
Nivea : Double UV Protection ปกป้องเหนือทั้ง UVA1, UVA2 มี 3X Moisturiser Power ช่วยฟื้นบำรุงความชุ่มชื้นของผิวที่สูญเสียไปจากแสงแดด พอผิวชุ่มชื้นแล้ว โอกาสเกิดริ้วรอยจากความแห้งของผิวรังสียูวี ที่ทำร้ายผิวต่อให้ออกไปบุกแดด หรือทำกิจกรรม Outdoor ไปทะเล ดำน้ำ ก็เอาอยู่สูตรกันน้ำ ไม่หลุดลอกง่าย ทาแล้วออกแดดได้เลย ไม่ต้องรอ 20 นาที
Nivea : Double UV Protection ปกป้องเหนือทั้ง UVA1, UVA2 มี 3X Moisturiser Power ช่วยฟื้นบำรุงความชุ่มชื้นของผิวที่สูญเสียไปจากแสงแดด พอผิวชุ่มชื้นแล้ว โอกาสเกิดริ้วรอยจากความแห้งของผิวรังสียูวี ที่ทำร้ายผิวต่อให้ออกไปบุกแดด หรือทำกิจกรรม Outdoor ไปทะเล ดำน้ำ ก็เอาอยู่สูตรกันน้ำ ไม่หลุดลอกง่าย ทาแล้วออกแดดได้เลย ไม่ต้องรอ 20 นาที
เนื้อครีม / กลิ่น /ความรู้สึกหลังใช้
Banana Boat : เนื้อครีมเป็นสีขาวข้น เนื้อครีมมี่มาก พอทาลงผิวแล้ว รู้สึกเลยว่าหนักกว่านีเวียพอสมควร ใช้เวลาเกลี่ยๆ วนๆ อยู่สักพักถึงจะซึมลงผิว แอบมีติดแนวขนบ้างเล็กๆ แต่ไม่หนักมาก
กลิ่น : หอมอ่อนๆ ไม่ฉุน ไม่แสบจมูกดี ทางแบรนด์เค้าเคลมมาอย่างดีว่าไม่ใส่น้ำหอม
Nivea : เนื้อครีมเป็นสีขาวเนื้อเนียน ทาลงผิวแล้วลองเกลี่ยดู เกลี่ยและซึมง่ายตามคำเคลมเค้าจริงๆ หลังจากทาไปสักพักก็ไม่รู้สึกหนักผิว หรือเหนียวตัวนะ เหงื่อออกแล้วไม่เป็นคราบขาว
กลิ่น : กลิ่นกันแดดอ่อนๆ ที่เป็นกลิ่น Signature ของ Nivea เลย
กลิ่น : หอมอ่อนๆ ไม่ฉุน ไม่แสบจมูกดี ทางแบรนด์เค้าเคลมมาอย่างดีว่าไม่ใส่น้ำหอม
Nivea : เนื้อครีมเป็นสีขาวเนื้อเนียน ทาลงผิวแล้วลองเกลี่ยดู เกลี่ยและซึมง่ายตามคำเคลมเค้าจริงๆ หลังจากทาไปสักพักก็ไม่รู้สึกหนักผิว หรือเหนียวตัวนะ เหงื่อออกแล้วไม่เป็นคราบขาว
เปรียบเทียบเนื้อชัดๆ จะเห็นว่าเนื้อโลชั่นของนีเวีย เบาบางกว่า
ขนาด และ ราคา
ปริมาณของทั้ง 2 แบรนด์ ต่างกัน ซึ่งก็เป็นที่มาของ ราคาที่แตกต่างกันด้วย ราคาพอสมควรเลย
Banana Boat : 90 ml. ราคา 398 บาท (หน่วยละ 4.42 บาท)
Nivea : 200 ml. ราคา 419 บาท (หน่วยละ 2.1 บาท)
ประสิทธิภาพกันแดด
เริ่มที่กันแดดก่อนดีกว่านะ เราใช้เจ้านี่เลย แผ่น Smart Sun uv Wristband เป็นตัวทดสอบ ตัว Smart Sun เอาไว้วัดค่าแดด และแสงยูวี เอาไว้คอยเดือนเราว่า ผิวกำลังจะถูกแสงแดดทำร้าย และจะต้องทากันแดดซ้ำเมื่อไหร่ หน้าตาจะเป็นแผ่นกระดาษยาวๆ เส้นสีเหลืองๆ วิธีใช้แค่เราทาครีมลงไปที่ Smart Sun แล้วออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง แล้วถ้ากระดาษเปลี่ยนเป็นสีชมพู แสดงว่าเราต้องทาครีมกันแดดเพิ่มแล้ว และถ้าแถบเปลี่ยนเป็นสีชมพู ผิวเรากำลังโดนแดดแรงทำร้าย ให้หลีกเลี่ยงแสงแดดในบริเวณนั้นทันทีเราจะแบ่งการทดสอบ เป็น 3 ช่วงนะ แถบด้านบนจะเป็น Banana Boat ส่วนด้านล่างจะเป็น Nivea มาดูกันว่าโลชั่นกันแดดตัวไหนจะกันแดดได้เลิศสุด
เริ่มที่กันแดดก่อนดีกว่านะ เราใช้เจ้านี่เลย แผ่น Smart Sun uv Wristband เป็นตัวทดสอบ ตัว Smart Sun เอาไว้วัดค่าแดด และแสงยูวี เอาไว้คอยเดือนเราว่า ผิวกำลังจะถูกแสงแดดทำร้าย และจะต้องทากันแดดซ้ำเมื่อไหร่ หน้าตาจะเป็นแผ่นกระดาษยาวๆ เส้นสีเหลืองๆ วิธีใช้แค่เราทาครีมลงไปที่ Smart Sun แล้วออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง แล้วถ้ากระดาษเปลี่ยนเป็นสีชมพู แสดงว่าเราต้องทาครีมกันแดดเพิ่มแล้ว และถ้าแถบเปลี่ยนเป็นสีชมพู ผิวเรากำลังโดนแดดแรงทำร้าย ให้หลีกเลี่ยงแสงแดดในบริเวณนั้นทันทีเราจะแบ่งการทดสอบ เป็น 3 ช่วงนะ แถบด้านบนจะเป็น Banana Boat ส่วนด้านล่างจะเป็น Nivea มาดูกันว่าโลชั่นกันแดดตัวไหนจะกันแดดได้เลิศสุด
หลังจากโดนแดด 30 นาที
Banana Boat :
แผ่น Smart Sun เริ่มเปลี่ยนสีเป็นชมพูบ้างแล้ว
Nivea :แทบจะยังไม่ค่อยขึ้นสีชมพูให้เห็น
หลังจากโดนแดด 1 ชั่วโมง
Banana Boat : เปลี่ยนเป็นสีชมพูมากขึ้น
Nivea :ขึ้นสีชมพูมาเล็กน้อย แบบจางๆ
หลังจากโดนแดด 2 ชั่วโมง
Banana Boat : เปลี่ยนเป็นสีชมพูเกือบเต็มแผ่น
Nivea :ขึ้นสีชมพูมามากกว่าเดิมเล็กน้อย
สังเกตุได้ชัดว่ายังเห็นพื้นที่ของแผ่นทดสอบสีเหลืองชัดเจน ถึงแม้จะตากแดด outdoor จ้าๆ มาอย่างเต็มที่
ประสิทธิภาพการกันน้ำ
Banana Boat : เนื้อครี่มมี่ ที่ตอนแรกที่เกลี่ยก็กลัวว่าจะไหลเยิ้มเป็นคราบขาว หรือหนักผิวไหม
ผลลัพธ์พอใจเลย หลังจากลงน้ำขึ้นมา ไม่เป็นคราบ น้ำแทบจะไม่เกาะผิวเลย
Nivea : เนื้อบางเบาก็จริง แต่กันแดดดี กันน้ำก็โอเคเลยนะ ไม่มีคราบขาว ไหลเยิ้มพร้อมเหงื่อ
หลังว่ายน้ำขึ้นมาก็ยังรู้สึกว่ามีกันแดดเคลือบผิวอยู่นะ ประทับใจ ไลค์เลย
สรุปผล
โดยรวมถือว่าสูสีกันพอตัวเลยนะ ดีไม่แพ้กันเลย
Nivea จะมีหัก 1 คะแนน แค่เรื่องกลิ่น ที่ส่วนตัวรู้สึกว่า กลิ่นของนางยังไม่โดนใจเท่าไหร่ของ Banana Boat โดนหัก 2 คะแนน ไป จุดแรกตรงเรื่องการซึมเข้าผิว เนื้อแอบหนักพอเทียบกับนีเวียที่เบาบางกว่ามาก บานาน่า โบ๊ทที่ซึมลงสู่ผิวยากกว่า ณ จุดๆนี้เลยต้องหักไปอีกข้อคือเรื่องประสิทธิภาพการกันแดดถ้าต้องลงเล่นทะเล หรืออยู่กลางแจ้งนานมากๆ อาจยังต้องทาซ้ำนะ เพราะเราลองทาไปตีกอล์ฟ พัดไปหลายหลุมแอบมีแสบๆผิวบ้างนะ
แหละนี่ก็เป็นรีวิวของตัวเรานั่นเอง ที่อยากจบปัญหาถกเถียงของเหล่า เกริ์ลกรุ๊ป เวลาออกทริปกันว่าโลชั่นกันแดดทาตัวเจ้าไหน กันแดดได้นานเอาอยู่ ยืนหนึ่งกันไป ผลสรุปก็คือน้องนี Nivea ของเรานะจ๊ะ
Banana Boat ใช่ว่าไม่ดีนะ เราว่ามันเหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้งที่ไม่ได้นานมากนักหรือ Day Off ที่เราอยากออกกลางแจ้ง เช่น ไปเจเจ เป็นต้น ไม่พอก็ทาเติมไปหวังว่าเพื่อนๆ ที่เจอปัญหาแบบเรา ลองอ่านแล้วนำไปเม้ามอยกับกลุ่มเพื่อนของเพื่อนๆได้นะใช้ตัวไหนแล้วชอบ มาสปอยล์กันได้ในคอมเมนต์เลย วันนี้ต้องไปก่อนแล้ว ถ้ามีไอเท็มอะไรโดนใจ อยากแชร์ให้เพื่อนๆอ่าน เราจะมาทำรีวิวใหม่นะ จะพยายามมาบ่อยๆ เลยขอบคุณที่ทุกคนอ่านกันจนจบ ไปละจ้า เตรียมตัวเก็บกระเป๋าไปทริปต่อไป ช่วงสิ้นปีนี่ต้องเที่ยว รัวๆ