สวัสดีค่าสาวๆ วันนี้ขอมาเมาส์มอยเรื่องความงามกันหน่อย เรื่องคือช่วงก่อนสังเกตหน้าตัวเองแล้วรู้สึกว่า ช่วงนี้ทำไมแอบมีเหนียง หน้าบานสุดดดด หน้าก็ดูหย่อนๆโดยเฉพาะช่วงแก้ม ด้วยความทุกข์ร้อนใจก็พยายามหาทางลดมันไปให้ได้ แต่ต้องขอบอกก่อนว่าปกติไม่ใช่คนอ้วนอะไรน้ำหนักแค่ 44 กินเยอะทีไรบวมออกหน้าตลอด เลยต้องพึ่งคลินิคเสริมความงามกันแล้วจ้างานนี้  

เราก็แอบไปศึกษาว่า HIFU มันช่วยทำให้ผิวที่หย่อนคล้อยที่หน้าเราดูยกกระชับ กรอบหน้าเราจะได้ชัดไม่หย่อน แล้วหน้าก็จะดูเรียวขึ้นไม่บาน

STEP 1

ขั้นตอนการทำก็เริ่มจากมีการ Cleansing

 ที่หน้าของเราบริเวณแก้ม เหนียงและหน้าผาก (จุดที่จะทำ HIFU) 

STEP2

ขั้นตอนต่อไปคือการโบ๊ะยาชา

คุณหมอทายาชาให้บริเวณที่จะทำ HIFU

ขั้นตอนนี้เรารอยาชาประมาณ 1 ชม ก็นอนรอเล่นมือถือไปเพลินๆ

STEP3

ขั้นตอนระหว่างทำคือคุณหมอจะเอาเครื่องมือยิงเข้าไปใต้ชั้นผิวแต่ละชั้นเพื่อทำให้ผิวชั้นนั้นหดตัว ขั้นตอนนี้แอบกลัวๆเหมือนกันเพราะเค้าบอกว่าค่อนข้างเจ็บ แต่ขอบอกเลยว่าไม่เจ็บเท่าที่คิดเจ็บแบบทนได้      

ความรู้สึกตอนทำรู้สึกว่ามีความร้อนตามจุดที่คุณหมอยิง คุณหมอจะค่อยๆยิงจากคางไล่ๆขึ้นไป ของเราจุดที่ทำจะเป็นในส่วนของแก้ม คาง หางคิ้ว และเหนียง ความร้อนจากเครื่องจะทำให้ชั้นผิวจะหดจากความร้อนที่ Focus ใต้ผิว 60°C-70°C ทำให้หน้าของเรายกขึ้น งานนี้มีฤทธิ์ของยาชาช่วยชีวิตไว้แถมคุณหมอมือเบามาก ถามไถ่ตลอดว่าไหวมั้ยๆเลยผ่านมาได้แบบชิวๆ

สังเกตเลยว่าหน้าข้างที่ยังไม่ได้ทำกับทำแล้ว

แตกต่างกันเลยข้างที่ทำกรอบหน้ายกขึ้นมาเลย

หน้าดูเรียวขึ้นมาทันตาเห็นจริงๆ

การทำ HIFU  ของเราประมาณ 30 - 45 นาทีไม่รวมกับขึ้นตอนยาชา ถือว่าไม่นานมาก คุณหมอดูมืออาชีพสุดๆ หลังทำมีรอยแดงเบาๆ แต่พอกลับถึงบ้านก็ดูจางลงแล้วอันนี้ไม่ต้องเป็นห่วง ขอสรุปเลยนะคะว่าการทำ HIFU ช่วยในเรื่องของผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมากระชับ ดูหน้าเรียวขึ้น คนที่มีปัญหาเรื่องหน้าหย่อนคล้อยแนะนำให้ทำตัวนี้เลย ส่วนผลลัพธ์เราขอบอกว่าขึ้นอยู่แต่ละบุคคลจริงๆ ใครที่ผิวหย่อยมากๆอาจจะเห็นได้ชัดเจนเลย แล้วพวกรูขุมขนก็ดูเล็กลง ริ้วรอยก็สามารถช่วยได้ ส่วนระยะเวลาของ HIFU จะได้ผลดีช่วงเดือนที่2 และสามารถอยู่ได้ 6เดือน - 1 ปี แล้วแต่สภาพร่างกายแต่ละบุคคล ตอนนี้เราก็ทำมาได้ 1 เดือนกว่าๆแล้วไปดูรูป After เลยจ้า

(หลังทำ HIFU 1 เดือน )