Review || Favorite Body Care สำหรับชาวผิว (ตัว) แห้ง !

18 2

สวัสดีค่า วันนี้อยากจจะมาเปิดกรุ 

"Favorite Body Care สำหรับชาวผิว (ตัว) แห้ง" 

ที่ชอบใช้มากๆ ให้ชมกัน


แหม่..ไม่ว่าอากาศจะร้อนหรือหนาว ผิวกายเราก็ยังคงแห้งอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นคนชอบอาบน้ำอุ่น ! 555555 เราจึงสนุกกับการเฟ้นหาโลชั่นต่างๆ มาลองใช้ เพื่อช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิว ให้กลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง


และในครั้งนี้ก็มี Body Care ที่เข้ารอบมากถึง 4 ตัว...มาดูกันว่าทำไมถึงเป็น Favorite Body Care ของเรา


The Body Shop Almond Milk & Honey : For Sensitive, Dry Skin


ตัวแรกที่อยากจะมาแนะนำก็คือ ยี่ห้อ The Body Shop ค่ะ เค้าเคลมไว้ว่า 48 Hour Lightweight Moisture ที่มีส่วนผสมจากนมอัลมอนด์แท้จากประเทศสเปน น้ำผึ้งจากเอธิโอเปีย และเชียร์บัตเตอร์จากกาน่า แถมเป็น 100% Vegeterian และ Cruelty Free ด้วย !


แค่ส่วนผสมที่ว่ามาก็รู้สึกผิวดีเลย 555 กลิ่นเค้าหอมน้ำผึ้งสุดๆ ผ่อนคลายและ ไม่หอมเลี่ยนจนรู้สึกปวดหัวค่ะ ซึ่งสรรพคุณที่ชอบอีกอย่างของตัวนี้คือ เค้าบอกว่าช่วยลดการระคายเคือง และเหมาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่ายอีกด้วย


แม้จะบอกว่า Lightweight แต่เนื้อสัมผัสค่อนข้างหนา แรกๆ ก็กลัวว่าจะต้องเหนอะแน่ๆ แต่พอลองใช้แล้วกลับซึมเข้าสู่ผิวได้ดี รู้สึกมีอะไรเคลือบผิวเล็กน้อย แต่ไม่เหนอะหนะจนน่ารำคาญ กักเก็บความชุ่นชื้นได้ดี สำหรับเราที่ผิวแห้งแต่ไม่ถึงขั้นเป็นขุย ก็สามารถทาตอนกลางวันได้ค่ะ แต่ต้องลดปริมาณลงหน่อย เพื่อไม่ให้เหนอะหนะจนเกินไป


ส่วนแพคเกจก็เป็นหลอดๆ บีบใช้ง่าย มีผลิตภัณฑ์ให้ 200 ml


ราคา 550 บาท เนื่องราคาแอบสูงอยู่สักหน่อย เราเลยไม่ได้ใช้ทุกวัน และส่วนมากจะใช้ตอนกลางคืนค่ะ 5555 แต่ผลลัพธ์โอเคมากๆ ชอบๆ อยากให้ลอง 

Vasline Intensive Care Advanced Repair


มาต่อกันที่ยี่ห้อที่ทุกคนคุ้นเคยอย่างวาสลีนค่ะ ตัวนี้พิเศษตรงที่บำรุงล้ำลึกมาก เค้าเคลมเรื่อง “ไมโคร-ดรอปเล็ตของวาสลีนเจลลี่” ที่ช่วยเรื่องบำรุงผิวล้ำลึก ฟื้นฟูผิวแห้งกร้านได้ภายใน 5 วัน ! ปราศจากน้ำหอม เหมาะมากกับสภาพผิวแห้งขั้นสุดและผิวที่แห้งคัน


เนื้อของเค้ามีความเข้มข้นมาก เป็นเนื้อสีขาวเป็นครีมที่มีความเป็นเจลเข้มข้นผสมอยู่ แม้จะบอกว่าเป็น Non-Sticky Lotion ไม่เหนียวเหนอะ แต่ก็ไม่ได้ซึมเข้าสู่ผิวไวขนาดนั้นค่ะ ต้องใช้เวลาประมาณนึงเลย เมื่อซึมเข้าผิวแล้วสบายผิวดี เราชอบใช้หลังอาบน้ำทันที และทาเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น เพราะสำหรับการใช้ชีวิตกลางวันจะหนามากไป


ขวดนี้มาในปริมาณที่ใหญ่ยักษ์ 600 ml ใช้กันไม่ต้องกลัวเปลืองเลยล่ะ


สนนราคาอยู่ที่ 199 บาท เราซื้อมาตอนที่มีโปรที่โลตัสค่ะ เลยไม่ทราบว่าราคาจริงอยู่ที่เท่าไหร่


ชอบตัวนี้มากๆ เพราะตื่นเช้ามาแล้วรู้สึกได้ว่าผิวชุ่มชื้นขึ้นจริงๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลย ใครผิวแห้งมากๆ และไม่ซีเรียสเรื่องความหนักผิวเท่าไร ลองไปหาซื้อกันดูนะะ

Bath & Body Works : Essential Oils Mint Leaf & Bergamot || Natural Peppermint Oil || Triple Oil Body Balm with Olive Oil


เป็นอีก 1 ลูกรักในตอนนี้เลยค่ะ สำหรับ Bath & Body Works แค่พูดกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของเค้าก็ลอยมาเลย 555555 ตัวนี้จะเป็น Body Balm ที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันอโวคาโด เพิ่มความหอมสดชื่นด้วยน้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น เลม่อน มะกรูด กระวาน และเป็ปเปอร์มิ้นต์


เนื้อของตัวนี้จะเป็นบาล์มที่ข้นพอสมควร เมื่อโดนความร้อนจากมือของเราจะค่อยๆ ละลายกลายเป็นน้ำมันค่ะ เหมาะสำหรับทาเฉพาะจุดที่แห้งมากๆ มากกว่าทาทั่วตัว เพราะเค้าจะทิ้งความมันไว้มากมายทีเดียว เราลองทาทั้งตัวดูแล้วให้ความรู้สึกหนักผิวพอสมควร น้ำมันจะเคลือบผิวไว้มากกว่าที่จะซึมเข้าสู่ผิว ทำให้เหนอะหนะ ไม่แนะนำเลยถ้าจะทาแล้วออกไปใช้ชีวิตต่อ 555555 เราจะใช้อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งโบกตัวในวันที่อยากพักผ่อน เพราะนอกจากจะบำรุงผิวล้ำลึกขึ้นสุดแล้ว กลิ่นยังหอมและผ่อนคลายมากๆ ด้วย ตื่นมาตัวนุ่มมากกกกก


แพคเกจก็จะมาในรูปของกระปุกขนาดกลางๆ ข้อเสียก็คือต้องควักผลิตภัณฑ์ออกมา ฉะนั้นก่อนใช้ต้องล้างมือให้สะอาด หรือใช้ไม้พาย/ cotton bud ตักเอานะ ปริมาณที่ให้มาจะอยู่ที่ 113 กรัม ค่ะ


ราคา 250 บาท ซื้อตอนที่มีโปรช่วงต้นๆ ปีค่ะ น่าจะลดมาประมาณ 50-60% จากราคาจริง คุ้มค่ามาก


สำหรับใครที่ชอบการบำรุงล้ำลึกและชอบกลิ่นหอมๆ สไตล์ Bath & Body Works ห้ามพลาดนะ ยิ่งเป็นแฟนของสายมิ้นต์ต้องมีติดไว้นะ 55555 จริงๆ กลิ่นนี้เค้าออกมาหลายเนื้อผลิตภัณฑ์เลย ทั้งโลชั่น ครีมต่างๆ ลองไปหาดูค่า

Nivea Intensive Moisture Body Milk


มาที่ตัวสุดท้าย !! ช่วงที่ออกมาใหม่ๆ น้องคนนี้ดังมาก เราก็เลยไปสอยมา 1 ขวด พอหมดแล้ว ก็ได้รางวัลมาจากบ้านจีบันอีก 1 ขวดพอดี๊ 55555 ซึ่งตอนนี้ใช้กำลังจะหมดขวดที่ 2 แล้วล่ะค่ะ


ตัวนี้เค้าเคลมว่า เหมาะสำหรับผิวแห้งและแห้งกร้าน ยาวนาน มีวิตามินอีถึง 50 เท่า ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำ มี pH Balance ไม่ทำร้ายสมดุลผิว และมีน้ำมันสกัดจากอโวคาโด้ด้วย โอ้โหววว และที่สำคัญ เนื้อของเค้าเป็น Body Milk ที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ ด้วยสรรพคุณนี้ก็เลยกลายเป็นลูกรักอีกตัวนึงเลยค่ะ


เนื้อของเค้าจะเป็นโลชั่นที่บางเบา ซึมเข้าสู่ผิวเร็ว สบายผิว ไม่ได้เกาะอยู่บนผิวเรานานเท่าไหร่ ให้ความชุ่มชื้นระดับนึง เหมาะกับการใช้ชีวิตในเวลากลางวันมากๆ ตัวนี้ต้องใช้อย่างต่อเนื่องถึงจะเห็นผลเรื่องความชุ่มชื้นนะ ผิวจะค่อยๆ สม่ำเสมอและสุขภาพดีขึ้น ไม่แห้งแตก


กลิ่นจะหอมอ่อนๆ สไตล์นีเวีย 5555 นี่อาจเป็นอีกเหตุผลที่ชอบสูตรนี้ด้วยค่ะ เพราะกลิ่นไม่ฉุนจนเกินไป ยังคงความนีเวียแบบเบาๆ ตอนแรกคาดหวังว่าจะได้กลิ่นหอมมันจากอโวคาโดบ้าง แต่ไม่มีเลย 555555


สำหรับปริมาณ 400 ml ในราคา 169 บาท ถือว่าคุ้มค่านะคะ เค้ามีให้เลือกหลายขนาดเลยนะ ตั้งแต่ 125 ml จนถึง 600 ml เลยค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ มีใครใช้ตัวไหนเหมือนกันบ้างหรือเปล่า ??


ถ้าจะให้เลือกว่าชอบตัวไหนมากที่สุด ก็คงตอบยากค่ะ 55555 ชอบหมดเลย เพราะแต่ละตัวก็มีคุณสมบัติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน เราก็ใช้สลับๆ กัน ช่วงไหนมีปัญหาอะไรก็จะเลือกหยิบตัวที่ตอบโจทย์ผิวที่สุด ณ เวลานั้นมาใช้ 

ตอนนี้ใช้วนไปเรื่อยๆ ก็ยังไม่หมดสักที 555555


หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นอีกตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อ Body Care 

มาดูและผิวพรรณกันนะคะ


ไว้เจอกันใหม่

บัยสสสสสสส์


Mini_Meen

Mini_Meen

☀ SKINCARE
☀ BEAUTY STUFFS ☀ -----

☁ MUSIC ALCHEMIST & LECTURER
☁ PHOTOGRAPHY LOVER
☁ ART ADMIRER ☁ -----

☾ NICE TO MEET YOU ALL ☾

FULL PROFILE