กระบี่ 9 วัน 8 คืน ทริปเรียนดำน้ำลึก PADI Advanced Open Water ดำน้ำดูเรือจมครั้งแรกในชีวิต Ep.2
ballyfit25 12 3สวัสดีค่ะ Ep.2 มาแล้ว ไปเที่ยวกระบี่กันต่อจ้า
2 วัน สุดชิว เที่ยวไร่เลย์ ใส่บิกินี่นอนอาบแดด
วันที่ 4 ณ กระบี่ บอลไม่มีอะไรทำ เพราะสามีไปเรียนคอร์ส Rescure และ EFR ต่อประมาณว่าคอร์สกู้ภัยบนทะเล ก็เลยชิวๆ เริ่มตอนเช้าด้วยการออกไปวิ่งหน้าหาดและกลับมาออกกำลังต่อที่ยิมของโรงแรม แต่อุปกรณ์ไม่ค่อยโอเค Smith Machine มันไม่ลื่นไหลเลย เลยเล่นฟรีเวทและบอดี้เวท และใช้ดัมเบลแทน เสร็จแล้วภารกิจวันนี้ของบอลก็คือการตระเวนหาซื้อ SD Card เพราะ SD card ที่ติดมามันไม่เหมาะกับ Gopro คือมันอัดได้แค่ 20 วินาทีก็ขึ้นว่า SD Card Error เสียเวลาต้องเปิดปิดใหม่ตลอด สายๆ ถึงเจอ SD Card ขับรถวนไปวนมารวมทั้งชอปปิ้งนิดหน่อย อยู่คนเดียวไม่รู้จะทานข้าวเที่ยงกับอะไร ข้าวเช้าก็ทานมาเยอะเป็นบุฟเฟต์ของโรงแรม เบื่อๆ เลยตัดสินใจไปเที่ยวหาดไร่เลย์คนเดียวซะเลย
บอลขับมอไซต์ไปจอดแล้วไปขึ้นเรือที่อ่าวนาง นั่งเรือประมาณ 15นาทีก็ถึงหาดไร่เลย์ ระหว่างที่เรือแล่นไปไร่เลย์ มันสวยมาก แนะนำให้นั่งฝั่งซ้ายของเรือ ภูเขาหน้าผามันสวยมากเลยค่ะ ไปถึงหาดไร่เลย์ฝั่งตะวันตกมั้ง เรือจอดเยอะมากและร้อนมาก ฝั่งนี้คือคิดว่า ไม่เหมาะแก่การชิลเลย เสียงเรือเข้าออกตลอดเวลา เลยเดินเล่นไปเรื่อยๆ มีร้านอาหาร บาร์ และร้านค้ามากมาย บาร์จะสไตล์เร็กเก้หน่อยๆ เจอร้านอาหารร้านนึง อาหารไทยไม่แพง 80บาทงี้ ถือว่าไม่แพง เลยสั่งสุกี้ไก่มาเติมพลัง เพราะตอนนั้นบ่ายสองกว่าแล้ว เสร็จแล้วก็เดินต่อไปที่ถ้ำพระนางใน
เจ้าหน้าที่ใจดีมาก ไม่คิดเงิน เลยเดินเข้าไปดูเป็นถ้ำที่สวยมาก หินงอกหินย้อยสวยมีการเล่นไฟให้เห็นความงามของถ้ำ มีการทำทางเดินให้เดินสะดวก เสร็จแล้วก็เดินทะเลไปทางไร่เลย์ตะวันออก ฝั่งนี้มีรีสอร์ทร้านอาหาร บาร์น่านั่ง แต่ไม่ได้นั่ง เน้นเดินเล่นไปเรื่อย เสียดายไม่ได้เดินไปจนทะเลฝั่งที่มีถ้ำพระนาง ตอนนั้นห้าโมงนิดๆ แล้วก็เลยรีบเดินกลับ ไปขึ้นเรือกลับอ่าวนาง เพราะเรือหมดตอนหกโมง
วันที่ 5 ตื่นเช้าไปออกกำลังกาย ทานอาหารเช้าของโรงแรมเสร็จ ก็ไปถ่ายรูปเล่นแถวอ่าวนางสักหน่อย แล้วสามีก็ให้เอาอุปกรณ์ดำน้ำไปส่งให้ที่ Dive Center เพราะนางต้องลงสระ เจอเจ้าของ Dive Center และคนอื่นๆ อำว่าไม่ใช่ที่นี่ เราก็จำเขาได้เหอะ โทรให้สามีออกมาคอนเฟิร์ม พวกนางก็ขำกันใหญ่ แหม่ มีอารมณ์ขันกันนะ เสร็จแล้วบอลก็ไปหาที่นั่งชิลริมทะเล ตอนเช้าวิ่งไปสำรวจสุดหาดนพรัตน์ธาราฝั่งอุทยาน น่านั่งมากเพราะคนน้อยไม่ได้ติดถนน เลยไปตรงนั้นแหละ นั่งเล่นนอนเล่น ลงเล่นน้ำถ่ายรูปอยู่ทั้งวัน 555 วันแห่งความชิว ส่วนอาหารเที่ยงก็ไปฝากท้องที่ร้านข้าวแกงแถวนั้น อาหารใต้เครื่องแกงเข้มข้น แถมมีผักถาดใหญ่ให้กิน หร่อยแร๊งงงเจง
ดำน้ำเรือจม
ชิลมา 2 วัน ในส่วนของวันที่ 6 เราก็มาดำน้ำกันต่อ เป็น Fun Dive 3 จุด คือเป็นจุดดำน้ำที่เราเกือบจะได้ไปวันที่ 2 แต่เรือดันเสีย วันนี้เรือไม่เสียนาจ๊ะ ได้ไปดำเรือจมสักทีเย้ๆ
Dive Site แรกของวัน เรือเกล็ดแก้ว จริงๆมี อีก Dive site ใกล้เกาะพีพี ชื่อว่า King Cruiser บอลสับสนนึกว่าที่เดียวกันแต่มันคนละที่ มีโอกาสจะกลับไปดำ King Cruiser แน่นอน วันนี้บอลต้องดำน้ำแยกกลุ่มกับบัดดี้ของบอล เพราะสามียังเรียนอยู่ เขาต้องฝึกภาคปฏิบัติก็มาเรือลำเดียวกันเหมือนกัน Dive Master ของบอลเป็นนักดำน้ำที่มีประสบการณ์สูง เป็นคุณลุงชื่อ Claude แกน่ารัก คอยเตือน คอยสอนเพราะรู้ว่าบอลยังมือใหม่มาก และดำน้ำร่วมกันนักดำน้ำคนอื่นๆ อีก 2 คน เป็นคุณป้าอายุ 70 กว่าๆ แต่เดินทางคนเดียวมาทั่วเอเชีย คุณป้าไดฟ์มาทั้งหมดเกือบสองร้อยกว่าไดฟ์ น่าทึ่งมากเลยค่ะ ถึงเวลาลงน้ำแล้ว เวลาลงไปที่เรือจะมีเชือกให้จับไต่ลงไปเรื่อยๆ พอเห็นตัวเรือแล้วมันว๊าวมาก
เรือเกล็ดแก้วเป็นเรือที่ถูกปลดประจำการแล้วกองทัพเรือมอบให้กระบี่เพื่อทำเป็นประการังเทียม เป็นบ้านให้เหล่าปลาน้อยใหญ่ ตั้งแต่ปี 2557 เรือเกล็ดแก้วได้เป็นที่พักพิงให้กับเหล่าปลาน้อยใหญ่และสัตว์น้ำอื่นๆ บอลตื่นตะลึงกับจำนวนปลา และขนาดของปลาที่อาศัยอยู่ที่เรือเกล็ดแก้วมาก มันมหาศาลและสวยงาม น่าทึ่งมาก ปลาสิงโต ปลาปักเป้า ตัวใหญ่สุดๆ เท่าที่เคยเห็นมาเลย บอกกับตัวเองในน้ำว่า ฉันอยากดำที่แบบนี้อีก ไม่อยากขึ้นเลย แต่อุปสรรคมันก็มี คลื่นใต้น้ำและการลอยตัวที่ไร้ประสบกาณ์ของบอลทำให้ขาไปทิ่มเม่นทะเลได้แผลมาหน่อยนึง และขาอ่อนไปขนกับขอบเรือ ได้รอยช้ำมาเป็นที่ระลึกกันเลยจ้า ด้วยความตื่นเต้นกับความอลังการ และพยามดำผุดดำว่ายเยอะเกินไปออกซิเจนหมดเร็วกว่าชาวบ้าน โดน Dive Master ดุใต้น้ำว่าเธอทำไมไม่บอกว่าอากาศเหลือต่ำกว่า 100 บาร์ แล้ว Dive Master เลยต้องฝากเรากับขึ้น Surface กับอีกกลุ่ม คือกลุ่มของครู Hugo เพราะอากาศเรามีไม่พอที่จะกลับพร้อมกลุ่มเดิม ขึ้นบก Dive Master ก็บอกว่า พยายามช้าๆ ค่อยๆ ไปอากาศจะได้ไม่หมดไว แต่เรารู้สึกว่า BCD มันใหญ่เกินไปสำหรับเรา มันไม่สามารถรัดตัวได้พอดี ทำให้ BCD มันลอยขึ้นในบางที เราเลยดำน้ำท่าแปลกๆ มันจมลงล่างตลอด ครู Hugo ที่สอน Advanced Open Water ก็บอกเหมือนกัน สงสัยต้องเก็บเงินซื้อ BCD ส่วนตัวของตัวเองแล้วมั้ง ขนาดพิเศษเพราะบอลตัวเล็กมาก
Dive ที่ 2 Bida Nok
วันนี้ถือว่าเป็นวันดีๆ น้ำใส ทำให้ทุก Dive ของวันนี้ทำให้เราได้เห็นความสวยงามของโลกใต้ทะเลกระบี่ Bida Nok ก็เป็นจุดที่สวยงามอีกจุด ปลาสีสันสวยงาม ปะการังอ่อนและแข็งก็สวยงาม เห็นปลานีโม่เยอะมาก เป็น Dive ที่ประทับใจอีกแห่ง Dive นี้เราปฏิบัติที่ Dive Master บอกอย่างเคร่งครัด
Dive ที่ 3 ไดฟ์สุดท้ายของทริปแล้ว คือที่ Viking Bay เขาบอกว่าไฮไลท์ของที่นี่คือมันมีปิรามิด ปะการังเทียม แต่ Dive Master ไม่ได้พาไปน่าจะเพราะเจ้าหน้าที่เรือเติมถังออกซิเจนให้ไม่ทันเวลา เราเลยมีเวลาไม่มากพอ แต่จุดที่ Dive Master พาดำเป็นเหมือนหน้าผาใต้น้ำ มีปะรารังอ่อน เยอะมาก Dive นี้ก็เป็นอีกจุดที่ประทับใจ มีปลาทำทอร์นาโด ไม่รู้เรียนงี้เปล่า คือเป็นฝูงปลาขนาดใหญ่ วนๆ มีปล่องตรงกลางคล้ายทอร์นาโด มันเจ๋งมาก
ทั้งสามไดฟ์ในวันนี้รู้สึกประทับใจและไม่เสียใจที่ได้เดินทางมาดำน้ำที่กระบี่ ยังมีอีกหลาย Dive Site ที่เรายังไม่ได้เก็บ และจะต้องกลับมาอีกแน่นอน แต่อาจจะพักแถวเกาะพีพี หรือแถวเกาะลันตาด้วยเพื่อจะได้ดำที่ King Cruiser และหินแดง หินม่วง โอ๊ย หลายที่เยอะแยะเต็มไปหมด รวมทั้งสิมิลันก็ยังไม่เคยไป รอก่อนหนาพี่จ๋า น้องจะไปให้ได้เลย
เย็นวันนั้นเรามีนัดนั่งดริ้งเล็กๆ น้อยๆ กับครู Nihad เป็นครูที่สอน Rescue ให้สามีและครู Hugo ที่ Tipsy Bar เป็นบาร์เล็กๆ ตกแต่งแบบง่ายๆ บรรยากาศชิว แถมรักธรรมชาติด้วยการใช้หลอดไม้ไผ่แทนหลอดพลาสติก มีหลอดไม้ไผ่ขายด้วย บอลเลยจัดมา 1 เซ็ต ที่นี่ค็อกเทลอร่อย มีพนักงานน่ารักชื่อเจ้า Ratatouille แมวน้อยขี้เหม่อ มานั่งเฝ้าหน้าร้าน
วันที่ 7 หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จ เราก็แว๊นมอเตอร์ไซต์ไปสำรวจอ่าวม่วงและหาดทับแขก น้ำทะเลใสสวยสงบกว่าฝั่งอ่าวนาง และครู Nihad แนะนำให้ไปเดินขึ้นเขาหงอนนาค แต่เราไม่รู้ว่าเส้นทางจะโหดขนาดนี้ หาข้อมูลมาไม่ดีเท่าไหร่ด้วย. สามีมีแผลที่เท้าเลยใส่ผ้าใบไม่ได้ เราเลยไปได้ไม่ถึงครึ่งทางต้องถอดใจเดินกลับ เพราะไปทั้งๆ ที่ไม่พร้อม รองเท้าไม่ดี ไม่ได้เตรียมน้ำเตรียมอาหารไปให้พอ ใครจะไปพิชิตเขาหงอนนาค อย่างแรกที่ต้องมีคือรองเท้าดีๆ อาหารและน้ำ เพราะต้องเดินขึ้นเดินลงรวมระยะเวลามากกว่า 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว เอาไว้คราวหน้าจะไปพิชิตใหม่แล้วกันค่ะ
เราเบี่ยงเส้นทางขับรถกลับไปโรงแรมแล้วเดินไปขึ้นเรือไปไร่เลย์แทน เพราะสามียังไม่ได้ไป เรือถึงฝั่งไร่เลย์เราก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ แวะดื่มที่บาร์และหาอาหารกลางวันทาน เสร็จแล้วก็ไปแวะที่ถ้ำพระนางใน ตอนเดินกลับไปฝั่งไร่เลย์ตะวันตก เจอฝูงลิงหลายตัวกำลังกินแตงโมอยู่ไม่รู้ใครเอามาให้หรือเจ้าพวกลิงไปขโมยมาจากรีสอร์ทใกล้ๆ ก็ไม่ทราบได้ แต่เจ้าลิงก็ไม่ได้ทำร้ายเรา เราก็ยืนอัดวิดิโอใกล้ๆ มีทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ น่ารักดีค่ะ
ถัดจากฝูงลิง เราก็ออกไปหน้าหาดเพื่อเช้าเรือคายัคพายเล่น เราพายเข้าถ้ำเล็กๆ ใกล้ๆ ไร่เลย์ และพายออกไปเกือบถึงหาดพระนาง แต่ไม่ได้จอดตรงนั้น เป็นการพายเรือที่สนุกมากค่ะได้ออกกำลังกายและได้เห็นวิวสวยๆ ของไร่เลย์ในอีกมุม
วันนี้ถือว่าเป็นวันสุดท้ายที่เราจะได้เที่ยวกระบี่ เราตกลงกันว่าจะพักผ่อน สบายชิวๆ ไปหาหาดสงบๆ นอนอาบแดด เล่นน้ำ ก็เลยกลับไปที่เดิม บริเวณสุดท้ายหาดนพรัตน์ธาราซึ่งเป็นเขตของอุทยาน เป็นจุดที่เงียบสงบที่สุดในย่านนี้แล้ว กิจกรรมวันนี้ก็ไม่มีอะไรมาก กินๆ นอนๆ 555
วันนี้บังเอิญไปเจอร้านเด็ด เราแอบเสียใจที่เจอร้านนี้ก็วันสุดท้ายแล้ว เป็นร้านค้าอยู่ในอุทยานนั่นแหละค่ะ ชื่อร้านครัวธารา เป็นร้านขายอาหารทะเลสดๆ ราคาถูกกว่าร้านอาหารริมหาดอีกฝั่ง สดขนาดไหนคือ ตักขึ้นจากตู้ให้เราเห็นเลย อยากได้ตัวไหนก็ชี้เลย รสชาติก็อร่อยถูกปาก เสียดายที่เพิ่งเจอร้านนี้ก็เมื่อวันสุดท้าย ฮือๆ
เย็นวันสุดท้ายเราก็ไปนั่งดื่มที่ร้านนางแอ่น จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดของหาดนพรัตน์ธารากันเหมือนกับวันแรกที่มา บ๊ายบายกระบี่ บ๊ายบาย Beach Life เดี๋ยวเจอกันใหม่
ก่อนจบ ขออนุญาตรีวิวโรงแรมที่บอลพักตลอดทริปนะคะ โรงแรมที่บอลพักเป็นโรงแรมใหม่ชื่อว่า มณีเทล กระบี่ บีชฟร้อนท์ ตอนแรกบอลจองผ่านเว็บจองโรงแรมทั่วไป แต่เกิดความเข้าใจผิดเรื่องการชำระเงิน เพราะเจ้าหน้าที่โรงแรมคนหนึ่งแจ้งว่าสามารถจ่ายที่โรงแรมได้เลย แต่การจองกลับโดนยกเลิก เลยโทรไปร้องเรียนพร้อมหลักฐานว่าเจ้าหน้าที่ของทางโรงแรมได้ให้ข้อมูลกับเรามาว่าสามารถจ่ายเงินที่โรงแรมได้ทำไมถึงยกเลิกเรา สุดท้ายได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่อีกคนและให้เราโอนเงินจัดจำ 50 %เพื่อทำการจอง ก่อนที่จะยืนยัน เราพยายามถามย้ำว่า โรงแรมอยู่ติดถนน ห้องเก็บเสียงไหมทางเจ้าหน้าก็บอกว่า ถ้าพวกมอไซต์แต่งท่อก็อาจมีเสียง แต่ขอบอกว่า ห้องไม่เก็บเสียงเลยค่ะ
ข้อดี
มารีวิวข้อดีของโรงแรมกันก่อน เดินทางสะดวก ติดหาด มีร้านอาหาร ร้านนวด ใกล้แฟมิลี่มาร์ท เดินไปถนนคนเดินได้ ไม่ไกลจากอ่าวนาง- อาหารเช้าก็โอเค
- ราคาถือว่าโอเค
- สระน้ำสวย
- ห้องใหม่ ดูดี ตกแต่งสวย
- สะอาด
- พนักงานน่ารักยิ้มแย้ม บริการดี
- มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆ หลายจุด
ข้อเสีย
- ปัญหาหลักของที่นี่คือ ห้องไม่เก็บเสียง เวลาห้องข้างๆ พูดคุยกัน มีคนเดินหรือทำอะไรที่ทางเดินและระเบียงจะได้ยิน โถงทางเดินไม่มีการปูพรม เป็นปูนเพราะฉะนั้นเวลาเดินก็จะได้ยิน ประตูห้องต้องปิดแรงๆ ประมาณนึงถึงจะปิดสนิทเพราะฉะนั้นก็จะได้ยินห้องอื่นๆ ปิดประตูห้องดังๆ บ่อยๆ รวมทั้งเสียงรถราด้านนอก พีคสุดคือทัวร์จีน ตะโกนคุยกันจากชั้น 4 ลงมาชั้น 3 คือคุณจะคุยกันแบบนี้ไม่ด๊ายยยยย
- บริเวณริมสระน้ำ การที่โรงแรมอยู่ติดหาดก็จริง แต่ว่าอยู่ติดถนนด้วย ทำให้ไม่เหมาะแก่การนั่งพักผ่อนริมสระ เพราะได้ยินเสียงรถราตลอดเวลา รวมทั้งไม่มีความเป็นส่วนตัว
- ยิม อุปกรณ์ไม่โอเค และอยู่จุดที่คนเดินเข้าเดินออกตลอดเวลา คืออยู่หน้าแผนกต้อนรับ ซึ่งทำให้ไม่มีสมาธิในการออกกำลังกาย
บอลคิดว่าคงไม่กลับไปพักที่นี่อีก คราวหน้าถ้าไปแถวนั้นอีก อยากหาโรงแรมที่ถึงไม่ติดหาดก็ขอให้มีมุมสงบที่เราสามารถได้ผ่อนคลายอย่างจริงๆ ได้นั่งอ่านหนังสือ นั่งชิวริมสระว่ายน้ำโดยที่ไม่ได้ยินเสียงรถเสียงการจราจรตลอดเวลาเหมือนที่นี่ แต่หากใครชอบความสะดวกสบาย และไม่ได้กังวลเรื่องเสียงที่นี่ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่นึง
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ แล้วไปเที่ยวกันใหม่ค่ะ