ลองใช้เครื่องสำอางจาก Daiso ญี่ปุ่น ชิ้นละ 100 เยน 30 บาทไทย จะดีมั้ยน้า

ฮัลโหลสาวๆ สืบเนื่องจากเดือนที่แล้วเราไปญี่ปุ่น ไปเดินร้าน 100 เยน

คิดไปคิดมามันราคาแค่ชิ้นละ 30 บาทเอง เลยลองซื้อมาซะเยอะเลย 5555

หยิบแบบไม่คิดชีวิตได้มาทั้งหมด 13 ชิ้น ราคารวมแล้วแค่ 390 บาท เอ๊งงงงงงงงง

ตอนนี้เรามาลองกันดีกว่า ว่าเครื่องสำอางราคาแค่ชิ้นละ 30บาทมันจะใช้ดีมั้ย

เริ่มที่ตัวแรก BB cream เห็นเขาติดป้ายว่าเป็นสินค้า Best seller

หลอดนี้คือ ปริมาณ 20 กรัมเลยนะ คุ้มกว่าครีมซองอีกจ้า

เนื้อครีมดูน่าใช้นะ สีโอเค เนื้อบางเบาเกลี่ยง่าย ปรับสีผิวขึ้นมา 1 ระดับ

การปกปิดปานกลาง ส่วนการปรับสีผิวให้สม่ำเสมอทำได้อยู่นะ

สรุปว่า อันนี้ในความคิดเราคือ เนื้อมันบาง เหมาะกับบ้านเรา ทาแล้วไม่มัน ไม่เยิ้มดี

ถัดมาเป็นดินสอเขียนคิ้ว

ดินสอเขียนคิ้วคือ เนื้อนุ่ม เขียนง่าย สีชัดเลย

กันน้ำ และกันเหงื่อได้ดีในระดับนึงเลย ตัวนี้ถือว่าคุ้มจ้า

ถ้ากลับไปญี่ปุ่นอีก เราจะกลับไปเหมาแน่นอน 5555

ตัวแบบฝุ่นคือ เม็ดสีไม่แน่นเท่าไหร่ ใช้แก้ขัดวันสบายๆได้เลย

แต่ที่เราชอบเลยคือ แพคเกจ ตลับแข็งแรง ปิดสนิท ไม่ก๊องแก๊ง

แถมในตลับมีกระจกให้มาอีก ตัวนี้แค่ค่าตลับก็คุ้มแล้วจ้า

มาถึง Eyeliner สาวญี่ปุ่นนิยมแบบดินสอซะส่วนใหญ่ 

ตัวนี้ใช้ตอนแรกคือ เนื้อแข็งมาก เขียนแล้วเจ็บเปลือกตาเลย

แต่พอเอาไดร์เป่าเนื้อก็นิ่มลง เขียนง่ายขึ้น แต่สีเขาจะไม่ชัดนะ เป็นสีดำแบบจางๆ

ใช้เขียนเป็นอินไลน์เนอร์ได้ เราว่าใช้ร่วมกับ eye shadow ก็ได้อยู่ 

ถามว่าควรซื้อมั้ย ไม่ควรอ่ะ 

Eye shadow คอลเลคชั่นคิตตี้ น่ารักมุ้งมิ้ง โดนตกเพราะแพคเกจเลย

แล้วแพคเกจคือ ดี แข็งแรง Eye shadow เป็นเนื้อแบบกลิตเตอร์วาวๆ เหมือนที่ใช้สมัย 20 ปีก่อน 5555

ฝั่งสีเข้มเม็ดสีชัดดี ส่วนฝั่งสีอ่อนคือ ถ้าคนผิวสีแบบเราใช้ แทบมองไม่เห็นจ้า 

การติดทนทำได้ไม่ค่อยดี โดนเหงื่อก็ไปหมดแล้ว แต่ใช้คู่กับ Eye primer ก็ติดดีอยู่

สรุปคือ แพคเกจน่ารัก ซื้อๆไปเหอะ 5555

มาสคาร่า เราซื้อสูตรสำหรับเพิ่มความหนา

ตัวนี้เนื้อไม่เยิ้มดี แห้งง่าย ปัดซ้ำได้เรื่อยๆ ปัดสัก 2 ทีก็ดูหนาขึ้นแล้ว

แต่ข้อเสียคือ ปัดไปสักพักขนตาก็ตกแล้ว มันไม่ช่วยล็อคขนตาเลย ฮืออออ

ปัดแก้มเราจัดมา 3 แบบเลยจ้า ทั้งแบบครีม แบบน้ำ และแบบฝุ่น

เริ่มที่แบบครีม เม็ดสีแน่น ทาแล้วเห็นชัด สีติดทนระดับนึง พอบ่ายก็หลุดแล้ว

ตัวนี้ดีทาทับบนแป้งได้ ไม่เป็นคราบ ใช้แล้วไม่อุดตันเลย

เราว่ามันคุ้มเกินราคา 30 บาทเลยหละ

แบบถัดมาเป็นแบบน้ำ เม็ดสีแน่น เนื้อเกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ

แพคเกจก็น่ารักดี ใช้งานง่าย พกง่าย สีสวยดูเป็นธรรมชาติดี

เราว่าคุ้มนะ ไปอีกจะซื้อสีอื่นมาเพิ่ม 55

ตัวที่ไม่ชอบเลยคือ แบบฝุ่น

สีคือแบบ ติดขาว ขาวมากกกกก ปัดแล้วแทบไม่เห็นสีอะไรเลย 

อันนี้คือ ถ้าผิวขาว เราว่าใช้ได้นะ แต่คนผิวสีแบบเราต้องขอบายจ้า

ลิปสติกนี่ก็เลือกมาหลายแบบเลยจ้า ทั้งแบบ Matte แบบ Gloss และแบบแท่ง

เริ่มที่แบบที่ชอบที่สุดคือ แบบ Matte สีสวย ติดทนมากกกกกกกก

เนื้อเป็นแบบ Velvet ไม่ได้แห้งแมท ทาแล้วไม่ตกร่องเลย กลบสีปากได้มิดดีด้วย

ราคาเนี่ยคุ้มเกิน 30 บาทจริงๆ

ถัดมาเป็นคิตตี้คอลเลคชั่นจ้า ตัวนี้แพคเกจน่ารักมาก (อีกแล้ว) 555

เนื้อจะเป็นแบบ Gloss มีกลิตเตอร์แบบละเอียดผสมอยู่ 

คนปากคล้ำทาแล้วไม่รอดเลย ฮืออออออ

ตัวแบบแท่งหมุนอันนี้ ทาแล้วเนื้อจะเป็นบาล์ม ให้สีอ่อนๆ ทาแล้วดูเป็นธรรมชาติมาก

กลบสีปากคล้ำได้มิดเล็กน้อย 

เราแก้ปัญหาด้วยการทาลิปแมทก่อน แล้วทาตัวนี้ทับอีกที คือ ดีย์มาก

แท่งใหญ่คุ้มมาก ถ้าไปอีกจะเหมามาทุกสีเลย

ตัวสุดท้ายคือ Gloss แบบให้สีเบาๆ ไว้แต่หน้าแนวใสๆ แบบที่คนญี่ปุ่นชอบเลย

เราเห็นสาวญี่ปุ่นหยิบแต่รุ่นนี้กัน เลยเอามาลองบ้าง

ปรากฏว่าคนผิวคล้ำแบบเราใช้แล้วไม่รอดจ้า ทาแล้วดูป่วยหนักไปอีก

ใครอยากดูแบบ VDO ก็จิ้มเลยจ้า

​

สรุปแล้วสาวญี่ปุ่นเขาจะชอบแต่งหน้าแบบเบาๆ แต่งเหมือนไม่แต่ง

ถ้าใครชอบสไตล์แบบนี้เราว่า เครื่องสำอางของ Daiso ที่เรารีวิวมาคือเหมาะเลย

ส่วนใครที่อยากลองซื้อมาใช้บ้าง เราก็ขอให้ลองเลยจ้า มันคุ้มกับการซื้อมาแน่นอน 555